x
icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือ
product filter
product filter
product filter
product filter

Apple เปิดตัว AirPods หูฟังไร้สายรุ่นที่ 3 มาพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่ง และลำโพงอัจฉริยะ HomePod mini สีสันใหม่

ข่าว icon 19 ต.ค. 64 icon 1,770
Apple เปิดตัว AirPods รุ่นที่ 3 ที่มาพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่ง และคุณสมบัติขั้นสูง ในดีไซน์ใหม่แบบโค้งมน ผสานพลังชิป H1 ที่เข้ากับดีไซน์อะคูสติกที่ออกแบบโดย Apple มอบประสบการณ์การฟังสุดล้ำพร้อม EQ แบบปรับได้เองด้วยการใช้ระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จะได้เพลิดเพลินกับระบบเสียงตามตำแหน่งที่มาพร้อม Dolby Atmos ใน Apple Music, ภาพยนตร์ และรายการทีวี พร้อมด้วยการติดตามศีรษะแบบไดนามิกบนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple
AirPods ใหม่ มีความสามารถในการทนเหงื่อและน้ำ ทั้งยังมาพร้อมเซ็นเซอร์แรงกดเพื่อการควบคุมเพลงและการโทรที่ง่ายดายและเป็นธรรมชาติ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น ทำให้สามารถฟังได้นานถึง 6 ชั่วโมง และฟังได้นานถึง 30 ชั่วโมงด้วยเคสชาร์จที่ใช้งานสะดวก AirPods (รุ่นที่ 3)

ดีไซน์ใหม่หมด

ดีไซน์ใหม่ของ AirPods มีน้ำหนักเบา และมาในรูปทรงโค้งมน และทำมุมได้ลงตัวพอดีกับหู ทำให้ทั้งใส่สบายและเสียงเข้าสู่หูของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ก้านยังสั้นกว่ารุ่นก่อน ให้ลุคที่ดูเรียบง่ายขึ้น และมาพร้อมเซ็นเซอร์แรงกดแบบเดียวกับ AirPods Pro เพื่อการควบคุมที่ง่ายดาย โดย AirPods ใหม่ สามารถทนเหงื่อและน้ำที่ระดับ IPX4 สำหรับทั้งหูฟังและเคสชาร์จ

คุณสมบัติด้านเสียงสุดล้ำ

AirPods (รุ่นที่ 3) พัฒนาขึ้นจากคุณภาพเสียงชั้นยอด เริ่มจากไดรเวอร์แบบเฉพาะและตัวขยายสัญญาณที่มีช่วงไดนามิกสูง ที่ทำงานร่วมกันเพื่อถ่ายทอดเสียงเบสอันทรงพลังพร้อมด้วยเสียงสูงที่คมชัดและใสสะอาด ไมโครโฟนหุ้มด้วยผ้าตาข่ายอะคูสติกเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากลม เสียงของผู้พูดจึงดังชัดเจนระหว่างคุยโทรศัพท์ นอกจากนี้ AirPods ยังมาพร้อม AAC-ELD ซึ่งเป็นตัวแปลงสัญญาณเสียงพูด ให้คุณภาพเสียงระดับ Full HD การโทรแบบ FaceTime จึงฟังชัดเจนและเป็นธรรมชาติเสมอ
AirPods ใหม่ ใช้ระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อนำประสบการณ์ล้ำสมัยที่ลูกค้าชื่นชอบบน AirPods Pro และ AirPods Max อย่าง EQ แบบปรับได้เองและระบบเสียงตามตำแหน่งพร้อมการติดตามศีรษะแบบไดนามิกมามอบให้กับผู้ใช้จำนวนมากขึ้น
AirPods ใหม่ มาพร้อมคุณสมบัติ EQ แบบปรับได้เองที่จะปรับเสียงให้เข้ากับหูแบบเรียลไทม์ มอบประสบการณ์การฟังที่สมบูรณ์แบบพร้อมรายละเอียดที่เต็มอิ่ม ไมโครโฟนที่หันเข้าด้านในจะคอยตรวจสอบเสียงที่ผู้ใช้ได้ยิน จากนั้น EQ แบบปรับได้เองซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ จะปรับแต่งเสียงต่ำและกลางเพื่อชดเชยรายละเอียดที่อาจหายไปจากระดับความกระชับที่ต่างกัน
ระบบเสียงตามตำแหน่งจะทำให้เสียงอยู่ล้อมรอบตัวผู้ใช้เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังแบบสามมิติที่เหมือนในโรงภาพยนตร์ และมาพร้อมด้วยระบบเสียง Dolby Atmos จึงทำให้ได้เสียงที่ยอดเยี่ยม ผู้ใช้ยังสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์แบบหลายมิติด้วยการติดตามศีรษะแบบไดนามิกที่จะทำให้เพลง วิดีโอ และแม้แต่การโทร FaceTime แบบกลุ่มให้ความรู้สึกสมจริงยิ่งกว่าที่เคย การใช้อัลกอริทึมระบบเสียงตามตำแหน่งขั้นสูงและการใส่ฟิลเตอร์กำหนดทิศทางเสียงเพื่อปรับความถี่ที่หูแต่ละข้างอย่างแนบเนียน ทำให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงแบบโอบล้อมรอบตัว

