x
icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือ
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว Samsung Galaxy S22 Ultra การกลับมาของ Note Series บนสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดจากซัมซุง

icon 15 มี.ค. 65 icon 7,262
รีวิว Samsung Galaxy S22 Ultra การกลับมาของ Note Series บนสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดจากซัมซุง
SAMSUNG GALAXY S22 ULTRA เป็นสมาร์ตโฟนที่ผมเชื่อว่าน่าจะมีแฟนบอยของซัมซุงหลายคนรอคอย กับการกลับมาอีกครั้งของ Note Series บนสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดของซัมซุงในเวลานี้ ซึ่งทางซัมซุงก็ยืนยันบนเวทีเปิดตัวว่า นี้คือสมาร์ตโฟนที่ "Power by Note Series" ซึ่งได้นำเอกลักษณ์ของ Note Series ทั้งในด้านงานออกแบบที่คุ้นเคย พร้อมกับปากกามหัศจรรย์ S Pen มาผนวกเข้ากับความเป็น S Series ที่เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงของแบรนด์ จนออกมาเป็น "Galaxy S22 Ultra" ร่างฟิวชั่นที่สมบูรณ์ที่สุดของ Galaxy Device ในเวลานี้
โดยจุดเด่นของขุนพลรุ่นใหม่จากซัมซุงในรอบนี้ นอกจากเรื่องราวของ S Pen ที่หลายคนคิดถึงกลับมาอยู่ในตัวเครื่องอีกครั้งแล้ว ยังมีเรื่องของเทคโนโลยี AI ที่ทางซัมซุงนำไปใส่ไว้ในทุกส่วนบนตัวเครื่อง และกล้องถ่ายรูปที่ยังคงพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจากรุ่นที่แล้ว จนถูกชมว่าเป็นกล้องถ่ายรูปบนสมาร์ตโฟนที่ยืนหนึ่งไม่แพ้ใครในเวลานี้เลยทีเดียว รวมทั้งยังนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ซัมซุงนำโมเดลชิปประมวลผล Snapdragon มาวางจำหน่ายด้วย ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ตามไปลองสัมผัสกับร่างฟิวชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ S กับ Note series พร้อมกันได้ผ่านบทความรีวิวนี้ด้วยกันครับ
แกะกล่อง (UNBOX)
ตัวกล่องของ Samsung Galaxy S22 Ultra รอบนี้ยังคงมีขนาดเล็กกระชับเหมือนเดิม โดยด้านในกล่องทางซัมซุงใส่อุปกรณ์ใช้งานเบื้องต้นมาให้ด้วยกัน 3 อย่าง คือ สายชาร์จ USB-C to USB-C, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งานเริ่มต้น
สเปกตัวเครื่อง (Specification)
รายละเอียดสเปกตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S22 Ultra
  • หน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X แบบโค้ง ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 3080 x 1440 พิกเซล (Adaptive Refresh rate 120Hz)
  • CPU Snapdragon 8 gen 1 
  • GPU Adreno 730
  • RAM 12GB (LPDDR5x)
  • ROM 256GB (UFS 3.1)
  • Android OS 12 with One UI 4.1 
  • กล้องถ่ายรูป Quad camera ประกอบด้วย
    • กล้องหลัก ความละเอียด 108MP (F1.8)
    • กล้องเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12MP
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10MP
    • กล้อง Periscope ความละเอัียด 10MP
  • กล้องหน้า ความละเอียด 40MP (F2.2)
