รีวิว realme 5 สมาร์ทโฟนสเปกสวยสุดในซอย จัดเต็มกล้อง 4 ตัว แบตอึด 5,000 mAh กับค่าตัวไม่ถึงห้าพัน!
realme 5 เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นในซีรีส์ 5 ของแบรนด์
เรียลมี ที่เปิดตัวออกมาพร้อมรุ่นพี่
realme 5 Pro ภายใต้แนวคิด
'Dare to Leap' กับก้าวกระโดดของการพัฒนาทางด้านประสิทธิภาพและดีไซน์ที่แตกต่างกับสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน โดย
realme 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่มากับจุดเด่นหลักกล้องหลัง AI มากถึง 4 ตัว และแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000 mAh ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 5,000 บาท ที่เชื่อว่าในย่านราคาเดียวกัน ยังไม่มีใครกล้าให้มากกว่านี้แน่นอน!
แกะกล่อง realme 5 Pro และ realme 5 สมาร์ทโฟนกล้องหลัง 4 ตัวรุ่นแรกของ เรียลมี!
realme 5 สมาร์ทโฟน "4 เลนส์ พลังแบตเกินพิกัด" ที่มาพร้อมกับความเป็น 'รุ่นแรก' ถึง 2 อย่างตามสโลแกน คือ เป็นสมาร์ทโฟนกล้องหลัง 4 ตัวรุ่นแรกในเรทราคาระดับเดียวกัน และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกทีมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่แบรนด์เคยมีมา ซึ่งนอกจากในเรื่องของกล้องและแบตเตอรี่ที่กล่าวมาแล้ว realme 5 ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์และประสิทธิภาพการใช้งาน ที่ต้องบอกเลยว่า สวยแซ่บที่สุดในซอย! ส่วนจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอะไรที่น่าสนใจอีกนั้น มาตามไปชมพร้อม ๆ กันในรีวิวนี้เลยค่ะ
- ตัวเครื่อง realme 5
- สายชาร์จ Micro USB
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
- เข็มจิ้มซิม
- คู่มือการใช้งานและใบรับประกันสินค้า
- เคสใส
รายละเอียดสเปกของ realme 5
- หน้าจอ LCD ทรงหยดน้ำขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1,600 x 720 พิกเซล ที่ 269 ppi พื้นที่จอแสดงผล 89% ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3+
- หน่วยประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 665 AIE
- หน่วยประมวลผล GPU Adreno 610
- หน่วยความจำ RAM 3 GB/4 GB
- หน่วยความจำ ROM 64 GB/128 GB
- รองรับ 2 ซิมการ์ด
- รองรับการเพิ่มความจำด้วย MicroSD Card สูงสุด 256 GB
- กล้องหลัง AI 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 12MP (f/1.8) + กล้องถ่ายภาพมุมกว้าง ความละเอียด 8MP (f/2.25) + กล้องถ่ายภาพบุคคล ความละเอียด 2MP (f/2.4) + กล้องถ่ายภาพมาโคร ความละเอียด 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า ความละเอียด 13MP (f/2.0)
- เซนเซอร์ GPS/Beidou/Galileo/A-GPS, Light Sensor, Proximity Sensor, Magnetic Induction Sensor, Gyro-meter, Acceleration Sensor, Fingerprint
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 3.5mm Jack, Micro-USB
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
- ระบบปฎิบัติการ ColorOS 6 (realme Edition) บน Android P
realme 5 มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีน้ำเงิน Crystal Blue และสีม่วง Crystal Purple โดยมีการออกแบบฝาหลังใหม่เป็นลวดลายเหลี่ยมเพชรแบบคลาสสิด ใช้เทคนิคสี "Nanometer Holographic" พร้อมผ่านการเคลือบถึง 133 ชั้น พื้นผิวเรียบลื่น เป็นมันวาว เมื่อสะท้อนกับแสงจะทำให้ลวดลายแบบเหลี่ยมเพชรดูสวยงามโดดเด่นยิ่งขึ้น