ประสบการณ์อันมหัศจรรย์

ผู้ใช้สามารถตั้งค่าด้วยการแตะครั้งเดียวเพื่อจับคู่ AirPods กับอุปกรณ์ Apple อื่นๆ โดยอัตโนมัติ จากนั้นก็เพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ตลอดทั้งวัน โดยคุณสมบัติ "การแชร์เสียง" ช่วยให้ผู้ใช้แชร์สตรีมเสียงระหว่าง AirPods, AirPods Pro หรือ AirPods Max สองคู่ได้ง่ายๆ บน iPhone, iPad, iPod touch หรือ Apple TV
เซ็นเซอร์ตรวจจับผิวหนังแบบใหม่จะสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างหูกับพื้นผิวอื่นๆ อย่างกระเป๋าเสื้อหรือโต๊ะได้อย่างแม่นยำ และจะหยุดเล่นชั่วคราวเมื่อ AirPods ไม่ได้อยู่ในหู นอกจากนี้ไมโครโฟนแบบบีมฟอร์มมิ่งจะช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกและโฟกัสที่เสียงของผู้ใช้เพื่อช่วยให้เสียงชัดเจนขึ้น และผู้ใช้ยังสามารถเพลิดเพลินกับการใช้งานแฮนด์ฟรีได้ด้วยการพูดว่า "หวัดดี Siri" เพื่อขอให้ Siri ช่วยทำสิ่งต่างๆ

แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น

AirPods (รุ่นที่ 3) มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานกว่ารุ่นก่อนหน้า 1 ชั่วโมง โดยสามารถใช้ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง และสนทนาได้นานสูงสุด 4 ชั่วโมง ชาร์จเพียง 5 นาที แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานประมาณ 1 ชั่วโมง และใช้ฟังได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง เมื่อชาร์จในเคสชาร์จอีก 4 รอบ นอกจากนี้ AirPods ยังสามารถใช้งานร่วมกับที่ชาร์จไร้สาย MagSafe ได้ด้วย