  • รองรับสแกนนิ้วมือ UltraSonic, Face Detection, 
  • รองรับเครือข่าย 5G 
  • รองรับเครือข่าย WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/6e
  • Bluetooth 5.2
  • มีปากกา S Pen ให้ในตัว 
  • กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
  • แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh (รองรับชาร์จไว 45W)
  • รองรับชาร์จไวแบบไร้สาย 15W 
รอบตัวเครื่อง (Design)
Samsung Galaxy S22 Ultra มีดีไซน์ที่ถอด DNA มาจากพี่ Note Series รุ่นก่อนเลยก็ว่าได้ครับ โดยยังคงมาพร้อมแนวคิดงานออกแบบ "Symmetrical" เน้นความสมมาตรหรือการออกแบบที่ให้ทุกสัดส่วนสอดรับกับอย่างลงตัว พร้อมกับผสมผสานความเป็น S กับ Note เข้าไว้ด้วยกัน ตัวเครื่องมีขนาดกว้าง 77.9 x สูง 163.3 x หนา 8.9 มิลลิเมตร มีน้ำหนักตัวเครื่องรวม 229 กรัม
ด้านหน้านตัวเครื่องเป็นพื้นที่ของหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X แบบโค้ง ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 3088x1440 พิกเซล มีค่า Refresh rate 120 เป็นแบบ Adaptive นะครับ โดยตัวซอฟต์แวร์จะทำการปรับค่ารีเฟรซเรตให้อัตโนมัติตั้งแต่ 1-120Hz ตามคอนเทนท์ที่เรากำลังใช้งาน มีค่าความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 1750 nits และรองรับการแสดงผล HDR10+ นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังถูกครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus+ รุ่นล่าสุดของ Corning ด้วย
บริเวณกึ่งกลางหน้าจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 40MP พร้อมแถบเซ็นเซอร์ Proximity และลำโพงสนทนา
ในขณะที่ขอบตัวเครื่องทั้งหมดจะใช้วัสดุเป็น Aluminum ซึ่งทางซัมซุงเคลมว่ามีแข็งแร็งมาก ๆ และเมื่อขยับมาที่ด้านล่างตัวเครื่อง จากซ้ายไปขวาจะเป็นตำแหน่งของช่องปากกา S Pen, ลำโพงเสียง, พอร์ต USB-C และช่องถาดซิมการ์ด รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกัน (ไม่รองรับ MicroSD Card) 
ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มกดปรับระดับเสียง เพิ่ม-ลด (Volume) และปุ่มกดเปิด-ปิดเครื่อง (Power)
ด้านหลังตัวเครื่องพื้นผิวฝาหลังจะเป็นกระจก ซึ่งทางซัมซุงใส่กระกันรอย Corning Gorilla Glass Victus+ แบบเดียวกับด้านหน้ามาให้เลย ในขณะที่หมุนซ้ายจะเป็นโซนของชุดกล้องถ่ายรูป โดยรอบนี้ใช้กล้องแบบ Quad camera มีกล้องหลักความละเอียดสูง 108MP ทำงานร่วมกับกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12MP, กล้อง Telephoto ความละเอียด 10MP และกล้อง Periscope ความละเอียด 10MP ส่วนโมดูลอีกตัวที่คล้ายเลนส์กล้องจะเป็นเซ็นเซอร์ช่วยจับการโฟกัสภาพ Laser Focus 
Android 12 with One UI 4.1