realme 5 มีมิติตัวเครื่องกว้าง 75.6 X ยาว 164.4 x หนา 9.3 มิลลิเมตร และมีนำหนักตัวเครื่องโดยรวมประมาณ 198 กรัม ด้านหน้าตัวเครื่อง มาพร้อมหน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.5 นิ้ว มาพร้อมรอยบากทรงหยดน้ำที่ปรับขนาดให้เล็กลงกว่าในรุ่น realme 3 ถึง 30.9% ความละเอียด 1,600 x 720 พิกเซล และให้พื้นที่การใช้งานมากถึง 89%
บริเวณด้านบนของหน้าจอ บริเวณรอยบากรูปหยดน้ำเป็นตำแหน่งวางกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด f/2.0 รองรับ AI Beauty และเหลือกล้องขึ้นไปเป็นลำโพงสนทนา
บอดี้เป็นวัสดุพลาสติก ตำแหน่งด้านบนซ้ายวางกล้องหลังแบบ Quad Cameras โดยกล้องตัวแรกเป็นเลนส์มุมกว้าง (Wide Lens) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.25 ถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา ตัวที่สองเป็นกล้องหลัก (Main Lens) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8 ตัวที่สามเป็นกล้องถ่ายภาพบุคคล (Portrait Lens) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 และตัวที่ 4 กล้องถ่ายวัตถุระยะใกล้ (Macro Lens) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 ถัดจากแผงวางกล้องหัลงมาทางด้านขวามือเล็กน้อยเป็นไฟแฟลช LED และขยับมาบริเวณกึ่งกลาง เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และมีโลโก้ realme สีเงิน อยู่บริเวณซ้ายมือด้านล่าง จัดวางอยู่ในแนวนอน
ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มการใช้งานใด ๆ ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ไมโครโฟนสนทนา พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro USB และลำโพงเสียง
ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด
realme 5 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS เวอร์ชั่น 6 บนพื้นฐานของ Android 9 Pie โดยทาง เรียลมี ได้ทำการพัฒนาเป็น realme Edition ออกมาให้เป็นเวอร์ชั่นสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน realme โดยเฉพาะ โดยมาพร้อมกับหน้าตาของอินเตอร์เฟส (UI) ที่ยังคงใช้งานง่าย และไอคอนแอพฯ ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เช่น realme Community, realme Store ฯลฯ พร้อมการจัดวางที่แตกต่างจากใน ColorOS เวอร์ชั่นปกติ
Lock Screen
หน้าจอล็อคสกรีน ใช้วิธีการปัดจอขึ้นด้านบนเพื่อใส่รหัสผ่านในการปลดล็อคหน้าจอ สำหรับคนที่เลือกใช้การสแกนลายนิ้วมือก็สามารถสแกนบริเวณด้านหลังตัวเครื่องเพื่อปลดล็อกได้เลย หรือหากเป็นการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อก เมื่อกล้องตรวจเจอใบหน้าแล้วก็สามารถปัดหน้าจอขึ้นเพื่อเข้าสู่หน้า Home Screen ได้เลย
Home Screen
หลังจากปลดล็อคที่หน้าล็อคสกรีนแล้ว ก็จะเข้าสู่หน้าเมนูหลักของ ColorOS 6 realme Edition สำหรับคนที่ปกติใช้งาน ColorOS อยู่แล้วจะเห็นได้ว่าการใช้งานต่าง ๆ ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ดังนั้นจังไม่ต้องกังวลมากนักว่าจะต้องมาเริ่มเรียนรู้การใช้งานใหม่ทั้งหมด และในส่วนของการปรับแต่ง คลื่อนย้ายไอคอนต่าง ๆ ด้วยตัวเองก็สามารถทำได้ง่าย เพียงแค่กดค้างที่ไอค่อนแล้วลากไปวาง หรือจะกดค้างตรงพื้นที่ว่างบนหน้าจอ เพื่อปรับแต่งวิตเจ็ต ภาพพื้นหลัง และลักษณะพิเศษต่าง ๆ ก็ทำได้เลย
ฟีเจอร์เด่นบน ColorOS 6 (realme Edition)
ผู้ช่วยอัจฉริยะ
จากหน้า Home เมื่อปัดจากทางซ้ายไปขวาก็จะพบกกับผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่จะมีหน้าเมนูลัดสำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นด่วน ข้อมูลสภาพอากาศ ปฏิทิน โปรแกรมนับก้าว การแข่งขัน แอปยอดนิยม รวมไปถึงการแจ้งเตือนต่าง ๆ ซึ่งสามารถเข้าไปตั้งค่าเพื่อปิดการใช้งานในส่วนที่ไม่ต้องการได้
