รีวิว Huawei nova 7 สมาร์ทโฟน 5G ดีไซน์สวย วัสดุพรีเมี่ยม สเปคจัดเต็ม ในราคาเพียง 16,990 บาท

เรียกได้ว่าแบรนด์ Huawei เป็นเจ้าตลาดสมาร์ทโฟน 5G ของโลกในตอนนี้จริงๆ มีสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยหลายรุ่น และหลากหลายระดับราคา ที่สำคัญยังรองรับ 5G ในประเทศไทยแบบพร้อมใช้ และรองรับคลื่น 5G ในระดับสากล ได้อย่างหลากหลายที่สุดในตอนนี้ ล่าสุดกับสมาร์ทโฟน 5G ราคาเบาๆ อย่าง Huawei nova 7 และ Huawei nova 7 SE ที่นอกจากรองรับ 5G แล้ว ยังมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม โดดเด่น สะดุดตา สเปคที่น่าสนใจ แถมยังมีกล้องคุณภาพสูง ราคาเปิดตัวในประเทศไทย เรียกได้ว่าไม่ควรพลาดเลยครับ

สำหรับ 2 รุ่นนี้มาพร้อมสเปคที่น่าสนใจ แถมยังมีกล้องคุณภาพสูง Huawei nova 7 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเงิน, สีม่วง และสีเขียว ราคา 16,990 บาท ส่วน Huawei nova 7 SE มีให้เลือก 3 สีได้แก่ สีเงิน, สีม่วง และสีเขียว ราคา 11,990 บาท เท่านั้น ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมลวดลายโลโก้ nova ที่สวยโดดเด่นมากๆ แถม 3 สีก็ออกแบบแตกต่างกันหมดเลยอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจสามารถไปอ่านรีวิว Huawei nova 7 SE เพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ครับ

Huawei nova 7 มีรายละเอียดสเปคดังต่อไปนี้

• GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
• HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
• LTE band 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 18, 19, 20, 26, 28, 38, 40, 41, 66
• 5G band 1, 3, 28, 38, 41, 77, 78, 79 SA/NSA
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 5.1, A2DP, LE
• GPS, A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS
• NFC
• USB Type-C 2.0, USB On-The-Go
• หน้าจอ OLED รูปแบบ Punch-hole Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2400 pixels (403 ppi) อัตราส่วน 20:9
• ชิปเซ็ต Kirin 985 5G
• CPU Octa-core (1x2.58 GHz Cortex-A76 & 3x2.40 GHz Cortex-A76 & 4x1.84 GHz Cortex-A55)
• GPU Mali-G77
• RAM 8GB
• ROM 256GB
• เซ็นเซอร์ Face Access, Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, proximity, compass
• ทำงานบน Android 10 (ใช้บริการ HMS) ครอบทับด้วย EMUI 10
• แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh
• รองรับชาร์จเร็ว Fast Charging 40W ชาร์จเต็ม 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 310,260 คะแนน
• ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 780.74 MB/s และการเขียน 406.36 MB/s
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วมาก

Huawei nova 7 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว Fast charging 40W ชาร์จแบตเตอรี่เต็มความจุ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที จากการทดสอบต้องขอชมชิปเซ็ต HiSilicon Kirin จริงๆ การจัดการพลังงาน และประหยัดพลังงานน่าทึ่งมาโดยตลอดเลย สำหรับรุ่นนี้สามารถใช้งานข้ามวันได้สบาย แบตเตอรี่อึดมากๆ เป็นจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนจาก Huawei จริงๆ

