OPPO Reno2 Series สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก ออปโป้ ทำไมถึงมียอดจองถล่มทลาย มาดูเหตุผลกัน!

เปิดตัวกันไปเรียบร้อยสำหรับ OPPO Reno2 Series ทายาทลำดับที่สองของ OPPO Reno Series ในประเทศไทย ซึ่งก็ยังคงได้รับการตอบรับจากแฟนๆ อย่างอบอุ่นเหมือนเช่นเคย จนทำสถิติยอดจองถล่มทลายเลยทีเดียว โดยความสำเร็จในครั้งนี้นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ ออปโป้ สามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้งานในไทยได้มากขึ้นแล้ว ตัวผลิตภัณฑ์ทั้งสองไม่ว่าจะเป็น OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F ต่างก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจ และมีพัฒนาการขึ้นจนทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ เป็นอย่างมาก 

ดังนั้นเพื่อให้เห็นภาพกันมากขึ้น เลยอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นใหม่ของ ออปโป้ ทั้ง OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F กันแบบง่ายๆ อีกครั้งผ่านบทความนี้ เพื่อไขข้อสงสัยให้กับคนที่กำลังสนใจหรือยังสงสัยลังเลใจว่า ทำไมสมาร์ทโฟนสองรุ่นใหม่ของออปโป้ ถึงได้รับการตอบรับที่ดีมากจนทำยอดจองถล่มทลายขนาดนี้ ถ้าพร้อมแล้ว ... ไปลุยกันครับ!

OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F ยังคงมาพร้อมแนวทางการออกแบบที่พิถีพิถันและมีเอกลักษณ์ตามสไตล์ออปโป้ โดยครั้งนี้ทางออปโป้ยังคงเลือกนำดีไซน์ Panoramic screen เป็นการออกแบบตัวเครื่องแบบไร้รอยต่อ (Unibody) ที่เคยสร้างความฮือฮามาแล้วใน Find X มาเติมแต่งรายละเอียดต่างๆ ทั้งเรื่องสีสัน แนวทางการวางตำแหน่งปุ่มต่างๆ ลงไปใหม่ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น และนำผลลัพธ์ที่ได้มาใช้กับสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นได้อย่างลงตัว

OPPO Reno2

อย่างที่บอกครับว่า ครั้งนี้ทางออปโป้เขาใส่ใจรายละเอียดในการออกแบบเป็นอย่างมาก ดังนั้นนอกจากจะออกแบบตัวเครื่องให้สวยงามและลงตัวแล้ว ทางออปโป้ยังมองข้ามสเต็ปไปถึงการออกแบบภาพพื้นหลัง (Wallpaper) ที่อยู่บน ColorOS 6.0 ให้มีการไล่โทนสีต่างๆ ให้เข้ากับตัวเครื่องด้วยนะ ใส่ใจมากๆ เลย และครั้งนี้ทางออปโป้ได้รวม F Series เดิม ที่หลายคนชื่นชอบเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Reno2 Series ด้วย ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสมาร์ทโฟนที่มีงานออกแบบที่หรูหราในสไตล์ Reno แต่วางจำหน่ายในราคา F series อย่าง OPPO Reno2 F ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

OPPO Reno2 F

"กล้องถ่ายรูป" เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F ที่ยังคงได้รับการสืบทอดในด้านประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีมาจากรุ่นพี่หลายส่วน แต่ที่พิเศษขึ้นก็คือการที่ออปโป้ได้นำเทคโนโลยีกล้องหน้าแบบ Pop-up มาใช้งานบนสมาร์ทโฟนทั้งสองเครื่อง พร้อมกับติดตั้งกล้องถ่ายรูป Quad camera มาให้ด้วย ยิ่งทำให้กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และแน่นอนว่า ถ่ายภาพได้ "ชัดทุกระยะ สวยทุกมุมมอง" ตามสโลแกนของ Series นี้เลยก็ว่าได้

โดย OPPO Reno2 นั้นจะมาพร้อมกล้อง Quad camera ที่ประกอบด้วย

• กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F1.7)
• กล้องมุมกว้าง (Wide Angle) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F2.2)
• กล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (F2.4)
• กล้อง Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F2.4)

ทำให้กล้อง Quad camera ของ OPPO Reno2 โดดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพชัดทุกระยะทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวขนาดไหนก็ถ่ายวิดิโอได้นิ่งที่สุดด้วยโหมดถ่ายภาพวีดีโอ Ultra Steady Mode ทั้งยังสามารถสร้างสรรค์วิดีโอและภาพถ่ายด้วยโหมด Bokeh Effect VDO ที่จะละลายฉากหลังให้ตลอดการบันทึกวีดีโอ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นซูม 5x Hybrid Zoom, ซูมได้สูงสุด 20 เท่า พร้อม Ultra Macro Mode ช่วยให้ถ่ายภาพวัตถุได้ใกล้ถึง 2.5 เซนติเมตร และ Ultra Wide Angle สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพมุมกว้าง กว้างได้สวยบ้านไม่เบี้ยวแน่นอน

