รีวิว HUAWEI MateBook D16 (2022) โน็ตบุ๊คจอ 16 นิ้ว ชิป Intel i7 Gen12 มีกล้อง 1080P พร้อมลูกเล่นปรับให้อยู่ตรงกลางในตัว

HUAWEI MateBook D16 (2022) โน็ตบุ๊คจากครอบครัว MateBook D Series ของหัวเว่ย ซึ่งรอบนี้เป็นโมเดลของปี 2022 ซึ่งในภาพรวมยังมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยจะเป็นการปรับสเปกตัวเครื่องให้มีความสดขึ้นตามลูปสินค้ารอบปี ตัวชิปประมวลผลปรับมาใช้รุ่นใหม่เป็น CPU Intel i7 Gen12 รหัส 12700H ตัวแรงประจำซีรีย์ 

พร้อมกับเติมลูกเล่นให้ทันเทรนด์ออนไลน์ด้วยกล้องหน้าเลนส์มุมกว้าง 88 องศา ความละเอียดระดับ 1080P และมีฟีเจอร์ "Smart Conference with AI Camera and Sound" กับคุณสมบัติการแสดงผลของกล้องหน้า และระบบเสียงที่เหมาะกับการประชุมออนไลน์ ด้วยการนำระบบ AI มาช่วยวิเคราะห์และปรับแต่งการตั้งค่า เพื่อให้การประชุมออนไลน์ออกมาดีที่สุด 

รวมไปถึงลูกเล่นยอดนิยมของตลาดในตอนนี้กับการจัดมุมมองภาพให้อยู่ตรงกลางเฟรมตลอดการประชุม ซึ่งรอบนี้ทางหัวเว่ยก็ใส่มาให้ด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นการปรับปรุงรายละเอียดในส่วนของงานออกแบบตัวเครื่องบางจุดจากรุ่นโมเดลปีก่อน เพื่อให้ตัวเครื่องมีความลงตัวยิ่งขึ้นด้วย 

HUAWEI MateBook D16 (2022) มาพร้อมตัวเครื่องที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ในการทำงานไปพร้อมกับสามารถพกพาไปนอกสถานที่ให้ง่ายมากขึ้น โดยตัวเครื่องใช้วัสดุ Metallic มีน้ำหนักตัวเครื่องรวมประมาณ 1.7 กิโลกรัม เบาลงจากรุ่นก่อนนิดนึง แต่ถ้าสำหรับคุณผู้หญิงผมคิดว่าด้วยน้ำหนักขนาดนี้ น่าจะยังหนักอยู่นะครับ 

มาต่อกันที่รอบตัวเครื่องด้านนอกกันบ้าง โดยฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะมีพอร์ตเชื่อมต่อสำหรับใช้งานอยู่ทั้งหมด 4 พอร์ต ประกอบด้วย พอร์ต USB-C จำนวน 2 พอร์ต โดยจะมีพอร์ตหนึ่งนอกจากจะรองรับการถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลหรือใช้ชาร์จพลังงาน

จะรองรับการแสดงผลผ่านสาย DisplayPort ด้วย ส่วน USB-C อีกพอร์ตจะไม่รองรับนะครับ ขยับถัดมาจะเป็นพอร์ต HDMI และรูเสียบหูฟัง-ไมค์ (2 in 1) ขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ฝั่งขวาจะเป็นตำแหน่งของ USB 3.2 Gen 1 และ USB 2.0 

ด้านล่างตัวเครื่อง จะเป็นตำแหน่งของช่องพัดลมระบายความร้อน มีฐานยางรองกันลื่นมาให้ และมีลำโพงเสียงตัวเครื่อง (ซ้าย-ขวา) 

