สยามพารากอน ผนึกกำลัง SCBX พร้อมพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ดิจิทัลการลงทุน และโซเชียลมีเดีย เปิด “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต โดยได้รับเกียรติจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ณ ชั้น 4 สยามพารากอน ตั้งเป้าเป็นเทคคอมมูนิตี้ พื้นที่แห่งการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพ ให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจโลกดิจิทัลทุกกลุ่มวัย ได้แลกเปลี่ยนความรู้พร้อมก้าวเข้าสู่โลกอนาคตในยุคดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งส่งเสริมให้เยาวชนได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์และมีคุณค่า เพื่อให้เยาวชนได้พัฒนาตนเองและเติบโตอย่างมีคุณภาพ สยามพารากอนเชื่อมั่นว่าจะมีส่วนร่วมสนับสนุนและผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคต่อไป โดยจัดงานเปิด ด้วย The Global Tech Talk ปรากฏการณ์ครั้งแรกในไทยที่รวบรวมบุคคลสำคัญระดับโลกของวงการดิจิทัลจากนานาประเทศ มาร่วมแบ่งปันความรู้ในงานเดียวได้มากที่สุด
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 สยามพารากอน จัดงานเปิด “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” (สยามพารากอน เน็กซ์ เทค เอกซ์ เอสซีบี เอกซ์) เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต บนพื้นที่กว่า 4,000 ตร.ม. ชั้น 4 สยามพารากอน ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เป็นอีกก้าวสำคัญในการทรานสฟอร์มสยามพารากอนโครงการแลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางมหานคร สู่การกำหนดนิยามใหม่อีกระดับที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ “The World of Tomorrow”
ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประธานในพิธี และ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วย นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และ ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารองค์กรด้านเทคทุกแขนง เข้าร่วมงานเปิด “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX”
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพารากอนเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก เป็นที่หนึ่งในใจหรือ Top of Mind ของทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาโดยตลอด ทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานครที่มีผู้คนมาเยือนกว่าวันละ 120,000 – 150,000 คนต่อวัน หรือกว่า 50 ล้านคนต่อปี สยามพารากอนได้ทรานสฟอร์มครั้งสำคัญสู่การเป็น The World of Tomorrow ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ”
“โดยในวันนี้สยามพารากอนได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ทรงพลังในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล การลงทุน และโซเชียลมีเดีย ร่วม Co-create สร้าง “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต เปิดพื้นที่ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพให้ผู้คนทุกวัยที่สนใจโลกดิจิทัล ได้แลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาตนเองภายใต้แนวคิด “Smarter, Better, Richer” เปิดกว้างให้คนทั้งปวงมาใช้ประโยชน์เพื่อสนองนโยบายภาครัฐในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ช่วยเสริมภูมิปัญญาและศักยภาพและความสามารถของคนไทยให้มีการพัฒนาตนเองและสังคมสู่ความยั่งยืนและมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียต่อไป”
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “SCBX มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางสยามพารากอนเชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่ม SCBX ตลอดจนการมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกัน มีแรงบันดาลใจในเรื่องของเทคโนโลยีที่ตรงกัน จนกลายมาเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในวันนี้ SCBX มีเป้าหมายสำคัญในการนำพาองค์กรสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงบทบาทของการเป็นองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่ที่จะช่วยผลักดันและขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทิศทางใหม่ของโลก เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืน ซึ่งความร่วมมือ “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX ในการ Co-create สร้างพื้นที่ “SCBX NEXT TECH” แห่งนี้ให้กลายเป็นเทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต นับเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นตัวอย่างขององค์กรขนาดใหญ่ของประเทศในการลงมือทำความคิดให้กลายเป็นภาพจริงที่จับต้องได้ โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “SCBX NEXT TECH” จะเป็นศูนย์กลางของเทคคอมมูนิตี้ชั้นนำของประเทศต่อไป”
“SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการที่สยามพารากอน ร่วมผนึกกำลังกับพันธมิตร ประกอบด้วย พันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งมากกว่า 10 องค์กร , พันธมิตรใน Tech Ecosystem กว่า 100 องค์กร และยังมีผู้นำความคิดและผู้เชี่ยวชาญในสายเทค กว่า 1,000 คน ทั่วโลก มาร่วมกันสร้างพื้นที่เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพให้ผู้สนใจโลกดิจิทัลทุกเจนเนอเรชั่น นำเสนอนวัตกรรมดิจิทัลในเรื่องต่างๆ มีการสอนอาชีพ สอนการลงทุนให้เกิดขึ้นในหลากหลายดิจิทัลแพลตฟอร์ม อีกทั้งมี workshop และกิจกรรมเป็นประจำทุกวันที่ให้เยาวชนและผู้สนใจได้เรียนรู้เทรนด์ล่าสุดของดิจิทัลสาขาต่างๆ จากวิทยากรและองค์กรชั้นนำในประเทศและจากต่างประเทศ
โดยนำเสนอองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีแขนงต่างๆ ได้แก่ Dev Connect , Blockchain Web3 & Fintech , New Tech , Health Tech, Gamer’s Guild , AI Arena, และ Social Co-Creators และมีพันธมิตรในเทคอีโค่ซิสเต็ม อาทิ SCBX , Focus , BITCAST , Connex , DEPA , JIB, looloo tech x Samitivej , SiamSandbox , Synnex, Techsauce , TFA , TIKTOK , The Standard , การเงินการธนาคาร , AIS , ONESIAM SuperApp และพันธมิตรอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ SCBX NEXT STAGE สำหรับแลกเปลี่ยนความรู้ในรูปแบบสัมมนา เวิร์กชอป ซึ่งสามารถรองรับคนได้มากถึง 300 คน รวมถึงพื้นที่สำหรับการจัดแสดงผลงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ ที่สร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยเปิดตัวดิจิทัลอาร์ทผลงานจาก Miguel Chevalier (มิเกล เชอวาลิเยร์) ศิลปินระดับโลกชาวฝรั่งเศส มาร่วมรังสรรค์อินเตอร์แรกทีฟดิจิทัลอาร์ทในรูปแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
ไฮไลท์สำคัญในงานแกรนด์โอเพนนิ่งครั้งนี้คือ ปรากฏการณ์ครั้งแรกในประเทศไทยที่รวบรวมบุคคลสำคัญระดับโลกของวงการดิจิทัลจากองค์กรชั้นนำในประเทศและต่างประเทศกว่า 50 องค์กรทั่วโลกมาเป็นวิทยากร ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในงานเดียวได้มากที่สุด ในกิจกรรม THE GLOBAL TECH TALK ระหว่างวันที่ 4 – 8 ตุลาคม 2566 อาทิ Mr. Alejandro Navia, Co-Founder & President ของ NFT NOW, Mr. Sebastien Borget, Co-Founder & COO ของ THE SANDBOX, Mr. Brendon Matheson, Solution Area Specialist App Innovation ของ Microsoft, Mr. Simon Seojoon Kim, CEO & Managing Partner ของ Hashed, Mr. Reuben Lim, COO จาก Singapore Fintech Association, Mr. Derrick Loi , General Manager International Business จากThe Digital Technology Business Group of Ant Group, Mr. Michael Sung, Chairman Horizen Digital and Director Institute of Digital Finance Innovation (IDFI) จาก Zhejiang University International Business, Mr. Atul Harkisanka, Regional Business Head ของ LinkedIn, Mr. Dave Davani จาก CEO Blue Resources AI และ Mr. Hojin Kim, CSO ของ UNOPND เป็นต้น
นอกจากนี้สยามพารากอน ยังให้ความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) จึงคำนึงถึงการก้าวสู่อนาคตควบคู่ไปกับการใส่ใจในการบริหารจัดการ e-waste หรือปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี จึงผนึกกำลังกับ SYNNEX ผู้นำด้าน IT Ecosystem ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลพิษจากขยะอิเล็กทรอนิกส์และลดภาวะโลกร้อน โดยติดตั้งจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไอที ซึ่งจะนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี“
การเปิด “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต เป็นการพลิกโฉมรูปแบบใหม่ของโลกศูนย์การค้าและธุรกิจรีเทล เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคต เป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของสยามพารากอนในการทรานสฟอร์มสู่ The World of Tomorrow” นางชฎาทิพ กล่าว