");
รีวิว OnePlus 8 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงสีสวย หน้าจอ 120Hz สเปกแรง Snapdragon 865 พร้อมรองรับ 5G
OnePlus 8 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปสุด ณ เวลานี้ของ OnePlus ประเทศไทย ที่ยังคงมาพร้อมนิยามใหม่ "Super Flagship" อีกครั้ง ซึ่งบ่งบอกว่านับจากนี้เราอาจจะไม่ได้เห็นสมาร์ทโฟนวันพลัสในรูปแบบ 'นักฆ่าเรือธง' ที่เน้นอัดสเปกแรงๆ พร้อมด้วยการเปิดราคาเขย่าตลาดอีกแล้ว แต่เราจะได้เห็นยุคใหม่ของวันพลัสบนเส้นทางของตลาด Flagship ที่มีคู่แข่งบิ๊กๆ รออยู่เพียบนับจากนี้
OnePlus 8 Pro จึงเป็นสมาร์ทโฟนที่อาจถือได้ว่าเป็นบททดสอบอีกครั้งของค่าย ในการก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็เป็นได้ เพราะนอกจากจะเป็นการรีตำแหน่งในตลาดของตัวเองแล้ว ราคาวางจำหน่ายเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนก็กระโดดขึ้นไปสเต็ปหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับเทียบเท่าแบรนด์ดังๆ เลยทีเดียว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการนำเทคโนโลยี 5G ที่ยังสดใหม่เข้ามาใช้งานด้วย ส่วนที่เหลือ...คงต้องตามผมไปพิสูจน์และลองเล่นเจ้า OnePlus 8 Pro พร้อมกันครับ เพื่อหาคำตอบที่หลายคนกำลังมีขึ้นในตอนนี้ว่า "OnePlus 8 Pro" น่าซื้อหรือไม่ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน!
สำหรับกล่องของ OnePlus 8 Pro ในรอบนี้ยังคงใช้สีแดงเป็นสีหลักของกล่องเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้พอได้ตัวเครื่องเป็นสีน้ำเงิน (Ultramarine Blue) มันตัดกันสวยซะไม่มีเลยล่ะครับ ในขณะที่ด้านหน้าของกล่องแปะข้อความ "8" มา เพื่อสื่อถึงการก้าวเข้าสู่ซีรีย์ที่ 8 ของบริษัทแล้วนั่นเอง ส่วนอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมตัวเครื่อง OnePlus 8 Pro มีดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง OnePlus 8 Pro
- สายชาร์จ USB-C (2.0) สีแดง รองรับ Warp Charge 30T (30W)
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ Warp Charge 30T (30W)
- เคสใสพร้อมลวดลายข้อความ "Never Settle"
- คู่มือการใช้งานและการรับประกัน
- สติ๊กเกอร์ OnePlus
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
งานออกแบบของ OnePlus 8 Pro ใช้คอนเซ็ปท์การออกแบบผสมผสานระหว่าง "Durable and Shades of perfection" ที่เน้นออกแบบให้ตัวเครื่องดูเรียบง่าย คุ้นเคย แต่พอมองแล้วกลับรู้สึกสวยงาม หรูหรา ด้วยเฉดสีพิเศษของวันพลัส พร้อมกับรูปแบบการรองรับการใช้งานที่สมบุกสมบัน ด้วยคุณสมบัติกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
เทียบขนาดตัวเครื่องกับ OnePlus 7T และ OnePlus 8
- ขนาดตัวเครื่อง OnePlus 8 Pro : กว้าง 74.3 x สูง 165.3 x หนา 8.5 มิลลิเมตร น้ำหนักรวม 199 กรัม
- ขนาดตัวเครื่อง OnePlus 8 : กว้าง 73 x สูง 160.2 x หนา 8 มิลลิเมตร น้ำหนักรวม 180 กรัม
- ขนาดตัวเครื่อง OnePlus 7T : กว้าง 74.4 x สูง 161 x หนา 8.1 มิลลิเมตร น้ำหนักรวม 190 กรัม
ด้านหน้าตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอแสดงผล ที่ส่วนตัวยกให้เป็นหน้าจอที่สวยหนึ่งในสามรุ่นของตลาดมือถือ Flagship ตอนนี้เลยครับ แถมยังกวาดมาตรฐานการผลิตมาครบเกือบทุกสถาบันเลยก็ว่าได้ ตัวหน้าจอแสดงผลเป็น Fluid AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 3168x1440 พิกเซล (QHD+) แสดงผลด้วยอัตรา Refresh rate ได้สูงสุดที่ 120Hz บนความละเอียดระดับ QHD+, มีอัตราส่วนหน้าจอ 19.8 : 9 และครอบทับด้วยกระจกกันรอยแบบ 3D จาก Corning Gorilla Glass
มาตรฐานหน้าจอแสดงผลของ OnePlus 8 Pro
- รองรับ HDR10+
- ได้คะแนน A+ rating จาก DisplayMate
- ได้การรับรองเป็นจอถนอมสายตาตามหลักเกณฑ์ของ SGS Eye Care Display Certification.
