Huawei P10 และ Huawei P10 Plus การผสมผสานของแฟชั่น ศิลปะ และเทคโนโลยี อย่างลงตัว
Huawei P10 และ Huawei P10 Plus สมาร์ทโฟนที่มีคนรอคอยมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Mobile World Congress (MWC 2017) ที่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่พัฒนาขึ้นในทุกจุด และแน่นอนว่ายังคงมาพร้อมจุดขายเขย่าโลกด้วยกล้องคู่จาก Leica
VIDEO
จุดเด่น
Huawei P10 มาพร้อมตัวเรือนโลหะ ผ่านการผลิตที่เรียกว่า hyper-diamond cut ทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงามมาก และมีการเคลือบผิวเนียนมือแบบการพ่นทราย (บางสีจะเป็นผิวเงา) มีเสาสัญญาณด้านบน และด้านล่างรูปตัว U หน้าจอ IPS-NEO LCD ขนาด 5.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080P มีขนาดหน้าจอเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย (Huawei P9 มีขนาด 5.2 นิ้ว), กระจก Corning Gorilla Glass 5 โค้ง 2.5D, ทำงานบน Android 7.0 Nougat ครอบทับด้วย Emotion UI 5.1, ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 960, CPU Octa-core (4x2.4 GHz Cortex-A73 & 4x1.8 GHz Cortex-A53), GPU Mali-G71 MP8, RAM 4GB, หน่วยความจำ 64GB (สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้สูงสุด 256GB) แบตเตอรี่ ขนาด 3,200mAh รองรับ Fast battery charging, ลำโพงคู่ Stereo Speakers
มาพร้อมจุดเด่นกล้องคู่ที่ร่วมพัฒนากับ Leica แบ่งเป็นกล้องสีความละเอียด 12MP + กล้องขาว-ดำ ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง F2.2, OIS, Leica optics, phase detection autofocus, dual-LED (dual tone) flash, กล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง F1.9 ที่น่าสนใจคือ Huawei มีฟังก์ชั่น Portrait Mode ถ่ายภาพบุคคลให้สวยงามอย่างมืออาชีพ และกล้องหน้าแม้จะไม่ใช่กล้องคู่แต่ Huawei พัฒนาฟังก์ชั่น ช่วยให้ถ่ายภาพ Selfie แล้วฉากหลังละลายมี Bokeh ได้ด้วย (ซึ่งจะทำได้ดีแค่ไหน รอรีวิวนะครับ อยากทดสอบอยู่เหมือนกัน) และสามารถบันทึกวีดีโอ ความละเอียด 4K
Huawei P10 Plus วัสดุและดีไซน์แบบเดียวกับ Huawei P10 หน้าจอ IPS-NEO LCD เช่นกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่า 5.5 นิ้ว ความละเอียด QHD, กระจก Corning Gorilla Glass 5 โค้ง 2.5D, สเปคโดยรวมจะเหมือนกัน ต่างตรงที่จะมีรุ่น RAM 6GB, หน่วยความจำ 128GB ออกมาวางจำหน่ายด้วย (สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้เช่นกัน) ด้านกล้องมาพร้อมกล้องคู่แบบเดียวกัน แต่ค่ารูรับแสงน่าสนใจกว่า F1.8 เลยครับ (น่าสนใจกว่ารุ่นใหญ่อย่าง Mate Series เสียอีก) ส่วนกล้องหน้าจะเหมือนกัน รวมทั้งบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K เช่นเดียวกันครับ
นอกจากนี้ Huawei P10 Plus จะมาพร้อมความสามารถรองรับ 4.5G (4x4MIMO 600Mbps) เป็นรุ่นแรก (สมเป็นขาใหญ่วงการเครือข่ายจริงๆ) และมีแบตเตอรี่ความจุสูงกว่า 3,750 mAh พร้อมทั้งรองรับ Fast battery charging, ลำโพงคู่ Stereo Speakers
Huawei P10 และ Huawei P10 Plus มีปุ่ม Home มาให้ครับ และเป็นเซHนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ accelerometer, gyro, proximity, compass และมาตรฐาน Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, มี NFC มาให้ และใช้ USB Type-C 1.0
แถมยังเตรียมวางจำหน่ายเคสสำหรับ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ด้วย สวยมากๆ มีส่วนประกอบของผ้าและหนัง ดูมีดีไซน์สุดๆ เลยครับ
ราคา
Huawei P10 จะวางจำหน่ายในตลาดโลกภายในเดือนมีนาคมนี้ มีให้เลือกมากถึง 6 สี ได้แก่ Mystic Silver, Rose Gold, Graphite Black, Dazzling Gold, Dazzling Blue, Greenery ราคา 649 ยูโร (หรือ 24,071 บาท)
ขณะที่ Huawei P10 Plus จะมีมากถึง 7 สี ได้แก่ Ceramic White, Dazzling Blue, Dazzling Gold, Graphite Black, Mystic Silver, Rose Gold, Greenery ราคา 699 ยูโร (หรือ 25,925 บาท) ส่วนรุ่น RAM 6GB, หน่วยความจำ 128GB ราคา 799 ยูโร (หรือ 29,634 บาท)
โดยประเทศไทยจะเป็นกลุ่มแรกที่จะวางจำหน่าย ตามด้วยออสเตรเลีย, ออสเตรีย, ชิลี, จีน, โคลัมเบีย, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, อิตาลี, มาเลเซีย, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, เปรู ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, รัสเซีย, ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์, แอฟริกาใต้, สเปน, สวีเดน, ตุรกี, UAE, สหราชอาณาจักร และเวียดนาม
ใครที่กำลังสนใจ อีกเพียงไม่กี่อึดใจก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้วครับ