รีวิว Xiaomi Smart Band 7 Pro สมาร์ตแบรนด์รุ่น Pro รุ่นแรกของเสียวมี่ จอ AMOLED ขนาดใหญ่ ใช้งานได้นานสูงสุด 12 วัน

Xiaomi Smart Band 7 Pro สายรัดข้อมือสุขภาพที่ครั้งนี้ทาง Xiaomi อัปเกรดไลน์สินค้า Smart Band แบบชุดใหญ่ โดยมีการเพิ่มรุ่น "Pro" เข้ามาใหม่ (รุ่นที่รีวิว) งานออกแบบตัวเรือนที่เปลี่ยนไป และยกระดับความพรีเมี่ยมขึ้นจากรุ่นก่อนชัดเจน รวมไปถึงสเปกที่อัปเกรดความสามารถและคุณสมบัติใหม่เพิ่มเข้ามาหลากหลาย เช่น โหมดการออกกำลังกาย 110 โหมด, จอแสดงผล AMOLED ขนาดใหญ่ หรือขนาดแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานได้นานสูงสุดถึง 12 วัน เป็นต้น 

Xiaomi Smart Band 7 Pro มาพร้อมตัวเรือนหน้าตาเรียบหรูดูดีมาก โดยใช้ดีไซน์ของหน้าปัดเป็นทรงสี่เหลี่ยมมีส่วนโค้งของมุมทั้งสี่ 2.5D โดยมีมุมมองที่กว้างขึ้นจากรุ่น Band 7 ที่หน้าปัดจะเป็นวงรีถึง 70% 

ตัวเรือนของ Xiaomi Smart Band 7 Pro มีหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว ความละเอียด 280x456 พิกเซล (326PPI) รองรับ Always on Display และมีค่าความสว่างของหน้าจอที่ 500 nits ซึ่งใช้งานกลางแจ้งได้สบายมาก 

รอบตัวเรือนมีความบางเพียง 11 มม. และมีน้ำหนักรวมเพียง 20.5 กรัมเท่านั้น โดยที่รอบตัวเรือนทั้งหมดจะไม่มีปุ่มกดใด ๆ ติดตั้งอยู่เลย จะใช้การสั่งการด้วยการปัดหน้าจอแทนทั้งหมด

ด้านหลังตัวเรือน บริเวณตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์การวัดทั้งหมด ประกอบด้วย accelerometer แบบ 3-axis, gyroscope sensors แบบ 3-axis, PPG (Photoplethysmography) sensor, Ambient-light และพอร์ตชาร์จ POCO Pin แบบ 2 Pin สำหรับชาร์จแบตเตอรี่

แท่นชาร์จแบตเตอรี่ยึดติดกับพอร์ต POCO Pin ด้านหลังได้แน่นขึ้นจากรุ่นก่อน ซึ่งเป็นอีกจุดที่ต้องชมทาง Xiaomi ว่าปรับปรุงได้ดีขึ้น

การเปลี่ยนสายรัดข้อมือทำได้ง่ายเหมือนเดิม เพราะยังคงใช้วิธีการปลดล็อค ด้วยการกดที่สลักล็อคด้านหลังตัวเรือน แล้วดึงสายรัดขึ้นก็เป็นอันเรียบร้อยครับ โดยสายรัดที่แถมมากับตัวเรือนจะเป็นวัสดุ TPU สวมใส่สบาย และมีสายเป็นวัสดุหนัง (Leather) ขายแยกตามมาด้วย

• น้ำหนัก 20.5 กรัม (ไม่รวมสาย)
• จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.64” ความละเอียด 280x 456 พิกเซล (326 PPI) | Color depth 16 bit
• ความสว่าง 500 nit
• RAM 8MB (PSRAM)
• ROM 32MB Nor Flash +128MB Nand Flash
• กันน้ำระดับ 5 ATM
• สายรัดข้อมือ TPU
• Bluetooth 5.2 BLE
• Sensors
  • 3-axis accelerometer + 3-axis gyroscope sensors
  • PPG sensor
  • Ambient-light sensor
• Battery 235mAh
• สแตนบายได้นานสูงสุด 12 วัน
• รองรับการใช้งานร่วมกับ Android 6.0 และ iOS10 ขึ้นไป
• ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น MiFitness