บริเวณมุมซ้ายด้านบนของหน้าจอ จะเป็นกล้องถ่ายรูปด้านหน้าความละเอียด 16 MP แบบ Fixed Focus ซึ่งตัวเลนส์กล้องจะถูกซ่อนเอาไว้ใต้หน้าจอ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า "จอเจาะรู" นั่นแหละครับ
ด้านล่างตัวเครื่อง มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C (2.0), ลำโพงเสียงตัวเครื่อง และช่องถาดซิมการ์ด (Dual SIM Tray)
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume)
ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเลื่อนเพื่อปรับเสียงเรียกเข้าของตัวเครื่อง 3 ระดับ คือ ปกติ, เงียบ และสั่นเตือน ส่วนอีกปุ่มเป็นปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power)
ด้านหลังตัวเครื่อง ครั้งนี้ฝาหลังมีการเคลือบสารแบบด้าน ทำให้เวลาถือจับอาจเป็นรอยคราบนิ้วมือง่ายหน่อยนะครับ แต่แลกกลับความสวยแบบ Matte ที่ผมค่อนข้างชอบเลย ในขณะที่กล้องถ่ายรูปครั้งนี้ใช้แบบ Quad camera ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 MP, กล้องมุมกว้างความละเอียด 48 MP, กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 MP และกล้อง Color Filter Lens ความละเอียด 5 MP ทั้งหมดถูกมัดรวมมาพร้อมกับไฟแฟลช Dual LED ติดตั้งมาให้บริเวณตรงกลางของฝาหลังของเครื่องตามแนวทางออกแบบสมมาตร
สเปกตัวเครื่องของ OnePlus 8 Pro
รายละเอียดสเปกตัวเครื่องของ OnePlus 8 Pro - จอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 3168x1440 พิกเซล (513PPI, QHD+)
- CPU Snapdragon 865 with Modem 5G X55
- GPU Adreno 650
- RAM 12GB (LPDDR5)
- ROM 256GB (UFS3.0, 2-LANE)
- Oxygen OS 10 Base on Android OS 10
- กล้องถ่ายรูป Quad Camera ความละเอียด 48+48+8+5 MP (Main F1.78 + Wide F2.44 + Telephoto F2.2 + Color Filter F2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด 16 MP (F2.45)
- WiFi 6, LTE : 4x4 MIMO DL Cat 18 / UL Cat 13
- Bluetooth 5.1
- NFC
- USB-C
- Dolby Atmos Sound
- สแกนนิ้วมือบนหน้าจอแสดงผล
- Battery 4,510 mAh (Warp Charge 30T & Warp Charge 30W Wireless)
Oxygen OS 10 Base on Android OS 10