Galaxy S22 Ultra มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 12 ในตัวพร้อมกับ One UI ที่เป็นอินเทอร์เฟซของซัมซุงเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด 4.1 โดยรูปแบบการใช้งานและการจัดวางเมนูต่าง ๆ ยังคงเหมือนกับเวอร์ชั่นก่อนทั้งหมด จะแตกต่างในส่วนของงานดีไซน์ไอคอน แถบเมนู และรูปแบบการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่มีการปรับให้เรียบง่ายดูสบายต่างยิ่งขึ้น ส่วนตัวคิดว่า One UI ของซัมซุงเป็นอินเทอร์เฟซของฝั่งแอนดรอยด์ที่ออกแบบได้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุดแล้วล่ะครับ สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ไม่ยากไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานใหม่ หรือย้ายค่ายมาจาก iOS ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่าย ๆ  เพราะทุกอย่างถูกจัดวางและออกแบบมาได้อย่างลงตัว
รวมทั้งยังได้รับความสามารถใหม่ของ Android 12 อย่าง Color reimagined หรือการปรับโทนสีของไอคอน แถบเมนูให้เข้ากับภาพพื้นหลัง, การแสดงไอคอนฮาร์ดแวร์ที่ถูกใช้งานอยู่ที่มุมขวาบน หรือการขออนุญาตเข้าถึง Location Service ของเจ้าของเครื่องก่อน ทั้งหมดที่ว่ามาอยู่บน Samsung Galaxy S22 Ultra ด้วยเช่นกันครับ
ประสิทธิภาพการทำงาน (Performance)
สำหรับประสิทธิภาพการทำงานของ Samsung Galaxy S22 Ultra รอบนี้ได้หัวใจหลักการทำงานเป็นชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 ที่หลายคนอยากเห็นในรุ่นที่วางขายในไทยมานาน รอบนี้ซัมซุงจัดให้เรียบร้อยแล้วนะครับ โดยจะทำงานร่วมกับ RAM LPDDR5x กับ ROM UFS 3.1 ซึ่งจากสเปกฮาร์ดแวร์ ก็สมกับการเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นท็อปของแบรนด์ ดังนั้นการประมวลผลทั้งในด้านเกม, กราฟฟิก หรือการใช้ทำงานต่าง ๆ ทำได้ทุกระดับการใช้งานตั้งแต่เบา ๆ ไปจนถึงระดับสูงเลยนั่นเอง
ส่วนเรื่องของความร้อนที่เกิดจากการทำงานของตัวชิปประมวลผล ซึ่งมีหลายคนกังวลว่า ร้อนไหม? ร้อนแค่ไหน? จากที่ได้ใช้งานมา 1 อาทิตย์ ก็ขอตอบยืนยันเลยว่า "ร้อนครับ" ร้อนแบบเกินคำว่า "อุ่น" มานิดหน่อย ความรู้สึกคล้ายกับตอนที่เราถือถ้วยกาแฟร้อนจากร้านกาแฟชื่อดังประมาณนั้น และถ้าหากเปิดกล้องถ่ายรูปใช้งานติดต่อกันสัก 5 - 10 นาทีขึ้นไป ตัวเครื่องก็จะร้อนไวมาก ๆ แต่พอพักการใช้งาน ตัวเครื่องก็สามารถระบายความร้อนที่เกิดขึ้นได้ไวด้วยเช่นกัน ดังนั้นตอนใช้งานจริงปัญหาเรื่องความร้อนสำหรับตัวผมถือว่า ไม่ติดขัดหรือมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานเท่าไรนัก ยังอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ครับ
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชั่น Benchmark
  • ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วยแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark ได้คะแนนรวม 897,816 คะแนน
  • ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วยแอปพลิเคชั่น GeekBench ได้คะแนนทดสอบ Single Core 1194 คะแนน และ MultiCore 3136 คะแนน
  • ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วยแอปพลิเคชั่น 3D Mark (Wild Life) ได้คะแนนรวม 9,063 คะแนน
  • เช็คค่า DRM ด้วยแอปพลิเคชั่น DRM Info ผลคือ รองรับการแสดงผล HDR 10, HDR10+, Refresh rate สูงสุด 120Hz และมีระดับ Security Level 1 
