หลายๆ คนเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือมนุษย์ออฟฟิศ ก็คงเคยใช้ Canva ทำกราฟิก, เรซูเม่, Presentation หรือ Artwork กันบ้าง เพราะด้วยหน้าตา UI ที่เป็นมิตร รวมถึงเครื่องต่างๆ ที่หลากหลายและใช้งานได้ง่าย สำหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่ได้เก่งกราฟิกมากนัก และยังมี Template ที่เป็นตัวอย่างงานให้กับเรา เพื่อดูเป็นแนวทางได้อีกด้วย
และล่าสุด Canva ก็ได้นำ AI เข้ามาในแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งเพิ่มลูกเล่นให้กับแพลตฟอร์มได้ดีเลยทีเดียว จะมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง เดี๋ยวผมจะพาไปดูกันครับ
2. เมื่อคลิกเข้ามา จะมีช่องให้ใส่ข้อความ ซึ่งสามารถใส่ได้ตามความต้องการได้เลยครับ ว่าอยากให้ภาพออกมามีอะไรบ้าง และมีฟังก์ชันต่างๆ ให้เลือกเพิ่มเติมด้วย
3. เมื่อเราเขียนรายละเอียดที่ต้องการแล้ว ก็สามารถกดสร้างได้เลย
ภาพตัวอย่าง
และนอกจากนี้จะสามารถ Generate ภาพได้แล้วยังสามารถสร้างเป็นแบบ VDO สั้นๆ ได้ด้วย เพียงแค่กดไปที่ ‘วิดีโอ” ที่แถบด้านบน สามารถพิมรายละเอียกที่ต้องการได้เช่นเดียวกับการทำรูปเลย
2. Magic Edit (เพิ่มวัตถุในภาพ)
ฟีเจอร์นี้สามารถตกแต่งหรือเพิ่มสิ่งของ วัตถุเข้าไปในภาพเพิ่มได้ ซึ่งการใช้งานก็จคล้ายๆ กัน แต่เราต้องระบายส่วนที่ต้องการเพิ่มหรือเปลี่ยนวัตถุลงไปก่อน แล้วพิมรายละเอียดที่ต้องการเปลี่ยนลงไป
1. กดเลือกที่ฟีเจอร์ “Magic Edit”
2. ระบายส่วนที่ต้องการเพิ่ม/เปลี่ยนวัตถุ
3. ใส่รายเอียดเพิ่มลงไป และกดสร้างได้เลย
4.ก็จะได้สิ่งที่ต้องการเพิ่มแล้ว
3. D-ID AI Present (พากย์เสียงด้วย AI)
ใครเคยดูสปอยล์หนังตาม Facebook บ้าง เสียงที่เขาใช้เป็นคนพากย์ก็มาจากเจ้า AI ตัวนี้แหละ สามาถใช้งานได้หลากลายเลยนะ จะใช้ทำนำเสนอประกอบ Presentation หรือให้พูดตามสคริป ไว้ใส่ในวิดีโอก็ได้ อีกทั้งยังรอบรับภาษาไทยด้วย เลือกได้ 3 เสียงตามใจชอบเลย ส่วนวิธีใช้งานก็ง่าย ตามไปดูกันเลย (ถ้าจะใช้งาน ต้องเสียเงินเป็นแบบ Pro นะ ถ้าอยากลองใช้ฟรีให้ลองใช้โปรแกรมอัดเสียงไว้ก็ได้ แต่ถ้าชอบก็สมัครใช้ Pro ไปเลยคุ้มๆ)
1.กดค้นหาคำว่า "D-ID AI Present"
2. สามารถเลือกหน้าจาของผู้นำเสนอได้
3. สามารถพิมข้อความหรือสคริปที่ต้องการให้พากย์ออกมาได้เลย
4. อยากได้ภาษาไทยก็มีให้เลือก หรือจะเลือกภาษาอื่นตามต้องการได้เลย รวมถึงเสียงของคนพากย์ด้วย ว่าอยากจะให้เป็นเสียงผู้ชายหรือผู้หญิง
4. Brandfetch (หาภาพ Logo ได้ง่ายๆ)
ฟีเจอร์นี้น่าจะถูกใจสายดีไซน์เนอร์ เพราะเวลาออกแบบชิ้นงาน Artwork ต่างๆ ก็ต้องค้นหา Logo Brand เพื่อนำมาใส่ ซึ่งเวลาค้นหาก็ต้องไปถามอากู๋ (Google) แต่ฟีเจอร์นี้จะมาช่วยให้ประหยัดเวลามากขึ้น แค่เราค้นหาชื่นแบรนด์ หรือใส่ลิงก์เว็บไซต์นั้นๆ ลงไป ก็จะมี Element ของแบรนด์นั้นออกมาให้ด้วย
1. ไปที่แอปและค้นหาคำว่า "Brandfetch"
2. ค้นหาชื่อแบรนด์หรือนำ Link URL มาใส่ก็ได้
3. ก็จะได้ Element ของแบรนด์นั้นๆ ออกมาให้ใช้ได้เลย
5. Mockups (จำลองสินค้า)
ฟีเจอร์นี้น่าจะถูกใจพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังวางแผน Mockups สินค้าของตัวเอง เพื่อเตรียมผลิตได้ดีเลย โดยสามารถ Mockups เป็นสินค้าได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แล็บท็อป, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย, บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งสามารถเอารูปภาพหรือ Logo แบรนด์เรา มา Mockups ได้ง่ายๆ เลย
1. เข้าไปที่หมวดแอป ค้นหาคำว่า "Mockups"
2. จะมี Mockups หลายแบบขึ้นมาให้เลือก อย่างลอง Mockups แบบไหนก็กดเลือกได้เลย
3. ตัวอย่าง Mockups ที่มีให้เลือก
4. สามารถนำรูปหรือ Logo ที่ต้องการมาใส่ได้เลย (ลองนำ Logo Apple มาใส่ในหลอดยาสีฟันดูว่าจะเป็นยังไงกัน หรือจะนำรูปแมวน่ารักๆ มาใส่ก็ได้)
สรุป
จากที่ได้แนะนำมาทั้ง 5 ฟีเจอร์ ถือว่าใช้งานได้ง่ายๆ เลยครับ เพียงแค่กดในไม่กี่คลิก แถมมีการนำ AI มาใช้ในการ Generate ภาพ โดยใส่ prompt เข้าไปได้แบบง่ายๆ รวมถึงการสร้างเสียงพากย์เพื่อใช้ในการนำเสนองาน, ใช้เสียงประกอบวิดีโอ หรือไปทำสปอยล์หนังเล่นๆ ได้ เพื่อนๆ ลองนำฟีเจอร์เหล่านี้ไปใช้การได้นะครับ สามารถใช้ได้ฟรีเลย ยกเว้นตัว D-ID AI Present ที่จะต้องสมัครแบบ Canva Pro แต่สามารถเข้าไปทดลองใช้กันได้นะครับ ถ้าถูกใจก็สมัครใช้งานได้เลย