Huawei nova 7 อุปกรณ์ในกล่องจะมี ตัวเครื่อง, อะแดปเตอร์ พร้อมสาย USB Type-C, หูฟังแบบ Earbud, ตัวแปลง USB Type-C to 3.5 มม., เคสใส, (เข็มจิ้มซิม และคู่มือ จะมีในชุดวางจำหน่าย) มีดีไซน์ฝาหลังที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปในท้องตลาด มาพร้อมโลโก้ nova แบบใหม่ ที่สะท้อนให้เห้นถึงความเป็นตัวของตัวเอง และกล้าฉีกความเป็นไปได้อย่างสร้างสรรค์ สำหรับในรุ่นนี้ ทั้ง 3 สี ที่เป็นตัวเลือก ล้วนมีดีไซน์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ สำหรับสีม่วง ที่ได้รับมารีวิว จะมีลวดลายเหมือนกับ Huawei nova 5T ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเมื่อปีที่แล้ว มีการออกแบบเลเยอร์ฝาหลังได้อย่างน่าสนใจ และดูสนุกสนานมากๆ

Huawei nova 7 มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2400 pixels (403 ppi) อัตราส่วน 20:9 ติดฟิล์มกันรอยมาเรียบร้อย, กล้องหน้า Punch-hole Camera ความละเอียดสูง 32MP, F2.2, 26 มม. (wide), หน้าจอรองรับฟีเจอร์ Always On Display สามารถแสดงผลในขณะที่เราปิดหน้าจออยู่ สามารถเปิดใว้ตลอด หรือตั้งช่วงเวลา หรือจะแสดงเฉพาะตอนเราแตะหน้าจอดูก็ได้ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และสวยงามมากครับ

Huawei nova 7 รองรับ Face Access และการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ รองรับสุงสุด 5 ลายนิ้วมือ ความแม่นยำ และความรวดเร็วทำได้ดีมาก นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเอฟเฟกต์ได้ 3 รูปแบบด้วยครับ

ด้านหลังนอกจากความสวยงามแล้ว ยังมาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ความละเอียดดังนี้ครับ 64MP F1.8, 26 มม. (wide), PDAF + 8MP F2.4, 80 มม. (telephoto), PDAF, 3x optical zoom, hybrid zoom 5x, digital zoom 20x + 8MP F2.4, 17 มม. (ultrawide) + 2MP F2.4, (macro) พร้อมไฟแฟลชคู่ LED

ขอบตัวเครื่องเป็นวัสดุโลหะ ด้านบนมีไมค์ตัดเสียงรบกวน และ Infrared (IR), ด้านล่างมีช่องใส่ซิม, พอร์ท USB Type-C, ไมโครโฟน และลำโพง, ด้านซ้ายไม่มีอะไร, ด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับ และเสียงปุ่ม Power

Huawei nova 7 ทำงานบน Android 10 (ใช้บริการ HMS) ครอบทับด้วย EMUI 10.1 ไม่รองรับ Google Mobile Service (GMS) แต่จะมาพร้อม Huawei Mobile Service (HMS) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆ ผ่านทาง AppGallery รวมไปถึงการอัปเดต Security Patch ก็จะให้บริการโดย Huawei เอง หน้าตาของ EMUI 10.1 สวยขึ้นมากครับ น่าใช้กว่าที่เคย สำหรับการใช้งานหลายคนดูจะเป็นกังวลเกี่ยวกับการไม่มี GMS แต่เอาเข้าจริง ผมมองว่าไม่น่าต้องกังวลขนาดนั้นครับ

ส่วนตัวผมเองก็ใช้งานสมาร์ทโฟนของ Huawei อยู่ โดยที่ไม่ได้เลือกทางออกลง GMS แต่อย่างใด ซึ่งทาง Huawei Mobile Service (HMS) ก็พยายามที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้นะครับ เราสามารถดาวโหลดแอปพลิเคชั่น Phone Clone ของหัวเว่ยใน Google Play Store มาลงในสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าของเรา เพื่อส่งข้อมูลต่างๆ ในเครื่องของเรา ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อ นัดหมาย เอกสาร รูปภาพ วีดีโอ แอปพลิเคชั่นต่างๆ มาที่สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยรุ่นใหม่ ซึ่งในส่วนของนัดหมายต่างๆ จะซิงค์ข้อมูลกับแอปพลิเคชั่นปฏิทินให้เราโดยอัตโนมัติเลยครับ ส่วนเรื่องของอีเมลเราสามารถซิงค์ Gmail กับแอปเมลในสมาร์ทโฟนของ Huawei ได้เลย ทำงานเต็มรูปแบบตามปกติครับ