เมื่อเปิดฝาขึ้นมาจะพบกับหน้าจอแสดงผลขนาด 16.นิ้ว ใช้พาแนลหน้าจอเป็น IPS มีอัตราส่วน 16:10 (รุ่นเดิม 16:9) ความละเอียด 1920x1200 พิกเซล (142PPI) มีพื้นที่ใช้งานบนหน้าจอ 90% และมีค่าความสว่างอยู่ที่ 300 nits ซึ่งถ้าหากเอาไปใช้งานกลางแจ้งเรายังต้องเอามือป้องหน้าจอเพื่อดูคอนเทนท์อยู่นะครับ และแน่นอนว่าตัวเครื่องติดตั้ง Windows 11 มาให้เลย พร้อมใช้งาน

หน้าจอกางออกไปได้ประมาณ 150 องศา เท่านั้น

บริเวณตรงกลางด้านบนของหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของกล้องสำหรับใช้วีดีโอคอลความละเอียด FullHD (1080P) ตัวกล้องใช้เลนส์มุมกว้าง 88 องศา มีซอฟต์แวร์ Control Panel สำหรับปรับแต่งมุมมองและเติมเอฟเฟ็กต่าง ๆ ของกล้องมาให้

รวมถึงรองรับฟีเจอร์ "Auto Centring" ที่จะทำงานร่วมกับระบบ Eye Contract และ Follow Cam เพื่อให้ตัวกล้องคอยดีเทคปรับตำแหน่งของผู้ใช้งานให้อยู่ตรงกลางเฟรมกล้องตลอดการใช้งาน

ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นตำแหน่งของคีย์บอร์ด ซึ่งเป็นอีกจุดที่ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้น โดยตัวคีย์บอร์ดเป็นแบบ FullSize มีไฟ Backlit ในตัว และมีระยะกดเพียง 1.5 มิลลิเมตร ใช้กลไก Scissor-switch ทำให้เวลาเราพิมพ์ข้อความตัวปุ่มคีย์บอร์ดจะดีดตัวกลับได้นุ่มนวลขึ้น 

และมีการเคลือบผิวที่ปุ่มกด เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการใช้งานมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ทางหัวเว่ยยังติดตั้งปุ่มกดพิเศษ 4 ปุ่ม ซึ่งเป็นปุ่มคีย์ลัด เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานมาให้ด้วย

โดย 4 ปุ่มพิเศษจะถูกติดตั้งอยู่เหนือโซนปุ่มกดตัวเลข ประกอบด้วย

ขยับลงมาจากคีย์บอร์ดก็จะเจอกับแป้น Touch Pad ซึ่งมีขนาดใหญ่ ทำให้เราว่ามือใช้งานได้สะดวก ในขณะที่ด้านบนมุมขวาของคีย์บอร์ดจะเป็นตำแหน่งของปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง และใช้เป็นแป้นสะแกนนิ้วมือในตัว ซึ่งสามารถตั้งค่าสแกนนิ้วมือ เพื่อยืนยันตัวตนเข้าใช้งานบนเครื่องได้ผ่านเมนู "Sign-in Options" ใน Windows 11

อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 65W พอร์ต USB-C มีให้มาในกล่อง

HUAWEI MateBook D16 ใช้หน่วยประมวลผล Intel Gen12th i7 รหัส 12700H ซึ่งเป็นชิป CPU Intel ที่อยู่ในระดับสูงของซีรีย์ i7 Gen12 รวมทั้งยังจะได้ใช้งานเทคโนโลยีตัวใหม่ของ Intel ที่มากับตัวสถาปัตยกรรม Alder Lake ของชิปอย่าง "Intel Thread Director" ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่แบ่งการทำงานตัว Core Processor ให้ทำงานแบบ Hybrid architecture จะคอยสลับการทำงานระหว่าง 'P Core' และ 'E Core' ในการประมวลผลบนตัวเครื่อง