OnePlus 8 Pro ทำงานบน Oxygen OS เวอร์ชั่น 10 ซึ่งใช้พื้นฐานตัว OS มาจาก Android OS 10 ดังนั้นฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ของ Android 10 ที่ทาง Google ประกาศไว้ก็ถูกนำมาใช้บนตัวเครื่องด้วยครับ ในขณะที่การใช้งานทั่วไปลื่นไหลมาก ไม่มีอาการปิดตัวของแอปพลิเคชั่นให้เห็นเลยตลอดที่ใช้งาน การสลับแอปพลิเคชั่นไปมาเพื่อใช้งานทำได้รวดเร็วมากๆ การเรียกรูปภาพจาก Gallery ขึ้นมาใช้กับพวกแอปพลิเคชั่นแต่งรูปก็ทำได้ลื่นและเร็ว ถ้าเห็นภาพมากขึ้นว่าลื่นและเร็วยังไง ผมอยากให้นึกถึง Android ROM ของ Google เองบน Pixel Phone เลยครับ ให้ความรู้สึกขณะใช้งานที่เหมือนกันเลย การทัชลื่นติดนิ้วมากๆ แตะเบาๆ ก็ไปแล้ว การตอบสนองต่อการเรียกใช้งานฟีเจอร์หรือแอปพลิเคชั่นก็ทำได้รวดเร็ว ดีเลย์ต่ำสุดๆ หรือแทบไม่มีเลย
ซึ่งผลที่ออกมาก็ไม่ประหลาดใจเท่าไรครับ เพราะตัว Oxygen OS ได้ทีมพัฒนาสุดเทพอย่าง Cyanogen มาดูแลหายห่วงได้เลย ถ้าใครเคยใช้งาน Android OS ในยุคที่ต้องเล่นรอมโมน่าจะรู้จักทีมพัฒนาทีมนี้ดีแน่นอนว่าการันตีความลื่นได้เลย ส่วนข้อติที่เจอก็คงเป็นเรื่องของการรับรองรูปแบบอัตราส่วนหน้าจอ 19.8 : 9 เนี่ยแหละครับ ซึ่งในบางแอปพลิเคชั่นยังไม่รองรับในเรื่องนี้ เช่น Instagram เวลาอัปโหลดวีดีโอขึ้นไปตัววีดีโอจะโดนบีบสเกลในเป็นแนวยาว เวลาคนอื่นดูจะรู้สึกเพี้ยนทันที คิดว่าเดียวคงมีอัปเดตมาแก้ไข
หน้าตา UI ของ OxygenOS 10
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน Oxygen OS 10
เริ่มกันที่ฟีเจอร์ช่วยในการแสดงผลและเรื่องของหน้าจอ ที่นอกจากจะใส่ฮาร์ดแวร์เทพอย่างจอแสดงผล Fluid AMOLED 120Hz บนความละเอียด QHD+ มาให้แล้ว ทาง OnePlus ยังได้ใส่ฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์เพิ่มเข้ามาบนเครื่องให้เยอะเลยครับ อย่างเช่น Always on Display เป็นฟีเจอร์แสดงผลข้อมูลต่างๆ เวลาตัวเครื่องพักหน้าจอที่น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็ใส่มาให้ด้วย
Comfort tone : ฟีเจอร์ปรับเปลี่ยนโทนสีของหน้าจอแสดงผลให้เหมาะสมกับแสงสภาพแวดล้อม ณ จุดที่เราใช้งานเช่น ถ้าใช้งานในห้องที่เปิดไฟนีออนสีโทนเหลืองส้ม หน้าจอก็จะเปลี่ยนโทนสีไปเป็นโทนเหลืองส้มเหมือนกัน
Vibrant color effect Pro : เป็นฟีเจอร์ที่จะเร่งการแสดงเม็ดสีของภาพให้สดขึ้น สามารถใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ รวมถึงแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งอย่าง Youtube ก็ใช้งานร่วมกันได้ เพียงแต่ถ้าวีดีโอไหนที่สีค่อนข้างสดอยู่แล้ว พอมาเจอฟีเจอร์นี้จะยิ่งทำให้ภาพสดขึ้นอีกจนมืดไปเลยนะครับ ถ้าไม่ชอบก็มาปิดได้เองเลย