การกลับมาของปากกามหัศจรรย์ S Pen บน S Series ครั้งแรก
มากันที่จุดเด่นสำคัญของ Samsung Galaxy S22 Ultra ในครั้งนี้ กับการมาพร้อม "S Pen" ปากกามหัศจรรย์ของซัมซุงแบบ Built-in มาให้ในตัวเลย ปากกาสไตลัสที่เคยเป็นจิตวิญญาณของ Note Series ที่ครั้งนี้ถูกถ่ายทอด DNA ลงบน S Series เป็นครั้งแรก โดยมีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติใหม่เพิ่มเติมเข้ามาจากตอน Galaxy Note 20 Ultra และ Galaxy S21 หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นความไวในการตอบสนองกับหน้าจอแสดงผลที่ทำได้เร็วขึ้น 3 เท่า, ลดค่าความหน่วงจาก 9ms ในรุ่นก่อนเหลือเพียง 2.8ms. เท่านั้น, การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์การเขียนด้วยปากกา S Pen ให้แม่นยำและรู้ใจยิ่งขึ้น
ในขณะที่ตัวปากกาวัสดุด้ามจับก็ให้ผิวสัมผัสดีขึ้น จับแล้วรู้สึกเหมือนจับยางซิลิโคนหน่อย ๆ ให้ความกระชับมือยิ่งขึ้น ที่หัวปากกาก็เขียนได้เนียนยิ่งขึ้น ตัวสปริงกดมีการตอบรับกับการกดขณะเขียนหรือวาดได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น และที่ช่องเสียบปากกา S Pen บนตัวเครื่อง ก็ได้รับการปรับปรุงให้สามารถเสียบปากกากลับคืนเข้าตัวเครื่องได้ทั้งสองด้านแล้ว (หน้า-หลัง) 
สำหรับความสามารถหรือลูกเล่นของปากกา S Pen พื้นฐานมีลูกเล่นที่เหมือนกับ Note Series ที่ผ่านมาทั้งหมดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Screen of memo การจดบันทึกได้ทันทีบนหน้าจอหลังดึงปากกาออกมาจากตัวเครื่อง หรือจะเป็นการจด แก้ไข แต่งเติมไฟล์เอกสารต่าง ๆ รวมถึง PDF ไฟล์บน Samsung Note ที่เป็นคีย์ไฮไลต์ของซีรีย์นี้ก็ยังคงสามารถทำได้เหมือนเดิม 
ลูกเล่นที่น่าสนใจของปากกา S Pen
  • เขียนลื่นเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น | ปากกา S Pen บน Samsung Galaxy S22 Ultra สามารถเขียนหรือวาดได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น จากการปรับปรุงเรื่องค่าความหน่วงที่เหลือเพียง 2.8ms. การเพิ่มการอัตราความไวในการตอบสนองขณะใช้งานบนหน้าจอมากขึ้น 3 เท่า รวมทั้งการปรับปรุงด้านกายภาพที่ตัวปากกาไล่ตั้งแต่วัสดุของปากกาที่กระชับมากขึ้น, หัวปากกาที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและรองรับแรงกดได้เป็นธรรมชาติขึ้น ทำให้ภาพรวมปากกา S Pen บน Galaxy S22 Ultra ใช้งานได้เป็นธรรมชาติและเขียนสนุก แต่ถ้าเมื่อเทียบกับ Note 20 Ultra ส่วนตัวผมในด้านของฟิลลิ่งการเขียนหรือการวาดถ้าไม่ได้ตั้งใจจับผิดจริง ๆ ก็อาจจะรู้สึกถึงความแตกต่างไม่มากนัก
  • แปลภาษา | เป็นอีกหนึ่งความสามารถที่ผมว่ามีประโยชน์ไม่น้อยอยู่เหมือนกันนะครับ สำหรับคนที่ชอบอ่าน Text หรือบทความต่าง ๆ แล้วเจอคำหรือข้อความที่จำคำแปลไม่ได้ ปัญหานี้ก็จะหมดไปเลย แค่เอา S Pen ไปจ่อไว้แค่นั้นเอง
