ข่าวและอีเว้นท์โทรศัพท์มือถือ

icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือแบบละเอียด
product filter
product filter
product filter
product filter

หัวเว่ย ยูเนสโก และกระทรวงศึกษาธิการ เปิดตัวโครงการการศึกษาสีเขียว ‘Green Education Initiative’

icon 25 ก.ค. 68 icon 1,162
Share
หัวเว่ย ยูเนสโก และกระทรวงศึกษาธิการ เปิดตัวโครงการการศึกษาสีเขียว  ‘Green Education Initiative’
หัวเว่ย ยูเนสโก และกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในโครงการการศึกษาสีเขียว หรือ ‘Green Education Initiative’ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ให้เยาวชนและชุมชนทั่วประเทศได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และผลักดันให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการลงมือทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยโครงการการศึกษาสีเขียวนี้ครอบคลุม 3 ประเด็น ได้แก่
  • โรงเรียนสีเขียว มุ่งส่งเสริมการสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำ พลังงานสะอาด การผลิตพลังงานชีวมวล และการจัดการของเสียในสถาบันการศึกษา 
  • ทักษะสีเขียว มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะให้กับนักเรียน ครูผู้สอนและนักการศึกษา รวมไปถึงชุมชน เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดด้านความรับผิดชอบและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม
  • ชุมชนสีเขียว การสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนในท้องถิ่น เพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมแนวปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากภายในโรงเรียน
ภายใต้โครงการ TECH4ALL เพื่อขับเคลื่อนโลกดิจิทัลที่ยั่งยืนและเท่าเทียมสำหรับทุกคน  หัวเว่ย และองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ร่วมกันวางแผนพัฒนาโครงการสีเขียวและโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นใน 3 ประเด็นดังกล่าว พร้อมร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในประเทศไทย โครงการดังกล่าวครอบคลุมไปถึงการจัดหาเทคโนโลยีพลังงานดิจิทัลให้กับโรงเรียน การฝึกอบรมด้านพลังงานสีเขียวให้กับนักเรียน และรถดิจิทัลเพื่อสังคมซึ่งเป็นโครงการที่หัวเว่ยจัดขึ้นเพื่อฝึกทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและให้ความรู้ด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในชนบทและพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศไทย
ยูเนสโก ให้คำจำกัดความ ‘greening’ ในบริบทของการศึกษาสีเขียว ว่าหมายถึงการปฏิบัติตามความรู้และแนวทางที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนเพื่อคนในรุ่นปัจจุบันและอนาคต
คุณคิริโมเก โดรลเล็ตต์ (Kirimoke Drollett) หัวหน้าสำนักงานบริหาร สำนักงานยูเนสโกส่วนภูมิภาค ณ กรุงเทพมหานคร กล่าวในพิธีเปิดโครงการ Green Education Initiative ที่จังหวัดนครนายก ว่า “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) คือหัวใจหลัก และยังมีภารกิจมากมายที่จะต้องทำให้สำเร็จ ไม่มีใครสามารถทำงานเหล่านี้คนเดียวได้แม้แต่องค์การสหประชาชาติ จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุไปสู่เป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และความร่วมมือจากทุกฝ่ายผ่านโครงการการศึกษาสีเขียวนี้จะช่วยให้เราขับเคลื่อนแนวทางการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เร็วยิ่งขึ้น ยูเนสโกมีความภาคภูมิใจที่ได้สนับสนุนประเทศไทยในด้านการศึกษาสีเขียวและขับเคลื่อนอนาคตที่สดใสให้กับทุกคน”
ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี พ.ศ. 2573 พร้อมเดินหน้ายุทธศาสตร์สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 และเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้นั้น การเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรได้รับการสนับสนุน ปัจจุบัน ประเทศไทยมีกำลังการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์อยู่ที่ 2,633 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,864 เมกะวัตต์ ภายในปี พ.ศ. 2580
โครงการการศึกษาสีเขียว ‘Green Education Initiative’ จึงสะท้อนถึงพันธกิจร่วมกันในการเสริมพลังให้เยาวชน ชุมชน และผู้มีร่วมร่วมในทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันต่อสู้และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ จะเดินหน้าส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตให้กับผู้คนในทุกช่วงวัย พร้อมขับเคลื่อนโครงการให้เข้าถึงทุกชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือจากโครงการมากที่สุด
ดร. ชัยพัฒน์ พันธุ์วัฒนสกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาหลักสูตร และผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงานกรมส่งเสริมการเรียนรู้  “ผมมีความยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับยูเนสโก และหัวเว่ย ประเทศไทย ในการขับเคลื่อนโครงการความร่วมมือสนับสนุนโรงเรียนสีเขียวและการศึกษาสีเขียวในประเทศไทย เพื่อสร้างความเท่าเทียมด้านทักษะดิจิทัลให้กับเยาวชนและประชาชนอย่างทั่วถึง โดยใช้รถดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ยกระดับการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยี และยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาวะโลกร้อน ทั้งนี้ นอกเหนือจากการมุ่งเน้นพัฒนาทักษะดิจิทัล หัวเว่ยและยูเนสโกยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาวะโลกร้อน โดยการบรรจุองค์ความรู้ด้านการรับมือกับสภาวะโลกร้อน อาทิ การมีแหล่งน้ำสะอาดพร้อมใช้ พลังงานสะอาด การผลิตพลังงานชีวมวล  และการจัดการขยะและของเหลือทิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องขอขอบคุณหัวเว่ยที่ให้โอกาสกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้เป็นหน่วยงานนำร่องในพื้นที่ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายกเป็นแห่งแรกของไทย”
ในขณะเดียวกัน หัวเว่ย พร้อมที่จะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและโซลูชันสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมมาสนับสนุนโครงการการศึกษาสีเขียว ‘Green Education Initiative’
นายเบนจามิน หลิว (Benjamin Liu) ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า “ภายใต้ยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในการเดินหน้าสู่อนาคตที่คาร์บอนต่ำและมีการเชื่อมต่อทางดิจิทัลโดยสมบูรณ์ หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนประเทศไทยไปสู่ยุคดิจิทัลที่ยั่งยืนและเท่าเทียมมาตลอด 24 ปี หัวเว่ย ได้ติดตั้งอินเวอร์เตอร์ ขนาดกำลังผลิตรวมมากกว่า 5 กิกะวัตต์ ให้กับภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนทั่วประเทศไทย สำหรับโครงการการศึกษาสีเขียวนี้ หัวเว่ยจะนำนวัตกรรมด้านโซลูชันพลังงานดิจิทัลและประสบการณ์ด้านการผลิตพลังงานแสดงอาทิตย์มาใช้ในการฝึกอบรมและส่งเสริมความรู้ด้านพลังงานสีเขียวให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ ด้วยความร่วมมือจากยูเนสโก กระทรวงศึกษาธิการ และพันธมิตรของเรา หัวเว่ยพร้อมที่จะเดินหน้าสนับสนุนยุทธศาสตร์ความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการบ่มเพาะวิศวกรพลังงานสีเขียวให้กับประเทศ”
พิธีเปิดโครงการการศึกษาสีเขียว ‘Green Education Initiative’ ได้รับเกียรติจากตัวแทนจากสำนักงานยูเนสโกส่วนภูมิภาค ณ กรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ พันธมิตรหัวเว่ย ครูและนักการศึกษา นักเรียน และสมาชิกในชุมชน รวมกว่า 150 เข้าร่วมในพิธี
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าว หัวเว่ย 2023 ข่าว Huawei 2023

บทความโทรศัพท์มือถือล่าสุด

ดูทั้งหมด

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)