โดยเทคโนโลยี Intel Thread Director จะทำหน้าที่เหมือนหัวหน้าทีม ที่จะคอยวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ เพื่อแจกจ่ายการทำงานให้กับ P Core และ E Core ตามความต้องการใช้งานอย่างเหมาะสม ซึ่ง P Core หรือ Performance Core เป็น Core ขนาดใหญ่และเป็น Core หลักในการทำงานระดับสูง ซึ่งจะทำงานเมื่อมีความต้องการใช้งานขยับขึ้นไปอยู่ในระดับสูง 

ในขณะที่ E Core หรือ Effecient Core ก็จะเป็น Core ขนาดเล็ก ที่จะทำงานตั้งแต่เปิดเครื่อง สแตนบายเครื่อง ไปจนถึงการใช้งานระดับทั่วไป อย่าง ใช้เว็บเบราเซอร์, ดูหนัง หรือฟังเพลง เป็นต้น

การแบ่งรูปแบบการทำงานของ Core ออกแบบนี้ มีข้อดีคือ ระบบจะสูญเสีย Work หรือ "งาน" ในระบบน้อยมาก ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นที่ไม่มีเทคโนโลยีตัวนี้ ตัวระบบจะใช้ Core หลักทำงานเลย และใช้การสลับ Core และการปรับ Clock Speed ในการทำงานตามระดับต่าง ๆ แทน แต่ในเวอร์ชั่นใหม่นี้จะมี E Core เข้ามาช่วยทำงานให้ ทำให้ไม่ต้องไปยุ่งกับตัว Core หลัก เมื่อการทำงานยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน

ดังนั้นการที่ Intel ใส่เทคโนโลยีตัวนี้เข้ามา และทางหัวเว่ยก็จับชิปรุ่นใหม่อย่าง Intel i7 Gen 12 (12700H) มาใส่บน Huawei MateBook D16 ตัวนี้เลยทันที ก็ยิ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานของตัวโน็ตบุ๊คให้เก่ง ฉลาด และประสิทธิภาพสูงขึ้นจากเดิม ซึ่งเป็นการตอบรับทุกความต้องการใช้งานในยุคดิจิทัลของผู้ใช้ได้อย่างสบาย ๆ และยังสามารถใช้งานต่อไปได้ยาว ๆ อย่างน้อย 3-4 ปี เลยทีเดียว

หัวเว่ยไม่ได้ผลิตแค่ตัวโน็ตบุ๊คออกมาจำหน่ายเท่านั้นนะครับ เพราะตอนนี้มีสินค้าอื่น ๆ ในฝั่ง PCs ตามออกมาในตลาดเยอะมาก ๆ ดังนั้นการที่เราใช้งานโน็ตบุ๊ตแบรนด์ HUAWEI เอง เรื่องของการรองรับระบบนิเวศน์ของแบรนด์หัวเว่ยอย่างไร้รอยต่อย่อมเป็นสิ่งปกติอยู่แล้วที่ต้องได้ตามมา

เพื่อให้ลูกค้าที่เป็น Royality ได้มีอุปกรณ์ภายใต้แบรนด์ของ HUAWEI ไว้ใช้งานให้ครบเซ็ตทั้งหมดอย่างเช่น จอมอนิเตอร์ HUAWEI MateView SE ที่ผมได้มาทดสอบคู่กับ MateBook D16 พร้อมกัน ตัวจอแสดงผลจะสามารถเชื่อมต่อกับตัวโน็ตบุ๊ค HUAWEI MateBook D16 (2022) เพื่อใช้เป็นจอที่สองให้กับโน็ตบุ๊ตได้ทันที เพียงแค่เสียบสาย HDMI เข้ากับพอร์ตที่ตัวโน็ตบุ๊ตเท่านั้น

สำหรับสเปกของ HUAWEI MateView SE เผื่อใครที่สนใจ ตัวจอจะเป็นจอแสดงผลขนาด 23.8 นิ้ว รองรับการแสดงผล Refresh rate สูงสุด 75Hz และรองรับการแสดงผลด้านขอบเขตสี 16.7 พันล้านสี, P3 Color Gamut 90% และมีค่าเดลต้าอี (Delta E) น้อยกว่า 2 และมีโหมด eBook Mode มาให้สำหรับคนที่ชอบอ่าน Text หรือ eBook 

