คุ้มไม่คุ้ม เช็กก่อน!
vivo X300 Pro เป็นสมาร์ตโฟนตัวเรือธงในปี 2025 ที่ถ่ายรูปได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ถ่ายรูปไม่เก่งหรือผู้ที่ชอบถ่ายรูปก็สามารถใช้งานได้สนุก ด้วยลูกเล่นโหมดการถ่ายรูปที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ Portrait ละลายหลังเสริมด้วยโบเก้ ZEISS ต่างๆ ซึ่งมีการปรับจูนโทนผิวให้สวยใสขึ้น หรือโหมด Stage 2.0 ที่สามารถถ่ายภาพระยะไกลได้คมชัด รวมถึงมีชุดแต่ง Grip ที่แต่งให้ vivo X300 Pro เหมือนกล้องถ่ายรูประดับโปร และเลนส์เสริม vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender เพิ่มระยะในการถ่ายภาพไกลได้มากขึ้น
สำหรับราคา vivo X300 Pro
- ความจุ 16GB + 512GB ราคา 39,999 บาท
จุดเด่น
จุดสังเกต
- หน้าจอใหญ่ 6.78 นิ้ว ทัชลื่น Refresh rate 120Hz
- ชิปใหม่ Dimensity 9500 เล่นเกมได้ลื่นไหล
- ชิปเสริม V3+ และชิปแยก VS1 สำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะ
- กล้องพัฒนากับ ZEISS ทุกเลนส์ ได้โทนภาพสว่าง สดใส
- กล้องใหม่ ZEISS APO Telephoto ระยะ 3.5x ความละเอียดสูง 200MP
- เหมาะกับคนถ่ายคอนเสิร์ต/งานศิลปิน
- แบตเตอรี่ 6510mAh BlueVolt
- รองรับ FlashCharge 90W และชาร์จไร้สาย 40W
- ถ่ายภาพ Portrait ที่ใช้ค่า f น้อย จะยังตัดขอบกับตัวแบบได้ไม่คมในบางภาพ
- ถ่ายภาพ Portrait กลางคืนด้วยแฟลชบางครั้ง สีโทนภาพติดเหลืองเล็กน้อย
- หากถ่ายภาพแล้วเครื่องมีความร้อน สีของภาพจากการถ่าย Portrait อาจมีเพียนเล็กน้อยแต่สามารถปิดกล้องและรอเครื่องเย็นลงเพื่อถ่ายต่อได้
- ซอร์ฟแวร์ตอนทดสอบอาจยังใหม่ หากลบรูปภาพแล้ว รูปภาพนั้นจะหายไป โดยไม่ไปที่ถังขยะ
เปิดตัว vivo X300 Pro มาครั้งนี้ ไม่คิดเลยครับว่ามือถือจะพัฒนามาได้ไกลขนาดนี้ โดยจัดเต็มเรื่องการถ่ายรูปมากทีเดียว โดดเด่นด้วยเลนส์เสริม vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender ที่เพิ่มระยะการถ่ายรูปในระยะไกลให้สนุกขึ้นไปอีก รวมถึงมีการอัปเกรดด้านกล้องหลักเซนเซอร์ใหม่ LYT-828 ความละเอียด 50MP และกล้องซูม ZEISS APO Telephoto Camera เซนเซอร์ใหม่ HPB ความละเอียด 200MP ที่ทำให้ถ่าย Portrait ได้สวยคมชัดมากขึ้นกว่าเดิม และมาพร้อมขุมพลังใหม่อย่าง Dimensity 9500 ตัวท็อปที่สามารถใช้งานทุกประเภทได้อย่างลื่นไหล

สเปก vivo X300 Pro - หน้าจอ: 6.78 นิ้ว AMOLED (2800x1260) Refresh rate 120Hz, ความสว่าง 4500nits, 452PPI
- ชิป: Dimensity 9500 (3 nm), GPU ARM G1-Ultra
- ชิปเสริม: V3+ และชิปแยก VS1
- RAM: 16GB LPDDR5X Ultra
- Storage: 512GB UFS 4.1
- กล้องหลัง: เซนเซอร์ LYT828 1/1.28" 50MP, f/1.57, OIS + Ultrawide เซนเซอร์ JN1 1/2.76" 50MP, f/2.0, OIS + Telephoto (85mm) HPB 1/1.4" 200MP, f/2.67
- กล้องหน้า: เซนเซอร์ JN1 1/2.76" 50MP, f/2.0
- VDO กล้องหลัง: 1080p@60fps 4K@120fps 8K@30fps (รองรับ Dolby Vision 4K@120fps)
- VDO กล้องหน้า: 1080p@60fps 4K@60fps รองรับ Dolby Vision 4K@60fps)
- แบตเตอรี่: 6510mAh BlueVolt, ชาร์จไว 90W, ชาร์จไร้สาย 40W
- Bluetooth 6
- Wi-Fi 7
- พอร์ต USB 3.2 Type-C
- เซนเซอร์สแกนนิ้ว 3D Ultrasonic Single-Point
- ช่องซิมการ์ด 2 nano SIMs
- ขนาดยาว 161.98 กว้าง 75.48 หนา 7.99 มม.
