x
icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือ
product filter
product filter
product filter
product filter

Gartner ชี้ปี 2566 คือช่วงเวลาสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs)

ข่าว icon 13 มี.ค. 66 icon 3,115
Gartner ชี้มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้ปี 2566 กลายเป็นบททดสอบอย่างแท้จริงในการแก้ไขปัญหาของภาครัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs) ให้เดินไปข้างหน้า
 
เปโดร ปาเชโก รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ปีนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบให้เดินหน้าได้ต่อ ด้วยราคาค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นในยุโรปทำให้ต้นทุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) น่าสนใจลดลง ประกอบกับในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลีย ที่กำลังเริ่มจัดเก็บภาษีรถยนต์อีวี นอกจากนี้ช่วงต้นปี 2566 จีนยุติการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงยังมีปัจจัยด้านการวางโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จทั่วโลกที่พบว่ายังไม่ครอบคลุมเพียงพออย่างมาก และคุณภาพการให้บริการโดยเฉลี่ยก็ยังแย่”
 
นอกเหนือจากนี้ ยังมีปัจจัยราคาของวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ลิเธียมและนิกเกิลที่ทำให้ต้นทุนการผลิตรถ BEV สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนแบบโออีเอ็ม (หรือ OEM) ลดช่องว่างด้านราคากับรถยนต์เครื่องยนต์สัปดาปได้ยากขึ้น ผลที่ตามมาคือยอดขายรถ BEV อาจเติบโตในระดับที่ต่ำกว่ามากหรือหยุดชะงักในบางตลาด ทำให้การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับรถ BEV ใช้เวลานานขึ้นกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน
ไมค์ แรมซี่ รองประธานฝ่ายวิจัยอีกคนของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “เราคาดว่าปัญหาการขาดแคลนในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์จะยังดำเนินต่อไปตลอดในปีนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่สามารถคาดการณ์ถึงจุดสิ้นสุดของสถานการณ์ขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์หรือที่ลามไปสู่การผลิตรถยนต์ที่สะดุดตามมา ผู้ผลิตเหล่านี้ยังประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบหลักสำหรับแบตเตอรี่ในรถ BEV อันทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงขึ้น” 
 
“การเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลของการจำหน่ายยานพาหนะยังคงเดินหน้าต่อ เพียงแต่ช้าลง ขณะที่สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจกำลังท้าทายการขับเคลื่อนของตลาดรถยนต์ จากข้อจำกัดด้านอุปทานไปสู่ข้อจำกัดด้านอุปสงค์ โดยผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนไปสู่การจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดต้นทุนในการจำหน่าย”
 
ในช่วงขาลงนี้กลับเป็นโอกาสอันดีของผู้บริหารไอที (CIOs) ในแวดวงยานยนต์ที่จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดด้วยการใช้เทคโนโลยีได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายกำลังพยายามเปลี่ยนไปเป็นบริษัทเทคโนโลยี แต่วัฒนธรรมองค์กรเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการแนวทางการขับเคลื่อนนี้ “นี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการลดช่องว่างกับผู้ผลิตรถยนต์ดิจิทัล และยังสร้างรายได้ให้เติบโตผ่านการใช้เทคโนโลยี” ปาเชโก กล่าวเพิ่มเติม

มองไกลกว่าปี 2566

การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า ภายในปี 2569 มากกว่า 50% ของรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายทั่วโลกจะเป็นแบรนด์จากประเทศจีน แรมซี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “มีบริษัทจีนมากกว่า 15 แห่งที่จำหน่ายรถอีวีและหลายรุ่นมีขนาดเล็กกว่าและมีราคาถูกกว่าคู่แข่งต่างชาติอย่างมาก ขณะที่แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์อื่น ๆ Tesla, VW และ GM กำลังจำหน่ายรถอีวีจำนวนมากในประเทศจีน และยังพบว่าเติบโตรวดเร็วกว่าบริษัทจากจีนอย่างมาก” 
 
เนื่องจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก บริษัทจีนหลายแห่งจึงอยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สามารถใช้ประโยชน์จากการเติบโตตลาด ด้วยการเข้าถึงแร่สำคัญ ๆ และกำลังการผลิตแบตเตอรี่ในประเทศจีนได้ การ์ทเนอร์แนะนำให้ผู้บริหารไอที (CIOs) ในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้า ผสานเข้ากับการวางแผนด้านห่วงโซ่อุปทานและซอฟต์แวร์การควบคุมการมองเห็น (Visibility Software) เพื่อช่วยตัดสินใจทางธุรกิจเกี่ยวกับแหล่งที่มาและมีการรับประกันที่ยืดหยุ่นของวัสดุหลักในการผลิตได้ดียิ่งขึ้น
 
นักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ประเมินว่าภายในปี 2568 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการส่วนหนึ่งสำหรับรถยนต์ใหม่บนท้องถนนถึง 95%
 
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เริ่มเข้ามาแทนที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ยานยนต์ (ระดับ Tier 1) ในฐานะผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ในรถยนต์ (อาทิ Google Automotive Services และ CarPlay) และยังขยายเครือข่ายของตนเพื่อเคลมส่วนแบ่งการตลาดที่มากขึ้นในขอบเขตของระบบปฏิบัติการรถยนต์ (อาทิ ความร่วมมือระหว่าง Renault กับ Google หรือ ความร่วมมือของ VW กับ Microsoft) นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายรายยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายรถยนต์ อาทิ Foxconn, Huawei, Alibaba, Xiaomi, Tencent และ Sony ที่ล้วนเป็นตัวอย่างของเทรนด์ที่เกิดขึ้นนี้
 
“เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ผลิต OEM หรือซัพพลายเออร์แบบดั้งเดิมจะประสบความสำเร็จแต่เพียงผู้เดียว อย่างน้อยแต่ละรายต้องร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัล หากพวกเขาต้องการรักษากำไรและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้” ปาเชโก กล่าวสรุป
 
ลูกค้าการ์ทเนอร์ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “Top Automotive Trends for 2023” และ “Predicts 2023: Automotive and Smart Mobility.”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ev car bevs gartner

ข่าวและอีเว้นท์โทรศัพท์มือถือล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)