AirPods พร้อมด้วย iOS และ iPadOS

ด้วย iOS 15 และ iPadOS 15 ทำให้ผู้ใช้ AirPods สามารถเพลิดเพลินกับคุณสมบัติต่อไปนี้ได้ด้วย
  • ระบบเสียงตามตำแหน่งและการติดตามศีรษะแบบไดนามิกทำให้เสียงพูดขณะโทร FaceTime แบบกลุ่มฟังเหมือนกับว่าทิศทางของเสียงมาจากตำแหน่งที่ผู้พูดอยู่บนหน้าจอจริงๆ และเหมือนกับว่าทุกคนอยู่ในห้องเดียวกัน
  • คุณสมบัติ "การอ่านการแจ้งเตือน" ทำให้ Siri สามารถอ่านการแจ้งเตือนที่สำคัญได้ทันที รวมถึงการเตือนจากแอปข้อความ เตือนความจำ ปฏิทิน และการโทร รวมถึงแอปของบริษัทอื่นๆ ที่ใช้ API นี้ด้ว
  • และตอนนี้ AirPods ยังเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายค้นหาของฉันที่ประกอบไปด้วยคอมพิวเตอร์, iPhone, iPad และ Mac หลายร้อยล้านเครื่องทั่วโลก ผู้ใช้จึงสามารถดูมุมมองที่บอกระยะความใกล้ในแอปค้นหาของฉันและโหมดสูญหาย ทั้งยังรับการแจ้งเตือนหาก AirPods อยู่นอกระยะหรือทำให้ AirPods ส่งเสียงได้ด้วย

ราคาและการวางจำหน่าย

  • AirPods (รุ่นที่ 3) จะวางจำหน่ายในราคา 6,790 บาท โดยจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้
  • AirPods (รุ่นที่ 2) จะวางจำหน่ายในราคาใหม่ที่ 4,990 บาท
  • AirPods Pro มาพร้อมเคสชาร์จ MagSafe ในราคาเดิมที่ 8,992 บาท
  • สมาชิกใหม่สามารถใช้ Apple Music ได้ฟรี 6 เดือน เมื่อซื้อ AirPods, AirPods Pro หรือ AirPods Max รุ่นใดก็ได้
  • AirPods ต้องใช้กับอุปกรณ์ Apple ที่ใช้ iOS 15.1, iPadOS 15.1, watchOS 8.1, tvOS 15.1 หรือ macOS Monterey ซึ่งทั้งหมดจะพร้อมให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีในสัปดาห์หน้า
  • ลูกค้าสามารถเพิ่มการสลักข้อความส่วนตัวด้วยอิโมจิ ข้อความ และตัวเลขลงบนเคสสำหรับ AirPods Pro, AirPods (รุ่นที่ 3) และ AirPods (รุ่นที่ 2) ได้ฟรีที่ apple.com/th/store หรือในแอป Apple Store

นอกจากนี้ Apple ยังได้เปิดตัวลำโพงอัจฉริยะ HomePod mini ที่มาใน 3 สีสันสุดสวยอย่าง สีเหลือง สีส้ม และสีน้ำเงิน เพื่อเพิ่มตัวเลือกในการบ่งบอกบุคลิกและสไตล์ของผู้ใช้ในทุกที่ โดย HomePod mini มาในขนาดความสูงเพียง 3.3 นิ้ว ควบคุมผ่าน Siri พร้อมคุณสมบัติด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในตัว ทำงานร่วมกันอย่างลื่นไหลกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ Apple
Apple HomePod mini มาใน 3 สีใหม่ รวมถึงสีเดิมอย่าง สีขาว และสีเทาสเปซเกรย์ พร้อมรายละเอียดต่างๆ ที่มีสีสันเข้ากันไปหมด ทั้งพื้นผิวระบบสัมผัสแบบมีสี ผ้าตาข่าย ไอคอนระดับเสียง และสายไฟแบบถัก โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้