Notification Bar
จากหน้า Home เมื่อปัดหน้าจอลงจะมีแถบแจ้งเตือน โดยจะมีการนำฟีเจอร์การใช้งานหลัก ๆ มาแสดงไว้ สามารถย่อ-ขยาย เพื่อให้แสดงมากขึ้น และเลือกปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
ตัวช่วยเพิ่มความสะดวก - แถบด้านข้างอัจฉริยะ
จากหน้า Home สามารถปัดเรียกแถบเมนูลัดออกมาจากขอบหน้าจอด้านขวาเพื่อเข้าถึงเครื่องมือด่วนต่าง ๆ เช่น การเรียกดูไฟล์ การเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ จับภาพหน้าจอ บันทึกภาพหน้าจอ และเปิดโหมดห้ามรบกวนได้ทันที หรือจะเป็นการเข้าถึงแอพต่าง ๆ ซึ่งตรงจุดนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับ User ได้ดียิ่งขึ้น สำหรับการปรับตั้งค่าต่าง ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามความต้องการได้แบบง่าย ๆ แค่กดเครื่องหมาย + เพิ่ม จะเติมแอพหรือฟีเจอร์การใช้งานไหนเข้าไปก็ได้เลย หรือกด - ถ้าไม่ต้อการใช้ และสำหรับคนที่อาจจะอยากปิดแถบด้านข้างตัวนี้ไปเลย ก็สามารถเข้าไปตั้งค่าปิดได้ที่ 'ตัวช่วยเพิ่มความสะดวก'
โคลนแอปฯ
การโคลนแอปฯ ยังคงเป็นอีกฟีเจอร์เด่นที่ User นิยมใช้งาน กับการสร้างสำเนาชุดใหม่ของแอปพลิเคชั่นขึ้นมา โดยที่ยังสามารถใช้งานได้ทั้งตัวหลักและตัวสำเนา ซึ่งแอปฯ ที่สามารถใช้งานได้ก็จะเป็นแอป Social และแอปฯ แชทต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, Messenger, WeChat, ฺBBM, Line, imo, Skype, Telegram ฯลฯ
โหมดแยกหน้าจอแอป
โหมดแยกหน้าจอแอปฯ เป็นฟีเจอร์การใช้งานเด่นที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่น บนหน้าจอเดียวกันพร้อม ๆ กัน เมื่ออยู่ในหน้าแอปใดแอปหนึ่ง สามารถเรียกใช้งานได้ด้วยการใช้ 3 นิ้วเลื่อนขึ้นด้านบนเพื่อแบ่งหน้าจอได้ทันที หรือกดปุ่มมัลติทาส์กค้าไว้เพื่อเข้าสู่โหมดแบ่งหน้าจอ หรืออีกวิธีหนึ่งคือการกดปุ่มมัลติทาส์ก จากนั้นแตะที่ปุ่มขวาบน แล้วเลือกหน้าจอแบ่ง
บริการ Smart - การขับขี่แบบชาญฉลาด
การขับขี่แบบชาญฉลาด เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่างการขับขี่ โดยมีให้เลือกทั้งโหมดการขับขี่รถยนต์ และโหมดการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์
ลายนิ้วมือ, ใบหน้า และรหัสผ่าน
ทางด้านความปลอดภัยในการใช้งาน realme 5 มีระบบรักษาความปลอดภัยให้กับโทรศัพท์ที่สามารถเลือกใช้ได้ทั้งการใส่รหัสผ่าน การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ (สแกนได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ) และการปลดล็อกด้วยใบหน้า
realme 5 ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 665 AIE จาก Qualcomm, Octa-core 11nm ความเร็ว 2.0 GHz ทำงานร่วมกับชิปประมวลผลกราฟิก Qualcomm Adreno 610 พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB และ 4GB จับคู่กับหน่วยความจำ RAM ขนาด 64GB และ 128GB ใช้งานลื่น ไม่มีอาการเครื่องค้างหรือหน่วงในขณะใช้งาน
ความสามารถในการใช้งานโดยทั่ว ๆ ไป เช่น เช็ค e-mail, ฟังเพลง, ดู Youtube, เล่น Facebook และใช้โปรแกรมแชทต่าง ๆ เรียกได้ว่าสบายใจหายห่วง การสลับแอปฯ ไปมา เปิดค้างไว้หลาย ๆ อย่าง เครื่องก็ยังสามารถจัดการการใช้งานได้อย่างลื่นไหล ส่วนการเล่นเกมจะมีอาการหน่วงเฉพาะเมื่อเล่นมาราธอนแบบยิงยาวติดกันหลายชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจากการทดสอบก็เจอแค่หน่วงนิดหน่อย แต่ไม่เจอภาพกระตุกหรือค้างไปเลย ดังนั้นโดยรวมให้ผ่าน!