ส่วนของ AppGallery ในตอนนี้แอปพลิเคชั่นสำคัญๆ อย่างสถาบันการเงินมากันเกือบครบแล้วครับ ธนาคารที่ผมใช้บริการมีมาครบหมดเลย แต่ที่ยังขาดคือแอปฯ Social ที่คนไทยนิยมเล่น (แต่ว่ามี Tiktok นะครับ) พวก Facebook, Twitter หรือ Instagram พวกนี้ยังไม่มี แต่แอปแชทตอนนี้ Line มาลงให้เรียบร้อยแล้ว ใช้งานได้สมบูรณ์แทบจะทุกอย่าง แต่ว่าไม่มีการ Backup ด้วย Google Drive ทำให้ถ้าเราจะเล่น ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ไม่สามารถดึงข้อมูลเก่ามาได้ รวมทั้งตอนนี้ Line ใน Huawei ก็ไม่สามารถ Backup ได้ครับ ถ้าเราย้ายเครื่องไป Huawei เครื่องอื่น หรือสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ เราก็จะไม่สามารถ Backup ข้อมูลใน Line ไปได้ ซึ่งผมคาดว่าเดี๋ยวก็ต้องมีอัปเดต ให้สามารถทำได้ในอนาคตอย่างแน่นอนครับ

และพวกเกมอย่าง ROV, PUBG ก็ยังไม่มีนะครับ แต่เกมดังๆ หลายเกมก็มีครับ เช่น Free Fire, Honkai Impact3, Saint Seiya: Awaken, AFK Arena, Asphalt 9, Naruto: Slugfest, Laplace M และอื่นๆ มีเพียบเหมือนกัน ผมคาดว่าเกมดังๆ น่าจะทยอยมาลงเร็วๆ นี้

สำหรับ Youtube ไม่สามารถใช้งานได้นะครับผ่านแอปพลิเคชั่น แนะนำว่าเล่นผ่าน Browser ดีที่สุดครับ แต่ไม่สะดวกเท่ากับเล่นผ่านแอป และมีข้อแม้ไม่สามารถเล่นโดยขยายเต็มหน้าจอได้นะครับ จะเหลือพื้นที่ซ้าย-ขวา

ส่วนแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ไม่มีใน AppGallery จะทำยังไงละ? แน่นอนครับว่าการลง Google Mobile Service (GMS) ก็เป็นทางออกที่ง่ายมากๆ (แนะนำว่าถ้าใครอยากจะลง ลองดูวิธีในเน็ตแล้วลงเองครับ ง่ายนิดเดียว ไม่อยากให้ไปลงเสียเงินกันโดยเปล่าประโยชน์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันมีความเสี่ยงครับ มันไม่ปลอดภัย เพราะเหมือนเราไปเปิดประตูรับโจรเข้าบ้านเลยนะครับ)

ส่วนอีกวิธีคือการลง .apk เราสามารถหามาลงได้เลย จากเวบที่แจก .apk ต่างๆ เช่น APKPure, APKMirror, Aptoide, APK Store พวกนี้มีความน่าเชื่อในระดับสูงครับ แต่แน่นอนว่า การดาวน์โหลดจาก Google Play Store นั้นจะมีความปลอดภัยมากที่สุด โดยส่วนตัวผมเองใช้วิธีนี้นะครับ และผมเลือกใช้ APKPure เป็นหลัก (เราสามารถติดตั้งเป็นแอปพลิเคชั่นมาลงไว้ที่เครื่องได้เลย เวลาใช้งานจะเหมือนเราเข้า Store ตามปกติ) สำหรับแอปต่างๆ ที่โหลดมาสามารถใช้งานได้ 100% ครับ รวมทั้งเกมต่างๆ ด้วย (นอกจากแอปหรือเกมที่เรียกใช้งาน การรับรองจาก Google) และเราสามารถอัปเดทแอปผ่าน APKPure ได้เลย