จุดเด่นแรกของ Xiaomi Smart Band 7 Pro ที่เห็นได้ชัดก็คือ หน้าจอหรือหน้าปัดที่นอกจากปรับดีไซน์ให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมมีพื้นที่ใช้งานที่กว้างขึ้นแล้ว ทาง Xiaomi ยังเลือกใช้จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว มีค่าความสว่างมากถึง 500 nits และสามารถปรับความสว่างของหน้าจอให้อัตโนมัติทุกครั้งที่ยกตัวเรือนขึ้นมาดู

ดังนั้นเมื่อต้องใช้งานท่ามกลางสภาพแสงแดดจัดตอนกลางวัน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องมองไม่เห็นคอนเทนท์บนหน้าจอเลย เพราะจอของ Xiaomi Smart Band 7 Pro สู้แสงได้สบาย รวมทั้งยังรองรับ Always on Display ด้วย ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานได้ด้วย 

ในด้านของการแสดงผล UX/UI รวมถึงหน้าปัดนาฬิกา มีการปรับปรุงรูปแบบอินเทอร์เฟซใหม่ ที่มองดูแล้วรู้สึกว่าสวยสไตล์มินิมอลขึ้นเยอะ และจากที่เห็นบนแอปพลิเคชั่น MiFitness ตอนนี้ ทาง Xiaomi มีรูปแบบการแสดงผลของหน้าปัดให้เราสามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้เยอะอยู่เหมือนกัน

ซึ่งทาง Xiaomi เคลมว่าตอนนี้พวกเขามีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกใช้มากกว่า 100 รูปแบบแล้วบนแพลตฟอร์ม แต่ถ้าหากเรากดเลือกจากตัวเรือนเลยจะมีหน้าปัดให้เลือกเปลี่ยนเพียงแค่ 5 รูปแบบ เท่านั้น แนะนำว่าให้ไปเลือกเปลี่ยนจากบนแอปพลิเคชั่นจะหลากหลายกว่าเยอะเลย

เป็น Band ด้านสุขภาพแล้ว ดังนั้นเรื่องของการออกกำลังกาย จึงเป็นอีกจุดเด่นสำคัญในครั้งนี้ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งทาง Xiaomi เพิ่มโหมดสำหรับออกกำลังกายเข้ามามากใหม่ ทำให้รองรับรูปแบบการออกกำลังกายได้มากถึง 110 โหมด

โดยมีโหมดที่น่าสนใจอย่าง กระโดดเชือก, กีฬาเทนนิส และการพายเรือกลางแจ้ง เป็นต้น ซึ่งรองรับการบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจและการเผาผลาญแคลอรี่ไปพร้อมกันด้วย ส่วนใครที่ชอบการว่ายน้ำเจ้า Band 7 Pro ตัวนี้ก็มีโหมดกีฬาว่ายน้ำ และรองรับการกันน้ำได้ในระดับ 5ATM (แรงดันน้ำลึก 50 เมตร)

Xiaomi Smart Band 7 Pro มาพร้อมการบิ้วอินระบบ GPS มาในตัว ดังนั้นจึงสามารถใช้งานร่วมกับโหมดออกกำลังกาย เพื่อบันทึกเส้นทางการวิ่ง (Route Track Running) การเดิน หรือการดูแผนที่ผ่านตัวสายรัดได้โดยตรง ซึ่งตัว GPS รองรับการค้นหาและติดตามผ่านสัญญาณดาวเทียมพื้นฐาน เช่น BDS, GPS, GLONASS, Galileo และ QZSS 

นอกจากการบิ้วอินระบบ GPS มาให้แล้ว ตัว Smart Band 7 Pro ยังรองรับการติดตามด้านสุขภาพในระหว่างวันด้วย เช่น ระดับออกซิเจนในเลือด, อัตราการเต้นของหัวใจ, ความเครียด, การนอน หรือจะติดตามรอบเดือนของคุณผู้หญิงก็สามารถทำได้เช่นกันครับ ก็ถือว่ามีความสามารถพื้นฐานของสมาร์ตวอตซ์มาให้ครบ

ทาง Xiaomi บอกว่า Xiaomi Smart Band 7 Pro สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 12 วัน ต่อการใช้ชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ในการใช้งานทั่วไป ซึ่งตัวผมเองได้มีโอกาสทดลองใช้งานมา 3 วัน เต็ม

โดยได้ทดสอลใช้ในรูปการใช้งานตามปกติ ไม่ได้เทสแบบประหยัดพลังงาน มีการใช้วัดค่าต่าง ๆ มีเปิดโหมดออกกำลังกายตอนไปยิม และเปิดหน้าจอความสว่างสุด ตั้งค่าให้ติดตามกิจกรรมทุกอย่างที่ซอฟต์แวร์มีให้ใช้

ผ่านมา 3 วัน เต็ม แบตเตอรี่จาก 100 ลดเหลือ 86 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นครับ ดังนั้นถ้าให้คาดการณ์ล่วงหน้าว่า ถ้าหากผมใช้งานต่อเนื่องไปอีกโดยไม่ชาร์จเลย ก็น่าจะไปได้ไกลสุดประมาณ 8-9 วัน หรืออาจมีวันที่ 10 แล้วหมดพอดีแน่นอน

ซึ่งถึงแม้จะไปไม่ถึงตามวันที่ทาง Xiaomi เคลมไว้ แต่สำหรับผมมองว่ามันเพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะครับ และจัดว่าเป็น Smart Band ที่มีแบตฯ อึดเป็นอันดับต้น ๆ ของตลาดในเวลานี้

บทสรุปของ Xiaomi Smart Band 7 Pro ในมุมมองผมที่ได้ใช้งานมาตลอด 3 วัน คิดว่า เป็นสายรัดข้อมือสุขภาพที่ทาง Xiaomi ทำมาได้ลงตัวมากขึ้นเยอะจากรุ่นก่อน คุณสมบัติสำหรับใช้งานในไลฟ์สไตล์แต่ละวันลงตัว ตอบโจทย์ และมีความครบเครื่องมากขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่า ใกล้เคียงกับการเป็นสมาร์ตวอตซ์เต็มตัวแล้วก็ได้ครับ

ซึ่งมันเพียงพอที่จะใช้งานในทุกกิจกรรมของการดำเนินชีวิตแต่ละวันแล้วล่ะครับ สำหรับ Smart Band ในราคาหลักพันต้น ๆ ดังนั้นถ้าหากให้เทียบกับ Xiaomi Smart Band 7 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ทั้งสองรุ่นนอกจากจะมีข้อแตกต่างกันในเรื่องของดีไซน์หน้าปัดที่เด่นชัดระหว่างทรงสี่เหลี่ยมกับวงรแล้ว ก็จะมีการบิ้วอิน GPS มาให้ในตัว ที่น่าจะเป็นสองเหตุผลหลักในการเลือกซื้อ Smart Band ทั้งสองรุ่นนี้

ถ้าใครยังชอบความคล่องตัวในความเพรียวของหน้าปัดวงรีมากกว่า Smart Band 7 ก็จะตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าใครอยากได้ฟิวเป็นสมาร์ตวอตซ์ใส่ไปร่วมงานต่าง ๆ ได้ด้วย และต้องการใช้ GPS ในการ Track การวิ่งหรือกิจกรรมออกกำลังกาย Smart Band 7 Pro ก็จะตอบโจทย์มากกว่า

Xiaomi ประเทศไทย วางจำหน่าย Xiaomi Smart Band 7 Pro ในราคา 2,990 บาท พร้อมสีตัว Smart Band ด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ สีขาวทอง Light Gold (ในบทความรีวิว) และสีเงินเทา Ghaphite Grey

โดยจัดโปรโมชั่น Early Bird จำหน่ายในราคาพิเศษ 2,490 บาท เมื่อซื้อในช่วงวันที่ 5-31 ตุลาคม 2565 เท่านั้น สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนของ Xiaomi ทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทาง Xiaomi Store ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Lazada, Shopee และ JD Central