- น้ำหนัก 226 กรัม
- วัสดุฝาหลัง: กระจก
- วัสดุขอบเครื่อง: อลูมิเนียมอัลลอยด์
- การทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69
- ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6, Android 16
ด้านดีไซน์ vivo X300 Pro ด้านดีไซน์ตัวเครื่องของ vivo X300 Pro ให้ความพรีเมียมมากๆ ตามสไตล์ของมือถือเรือธง โดยสีที่ได้มาใช้งานจะเป็นสีน้ำตาลทะเลทราย (Dune Brown) ได้ฟีลอบอุ่น คลาสสิก เป็นสีที่ใช้งานได้ง่าย เรียบหรู ไม่ฉุดฉาดจนเกินไป โดยวัสดุฝาหลังใช้เป็นกระจกแบบด้าน Coral Velvet Glass ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยากในการใช้งาน ส่วนด้านขอบตัวเครื่องและปุ่มกดเป็นวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องทรงกลมวงใหญ่แบบ Unibody 3D ทำให้โมดูลกล้องและฝาหลังเชื่อมต่อกันอย่างเรียบเนียน สำหรับพื้นที่กล้องหลังทั้ง 3 ตัว มี LOGO ZEISS สีน้ำเงินพร้อม T* สีแดงอยู่ตรงกลาง พร้อมมีไฟแฟลชคู่แบบ Diffuser (24 มม.) และ Converger (85 มม.) ที่ด้านข้างโมดูลกล้อง
และตัวเครื่อง vivo X300 Pro นํ้าหนักเบา 226 กรัม และบาง 7.99 มิลลิเมตร ขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเล็กน้อย ทำให้จับถือได้สะดวก รวมถึงรองรับมาตรฐานทนนํ้าทนฝุ่น IP68 & IP69 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดี

ส่วนหน้าจอของ vivo X300 Pro มีขนาดหน้าจอ 6.78 นิ้ว พาเนล AMOLED (2800x1260) Refresh rate 120Hz, ความสว่าง 4500nits, 452PPI จากการใช้งานแสดงผลภาพได้คมชัดที่ UHD การทัชทำได้ดี ไถหน้าฟีดแอป Social Media ลื่นไหลติดนิ้ว รับชมคอนเทนต์ความบันเทิง, ภาพยนตร์ หรือเล่นเกมได้ดีมาก ให้ความคมชัดและสีสันสดใส มีขอบหน้าจอที่บางเพียง 1.1 มิลลิเมตร ทำให้ใช้งานบนหน้าจอได้เต็มพื้นที่
สามารถปรับอัตรารีเฟรชหน้าจอได้ 3 แบบ คือ
- การปรับให้เข้ากันแบบอัจฉริยะ (ปรับความยืดหยุ่นตามการใช้งานเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่)
- มาตรฐาน (แสดงผล 60Hz)
- สูง (แสดงผล 120Hz)
ด้านบนของตัวเครื่อง vivo X300 Pro
- ลำโพง
ด้านล่างของตัวเครื่อง vivo X300 Pro
- ลำโพง
- ไมโครโฟนสนทนา
- พอร์ต USB 3.2 Type-C
- ถาดซิมการ์ด
ด้านข้างขวาของตัวเครื่อง vivo X300 Pro
- ปุ่มเพิ่ม/ลด เสียง และปุ่ม Power
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง vivo X300 Pro
- ปุ่มทางลัด (สามารถตั้งค่าเปลี่ยนได้ โดยเดิมจะเป็น กดค้างไว้: ส่งเสียง/ระบบสั่น, กดสองครั้ง: ไฟฉาย)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง vivo X300 Pro
- สายชาร์จ
- หัวชาร์จ รองรับ 90W FlashCharge
- เข็มเปิดถาดซิม
- และคู่มือ