ใช้งาน eBook Mode บน HUAWEI MateView SE

หน้าจอสามารถปรับระดับการแสดงผลได้แบบ Tilt Adjustment หรือปรับมุมมองได้แค่ 2 รูปแบบ เท่านั้นคือ เงยหน้าขึ้น สามารถเงยตัวจอจากมุมมองปกติได้อีกประมาณ 3 องศา และกดหน้าลง ซึ่งสามารถกดหน้าจอลงจากระดับเงยหน้าสุดได้ประมาณ 18 องศา เท่านั้นครับ 

ส่วนด้านหลังของจอมอนิเตอร์จะมีพอร์ตเชื่อมต่อติดตั้งมาให้ทั้งหมด 3 พอร์ต ประกอบด้วย HDMI, Display Port และ Charging Port ส่วนขาตั้งและฐานรับน้ำหนักของจอจะใช้วัสดุเป็นพลาสติก 

บริเวณกึ่งกลางใต้หน้าจอจะมีปุ่มกดพร้อมไฟแสดงสถานะ โดยเป็นแบบ All in one ที่จะสามารถใช้เป็นปุ่มตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอ และใช้เป็นปุ่มเปิด-ปิดตัวเครื่องได้ในตัวด้วย

รายละเอียดสเปก HUAWEI MateView SE 

กลับมาต่อกัน HUAWEI MateBook D16 (2022) โดยนอกจากมีชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงแล้ว ยังมาพร้อมความสามารถใหม่ที่ทางหัวเว่ยตั้งชื่อให้ว่า "Smart Conference" ซึ่งเป็นชื่อเรียกแทนกลุ่มฮาร์ดแวร์ที่ทางหัวเว่ยพัฒนาขึ้น พร้อมกับใส่เข้ามาบนตัวเครื่องด้วย เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานในด้านออนไลน์ อย่างเช่น การประชุมออนไลน์, การนำเสนองานหรือ สอน-เรียนออนไลน์ ได้ดีและลงตัวมากยิ่งขึ้น

โดย Smart Conference ของหัวเว่ยจะประกอบด้วย กล้องหน้าตัวใหม่อัปเกรดความละเอียดเป็น 1080P เรียบร้อย พร้อมมุมมองภาพที่กว้าง 88 องศา เพื่อทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ Follow Cam, Eye Contact และAuto Centring หรือการจัดเฟรมภาพให้อยู่ตรงกลางตลอดการใช้งาน เพื่อให้ภาพของคุณขณะประชุมออกมาอยู่ตรงกลางเฟรมตลอดและดูดี

ต่อมาจะเป็นระบบเสียงที่ได้ระบบ AI และ Personal Voice Enhancement (PVE) เข้ามาช่วยทำงาน ทำให้ไมค์รับเสียงเดิม ๆ มีความฉลาดมากขึ้น โดยระบบ AI จะเข้ามาวิเคราะห์เสียงรบกวนของสภาพแวดล้อมรอบข้าง พร้อมกับจัดการลดเสียงรบกวนเหล่านั้นให้หายไป ในขณะที่ระบบ PVE ก็ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของไมค์ทั้ง 4 ตัว บนเครื่อง ที่สามารถจับเสียงได้ไกลถึง 5 เมตร สามารถโฟกัสเสียงผู้สนทนาได้แม่นยำขึ้น ทำให้เสียงที่ถูกส่งขณะเราประชุมออนไลน์มีความราบรื่นและชัดเจน

ส่วนสุดท้ายของ Smart Conference ก็คือระบบรับส่งสัญญาณ WiFi ที่ใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า Metaline Antenna ซึ่งเป็นเสาสัญญาณโลหะตัวแรกของหัวเว่ยที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณเหนือแผงคีย์บอร์ด โดยมีคุณสมบัติในการรับส่งสัญญาณที่เร็ว เสถียร และมีค่า Latency ต่ำมาก ทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตขณะประชุมออนไลน์ทำได้ราบรื่น และมีโอกาสเกิดสัญญาณหลุดน้อยมาก