  • สั่งการระยะไกล | ลูกเล่นที่สืบทอดมาจาก Note Series รุ่นก่อน ๆ กับการใช้ S Pen เป็นรีโมทในการสั่งการถ่ายรูปด้วยท่าทางต่าง ๆ ในรุ่นนี้ก็ยังสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมนะ ไม่ว่าจะใช้เป็นชัตเตอร์ถ่ายรูป, การซูมภาพเข้า-ออก หรือสลับกล้องหน้ากับกล้องหลังก็ทำได้เหมือนเดิมครับ
  • เลือกอัจฉริยะ | เป็นการเลือกครอปภาพที่เราไปเจอบนเว็บไซต์แล้วสนใจเก็บไว้ เพื่อใช้ร่วมกับ S Note หรือแชร์ให้กับเพื่อน ๆ ในโซเชียลมีเดียในภายหลัง เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ผมชอบนะ มีประโยชน์มาก ๆ เวลาใช้คิดไอเดียทำงาน
  • แปลงลายมือเป็น Text | อีกหนึ่งลูกเล่นที่อยู่คู่กับปากกา S Pen มาอย่างยาวนาน กับการเปลี่ยนลายมือให้กลายเป็นตัว Text เพื่อนำไปใช้งานต่อ บนรุ่นนี้ก็ยังสามารถทำได้อยู่น้า
กล่องถ่ายรูปเก่งขึ้น AI ฉลาดขึ้น และถ่ายสนุก
มากันที่เรื่องของการถ่ายภาพกันบ้างครับ สำหรับกล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy S22 Ultra รอบนี้มาพร้อมกล้อง Quad camera ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 108MP (F1.8) , กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ (Ultra wide) ความละเอียด 12MP (F2.2), กล้อง Telephoto ความละเอียด 10MP (F2.4) รองรับการซูมภาพ optical Zoom 3X และกล้อง Periscope ความละเอียด 10MP (F4.9) รองรับการซูมภาพแบบ Optical Zoom 10X โดยที่กระจกเลนส์ทุกตัวของกล้องถ่ายรูปทางซัมซุงจะเคลือบสารนาโนพิเศษไว้ด้วย เพื่อช่วยลดอาการเกิดเลนส์แฟลร์ขณะถ่ายภาพ ส่วนผลงานหลังกล้องเป็นอย่างไรบ้าง อยากให้ทุกคนลองไปพิจารณาจากภาพตัวอย่างด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ภาพตัวอย่างจากกล้องของ Samsung Galaxy S22 Ultra

ภาพถ่ายระยะซูมต่าง ๆ จากกล้อง Samsung Galaxy S22 Ultra

กล้องหน้าความละเอียด 40MP ของ Samsung Galaxy S22 Ultra

กล้องหน้าของ Samsung Galaxy S22 Ultra มาพร้อมเซ็นเซอร์กล้องถ่ายรูปขนาด 1/2.82" ตัวเม็ดพิกเซลมีขนาด 0.7 μm และมีความละเอียด 40MP (F2.2) ใช้ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K @60FPS ส่วนผลงานหลังกล้องเป็นอย่างไร ไปชมภาพตัวอย่างด้านล่างได้เลยครับ

ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้าความละเอียด 40MP บน Samsung Galaxy S22 Ultra

บทสรุป : Galaxy Note Series ในชื่อใหม่ กับความลงตัวครั้งใหม่
มาถึงบทสรุปส่งท้ายกันแล้ว สำหรับตัวผมมองว่า Samsung Galaxy S22 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความเก่งรอบด้านตามสไตล์ของสมาร์ตโฟนเรือธงของแบรนด์ ส่วนด้านกล้องก็พัฒนาขึ้นจาก Galaxy S21 Series ในเรื่องความฉลาดของ AI และการปรับค่าการถ่ายภาพที่ทำได้ดีขึ้น รวมถึงการถ่ายภาพระยะไกลที่เป็นจุดเด่นชัดเจนมาก ๆ ถึงการเปลี่ยนแปลง และเมื่อได้จุดเด่นจากปากกา S Pen ที่เป็น Exclusive ไอเท็มหนึ่งเดียวที่จะพบได้บนสมาร์ตโฟนซัมซุงด้วยแล้ว ยิ่งทำให้กลายเป็นสมาร์ตโฟนที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ จนสมารถตอบรับทุกความต้องการใช้งานของผู้ใช้ในปัจจุบันได้อย่างลงตัว และตอบรับได้ทุกโจทย์ความต้องการเท่าที่สมาร์ตโฟนดีๆ เครื่องหนึ่งจะให้ได้