เสียงกระหึ่มสุดใจในขนาดกะทัดรัด

HomePod mini ใช้ระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อส่งมอบประสบการณ์ในการฟังเพลงแบบเต็มอิ่มชัดเจนทุกรายละเอียด และมีประสิทธิภาพ ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด แต่ให้เสียงกระหึ่ม ใส่ชิป Apple S5 เพื่อเรียกใช้ซอฟต์แวร์ขั้นสูงในการวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของเพลง และยังใช้รูปแบบการปรับจูนที่ซับซ้อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ความดัง ปรับช่วงไดนามิก และควบคุมการเคลื่อนไหวของไดรเวอร์ รวมถึงระบบ Passive Radiator แบบเรียลไทม์ ไดรเวอร์แบบ Full-range แม่เหล็กนีโอไดเนียมสุดพรีเมี่ยม และระบบ Passive Radiator คู่แบบตัดแรงสั่น ช่วยให้ HomePod mini สามารถสร้างเสียงเบสแบบหนักแน่นและเสียงถี่สูงที่คมชัด
ไกด์เวฟอะคูสติกที่ออกแบบโดย Apple ช่วยพาเสียงให้ไหลออกจากทางด้านล่างของลำโพง เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงเสมือนจริงรอบด้านครบ 360 องศา ซึ่งจะช่วยรักษาความอิ่มชัดของเสียงไว้ และยังทำให้สามารถวาง HomePod mini ไว้ที่ใดในห้องก็สามารถเพลิดเพลินได้ทุกมุม และหากวางลำโพง HomePod mini ไว้ในหลายห้อง ยังสามารถซิงค์เพื่อเล่นเพลงเดียวกันทั่วบ้าน หรือจะเล่นเพลงแยกกันไปในแต่ละห้องก็ได้ การวางลำโพง HomePod mini ไว้ในห้องเดียวกัน 2 ตัว จะเป็นการจับคู่สเตอริโอเพื่อรับประสบการณ์ในการฟังเพลงที่เต็มอิ่มสมจริงขึ้นไปอีกขั้น ชุดไมโครโฟน 3 ตัว จะรอฟังคำสั่ง "หวัดดี Siri" ส่วนไมโครโฟนตัวที่ 4 ซึ่งหันเข้าด้านในจะคอยตัดเสียงที่มาจากลำโพง เพื่อให้ได้ Siri ได้ยินคำขอด้วยเสียงพูดชัดเจนขึ้นในขณะที่เล่นเพลงอยู่

Apple Music Voice บน HomePod mini

HomePod mini ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ Apple Music, Apple Podcasts, สถานีวิทยุหลายพันแห่ง รวมถึง Apple Music 1 ที่ได้รับรางวัล และบริการด้านเพลงที่ได้รับความนิยมอื่นๆ เช่น Pandora, Deezer เพื่อมอบความบันเทิงให้แก่ทุกคน โดย Apple Music มีเพลงให้เลือกฟังมากกว่า 90 ล้านเพลง ที่ผ่านการเลือกสรรโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้สร้างเทรนด์ระดับโลก พร้อมเพลย์ลิสต์นับพันรายการที่เลือกเฟ้นมาเป็นอย่างดี ซึ่งสร้างมาเพื่อแผนบริการ Apple Music Voice โดยเฉพาะ รวมถึงมีการออกอากาศทางวิทยุและเนื้อหาที่ผลิตเองอื่นๆ อีกมากกว่า 25,000 รายการ

ลำโพงอัจฉริยะที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ iPhone

ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ฟังพ็อดคาสท์ หรือรับสายโทรศัพท์ ก็สามารถนำ iPhone มาไว้ใกล้ๆ HomePod mini เพื่อส่งต่อเสียงไปยังลำโพงได้อย่างไม่ขาดตอน ตัวลำโพงยังให้ประสบการณ์พิเศษขึ้นไปอีกหากใช้ร่วมกับ iPhone ที่มีชิป U1 เพราะจะมีเอฟเฟกต์ด้านภาพ เสียง และการสั่น ที่ชวนให้รู้สึกว่าอุปกรณ์ได้เชื่อมต่อกันจริงๆ ในขณะที่ส่งผ่านเสียงจากอุปกรณ์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่อง หาก HomePod mini ไม่ได้เล่นอะไรใดอยู่ แล้วนำ iPhone มาไว้ใกล้ๆ ลำโพง หน้าจอ iPhone จะปรากฏคำแนะนำแบบเฉพาะตัวบน iPhone โดยอัตโนมัติ พร้อมแสดงตัวควบคุมต่างๆ ที่ใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องปลดล็อก iPhone