ในส่วนของแอปพลิเคชั่นนำทาง Google Map นั้นเราสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้เลยครับ แต่ว่าเราจะไม่สามารถใช้บริการบางอย่างได้ เช่น การแชร์โลเคชั่น แต่เรื่องระบุตำแหน่ง นำทาง (เสียงนำทางครบเลย) ปักหมุด นั้นสามารถใช้งานได้ครับ หรือเราจะใช้แอปที่มีอยู่ใน AppGallery ซึ่งก็เป็นแอปนำทางที่โด่งดังอย่าง HERE WeGo ก็ได้นะครับ ใช้งานได้สมบูรณ์เลย

ในส่วนของปัญหาที่ไม่มี Google Mobile Service (GMS) นั้นก็คือการที่เราไม่สามารถใช้งานบริการต่างๆ ที่ต้องมีการเรียกใช้งานการรับรองจาก Google นั่นเองครับ ทำให้หลายแอปที่ต้องใช้งาน เราจะไม่สามารถใช้งานได้เลย หรือเราจะไม่สามารถใช้งานได้ในบางฟีเจอร์ รวมไปถึงแอปพลิเคชั่นของบริษัทต่างๆ ที่ออกแบบใช้งานกันเองภายใน บางแอปก็จะไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงคนที่เล่นเกมโดยผูกกับ Google Account ซึ่งก็ต้องเปลี่ยนมาผูกกับ Facebook แทนนะครับ เอาเป็นว่าถ้ามันทำให้รู้สึกว่าการที่จะต้องมี Google Mobile Service (GMS) นั้นจำเป็นจริงๆ ก็เลือกที่จะไม่เปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟน Huawei ในตอนนี้ก็ได้ แต่โดยส่วนตัวผมมองว่ามันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แถมเราจะรู้สึกสนุกขึ้นอีกด้วย ได้ความรู้สึกเดิมๆ ในสมัยก่อนเลยละครับ

สำหรับคนที่กลัวเรื่องความยุ่งยาก และความปลอดภัย ก็สามารถใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) ที่มีมาให้ได้เลยนะครับ AppGallery ก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมีความปลอดภัยสูง แต่หากรู้สึกยังไงเราก็ต้องใช้งานแอปพลิเคชั่นที่คุ้นเคย และชอบเล่นเกมที่อยู่ในกระแส ทางเลือกที่ผมแนะนำก็น่าจะโดนใจกันนะ

จะเห็นว่าการใช้งานสมาร์ทโฟน Huawei ในวันที่ไม่มี Google Mobile Service (GMS) แน่นอนว่าไม่สะดวกสบาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องหวาดกลัวกันจนเกินไป ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็อยู่บนพื้นฐานของระบบ Android นั่นละครับ ไม่ใช่ระบบใหม่อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ แค่เปลี่ยนจาก Google Mobile Service (GMS) มาใช้ Huawei Mobile Service (HMS) เท่านั้นเอง ส่วนอินเตอร์เฟส และฟีเจอร์ต่างๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในรีวิว Huawei P40 ที่ผมเคยเขียนเอาไว้ได้ด้านล่างนี้เลยครับ

Huawei nova 7 มีหน้าจอที่สวยมากครับ หน้าจอ OLED รูปแบบ Punch-hole Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2400 pixels (403 ppi) อัตราส่วน 20:9 สีสันสดใส ความสว่างสูง ใช้งานกลางแจ้งสบายๆ รับชมคลิปวีดีโอได้เต็มตา ในส่วนของกล้องหน้า อยูในตำแหน่งที่ดีครับ ไม่รบกวนสายตา และทดสอบด้วยเกม ROV ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ 60FPS - 61FPS การทัชหน้าจอลื่นไหล เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้เล่นเกมได้ดีมากครับ