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน
- ทดสอบด้วยแอปฯ AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 137,798 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปฯ GeekBench 4 ได้คะแนน Single Core 1,510 คะแนน และ Multi Core 5,454 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปฯ MultiTouch Tester รองรับการสัมผัสสูงสุด 10 จุด
- การจับสัญญาณทดสอบด้วย GPS Tester จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็ว
- ทดสอบ DRM Info รองรับ Widevine DRM L3 สามารถดู Netflix ที่ความละเอียด 480P
การใช้งานสื่อบันเทิงต่างๆ
realme 5 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Full Screen ขนาด 6.5 นิ้ว มีรอยบากทรงหยดน้ำ ที่มีขนาดเล็กกว่าใน realme 3 ถึง 30.9% จึงทำให้มีพื้นที่การแสดงผลของหน้าจอมากถึง 89% ขอบหน้าจอบาง และมีขอบด้านล่างหนากว่าด้านอื่นเล็กน้อย แต่ก็สามารถรับชมความบันเทิงได้อย่างเต็มตา
ในส่วนที่ขาดไปทางด้านการเสพความบันเทิงของ realme 5 นั้น ก็คงเป็นในเรื่องของระบบเสียงแบบ Mono ซึ่งถ้าถามถึงความคม ความชัด ความดังของเสียง จัดอยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ แต่ด้วยความที่บางครั้งเราดูแนวนอนแบบเต็มจอ พอเผลอเอามือไปบังลำโพง เสียงก็หายไปเลยเหมือนกัน
สำหรับการเล่นเกมนั้น สบายใจ หายห่วง เพราะ realme 5 เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่เอาใจคนที่ชื่นชอบการเล่นเกม โดยมีการใส่ฟีเจอร์ Game Space ที่จะช่วยจัดสรรค์ทรัพยากรต่าง ๆ บนตัวเครื่อง ช่วยเร่งความเร็วกราฟิก อำนวยความสะดวกในระหว่างการเล่นเกม และปิดกั้นการรบกวนต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
และจากการทดสอบเล่นเกมออนไลน์ยอดนิยม RoV สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรทโดยรวมวิ่งอยู่ที่ประมาณ 59-61 FPS สามารถเปิดโหมดภาพ HD และโหมด High Frame Rate ได้ ซึ่งจากที่ทดลองยังไม่เจออาการหน่วงและกระตุก สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง เอาคะแนนไป 10+ เลย
หลังจากที่ทดสอบด้วย RoV เกมที่เน้นความมันส์ ความเร็ว และความลื่นไหลในการเล่นแล้ว ก็ขอมาลองของกันอีกสักนิด ด้วยอีกหนึ่งเกมอย่าง Lineage 2 Revolution ซึ่งเป็นเกมที่เน้นภาพสวย เน้นการทำเควส และเดินเกมตามเนื้อเรื่องเป็นหลัก คนเล่นก็จะเล่นได้เรื่อย ๆ เล่นสบาย แถมภาพสวย ดูเพลิน ดังนั้น การเล่นในแต่ละครั้งจึงค่อนข้างกินเวลาค่อนข้างมาก จึงทำให้มีความร้อนออกมาจากหน้าจออยู่เหมือนกัน มีหน่วงบ้างนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วถือว่าดีมาก
realme 5 มาพร้อมความจุแบตเตอรี่สูงถึง 5,000 mAh ซึ่งเป็นขนาดความจุที่มากที่สุดที่เคยใส่มาให้ในสมาร์ทโฟนทางหมดของแบรนด์ เรียลมี ซึ่งจากการทดลองใช้งานทั่วไป ทั้งถ่ายรูป, เล่นเกม, ดู Youtube, เล่น Facebook + Instagram, แชท Line จัดเต็มแบบหนักหน่วงทั้งวัน ระยะเวลาตั้งแต่เวลา 10.00 น. ลากยาวไปจนถึงประมาณ 19.00 น. หนักถ่ายรูป, เล่น Facebook และเล่นเกม ตามลำดับ มีพักบ้างเป็นช่วง ๆ กลับบ้านยังเหลือแบตฯ อยู่ที่ 27% จัดว่าอึดมาก สมกับคำนิยาม "พลังแบตเกินพิกัด" ที่ให้มาจริง ๆ