กล้องหน้าของ OPPO Reno2 เป็นแบบ Shark Fin หล่อมากๆ

• กล้องหน้า

  

• กล้องหลัง

  

สำหรับ OPPO Reno2 F ถึงแม้จะเป็นน้องเล็ก แต่ทาง ออปโป้ ก็จัดสเปคกล้องมาให้ไม่แพ้รุ่นพี่รีโน่ 2 โดยใส่กล้อง Quad camera มาให้เช่นกัน ประกอบด้วย

• กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F1.7) 
• กล้องมุมกว้าง (Wide Angle) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F2.2) 
• กล้อง Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F2.4) 
• กล้อง Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F2.4)

กล้องหน้า Pop-up ด้วยนะ เท่มากๆ

โดยกล้อง Quad camera ของ OPPO Reno2 F จะเด่นในเรื่องของการถ่ายแบบสวยทุกมุมมอง มีเลนส์ Portrait ความละเอียด 2MP ที่มี "Bokeh Effect" ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพได้แบบหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งถ่ายภาพได้ทั้งพอร์ทเทรท และเซลฟี่ ได้อย่างเป็นธรรมชาติและสวยที่สุด โดยกล้องหน้าเขาก็มาในดีไซน์สุดเก๋ เพราะเป็นใช้กล้องแบบ Pop-up Camera โดยจะเปิดขึ้นอัตโนมัติเมื่อเรียกใช้งาน ทั้งยังรองรับการถ่ายภาพกลางคืนด้วย Ultra Night Mode 2.0!! ได้รับการปรับปรุงคุณภาพถ่ายภาพกลางคืนได้ดี สวยคมชัดมากขึ้น

• กล้องหน้า

  

• กล้องหลัง

  

ในด้านของสเปคตัวเครื่อง ถึงแม้ทั้งสองรุ่นจะมีรายละเอียดสเปคที่แตกต่างกัน แต่ภาพรวมบอกได้เลยครับว่า "แรงไม่แพ้ใคร" แน่นอน โดย OPPO Reno2 จะมาพร้อมจุดเด่นด้านสเปคคือ การเลือกใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 730G, GPU Adreno 618 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลสำหรับเกมมิ่งของ Qualcomm โดยเฉพาะเลยครับ ทำงานร่วมกับ RAM 8GB และหน่วยความจำภายในที่ให้มากถึง 256GB เลยนะ

ในขณะที่ทางด้าน OPPO Reno2 F ถึงแม้จะเป็นน้องเล็กของซีรีย์ แต่สเปคไม่เล็กเลยนะครับ โดย Reno2 F เลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Helio P70, GPU Mali G72 MP3 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลรองท็อปของ P Series ที่ทาง MediaTek ออกแบบมาให้รองรับกับความต้องการในการเล่นเกมเหมือนกัน ทำงานร่วมกับ RAM 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB รองรับ MicroSD Card ได้อีกถึง 256GB โอ้วว บอกแล้วสเปคไม่ธรรมดา!

เรื่องของแบตเตอรี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่หลายคนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแหล่งพลังงานหลักของสมาร์ทโฟน ดังนั้นถ้าหากมีไม่เพียงพอกับความต้องการในการใช้งาน ก็ทำให้คุณต้องพกพาอุปกรณ์เสริมให้วุ่นวายอีก แต่บน OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F ทางออปโป้ได้ใส่แบตเตอรี่มาให้มากถึง 4,000 mAh ทั้งคู่ และทั้งสองรุ่นยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC 3.0 ทำให้สามารถชาร์จไฟกลับเข้าเครื่องได้รวดเร็ว ซึ่งจากที่เคยลองชาร์จดูเวลา 30 นาที ได้พลังงานกลับมาถึงประมาณ 60% เลยนะ เร็วมากๆ 

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะเห็นภาพและน่าจะตอบข้อสงสัยได้แล้วว่า ทำไม OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F ถึงได้รับกระแสตอบรับที่ดีจนมียอดจองถล่มทลายขนาดนี้ แน่นอนครับว่า "ความคุ้มค่า ในราคาที่จับต้อง" ได้มากขึ้น คือคำตอบที่ทำให้ Reno2 Series ประสบความสำเร็จทันทีที่เปิดจอง ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ทางออปโป้เขาใส่ใจถึงลูกค้าของตัวเองเป็นอย่างดี ว่าต้องการอะไร และสิ่งไหนที่ลูกค้าชอบ และส่วนหนึ่งก็มาจากการที่สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นถูกรังสรรค์ออกมาได้ดีมากๆ ทั้งในเรื่องของดีไซน์ และสเปค รวมถึงทำราคาได้น่ารักมากๆ นั่นแหละครับ!

โดยจะมีสีให้เลือก 2 สี คือ สีขาว SkyWhite และ สีเขียว Lake Green

โดยมีสีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ Luminous Black และ สีชมพู Suset Pink