เมื่อนำสามส่วนมาทำงานพร้อมกัน ก็จะทำให้ HUAWEI MateBook D16 (2022) กลายเป็นโน็ตบุ๊คที่เหมาะสำหรับการใช้งานในด้าน VDO Conference หรือการประชุม, การเรียนการสอนออนไลน์เป็นอย่างมาก และจากที่ทดสอบใช้งานผ่าน Google Meeting มา ยืนยันเลยครับว่า ตลอด 30 นาทีที่ใช้งานสัญญาณอินเทอร์เน็ตใช้งานได้ต่อเนื่อง ภาพและเสียงที่ถูกส่งออกไปหาคู่สนทนาทำได้คมชัด ไม่มีปัญหาใด ๆ เลย

HUAWEI MateBook D16 (2022) สำหรับตัวผมรู้สึกว่า เป็นโน็ตบุ๊คที่ทางหัวเว่ยใช้การอัปเกรด เพื่อความสดใหม่ให้กับไลน์อัป HUAWEI MateBook D Series มากกว่าจะเป็น "ALL NEW" หรือเปลี่ยนแปลงโมเดลใหม่ทั้งหมด โดยตลอดการทดสอบใช้งานเกือบ 2 สัปดาห์ โน็ตบุ๊ตตัวนี้จะจุดเด่นที่เด่นชัดอยู่ 3 อย่างคือ 1. ชิปประมวลผล Intel i7 Gen 12 12700H 2. ฟีเจอร์ Smart Conference ทั้งด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ และ หน้าจอแสดงผลขนาด 16 นิ้ว พร้อมคุณสมบัติพื้นฐานในด้านการแสดงผลที่ครอบคลุม

เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าเหมาะกับใคร? ก็น่าจะเหมาะกับผู้ใช้งานที่กำลังมองหา โน็ตบุ๊คขนาดจอ 16 นิ้ว ประสิทธิภาพการทำงานที่ใช้ทำงานได้ครบทุกอย่างตั้งแต่งานเอกสาร, ตกแต่งตัดต่อรูป หรือจะเป็นตัดต่อวีดีโอที่ความละเอียดไม่สูง ในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งถ้าทั้งหมดที่กล่าวมาตรงกับความต้องการของคุณประมาณ 70-80% ขึ้นไป

ผมก็แนะนำว่าซื้อได้เลยครับ เพราะในช่วงเรทราคานี้การจะหาตัวเลือกโน็ตบุ๊คที่เป็นจอ 16 นิ้ว และยังใช้ชิปตัวใหม่อย่าง Intel i7 Gen12 12700H มีตัวเลือกน้อยมาก ส่วนใครที่พึ่งซื้อรุ่นก่อนหน้าไปไม่นาน ผมแนะนำว่ายังไม่ต้องเปลี่ยนมาเป็นตัวนี้ก็ได้ครับ เพราะสมรรถนะยังไม่แตกต่างกันมาก นอกจากจะอยากลองชิปใหม่ ก็จัดรุ่นใหม่ได้เลย

HUAWEI ประเทศไทย วางจำหน่าย HUAWEI MateBook D16 (2022) ด้วยกันทั้งหมด 2 โมเดล 2 ราคา ประกอบด้วย รุ่นชิปประมวลผล Intel i5 Gen12th (RAM 8GB / SSD 512GB) ราคา 33,990 บาท และรุ่นชิปประมวลผล Intel i7 Gen12th (รุ่นในรีวิว) ราคา 39,990 บาท 

สำหรับใครที่สั่งซื้อช่วงพรีเซลส์วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 จะได้รับของแถมพิเศษเพิ่ม ประกอบด้วย