ส่องเทรนด์เทคโนโลยีปี 2022 พลิกโฉมวงการแฟชั่นสู่ความยั่งยืน

ตลอดปี 2022 มานี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงที่สุด คือเทรนด์ด้านความยั่งยืน ซึ่งได้รับความสนใจและเป็นแนวคิดที่ถูกนำมาปรับใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งในมิติของการใช้ชีวิตประจำวัน การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ไปจนถึงการปฏิวัติในระดับอุตสาหกรรม เทรนด์ด้านความยั่งยืนยังมีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่น ตามแนวคิด "วิถีแฟชั่นยั่งยืน" (Sustainable Fashion) ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในยุคที่ผู้คนต่างมองหาวิธีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบัน มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมายที่เข้ามาตอบสนองความต้องการดังกล่าว และช่วยลดการสร้างรอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) ตลอดเส้นทางในการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่น ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การเลือกซื้อสินค้า ไปจนถึงการรับคืนสินค้า แอลจีจึงได้รวบรวมเทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2022 ที่จะยกระดับวงการแฟชั่นสู่ความยั่งยืนมาอัพเดท เพื่อเป็นไอเดียในการเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สำหรับคนที่ชอบติดตามเทรนด์แฟชั่นใหม่ ๆ คงคุ้นเคยกับงานแฟชั่นวีคเป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้าใหม่ ๆ ของแบรนด์ดังต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าดีไซเนอร์ แฟชั่นกูรู และนางแบบนายแบบจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในการจัดแฟชั่นโชว์แต่ละครั้งได้สร้างขยะในปริมาณมหาศาล ด้วยปริมาณเสื้อผ้าที่ต้องผลิตเพื่อจัดแสดงในงาน ดีไซเนอร์บางรายจึงหันมาเลือกใช้นายแบบหรือนางแบบเสมือนจริงเพื่อแสดงผลงานในวิธีการที่น่าตื่นเต้นด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย และยังช่วยลดการสร้างขยะด้วยการลดปริมาณการผลิตเสื้อผ้า รวมถึงประหยัดน้ำและพลังงานในขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

การทดลองสินค้าแบบดิจิทัลช่วยลดปริมาณขยะที่มาจากวัสดุผ้าได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา เมื่อแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ จำเป็นต้องปิดให้บริการหน้าร้านและห้องลองชั่วคราว ผู้คนจึงหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ การซื้อเสื้อผ้าผ่านช่องทางออนไลน์อาจทำให้หลายคนต้องพบกับปัญหาตารางสัดส่วนไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องส่งคืนสินค้าคืนให้กับทางร้านในที่สุด แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีห้องลองเสมือนช่วยให้ผู้คนสามารถทดลองสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในรูปแบบเดียวกับการลองสินค้าภายในร้าน ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งจากการลดปริมาณการผลิตสินค้าตัวอย่าง รวมถึงพลังงานและทรัพยากรในการส่งคืนสินค้า

จากเทรนด์ในปัจจุบันที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์วัสดุผ้าทางเลือกที่ย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรต่อสัตว์ เช่น วัสดุที่ทำจากเส้นใยสับปะรด ผ้าลินินที่ทำมาจากเส้นใยของต้นแฟล็กซ์ และผ้าไลโอเซลล์ที่ทำมาจากเส้นใยจากเซลลูโลสของเปลือกไม้ ที่ผลิตจากธรรมชาติ 100% นอกจากนี้ ดีไซเนอร์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมยังหามาใช้วัสดุที่ทำจากต้นไผ่ สาหร่าย และเห็ด ในการสร้างสรรค์สินค้าแฟชั่นแบบวีแกนมากขึ้น ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางบกและทางทะเลอีกด้วย

ตราบใดที่ผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญและต้องการซื้อสินค้าแฟชั่นที่ยึดหลักแนวคิดความยั่งยืน เราก็จะยังได้เห็นนวัตกรรมล้ำสมัยที่ถูกพัฒนาในรูปแบบที่หลากหลายยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้นในอนาคต สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีการง่าย ๆ ในการปรับวิถีชีวิตประจำวันให้รักษ์โลกมากขึ้น สามารถเริ่มต้นได้จากการนำเสื้อผ้าที่มีอยู่แล้วกลับมาใส่ซ้ำ เพื่อลดปริมาณการซื้อสินค้าใหม่ ๆ และหันมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วอย่างคุ้มค่าที่สุด โดยแอลจียังมอบทางเลือกในการยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าชุดโปรดด้วยนวัตกรรมตู้ถนอมผ้า LG Styler โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี TrueSteam ที่สร้างนิยามครั้งใหม่ในการดูแลผ้า โดยสามารถอบผ้าได้อย่างอ่อนโยนและดูแลเนื้อผ้าให้นุ่มฟู ไม่ทำลายเนื้อผ้า พร้อมขจัดสารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรีย ฝุ่นละออง และเชื้อโรคในเสื้อผ้าได้ถึง 99.9% เพื่อให้มั่นใจว่าเสื้อผ้าชุดโปรดจะได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกและปลอดภัยต่อการสวมใส่ พร้อมป้องกันการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร