ลองฟัง ลองเล่น 1 วันชิล ๆ กับหูฟังไร้สาย OnePlus Buds Pro หูฟังไร้สายระดับโปรของวันพลัส

OnePlus Buds Pro เป็นอีกหนึ่งหูฟังไร้สาย Truewireless จากแบรนด์มือถือ ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากหลังงานเปิดตัว โดยเฉพาะบรรดาแฟนบอยของ "OnePlus" ที่ผมเชื่อว่าน่าจะรอคอยให้มาถึงประเทศไทยในเร็ววัน ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้หูฟังไร้สายรุ่นนี้เป็นที่จับตามอง นอกจากความเป็นแบรนด์ OnePlus ที่มีเอกลักษณ์ และภาพลักษณ์ของแบรนด์ในด้านความกล้าที่จะใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี มาสู่ผลิตภัณฑ์ของตนเองด้วยราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้แล้ว หูฟังรุ่นนี้ยังเป็นหูฟังไร้สายรุ่น "Pro" ระดับพรีเมี่ยมรุ่นแรกของแบรนด์ด้วย จึงทำให้ผู้ใช้งานทั้งที่เป็นลูกค้าเดิม และลูกค้ากลุ่มใหม่ เกิดความคาดหวังในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ดี เทคโนโลยีที่ทันสมัย ในราคาที่เข้าถึงได้ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ จนนำมาสู่กระแสความสนใจที่ค่อนข้างมากนั่นเอง

สำหรับตัวผมเองก็ได้มีโอกาสลองสัมผัส ลองฟัง และใช้งาน OnePlus Buds Pro แบบจริงจังอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเวลาที่มากพอ ที่จะได้ประสบการณ์การใช้งานในหลายๆ แง่มุม จนสามารถนำมาบอกเล่าให้เพื่อน ๆ ที่สนใจหูฟังไร้สายรุ่นนี้ได้ฟังกันผ่านบทความนี้ครับ และน่าจะช่วยใช้เป็นข้อมูลประกอบตัดสินใจได้ด้วย ส่วนประสบการณ์การใช้งานที่ผมได้รับมาจะเป็นอย่างไร เสียงดีหรือไม่? หรือมีแง่มุมไหนที่เป็นจุดเด่น และแง่มุมไหนที่ควรจะเข้าใจก่อนซื้อ ตามผมไปลองใช้งานใน 1 วัน กับไลฟ์สไตล์ชิลๆ เดินเล่น หาอะไรทานย่านถนนชิดลมกันได้เลยครับ

ก่อนที่จะเริ่มออกไปลองใช้งาน ก็ขอแกะดูด้านในกล่องกันสักหน่อยว่า งานออกแบบรอบนี้เป็นอย่างไรบ้าง และ OnePlus จะใจดีให้อะไรมาบ้างข้างในกล่องบ้างนะ สำหรับตัวกล่องโปรดักส์รอบนี้ยังคงใช้สีกล่องแบบทูโทน โดยเลือกใช้สีแดงตัดกับสีขาว ซึ่งตอนผมเห็นครั้งแรก ก็รู้สึกถึงความพรีเมี่ยมในแบบคนรุ่นใหม่ อารมณ์คล้ายกับคุณผู้ชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตผูกไท แต่ปลดเน็กไทให้หลวมๆ และถกแขนเสื้อ เพื่อลุยงานอะไรแบบนั้นก็ว่าได้

เมื่อแกะกล่องมาถึงด้านใน ก็จะพบกับตลับชาร์จพร้อมหูฟัง OnePlus Buds Pro อยู่ด้านใน พร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง สายชาร์จ USB-C, จุกยางสำหรับเปลี่ยน 2 ไซส์ (4 ชิ้น) และคู่มือการใช้เบื้องต้น

ตัวตลับชาร์จ ตอนผมเห็นครั้งแรกกลับรู้สึกเฉยๆ นะครับ เพราะตัวตลับชาร์จเลือกใช้วัสดุพลาสติกมันวาว เลยทำให้พอหยิบขึ้นมาสัมผัสแล้ว กลับรู้สึกไม่พรีเมี่ยมอย่างที่เรามองตอนแรกซะอย่างงั้น แถมยังดูเหมือนตลับชาร์จหูฟังไร้สายทั่วไปมากๆ แต่พอเปิดฝาตลับมาเห็นด้านใน กลับรู้สึก "ว้าว" อีกครั้ง เพราะด้านในออกแบบมาพรีเมี่ยมดีจัง!  ตัวฐานรองหูฟังทำนูนขึ้นมา และตัวหูฟังมีการเล่นเฉดสี ระหว่าง สีเงิน และ สีขาว เลยทำให้รู้สึกเรียบหรูมาก ๆ

ตัวหูฟังจะเป็นหูฟังไร้สายสไตล์ In-Ear ด้านบนของหูฟังจะมีพื้นผิวแบบด้านออกแบบให้มีความโค้งมนเข้ากับใบหู และเป็นตำแหน่งของลำโพงเสียงสองตัว ไมค์ตัดเสียงรบกวน 2 ตัว และเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับการใช้งาน ซึ่งเมื่อเราถอดหูฟังออกจากหู เพลงหรือคอนเทนท์ที่รับฟังอยู่ก็จะหยุดเล่น (Pause) และเมื่อเราใส่หูฟังกลับเข้าไป ก็จะเล่นต่อให้อัตโนมัติ (Play) ส่วนบริเวณก้านหูฟังจะใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมสีเงิน ที่ด้านปลายก้านจะเป็นไมค์สำหรับใช้สนทนา

เมื่อแกะกล่องดูข้างในเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะลองนำไปใช้งานจริงกันแล้วล่ะครับ โดยผมเลือกที่จะหยิบเจ้า OnePlus Buds Pro ไปลองใช้งานรอบ ๆ ออฟฟิต ที่อยู่ใกล้กับถนนชิดลม ที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมในเมือง มีมลภาวะทางเสียงมากมาย ดังนั้นจึงน่าจะเป็นใช้สถานที่ทดสอบได้เป็นอย่างดี 

ก่อนที่จะออกไปลุยกัน เราก็ต้องมาทำการเชื่อมต่อตัวหูฟังกับสมาร์ตโฟนให้รู้จักกันสักหน่อยครับ โดยครั้งนี้ผมเลือกใช้สมาร์ตโฟนเป็น OnePlus Nord CE 5G ทำการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ "Bluetooth" บนตัวเครื่อง เลยสามารถเชื่อมต่อผ่านฟีเจอร์ Popup ได้ทันที เพียงแค่เปิดฝาตลับชาร์จ และกดปุ่ม Pair ตัวหูฟังและสมาร์ตโฟนก็จะจับคู่ให้ทันที ซึ่งตัวหูฟังไร้สาย OnePlus Buds Pro รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ดังนั้นสามารถเชื่อมต่อดีไวซ์ได้พร้อมกัน 2 ดีไวซ์ และสลับการใช้งานเสียงให้อัตโนมัติด้วยเช่นกัน ส่วนใครที่ใช้งานสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ก็สามารถเข้าไปเชื่อมต่อหูฟังผ่านเมนูการค้นหาดีไวซ์ของ 'Bluetooth' บนสมาร์ตโฟนแทนได้เลยครับ (ใช้งานได้ทั้ง Android OS และ iOS)

เมื่อเชื่อมต่อทั้งสองให้รู้จักกันแล้ว สิ่งแรกที่ผมอยากทดสอบเลยคือ เรื่องของระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ซึ่งหูฟัง OnePlus Buds Pro มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนด้วยไมค์ตัดเสียงทั้งหมด 3 ตัว และตัวระบบเป็นแบบ Smart Adaptive Noise Cancellation ซึ่งตัวซอฟต์แวร์จะทำงานควบคู่กับฮาร์ดแวร์ที่เป็นไมค์ตัดเสียงทั้ง 3 ตัว ที่ถูกติดตั้งไว้บนหูฟัง โดยจะปรับระดับการตัดเสียงให้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม จนสามารถตัดเสียงได้เงียบที่สุดที่ระดับเสียง 40 dB ซึ่งเป็นระดับความเงียบแบบในห้องสมุดเลยล่ะครับ

ดังนั้นผมเลยเลือกที่จะมองหาที่ปลอดภัย ไม่เกะกะผู้คนริมถนนชิดลม ที่สภาพการจราจรตอนนั้น มีรถบนถนนค่อนข้างมากพอสมควร เมื่อได้ที่ยืนเรียบร้อย ก็ลองเปิดเพลงฟังด้วยระดับความเสียงดังประมาณ 60-70% บนสมาร์ตโฟน ลองทดสอบฟังสัก 2-3 เพลง ด้วยแอปพลิเคชั่นฟังเพลงง่ายๆ เช่น Youtube Music, Joox และ Apple Music หลังจากนั้นก็ลองโทรศัพท์ไปคุยทักทายเพื่อนสัก 5-10 นาที และลองถามคู่สนทนาว่าเสียงเป็นอย่างไรบ้าง?