นอกจากนี้ realme 5 ยังมีระบบ AI Cooling และ Screen Power Saving ที่สามารถช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานมากขึ้นอีกด้วย เรียกว่าถึงแม้จะไม่ได้มากับระบบชาร์จไว แต่ก็มากับขนาดแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปชาร์จไฟบ่อย ๆ เลยนะ
กล้องหลัง - realme 5 มาพร้อมกับกล้องหลังสำหรับถ่ายภาพถึง 4 ตัว (Quad Cameras) จัดมาให้แบบเต็มเหนี่ยว ที่มีทั้งเลนส์สำหรับถ่ายภาพบุคคล เลนส์สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง และเลนส์สำหรับการถ่ายภาพวัตถุระยะใกล้ ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในเรทราคาต่ำกว่า 6,000 บาท ที่ใส่กล้องมาให้มากและครบขนาดนี้
รายละเอียดกล้องหลังถ่ายภาพของ realme 5
- กล้องหลัก (Main Sensor) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องถ่ยภาพมุมกว้าง 119? (Ultrawide) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.25
- กล้องถ่ายภาพบุคคล (Portrait) ความละเอียด 2 ล้านพิเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องถ่ายภาพมาโคร (Macro) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 ระยะถ่ายภาพใกล้สุด 4 เซนติเมตร
รองรับโหมดถ่ายภาพทิวทัศน์กลางคืน (Ultra Nightscape), โหมดเร่งสีสันภาพอัตโนมัติ (Chroma Boost), โหมดถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait), โหมดถ่ายภาพ HDR (High Dynamic Range), โหมดถ่ายภาพพาโนรามา (Panorama), โหมดผู้เชี่ยวชาญ (Pro), โหมดเร่งความเร็วในการบันทึกวิดีโอ (Time-Lapse), โหมดบันทึกวิดีโอเคลื่อนไหวช้า (Slow-motion), โหมดมาโครพิศษ (Super Macro), โหมดฟิลเตอร์ (Filter) พร้อม AI HDR, AI Beauty, AI Scene Recognition และซูม Digital 10X
หน้าเมนูกล้องถ่ายภาพ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ realme 5
- ภาพถ่ายบุคคล โหมด Portrait
- ภาพถ่ายบุคคล โหมด Portrait (ปรับแต่งสีสัน)
- ภาพถ่ายมุมกว้าง Ultrawide
- ภาพถ่ายเร่งสีสัน โหมด Chroma Boost
- ภาพถ่ายกลางคืน โหมด Nightscape
- ภาพถ่ายวัตถุระยะใกล้ โหมด Super Macro
กล้องหน้า - realme 5 มาพร้อมกับกล้องหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 รองรับเทคโนโลยี AI HDR และ AI Beauty ที่สามารถปรับแต่งสี รูปร่างความสวยงามของใบหน้า และสามารถถ่ายแบบหน้าชัดหลังละลายได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ realme 5