ไม่ว่าจะนำไปใช้ทำงานทั้งในองค์กรหรืองานส่วนตัว ใช้เก็บภาพความทรงจำขณะเดินทางหรือทำกิจกรรมส่วนตัวกับครอบครัว หรือแม้แต่จะนำไปใช้ทำงานสายครีเอเตอร์เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนท์ก็สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ต้นน้ำในการดราฟไอเดียไปจนสร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นคลิปวีดีโอ Galaxy S22 Ultra ก็สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างลงตัวเลยล่ะครับ 
เมื่อผสมผสานเข้ากับความตั้งใจในการดูแลลูกค้าของซัมซุงด้วยบริการหลังการขายอย่าง การการันตีอัปเดท OS ยาวนานถึง 4 ปี และแพทความปลอดภัยอีก 5 ปี ด้วยแล้ว จึงทำให้ Galaxy S22 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความ "ยอดเยี่ยม" น่าใช้ และยืนหนึ่งในตัวเลือกของตลาดมือถือเรือธงฝั่งแอนดรอยด์เลยก็ว่าได้ครับ แถมยังช่วยลบภาพลักษณ์ในด้านของอายุการใช้งานบนสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ที่มักถูกมองว่ามีอายุการใช้งานสั้นไปได้พอสมควร 
ส่วนคำถามที่หลายคนน่าจะสงสัยว่า "ควรเปลี่ยนไปใช้ Samsung Galaxy S22 Ultra ดีไหม?" ส่วนตัวผมแนะนำแบบนี้ครับว่า สำหรับคนที่จะย้ายข้ามจาก iOS มา สิ่งแรกที่คุณต้องทำให้ได้ก่อนเลยก็คือ การเปิดใจยอมรับและไม่ยึดติดกับ Ecosystem ของ Apple ชนิดที่นำทุกอย่างจาก iOS มาเทียบทุกการใช้งานเลย เพราะต้องเข้าใจก่อนว่าคุณกำลังจะย้ายข้าม OS ดังนั้นการที่สไตล์การใช้งานทุกอย่างจะเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้ยากนะครับ ซึ่งถ้าคุณเปิดใจในเรื่องนี้ได้รับรองว่าคุณจะได้สนุกไปกับทุก ๆ ความสามารถของสมาร์ตโฟนเครื่องนี้แน่นอนครับ
ส่วนฝั่งของ Android OS ถ้าใครมาจากซัมซุงอยู่แล้ว ผมก็แนะนำว่านี้เป็นสมาร์ตโฟนที่ควรมีไว้ครอบครองอย่างแน่นอน และไม่ต้องคิดเยอะเลย เพราะนี้คือสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดจากซัมซุงในเวลานี้ ส่วนถ้าใครใช้รุ่นอื่นอยู่ผมแนะนำลองถามใจตัวเองดูก่อนว่า ชอบ UI และเอกลักษณ์ของแบรนด์ซัมซุงที่อาจไม่ได้มีความอินดี้อะไรมากนักมากแค่ไหน ซึ่งถ้าไม่ติดเรื่องนี้ ก็อยากแนะนำให้ลองไปสัมผัสสมาร์ตโฟนที่มีความครบเครื่องที่สุดของฝั่งแอนดรอยด์ในเวลานี้ครับ แล้วคุณอาจจะหลงรักโดยไม่รู้ตัว
ป้ายยากันมาพอแล้ว ก็เอาเป็นว่าสำหรับใครที่สนใจ Samsung Galaxy S22 Ultra ตอนนี้ทางซัมซุงเปิดวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ
  • รุ่น RAM 8GB | ROM 128GB : ราคา 39,900 บาท
  • รุ่น RAM 12GB | ROM 256GB : ราคา 43,900 บาท
  • รุ่น RAM 12GB | ROM 512GB : ราคา 47,900 บาท
สามารถไปจับจองกันได้ผ่านช่องทางออนไลน์ Samsung Official Store online | Lazada | Shopee และร้านค้าตัวแทนชั้นนำทั่วประเทศ 
แท็กที่เกี่ยวข้อง samsung review Samsung Galaxy S22 Ultra
Mobile Guru
เขียนโดย วินระพี นาคสวัสดิ์ Mobile Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)