Motion graphics smoothing : นอกจากหน้าจอแสดงผลที่มีอัตรา Refresh rate 120Hz แล้ว วันพลัสยังใส่ฟีเจอร์เพิ่มความสมูธต่อภาพเคลื่อนไหวหรือวีดีโอเข้ามาด้วย ทำให้เราสามารถดูวีดีโอได้เนียนตาขึ้นเวลาเจอภาพ Motion เร็วๆ เช่นฉากรถแข่งที่ขับมาเร็วๆ, การเคลื่อนไหวตัวขณะวิ่งหรือเดิน เป็นต้น แต่เวลาเปิดใช้งานร่วมกับ Youtube กลายเป็นไม่เข้ากันซะอย่างนั้น เพราะเวลาเจอภาพเคลื่อนไหวในคลิปจะกลายเป็นเหมือนไปเร่งสปีดวีดีโอแทน แต่ถ้าใช้ดูไฟล์วีดีโอต่างๆ บนตัวเครื่อง ก็รู้สึกว่าภาพวีดีโอดูเนียนตาขึ้น
สแกนนิ้วบนหน้าจอแสดงผล
OnePlus 8 Pro มีระบบป้องกันข้อมูลบนตัวเครื่องให้เลือกใช้งานนอกเหนือจากระบบพื้นฐานอย่าง Pin หรือ Password ด้วยกันสองอย่างคือ สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ กับ ปลดล็อคด้วยใบหน้า (Face Unlock) ครับ สำหรับระบบยืนยันตัวตนทั้งสองอย่างจากที่ใช้งานมาให้การตอบสนองที่ไวและแม่นยำพอสมควร การสแกนนิ้วเวลาเร่งรีบทำให้แตะสแกนไม่เต็มนิ้ว ก็ยังสามารถปลดล็อคได้ทันใจอยู่เหมือนกัน
ปรับแต่งไอคอน UI ด้วยตัวเอง
เป็นลูกเล่นเล็กๆ ที่วันพลัสใส่เข้ามาให้เหล่าผู้ใช้งานจอมซนไม่ชอบความ Original บน Oxygens OS เท่าไรนัก จึงใส่ฟีเจอร์ Customize icon มาให้ด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกปรับแต่งไอคอนแอปพลิเคชั่นหรือฟีเจอร์ต่าๆ บนหน้า UI ได้ตามใจต้องการ โดยจะมีไอคอนแพ็คมาให้เลือกหลายแบบหรือจะหาดาวน์โหลดเพิ่มเติมก็ได้ รวมถึงการเปลี่ยน Font บนตัวเครื่องหรือธีมต่างๆ ก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้เช่นกันครับ
LIVE Caption & Dolby Atmos
สำหรับสาย Entertainment บน OnePlus 8 Pro ก็มีลูกเล่นสนุกๆ อย่าง LIVE Caption มาให้ฝึกภาษากันด้วย โดยตัวฟีเจอร์จะทำหน้าที่ขึ้น Subtitle ให้บนวีดีโอทั้งสตรีมมิ่งหรือออฟไลน์ขณะเล่นให้อัตโนมัติ ถ้าหากวีดีโอนั้นมีซับมาให้อยู่แล้วและเปิดฟีเจอร์นี้มันจะไปแทนที่ซับที่มากับวีดีโอด้วยนะ ส่วนความแม่นยำของภาษาส่วนตัวให้ 90% เลยครับสำหรับการแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ (ยังไม่รองรับอังกฤษเป็นไทย)
ในขณะที่ด้านเสียงบนตัวเครื่องก็ใส่ Dolby Atmos มาให้เป็น EQ พื้นฐานบนตัวเครื่อง เท่าที่ฟังดูถ้าใช้งานผ่านลำโพงเครื่องจะยังไม่ผ่านเท่าไรเสียงเบาและเสียงเป็นโมโนมากๆ ด้วยการที่ใส่ลำโพงเสียงมาจุดเดียว แนะนำว่าให้เชื่อมต่อกับหูฟังไร้สาย (ตัวเครื่องไม่มีรู 3.5 มิลลิเมตร) ช่วยเพิ่มอรรถรสได้ขั้นหนึ่ง
ซับเดิมที่มากับวีดีโอบน Youtube
ซับที่เปิดด้วย LIVE Caption
ยังมีงงๆ เวลาเจอคำที่แปลไม่ได้ ก็จะใส่เป็นภาษาคาราโอเกะให้เลย เท่ไหม!