ด้านกล้อง vivo X300 Pro ด้านกล้องหลังของ vivo X300 Pro มีมา 3 กล้อง ซึ่งได้พัฒนาร่วมกับทาง ZEISS แบรนด์เลนส์กล้องระดับโลก โดยกล้องหลัก เซนเซอร์ LYT828 ขนาด 1/1.28" ความละเอียด 50MP, f/1.57, OIS + Ultrawide เซนเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76" ความละเอียด 50MP, f/2.0, OIS + Telephoto (85mm) เซนเซอร์ HPB ขนาด 1/1.4" ความละเอียด 200MP, f/2.67 จากการใช้งานหลัง 3 เลนส์ถ่ายภาพออกไปได้คมชัด เก็บทุกรายละเอียดได้ชัดเจนดีมาก มีการเคลือบ ZEISS T* Coating เพื่อช่วยลดการเกิดแสง โกสต์และแสงแฟลร์ได้ดี ด้านสกินโทนถ่ายผิวคนได้สวยสดใส แม้มีการปรับผิวให้ดูกระจ่างใส แต่ยังคง Texture บนผิวหน้าคนไว้ให้ดูสมจริง เรื่องการเปลี่ยนเลนส์กล้องทำได้ค่อนข้างเร็ว แต่กล้อง Ultrawide มุมภาพยังคงมีความแคบไปเล็กน้อย ส่วนกล้อง Telephoto เป็นกล้องที่เมื่อได้ลองใช้งานจริงแล้วค่อนข้างชอบ เพราะใช้เซนเซอร์ใหม่ HPB สามารถถ่าย Portrait หรือซูมไกลได้ภาพที่ชัดด้วยความละเอียด 200MP ทำให้ซูมถึงระยะ 242mm แล้วไม่เสียรายละเอียดของภาพมากนัก
ด้าน VDO กล้องหลังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 1080p@60fps 4K@120fps 8K@30fps (รองรับ Dolby Vision 4K@120fps)
ภาพตัวอย่างจากกล้องหลัง (โหมดปกติ)



ภาพตัวอย่างจากกล้องหลัง (Portrait)
สำหรับโหมด Portrait สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้เป็นธรรมชาติ ทำให้บุคคลดูโดดเด่นขึ้นมา แนะนำว่าถ่ายที่ระยะ 50mm ขึ้นไปจะถ่ายละลายได้สวยและเห็นชัด ส่วนค่า f รูรับแสง แนะนำให้ใช้ประมาณ f/2.8 หากน้อยกว่านี้จะฉากจะลายได้ชัดมากขึ้น แต่บางฉากหลังอาจตัดกับตัวแบบได้ไม่คมมาก
ภาพตัวอย่างจากกล้องหลัง (โหมด ZEISS Portrait)
โหมด ZEISS Portrait เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ชอบมาก เพราะเป็นฟีเจอร์ลูกเล่นที่โดดเด่น แตกต่างจากสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่นๆ โดยโหมดนี้จะสามารถถ่ายภาพ Portrait แบบมีโบเก้สวยๆ ที่พื้นหลัง ซึ่งสามารถถ่ายได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน อีกทั้งยังเป็นโบเก้ที่จำลองมาจากเลนส์ ZEISS ที่ช่างภาพมืออาชีพใช้กันจริงๆ ทำให้ภาพสวยละมุนมากขึ้น
ZEISS Biotar - โบเก้แบบหมุนวน ใช้ถ่ายพื้นหลังที่เป็นต้นไม้ได้ดี
ZEISS B-speed - โบเก้รูปสามเหลี่ยม
ZEISS Sonnar - โบเก้ทรงกลม
ZEISS Planar - โบเก้ทรงวงรี
ZEISS Distagon - โบเก้ทรง 6 เหลี่ยม
ZEISS Cine-flare - แสงแฟลร์สวยๆ
ZEISS Cinematic - สัดส่วนแบบภาพยนตร์
ด้านเลนส์เสริม vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender
รอบนี้ vivo X300 Pro มีชุดเลนส์เสริม vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender ที่เพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพระยะไกลได้คมชัดมากขึ้น ซึ่งจะดีกว่าการใช้กล้อง Telephoto ปกติในการซูมระยะไกล เพราะหากเป็นระยะที่ไกลเกิน 10x ขึ้นไปจะทำให้ภาพเริ่มสูญเสียรายละเอียด แต่ถ้ามี vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender มาเสริมการซูมเริ่มที่ระยะ 200mm จะช่วยต่อระยะการถ่ายภาพไกลได้ดีมากขึ้น โดยจะเหมาะกับการใช้งานถ่ายงานศิลปิน งานคอนเสิร์ต หรือถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือสัตว์ในธรรมชาติจากระยะไกลได้

จากการใช้งานซูมได้คมชัด นับถือทาง vivo จริงๆ ที่พัฒนาชุดเลนส์ออกมาได้ดีมาก ใช้ซูมตึกหรือวัตถุที่ออกไปห่างจากจุดที่ยืนถ่ายได้คมชัด หรือแม้ถ่ายภาพคนจากระยะไกล ก็สามารถยังเก็บรายละเอียดได้คมชัด เบลอละลายพื้นหลังได้เนียนกว่าการใช้ด้วยเลนส์ Telephoto ปกติถ่ายภาพ ซึ่งจะสังเกตได้จากบริเวณเส้นผมของบุคคลในภาพตัวอย่าง
ส่วนในด้านของเคสเสริม ออกแบบมาได้เท่มากๆ ตัวเคสมีความแข็งแรง สามารถใช้เป็นขาตั้งเพื่อใช้รับชมคอนเทนต์ได้ อีกทั้งสามารถกดถ่ายรูป/วิดีโอ หรือปรับระยะซูมได้ รวมถึงมีสายคล้องแข็งแรง และประกอบร่างออกมาแล้วเหมือนเป็นกล้องระดับมืออาชีพเลย (แต่ตัวเคสถอดออกยากเล็กน้อย)
อุปกรณ์ภายในกล่องชุดแต่งพิเศษ
- เคสสมาร์ตโฟนพร้อมขาตั้ง
- เลนส์เสริม vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender
- 62mm Mount Ring
- วงแหวนอะแดปเตอร์เลนส์
- สายคล้อง
ภาพตัวอย่างจากกล้องเลนส์เสริม vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender
ด้านกล้องหน้า vivo X300 Pro ด้านกล้องหน้าของ vivo X300 Pro ใช้เซนเซอร์ JN1 ขนาด 1/2.76" ความละเอียด 50MP, f/2.0 สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 1080p@60fps 4K@60fps รองรับ Dolby Vision 4K@60fps) จากการใช้งานกล้องหน้าทำได้ดีมากๆ ช่วยปรับจูนสกินโทนใบหน้าให้ขาว สวย แต่ยังมีรายละเอียดใบหน้าชัดเจน รวมถึงโหมด Portrait ที่ยังคงละลายหลังได้ดีเช่นเดียวกับกล้องหน้า ใครชอบเซลฟี่สามารถถ่ายด้วยกล้องหน้าได้อย่างมั่นใจเลย
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า (โหมดปกติ)
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า (โหมด Portrait)
ภาพตัวอย่างจากการใช้แฟลชคู่
vivo X300 Pro มาพร้อมแฟลชคู่แบบ Diffuser (24 มม.) และ Converger (85 มม.) ช่วยให้ถ่ายภาพช่วงกลางคืนได้ชัดขึ้น แม้อยู่ในแสงที่มืด ซึ่ง vivo X300 Pro ทำได้ดีมากเลยครับ ไม่ว่าจะปิดหรือเปิดแฟลช เพราะสถานที่จริงตอนถ่ายค่อนข้างมืดกว่าในภาพมาก แต่สามารถถ่ายออกมาได้สว่าง ภาพคมชัด ไม่ค่อยมี Noise ในภาพ (แนะนำว่าให้ถือกล้องนิ่งๆ เนื่องจากถ่ายภาพในที่แสงน้อย Shutter Speed จะต่ำมาก ทำให้ภาพสั่นไหวได้)