ผู้ช่วยอัจฉริยะเปี่ยมประสิทธิภาพ

HomePod mini มีความอัจฉริยะจาก Siri โดยผู้ใช้ iPhone จะได้รับประสบการณ์แบบเฉพาะตัวซึ่งผสานรวมไว้เต็มรูปแบบ Siri สามารถรู้จำเสียงได้มากถึง 6 เสียงสำหรับสมาชิกแต่ละคนในบ้าน สามารถปรับเลือกเพลงและพ็อดคาสท์มาให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละคน รวมไปถึงการช่วยเหลือตามคำขอต่างๆ เช่น อ่านข้อความ การแจ้งเตือน โน้ต และการนัดหมายในปฏิทิน รวมถึงต่อสายหรือรับสายโทรศัพท์ นอกจากนี้ Siri ยังสามารถแจ้งอัปเดตรายบุคคลเพื่อให้ทราบภาพรวมของวันได้ ด้วยการถามว่า "หวัดดี Siri ฉันมีอัปเดตอะไรบ้าง" เพื่อฟังข่าวสารล่าสุด สภาพอากาศ การจราจร การแจ้งเตือน และนัดหมายในปฏิทินในคำขอเดียว

ควบคุมสมาร์ทโฮมได้ง่ายนิดเดียว

HomePod mini ช่วยให้ควบคุมอุปกรณ์เสริมด้านสมาร์ทโฮมได้ง่ายๆ เพียงใช้การสั่งการด้วยเสียงกับ Siri เพื่อปิดไฟ เปลี่ยนอุณหภูมิ ล็อกประตู สร้างบรรยากาศ หรือควบคุมอุปกรณ์ตามเวลาแบบเจาะจง และผู้ใช้ยังสามารถขอความช่วยเหลือแบบแฮนด์ฟรีได้อีกด้วย โดยพูดสั่งอุปกรณ์เสริมด้านสมาร์ทโฮมต่างๆ ที่ใช้ร่วมกับ Siri ได้เลย เพราะ Apple ออกแบบให้อุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมกับ Siri ได้ สามารถส่งคำขอผ่าน HomePod mini ที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
คุณสมบัติอินเตอร์คอมช่วยให้ผู้คนในบ้านพูดคุยกันได้ง่ายและรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถส่งข้อความผ่านอินเตอร์คอมจาก HomePod mini เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องได้ ซึ่งทำได้ทั้งแบบที่ลำโพงอยู่คนละห้องกัน อยู่ในโซนแบบเจาะจง หรืออยู่ในหลายๆ ห้องในบ้าน แล้วระบบจะเล่นข้อความเสียงนั้นโดยอัตโนมัติผ่าน HomePod mini ตัวที่กำหนดไว้ อินเตอร์คอมยังสามารถทำงานได้บน iPhone, iPad, Apple Watch, AirPods และ CarPlay อีกด้วย เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้รับการแจ้งเตือนของอินเตอร์คอม และส่งข้อความผ่านอินเตอร์คอมจากสนามหลังบ้าน ระหว่างทางกลับบ้าน หรือตอนอยู่นอกบ้านได้

ออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

สำหรับ HomePod mini ระบบจะส่งข้อมูลใดๆ ไปที่เซิร์ฟเวอร์ของ Apple ได้หลังจากที่ตัวอุปกรณ์ได้รู้จำคำว่า​ "หวัดดี Siri" หรือผู้ใช้ได้เปิดใช้ Siri โดยการสัมผัสแล้วเท่านั้น โดย Apple จะไม่นำคำขอเหล่านั้นมาเชื่อมโยงกับ Apple ID ของผู้ใช้หรือข้อมูลส่วนตัว เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ด้านการโฆษณา หรือขายให้องค์กรอื่นๆ HomePod mini ทำงานร่วมกับ iPhone เพื่อทำตามคำขอเกี่ยวกับข้อความและโน้ตต่างๆ ให้เสร็จสมบูรณ์ในตัวอุปกรณ์เอง โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นให้ Apple ทราบ