Zen mode
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อยากแนะนำมากๆ ครับกับฟีเจอร์ทดสอบการติดโทรศัพท์มือถือของตัวเอง Zen mode ที่จริงโหมดนี้มีไว้เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้มีช่วงเวลาพักสายตาจากหน้าจอมือถือเพื่อไปทำกิจกรรมอย่างอื่นในระหว่างวัน ซึ่งรูปแบบการใช้งานก็คือ เมื่อเข้าสู่โหมด Zen แล้วตัวเครื่องจะแสดงเวลาที่กำหนดแบบนับถอยหลังพร้อมกับล็อคทุกอย่างบนตัวเครื่อง เราจะไม่สามารถกดปุ่มหรือสั่งออกจากโหมดนี้ หรือปิดเครื่องใดๆ ได้เลยครับ รวมถึงตัดขาดจากโลกออนไลน์ทั้งหมดภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยขั้นต่ำอยู่ที่ 20 นาที เรียกว่าจิตใจไม่เข้มแข็งพออย่าได้ลองเล่นเลยนะ!
ฟีเจอร์อื่นๆ ทั่วไป
กล้องถ่ายรูป Quad camera 48 MP
ด้านกล้องถ่ายรูปครั้งนี้พี่ OnePlus เขามาแหวกแนวอีกครั้งด้วยการใส่กล้อง Quad camera ที่มีกล้อง Color Filter แยกออกมาเฉพาะมาให้เลยบน OnePlus 8 Pro ทำให้ภาพถ่ายที่ใช้งานด้วยโหมดถ่ายภาพฟิลเตอร์ต่างๆ บนตัวเครื่อง จะมีความโดดเด่นขึ้นรวมถึงภาพคมชัดและสมจริงขึ้น ด้วยการที่มีฮาร์ดแวร์มาทำงานคู่กับซอฟต์แวร์เลยนั่นเอง
ส่วนกล้องทั้งสี่ของ OnePlus 8 Pro ประกอบด้วย
- กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX689 ความละเอียด 48 MP (f/1.78) มีระบบกันสั่น OIS และ EIS ในตัว
- กล้องเลนส์มุมกว้างความละเอียด 48 MP (f/2.2) ให้ค่า FOV กว้าง 120 องศา
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 MP (f/2.44) มี OIS ในตัว
- กล้อง color Filter ความละเอียด 5 MP (f/2.4)
หน้าตา UI กล้องถ่ายรูป
คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ
- รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K @60FPS
- รองรับการบันทึกภาพวีดีโอ Slow motion ที่ความละเอียด 1080P @240FPS
ส่วนผลงานหลังกล้องจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปรับชมภาพตัวอย่างจากกล้อง Quad camera 48MP บน OnePlus 8 Pro ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ภาพตัวอย่างจากกล้อง OnePlus 8 Pro
ระยะปกติ 1x
ระยะซูม 3x Optical
ระยะซูมภาพ 30x Digital
- SuperMacro (ระยะใกล้วัตถุ)
ถ่ายได้ใกล้วัตถุมากๆ ประมาณ 2.5 ซม.
