พรีวิว Samsung Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G พัฒนาขึ้นทุกรายละเอียด จัดเต็มกล้องทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

 

ล่าสุดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Samsung Galaxy A Series ก็ได้เปิดตัวแล้วนะครับ ควงคู่กันมา 2 รุ่น ได้แก่ Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G ที่ยังคงมาพร้อมสโลแกนเท่ๆอย่าง AWESOME ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ทางซัมซุง จัดเต็มยิ่งกว่าที่เคยครับ AWESOME ในทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ วัสดุ หน้าจอ สเปค รวมทั้งจุดขายสำคัญอย่างกล้องที่พัฒนาขึ้นทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมรายละเอียดสเปคดังนี้

• 5G bands 1, 3, 7, 8, 20, 28, 38, 40, 41, 77, 78 SA/NSA/Sub6
• ทำงานบน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต Exynos 1380 (5 nm)
• หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 pixels (403 ppi), Refresh Rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1000 nits
• กระจก Gorilla Glass 5
• RAM 8GB
• ROM 128GB (เฉพาะจองล่วงหน้าจะได้เพิ่มความจุเป็น 256GB) รองรับ microSDXC
• กล้องหน้าความละเอียด 32MP F2.2, 26 มม. (wide)
• กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 50MP F1.8, (wide), PDAF, OIS + 12MP F2.2, 123 องศา (ultrawide) + 5MP F2.4, (macro)
• บันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้า-หลัง
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct
• Bluetooth 5.3, A2DP, LE
• NFC
• GPS, GLONASS, BDS, GALILEO
• Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, compass
• USB Type-C 2.0
• ลำโพงคู่
• กันน้ำและฝุ่นมาตราฐาน IP67
• แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
• รองรับชาร์จไว 25W
• มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Awesome Lime, Awesome Graphite, Awesome Violet
• ราคาเปิดตัว 13,999 บาท

• 5G bands 1, 3, 7, 8, 20, 28, 38, 40, 41, 77, 78 SA/NSA/Sub6
• ทำงานบน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 1080 (6 nm)
• หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 pixels (390 ppi), Refresh Rate 120Hz
• กระจก Gorilla Glass 5
• RAM 8GB
• ROM 128GB รองรับ microSDXC
• กล้องหน้าความละเอียด 13MP F2.2 (wide)
• กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP F1.8, (wide), PDAF, OIS + 8MP F2.2, 123 องศา (ultrawide) + 5MP F2.4, (macro)
• บันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้า-หลัง
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct
• Bluetooth 5.3, A2DP, LE
• NFC
• GPS, GLONASS, BDS, GALILEO
• Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, compass
• USB Type-C 2.0
• ลำโพงคู่
• กันน้ำและฝุ่นมาตราฐาน IP67
• แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
• รองรับชาร์จไว 25W
• มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Awesome Graphite, Awesome Violet,  Awesome Silver
• ราคาเปิดตัว 11,999 บาท

Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G มาพร้อมดีไซน์ที่คล้ายกับสมาร์ทโฟนเรือธงของซัมซุงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Galaxy A54 5G จะดูคล้ายกับ Galaxy S23 5G มากๆเลยครับ ขอบด้านข้างดูคล้ายโลหะ วัสดุฝาหลังก็เปลี่ยนมาใช้กระจก มาพร้อมกล้องหน้าเจาะรู ส่วนในรุ่น Galaxy A34 5G จะเป็นพลาสติกแต่มีการเคลือบผิวด้านลดรอยนิ้วมือ และกล้องหน้าแบบหยดน้ำ  โดยรวมดูสวยและมีเอกลักษณ์ในแบบซัมซุงมากๆครับ แถมยังมาพร้อมสีสันสดใสน่าสนใจทีเดียว นอกจากนี้ยังคงจุดเด่นกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 มาให้ทั้งคู่ เป็นจุดขายที่น่าสนใจนะครับ เพราะในสมาร์ทโฟนราคาช่วงนี้ ไม่มีรุ่นไหนที่กันน้ำเลย

กล้องของ Galaxy A54 5G กล้องหน้าความละเอียด 32MP F2.2, 26 มม. (wide) และกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 50MP F1.8, (wide), PDAF, OIS + 12MP F2.2, 123 องศา (ultrawide) + 5MP F2.4, (macro) บันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้า-หลัง รองรับระบบกันสั่นที่ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยได้คมชัดและสว่างยิ่งขึ้นกว่าเดิม เป็นจุดขายหลักที่ Samsung ยกมาชูในรุ่นนี้เลยครับ รวมทั้งโทนภาพถ่ายที่มีความคล้าย Galaxy S23 Series ยิ่งขึ้น อาจจะยังไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่ผมว่าน่าพอใจทีเดียวครับ

กล้องของ Galaxy A34 5G กล้องหน้าความละเอียด 13MP F2.2 (wide) และกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP F1.8, (wide), PDAF, OIS + 8MP F2.2, 123 องศา (ultrawide) + 5MP F2.4, (macro) บันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้า-หลัง สำหรับรุ่นนี้กล้องก็ไม่ธรรมดานะครับ สวยไม่เบาเลย โทนสวยมากครับ เรื่องถ่ายภาพนิ่งทำได้ดีทั้งคู่เลย

Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G ยังการันตีคุณภาพให้รองรับการอัปเกรด OS ได้ถึง 4 เจเนอเรชันรวมไปถึงการอัปเดตระบบความปลอดภัยสูงได้ถึง 5 ปี ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงทุกการอัปเดตเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น และสามารถทำงานร่วมกันได้กับทุกอีโคซิสเต็มของ Samsung Galaxy เพื่อการเชื่อมต่อที่ราบรื่นยิ่งขึ้น สามารถเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้สูงถึง 100GB และสํารองข้อมูลรูปภาพไปยัง OneDrive ได้อย่างง่ายดายด้วยการทดลองใช้ Microsoft 365 Basic