Huawei nova 7 มาพร้อมกล้องหน้า Punch Hole Display ความละเอียด 32MP, F2.2, 26 มม. (wide) และกล้องหลัง 4 เลนส์ความละเอียดดังนี้

• 64MP F1.8, 26 มม. (wide), PDAF
• 8MP F2.4, 80 มม. (telephoto), PDAF, 3x optical zoom, hybrid zoom 5x, digital zoom 20x
• 8MP F2.4, 17 มม. (ultrawide)
• 2MP F2.4, (macro)
• บันทึกวีดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้า-หลัง

จากการทดสอบกล้องของ Huawei nova 7 มีโทนที่คล้ายกับ Huawei Mate 30 Pro นะครับ โทนภาพจะออกสีเข้ม และตัดขอบได้คมมากๆ โดยรวมน่าประทับใจมากครับ ถ่ายได้หลายระยะ ตั้งแต่ Ultrawide, 1x, 3x และ 5x รวมทั้งรองรับการถ่าย Macro ได้ในระยะที่ใกล้มากๆ ส่วนกล้องหน้า ยังละลายหลังได้ไม่ธรรมชาติครับ แต่ดูคม และสีสันสดใส เรามาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันได้เลยครับ

Huawei nova 7 Selfie ปกติ และ Portrait Selfies

Huawei nova 7 Portrait Selfies และ Effect

Huawei nova 7 AR Selfies

Ultrawide

1x

3x

5x

3x

5x

Ultrawide

1x

3x

5x

Ultrawide

1x

3x

5x

Macro

Macro

Macro

Macro

Huawei nova 7 เป็นสมาร์ทที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งในตอนนี้ครับ ครบเครื่องมากๆ ทั้งดีไซน์ที่โดดเด่น วัสดุคุณภาพสูง โลหะและกระจก หน้าจอ OLED ที่สวยงาม กล้องหน้าเจาะรูแบบ Punch-hole Display สเปคแรงระดับ Kirin 985 5G, RAM 8GB, ROM 256GB ให้มาจุใจมากๆ กล้องคุณภาพดีทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง แบตเตอรี่อึดมากๆ สามารถใช้งานได้นาน เรียกว่าลืมชาร์จไปเลยครับ ที่สำคัญมาพร้อม 5G ที่สามารถใช้งานได้เลยในประเทศไทย แถมยังครอบคลุมสัญญาณ 5G ได้อย่างหลากหลาย ในราคาเบาๆ เพียง 16,990 บาท เป็นการเปิดราคามาได้แบบน่าตกใจมากๆ จนผมว่าการไม่มี Google Mobile Service (GMS) เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยไปเลยครับ คุ้มมากจริงๆ

1. ดีไซน์สวยงาม ดีไซน์ฝาหลังที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วๆไปในท้องตลาด
2. วัสดุพรีเมี่ยม โลหะ และกระจก
3. หน้าจอ OLED รูปแบบ Punch-hole Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ สวยงามมาก
4. รองรับ 5G พร้อมใช้งานในประเทศไทย ตั้งแต่แกะกล่อง
5. สเปคแรง และจุใจ Kirin 985 5G, RAM 8GB, ROM 256GB
6. กล้องคุณภาพดี ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
7. แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh อึดมากๆ รองรับชาร์จเร็ว Fast Charging 40W ชาร์จเต็ม 75% ในเวลาเพียง 30 นาที
8. ราคาสุดคุ้ม เป็นสมาร์ทโฟน 5G สเปคสูง ที่เปิดราคามาคุ้มค่ามากๆ

1. ไม่รองรับ Google Mobile Service (GMS)
2. ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้