กล้องหน้าโหมด Portrait ตอนกลางคืนจะเร่งแสงหน้าจอ เพื่อให้เซลฟี่แล้วใบหน้าสว่างใสได้
ด้านประสิทธิภาพและการใช้งาน vivo X300 Pro มาพร้อมขุมพลังระดับเรือธงชิป Dimensity 9500 (3 nm) แรงขึ้น +24% (Single-Core) และ +10% (Multi-Core), GPU ARM G1-Ultra มี RAM 16GB LPDDR5X Ultra ส่วน Storage ความจุ 512GB UFS 4.1 อีกทั้งมีชิปเสริม V3+ และชิปแยก VS1 สำหรับประมวลเรื่องการถ่ายภาพให้ดีขึ้นโดยเฉพาะ จากการใช้งาน vivo X300 Pro เป็นสมาร์ตโฟนที่ใช้ได้ไหลลื่น ตอบสนองไวในการเปิดแอปหรือใช้งานแอปต่างๆ การสลับงานหลายอย่างพร้อมกัน ทั้งเพื่อความบันเทิง, Social media, เล่นเกมต่างๆ รวมถึงถ่าย-บันทึกไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K หรือ 8K ได้อย่างสบาย เหมาะทั้งสายทำงาน สายครีเอเตอร์ และสายเกมที่ต้องการเครื่องที่แรงจริงในระดับเรือธง
สำหรับการทดสอบ Geekbench ของ Dimensity 9500 (vivo X300 Pro)
- ด้าน CPU สามารถทำคะแนน Single-Core ไปได้ 3365 คะแนน ส่วน Multi-Core มีคะแนนที่ 10093 คะแนน
- ด้าน GPU สามารถทำคะแนน GPU OpenCL ไปได้ 22214 คะแนน
ทดสอบเกม ROV
การตั้งค่า
- ภาพ HD : สูงมาก
- การแสดงผล : สูงมาก
- พาร์ติเคิล : สูงมาก
- FPS : สูง (60 FPS)
การทดสอบเกม PUBG
การตั้งค่า
- กราฟิก : ลื่นไหล
- เฟรมเรท : Ultra Extreme (120 FPS)
ทดสอบเกม Genshin Impact
การตั้งค่า
- ความละเอียดการเรนเดอร์ : สูง
- คุณภาพเงา : กลาง
- วิชวลเอฟเฟกต์ : สูง
- วิชวลเอฟเฟกต์ : สูง
- FPS : 60 FPS
ทดสอบเกม GTA Vice City
การตั้งค่า
- Resolution : สูงสุด
- Bloom : เปิด
- BLens Flare : เปิด
- Classic Lighting : เปิด
- FPS : 30-60 FPS
หน้า UI การใช้งานของ OriginOS 6
มีฟีเจอร์ Flip Cards จะแสดงผลของภาพต่างๆ กันเมื่อเราขยับสมาร์ตโฟนในมุมเฉียงซ้าย-ขวา ทำให้หน้าจอของเรามีชีวิตชีวามากขึ้น
มีฟีเจอร์ Origin Island จาก OriginOS 6 จะเป็นแถบหน้าต่างที่จะแสดงการกระทำที่มีในตอนนั้นเช่น การอัดเสียง, การฟังเพลง, การจับเวลา หรือการมาคัดลอกเนื้อหาและลากไปวางในพื้นที่ที่ต้องการได้
ด้านแบตเตอรี่และการชาร์จ ด้านแบตเตอรี่ vivo X300 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ 6510mAh BlueVolt รองรับชาร์จไว 90W FlashCharge, ชาร์จไร้สาย 40W Wireless FlashCharge จากการใช้งานถ่ายภาพเป็นเวลา 4 ชม. ใช้แบตเตอรี่ไปจาก 90% เหลือ 23% และชาร์จขึ้นมาเต็ม 100% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ส่วนด้านการเล่นเกม
- เกม ROV เล่นเกม 1 ชม แบตเตอรี่ลดไปประมาณ 6%
- เกม PUBG 120fps เล่น 1 เกม แบตเตอรี่ลดไปประมาณ 6%
- เกม Genshin Impact เล่นเกม 30 นาที แบตเตอรี่ลดไปประมาณ 4%