ภาพตัวอย่าง superMacro Mode
กล้องหน้าความละเอียด 16 MP (f/2.4) |Sensor Sony IMX471
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้าบน OnePlus 8 Pro
PhotoChrom (Color Filter)
มาถึง PhotoChrom ฟิลเตอร์ถ่ายรูปใหม่ที่กำลังเป็นกระแสของรุ่นนี้อยู่ เพราะก่อนที่จะได้รับการอัปเดทแก้ไขเจ้าฟิลเตอร์นี้ดันสามารถถ่ายภาพทะลุข้างในของบางชิ้นได้ ทำให้บางคนเกิดนึกอยากลองกับคนดูบ้าง จึงร้อนไปยังวันพลัสที่กลัวว่าจะเกิดปัญหาตามมาจึงรีบปล่อยอัปเดทแก้ไขออกมาเรียบร้อยแล้ว (ที่จริงถ่ายคนไม่ทะลุอยู่แล้วนะ)
โหมดนี้จริงๆ แล้วทางวันพลัสตั้งใจจะนำเทรนด์การถ่ายรูป Landscape แบบ PhotoChrom มาเปิดประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งาน จึงตั้งใจติดตั้งกล้องเฉพาะทางมาให้เลยทีเดียว โดยความสามารถของฟิลเตอร์นี้คือการเปลี่ยนสีที่เป็นสีโทนเข้มอย่างเช่น สีใบไม้, สีผม, สีดวงตาของคนให้กลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนแบบวินเทจตัดกับพื้นของภาพที่เป็นสีขาวเทา เพื่อให้เกิดภาพวินเทจผสมเรโทรขึ้นมานั่นเอง
ภาพตัวอย่างจากฟิลเตอร์ PhotoChrom
พิสูจน์ให้แล้วนะ!!
ประสบการณ์การใช้งานอื่นๆ บน OnePlus 8 Pro
สำหรับการเล่นเกมบนตัวเครื่อง OnePlus 8 Pro อย่างที่หลายคนน่าจะพอเดาได้ว่า การที่เลือกใช้ชิปประมวลผล Snapdradragon 865 ทำงานร่วมกับ RAM 12GB (LPDDR5) และ ROM UFS 3.0 บวกกับรอมที่พัฒนามาได้ลื่นอยู่แล้วและโหมดเล่นเกมที่พัฒนาร่วมกับค่าย E-sport ชื่อดัง ผลคือการตอบสนองต่อการเล่นเกมนั้นทำได้ถูกใจคอเกมแน่นอน สามารถปรับแต่งรูปแบบการเล่นเกมต่างๆ ได้มากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป และประสบการณ์การเล่นเกมที่เนียนตา สมูทมากๆ ส่วนการทัชก็ติดมือดีเยี่ยมถึงแม้จะมีทัชพลาดอยู่บ้าง แต่นั้นก็นิดหน่อยเท่านั้นครับ
ข้อติเดียวที่อยากติคือเรื่องของความร้อนขณะเล่นเกมที่ยังทำได้ไม่ดีนัก ซึ่งถ้าหากเล่นเกมติดต่อกัน 1 ชม. ขึ้นไป ตัวเครื่องจะเริ่มร้อนแบบสัมผัสได้และถ้าหากเล่นนานขึ้นอีกก็จะร้อนจนต้องวางเลยทีเดียว ถ้าใครไม่ได้เล่นในห้องแอร์คงไปต่อไม่ไหวแน่นอนครับ ส่วนร้อนแล้วเฟรมเรทตกไหม? ตอบเลยว่ามีครับแต่ไม่เยอะและไม่น่าเกลียดเล่นต่อได้เนียนๆ
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยคะแนน Benchmark
- ทดสอบด้วย Antutu Benchmark ได้คะแนนรวม 578,136 คะแนน
- ทดสอบการรันชิปประมวลผลด้วย GeekBench 5 ได้คะแนน Single core 909 | Multi-Core 3326 คะแนน
- ทดสอบด้านกราฟฟิกการ์ดด้วย 3D Benchmark SlingShot Extreme ได้คะแนน OpenGL 7143 | Vukan 6557