 

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ "เงียบมาก!" ครับ ตัวหูฟังสามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เงียบมาก ๆ จนส่วนตัวรู้สึกว่าเงียบกว่า AirPods Pro ที่ผมใช้อยู่อีกนะ โดยเราจะยังพอได้ยินเสียงสภาพแวดล้อม อย่างเช่น เสียงแตรรถยนต์ เสียงเครื่องยนต์รถใหญ่ และเสียงผู้คนที่คุยกันรอบตัวเราในระดับที่เบาบาง 3-5% คล้ายกับเสียงกระซิบคุยกันในห้องประชุมหรือห้องสมุดประมาณนั้นเลยล่ะ ดังนั้นเราจึงยังฟังเสียงดนตรีหรือเสียงเพลงที่รับฟังอยู่ในขณะนั้นได้เต็มที่ เหมือนฟังอยู่ในห้องนอนเลย ส่วนเสียงสนทนาสายจากการสอบถามปลายสาย คู่สนทนาก็ยืนยันว่าได้ยินเสียงเราชัดเจน ไม่จมน้ำ ส่วนฝั่งผมเองก็ได้ยินเสียงคู่สนทนาเหมือนยกสมาร์ตโฟนมาแนบหูคุยตามปกติเลยครับ ดังนั้นถ้าในด้านตัดเสียงรบกวนส่วนตัวผมถือว่า สอบผ่าน! ครับ ใช้งานได้จริง และเงียบมากๆ 

คราวนี้มาในเรื่องของประสบการณ์เสียงกันบ้าง ซึ่งพอเข้าสู่หัวข้อการทดสอบเรื่องเสียง ผมเลยเริ่มมองหาร้านแนวคาเฟ่ ที่มีเสียงรบกวนน้อยลงจากริมถนนสักหน่อย เพราะอยากให้เหมือนตอนเรากำลังเดินทางบนรถโดยสาร ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าร้านอาหารในระแวกนั้นเลยครับ เอาล่ะ! เมื่อได้ที่นั่ง และสั่งอาหารเรียบร้อย ช่วงรอออเดอร์ก็ลองทดสอบฟังกันเลย เสียงจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?

ตัวหูฟัง OnePlus Buds Pro จะมีคุณสมบัติ "OnePlus Audio ID" ติดตั้งมาให้ด้วยนะครับ เราสามารถเข้าไปปรับขอบเขตของเสียงสูง-ต่ำ ตามการได้ยินของเราได้ และเซฟเป็นโปรไฟล์เสียงเฉพาะตัวได้ด้วย ความแตกต่างของความสามารถนี้ของวันพลัสกับแบรนด์อื่น คือ ของวันพลัสจะมีไดอะแกรมภาพสำหรับดูเปรียบเทียบโปรไฟล์เสียงได้ ทำให้เราเห็นว่า เสียงส่วนตัวของเรามีมิติเสียงแบบไหน ซึ่งส่วนตัวผมชอบมาก ๆ เลย 

หลังจากลองนั่งฟังเพลงจากแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งที่คิดว่าทุกคนน่าจะใช้งานกันอย่าง Youtube Music, Joox, Sportify และ Apple Music อยู่นาน ทดสอบหลายโทนดนตรีจากหลายๆ เพลง เพื่อเปรียบเทียบเสียงสูง-ต่ำ และขอบเขตเสียงต่าง ๆ รวมทั้งเข้าไปปรับค่าเสียงของหูฟังให้เรียบร้อย ผลลัพธ์ในด้านของประสบการณ์เสียง ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเป็นหูฟังไร้สายที่มีคาแร็คเตอร์เสียงเด่นในย่านต่ำ-กลาง และได้ไดนามิกของเสียงเบสเข้ามา ทำให้เวลาฟังรู้สึกสนุกและได้อรรถรสขึ้น ประกอบกับการแยกชิ้นส่วนเสียงเครื่องดนตรีพื้นหลัง ส่วนตัวคิดว่าหูฟังตัวนี้ทำได้ดีทีเดียว แยกได้ละเอียดมาก ๆ 

 

สำหรับ Sound Stage ไม่ได้กว้างมาก จัดว่า กลาง ๆ ออกไปในทางแคบด้วยซ้ำ และเสียงไม่โอมล้อมตัวเรามากเท่าไร ซึ่งถ้าสรุปแบบง่ายๆ เลย ผมว่ามันคล้ายกับเอาหูฟัง AirPods ของ Apple มาเพิ่มเบส และตัดเสียงรบกวนให้เนียนขึ้นก็ว่าได้นะ ดังนั้นคนที่ชอบฟังเพลงแนว Flat หรือเน้นฟังเพลงใส ๆ สบายๆ เรื่อยๆ ประมาณเสพย์เพลงชิลๆ ไปพร้อมกับนั่งทำงาน หรือมองวิวระหว่างเดินทางน่าจะชอบคาแร็คเตอร์เสียงของ OnePlus Buds Pro แน่นอน แต่สำหรับใครที่เน้นรายละเอียดของตัวโน็ต เสียงเบสหนัก ๆ ตึบ ๆ หรือเน้นความเป็นเฉพาะทางของดนตรีหน่อย ผมว่าหูฟังตัวนี้น่าจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก

หลังจากทานอาหาร นั่งชิล และทดสอบเรื่องเสียงเสร็จ ก็ได้เวลากลับกันแล้ว ซึ่งระหว่างทางกลับผมได้เดินผ่านเส้นทางที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ประกอบกับต้องนั่งรอพี่ในทีมอีกคน ถ่ายงานรีวิว เลยหยิบหูฟัง OnePlus Buds Pro ขึ้นมาฟังสักหน่อย ระหว่างฟังก็นึกขึ้นได้ว่า เอ๊ะ! หูฟังตัวนี้มีโหมด "Zen mode Air" ติดมาด้วย ซึ่งโหมดนี้ตอนอยู่บนสมาร์ตโฟนของวันพลัส จะเป็นโหมดที่ปิดกั้นการใช้งานมือถือทุกอย่างตามระยะเวลาที่เราตั้งไว้ เพื่อลดอาการติดสมาร์ตโฟนของเจ้าของให้น้อยลง แต่คราวนี้มาอยู่บนหูฟังด้วยจะเป็นอย่างไรนะ? ว่าแล้วก็เลยลองกดใช้งานดูสักหน่อย (บีบก้านหูฟังทั้งสองข้างค้างไว้พร้อมกัน 3 วินาที)

หลังจากเข้าสู่โหมด Zen Mode Air หูฟังของเราจะตัดการเล่นเพลงหรือคอนเทนท์ที่เราฟังอยู่ทันที และจะไปเรียกเพลงตามธีมที่เราเลือกไว้ในโหมดนี้ขึ้นมาเล่นแทน โดยเพลงที่ดึงขึ้นมาเล่นจะเป็นเพลงที่มีแค่ เมโลดี้ หรือ เสียงดนตรีผ่อนคลายให้เราฟังต่อเนื่องยาว ๆ จนกว่า เราจะกดยกเลิก หรือ กดออกจากโหมดนี้ด้วยตนเอง ส่วนตัวผมชอบมาก ๆ เลยนะ เพราะเสียงดนตรีจากโหมดนี้ ช่วยดึงเราออกจากวันที่วุ่นวายได้ขณะหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถเข้าไปตั้งธีมของเสียงเมโลดี้ได้ทั้งหมด 5 โปรไฟล์ คือ เสียงสมาธิ, เสียงแสงแดดยามเช้า, เสียงคลื่นกระทบชายฝั่ง, เสียงยามค่ำคืน และเสียงไอซ์แลนด์ ใครที่ชอบฟังเพลงดนตรีแบบโมสาร์ทระหว่างทำงานรับรองได้เลยว่าคุณต้องชอบโหมดนี้แน่นอน

หลังจากที่ออกไปทดสอบกันมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านแล้วล่ะครับ เพราะฉะนั้นผมก็ขอสรุปในมุมมองส่วนตัวจากที่ได้ลองนำออกไปใช้งานจริงข้างนอก 1 วัน ว่า OnePlus Buds Pro เป็นหูฟังไร้สายที่เด่นในเรื่องของการตัดเสียงรบกวน ที่ตัดได้เนียน คมชัด แม้กระทั่งเสียงลมก็ตัดได้ดีมาก ๆ ส่วนเรื่องของประสบการณ์เสียงส่วนตัวผมมองว่า เป็นหูฟังไร้สายที่เน้นฟังเพลิน ๆ เรื่อย ๆ ไม่ล้าหรือหนักหู ฟังได้ทั้งวัน โดยมีเสียงเบสตึบๆ กระตุ้นพอให้เราสนุกไปเพลงได้ดี ไปพร้อมกับเสียงร้องและเสียงเครื่องเล่นที่เก็บรายละเอียดได้เคลียชัดครับ และแน่นอนว่าสามารถใช้งานงานคุยโทรศัพท์หรือประชุมทางไกลได้ลงตัวมาก ๆ เพราะไมค์เก็บเสียงเราได้ดีเลยล่ะ

ดังนั้นเมื่อนำประสบการณ์ที่ได้มาเทียบกับราคาวางจำหน่าย 4,999 บาท ส่วนตัวมองว่าก็พอจะสมเหตุสมผลอยู่เหมือนกันครับ แต่ถ้าลดลงมาอีกสัก 500 - 1,000 บาท ได้ คงจะเป็นหูฟังที่ไร้คู่แข่งในช่วงราคานั้นแน่นอน สำหรับใครที่สนใจ OnePlus Buds Pro ก็สามารถไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้วนะครับ เพราะทาง OnePlus Thailand วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อย โดยวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ สีขาวแบบในบทความนี้ และสีดำด้าน

ขอขอบคุณ OnePlus ประเทศไทย