อีกหลายคุณสมบัติที่น่าสนใจ

  • การขยายการรู้จดจำเสียงผู้ใช้แบบหลายราย : ภายในปีนี้ Apple จะเริ่มขยายการรู้จดจำเสียงผู้ใช้แบบหลายรายให้ Siri ไปยังทุกภูมิภาคที่มี HomePod mini วางจำหน่าย เพื่อให้สมาชิกทุกคนในบ้านเพลิดเพลินไปกับเพลงที่คัดสรรมาให้เหมาะกับรูปแบบรสนิยมของแต่ละคน เข้าถึงเพลย์ลิสต์ของตัวเอง ใช้ Personal Requests และอื่นๆ
  • การปรับระดับเสียงของ Siri โดยอัตโนมัติ : Siri ยังจะปรับระดับเสียงพูดของตัวเองโดยอัตโนมัติอีกด้วยบน HomePod mini เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในห้องและระดับเสียงพูดของผู้ใช้
  • ตัวเลือกเสียงที่หลากหลายมากขึ้นสำหรับ Siri : ในตอนนี้ Siri มีตัวเลือกเสียงที่หลากหลายมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกา ผู้ใช้จึงสามารถเลือกเสียงที่ตรงใจได้เลยตั้งแต่ตอนเริ่มตั้งค่าอุปกรณ์
  • ยกระดับเสียงที่มาจาก Apple TV 4K : ผู้ใช้สามารถจับคู่ HomePod mini กับ Apple TV 4K เพื่อรับประสบการณ์แบบเต็มอิ่มไม่ผิดเพี้ยนทุกช่วงเสียง HomePod mini ใช้ระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์เสียงและสร้างรูปแบบต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ได้เสียงสนทนาที่ชัดเจนทุกรายละเอียด
  • การควบคุม Apple TV : HomePod mini สามารถใช้งานร่วมกับ Siri ได้ เพื่อให้ผู้ใช้มีวิธีใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพในการโต้ตอบกับ Apple TV เช่น ผู้ใช้สามารถขอให้ Siri เปิด Apple TV เริ่มเปิดรายการทีวีหรือภาพยนตร์ และควบคุมการเล่นได้
  • ไหนขอเสียงหน่อย : เมื่อถาม Siri บน HomePod mini ว่าสัตว์ เครื่องดนตรี หรือยานพาหนะต่างๆ มีเสียงอย่างไร Siri ก็จะเล่นเสียงขำๆ เหล่านั้นแบบเหมือนจริงเป๊ะให้คุณฟัง
  • วิธีใหม่ๆ ในการควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้าน : Siri สามารถควบคุมอุปกรณ์เสริมอัจฉริยะในบ้านตามเวลาที่กำหนด คุณจึงขอให้ Siri ช่วยปิดไฟในอีก 10 นาที หรือเปิดไฟระเบียงบ้านหลังพระอาทิตย์ตกดินได้
  • ค้นหาของฉัน : ขอให้ Siri บน HomePod mini ช่วยสั่งให้ iPhone, iPad, iPod touch, Mac, Apple Watch หรือ AirTag ซึ่งวางอยู่ผิดที่ผิดทางส่งเสียงออกมาให้คุณทราบว่าอุปกรณ์นั้นอยู่ที่ไหน
ที่มา : Apple Newsroom 1 | 2
 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

apple apple airpods homepod mini

ข่าวและอีเว้นท์โทรศัพท์มือถือล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)