- ทดสอบการอ่าน-เขียนของหน่วยความจำด้วย AndroBench ได้ผลการอ่าน 1627.03 MB/s | การเขียน 743.31 MB/s
- ทดสอบการทัชแบบมัลติทัชได้สูงสุด 10 จุด
เรื่องของพลังงานกันบ้างครับ เป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนใช้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เลยทีเดียว สำหรับ OnePlus 8 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,510 mAh รองรับการชาร์จไวแบบสาย 30W และแบบไร้สาย 30W รวมถึงเปลี่ยนร่างตัวเองให้เป็นพาวเวอร์แบงค์ไร้สาย (Reverse Wireless Charge) ให้คนอื่นได้ด้วย ซึ่งการชาร์จแบบไร้สายเป็นรุ่นแรกของโลกนะครับที่ทำได้ที่ 30W และทางวันพลัสก็เคลมว่าถ้าชาร์จแบบไร้สายที่ 50% จะชาร์จเต็ม 100% ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น! จากที่ลองใช้งานก็ประมาณนั้นเลยครับบวกลบสัก 5 นาที
ส่วนการกินพลังงานขณะใช้งาน ถ้าหากเพื่อนๆ เลือกใช้ความละเอียดหน้าจอ QHD+ 120Hz และใช้งานฟังเพลงออนไลน์ ดูยูทูปหรือสตรีมมิ่งต่างๆ รวมถึง Social Media ด้วยน่าจะไม่เกิน 4 ชั่วโมง แบตฯ หมดสนิทแน่นอน แต่ถ้าปรับลงที่ Full HD+ 120Hz ก็ไปได้นานขึ้นอีกประมาณ 1-1.5 ชั่วโมงครับ ภาพรวมก็อยู่ที่ประมาณ 4-6 ชั่วโมง บน Refresh rate 120Hz แต่ถ้าไม่ได้ใช้ทำกิจกรรมอะไรเลยสแตนบายเฉยๆ ก็ไปได้ถึงเย็นเลยนะ!
มาถึงช่วงท้ายของการรีวิวแล้ว สำหรับผมที่ลองเล่นและใช้งานจริงมาสักพักใหญ่ก็ขอสรุปเกี่ยวกับ OnePlus 8 Pro ว่าเป็นมือถือ Flagship ที่มีคุณสมบัติและความสามารถแบบบาลานซ์ในทุกๆ ด้านของการใช้งานและการเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงครับ ตัวเขาเองไม่ได้โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ (ถ้าไม่นับเรื่อง ROM) แต่สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานได้ครบทุกมิติที่คนๆ หนึ่งมองหาบนสมาร์ทโฟนเรือธงเวลาจะเลือกซื้อ ซึ่งถ้าหากมีกราฟคะแนนเป็นดาวห้าแฉกเจ้า 8 Pro ก็อยู่ตรงกลางเลยครับ ดังนั้นใครที่มองหาสมาร์ทโฟนเรือธงสเปกแรงๆ รอม Android ลื่นๆ มีอัปเดตตลอด ครบเครื่องครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันหรืออกทริป "OnePlus 8 Pro" จะเป็นเพื่อนรู้ใจให้คุณได้แน่นอน! และอย่าลืมว่าเขารองรับ 5G ด้วยนะถึงจะต้องรออัปเดตอยู่ก็ตาม
การวางจำหน่าย
ตอนนี้ทาง OnePlus วางจำหน่าย OnePlus 8 Pro อย่างเป็นทางการแล้วในไทย ด้วยราคาค่าตัว 34,990 บาท มีวางจำหน่ายรุ่นเดียวคือรุ่น RAM 12GB | ROM 256GB ตัวเครื่องรองรับ 5G โดยมีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 2 สีในตอนนี้คือสีฟ้า Ultramarine Blue และสีเขียว Glacial Green ผ่านช่องทางออนไลน์ AIS Shop online, Lazada และ JDCentral