ถือว่า vivo X300 Pro เป็นสมาร์ตโฟนที่แบตเตอรี่ที่ค่อนข้างอึดจากการใช้งานหนักด้วยการถ่ายภาพในพื้นที่ Outdoor หลายชั่วโมง แต่แบตเตอรี่ยังคงเหลือสำหรับเดินทางกลับบ้านได้

สรุปการใช้งาน vivo X300 Pro vivo X300 Pro เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่โดดเด่นและเก่งด้านการถ่ายภาพมากๆ ด้วยกล้องทุกเลนส์ที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS ทำให้ได้โทนภาพเคลียร์ สว่าง สดใส สกินโทนผิวเนียนเป็นธรรมชาติ มีการอัปเกรดกล้อง Telephoto ที่ใช้เซนเซอร์ใหม่ HPB ความละเอียด 200MP ที่สามารถเก็บภาพซูมไกลได้คมชัด ไม่สูญเสียรายละเอียด ถูกใจคนชอบถ่ายรูปสาย Portrait มาก อีกทั้งชุดแต่งเสริมสุด Exclusive ที่มาเปลี่ยนลุคให้สมาร์ตโฟน vivo X300 Pro เป็นกล้องระดับมืออาชีพ รวมถึงเลนส์เสริม vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender ที่มาช่วยให้การถ่ายภาพระยะไกลสามารถถ่ายได้คมชัดมากขึ้น ตอบโจทย์สายคอนเสิร์ต/งานศิลปินเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้เข้าถึงศิลปินที่รักได้ใกล้ขึ้นแม้อยู่ระยะไกล

ด้านประสิทธิภาพที่มาด้วยขุมพลังชิป Dimensity 9500 ตัวท็อปที่รองรับทุกการงานทั่วไปอย่างเล่นแอป Social Media, รับชมความบันเทิง และการใช้งานหนักอย่างการถ่ายภาพและเล่นเกม ก็สามารถทำงานได้ลื่นไหล อีกทั้งชิปเสริม V3+ และชิปแยก VS1 ที่ช่วยให้การถ่ายภาพดีขึ้น ทำผลงานการถ่ายภาพออกมาได้ดี ประมวลผลถ่ายภาพได้ไวและถ่ายต่อเนื่องได้ และแบตเตอรี่ที่ให้ความจุมา 6510mAh BlueVolt รองรับชาร์จไว 90W FlashCharge, ชาร์จไร้สาย 40W Wireless FlashCharge ใช้ถ่ายภาพได้อึดหลายชั่วโมง และสามารถชาร์จกลับไปที่ 100% ได้ไว เพื่อลุยต่อได้
สำหรับราคา vivo X300 Pro
- ความจุ 16GB + 512GB ราคา 39,999 บาท
vivo vivo X300 Pro เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ตโฟนที่เน้นเรื่องการถ่ายรูป สไตล์บิ้วตี้ โทนภาพสวยสดใส
- ผู้ที่ชอบถ่ายภาพ/วิดีโอ งานคอนเสิร์ต/งานศิลปินจากระยะไกลได้คมชัด
- สมาร์ตโฟนที่ถ่ายภาพกลางคืนหรือในที่แสงน้อยได้สวย
- ชิปที่สามารถเล่นเกมกราฟิกสูงได้ไหลลื่น
- สมาร์ตโฟนแบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนาน และมีรองรับชาร์จไว รวมถึงการชาร์จไร้สาย
สิ่งที่อยากให้อัปเกรดเพิ่มขึ้นในรุ่นหน้า
- เพิ่มมุมกว้างของกล้อง Ultrawide ให้กว้างขึ้น
- ประมวลภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Portrait ให้เร็วขึ้น
- สีของภาพถ่ายเพี้ยนน้อยลง เมื่อเครื่องมีอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น
- พัฒนาการตัดขอบระหว่างบุคคลกับใบไม้ ให้เนียนมากขึ้นเมื่อใช้ค่า f รูปรับแสงต่ำ