realme 5 เป็นสมาร์ทโฟนในพิกัดราคาไม่เกิน 6,000 บาท ที่มาพร้อมกับสเปกแบบจัดเต็มขั้นสุด ที่กล้าบอกเลยว่าดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม มีเอกลักษณ์ โดดเด่นไม่เป็นรองใคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการใช้งานในชีวิตประจำวัน การทำงาน และการใช้งานทางด้านความบันเทิงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เล่นโซเชียล ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ ยังเป็นสมาร์ทโฟนในเรทราคาหลักพันบาท ที่กล้าใส่กล้องหลังมาให้ถึง 4 ตัว แบบครบทุกระยะ ทั้งเลนส์มุมกว้าง เลนส์ถ่ายภาพบุคคล และเลนส์ถ่ายภาพระยะใกล้ ซึ่งน่าจะถูกใจคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นพิเศษ ที่สำคัญคือ realme 5 มากับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนทั้งหมดของแบรนด์เรียลมี โดยมีขนาดความจุถึง 5,000 mAh สามารถใช้งานได้อย่างเต็มอิ่ม ยาวนานตลอดทั้งวัน... การันตีว่านี่คือหนึ่งในตัวเลือกของสมาร์ทโฟนที่มีคุ้มค่าที่สุด ที่จะสร้างความประทับใจให้กับคนที่ได้เป็นเจ้าของอย่างแน่นอนค่ะ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม พร้อมลวดลายฝาหลังที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
- หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว มอบประสบการณ์ความบันเทิงได้กว้าง เต็มตา
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 665 AIE ทำงานร่วมกับ RAM 3GB + ROM 64GB และ RAM 4GB + ROM 128GB พร้อม GPU Adreno 610 ทำให้การทำงานของโทรศัพท์ค่อนข้างลื่นไหล ไม่ค้างหรือหน่วง พร้อมให้การแสดงผลภาพที่สวยงาม สดใส
- กล้องหลัง 4 ตัว มาพร้อมกับเลนส์ครบทุกระยะ ทำให้การถ่ายภาพมีความสนุกมากขึ้น
- กล้องหน้ามี AI Beauty ที่สามารถปรับแต่งความสวยงามได้
- รองรับการสแกนด้วยลายนิ้วมือบริเวณด้านหลังตัวเครื่อง และรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า
- ทำงานบนระบบปฏิบัตการ ColorOS 6 realme Edition ใช้งานง่าย
- แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานมาก
- ราคาสุดคุ้มค่า เริ่มต้นแค่ 4,599 บาทเท่านั้น
จุดสังเกตุ
- ตัวเครื่องหนาและหนักไปนิดสำหรับคนที่ชอบดีไซน์แบบเพรียวบางและน้ำหนักเบา ส่วนคนที่ชอบแบบดีไซน์หนา กระชับ ถือว่าจับแล้วเข้ามือดีทีเดียว
- ตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย แต่ก็เช็ดออกง่ายเช่นกัน และการใช้งานโดยปกติก็จะมีการใส่เคสอยู่แล้ว (และในกล่องก็มีแถมเคสมาให้แล้วด้วย จุดนี้จึงไม่ใช้ปัญหา
- ไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้
- หน้าจอแสดงผลสู้แสงได้ไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อออกไปใช้งานกลางแจ้ง
- พอร์ตเชื่อมต่อยังเป็น Micro USB
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง realme 5 และ realme 5 Pro
นอกจาก เรียลมี จะเปิดตัว realme 5 แล้ว ยังเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ในซีรีส์เดียวกันอย่าง realme 5 Pro ออกมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น โดยมาพร้อมกับจุดเด่นกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 48MP (f/1.79) + กล้องมุมกว้างความละเอียด 8MP (f/2.25) + กล้องถ่ายภาพบุคคลความละเอียด 2MP (f/2.4) + กล้องมาโครความละเอียด 2MP (f/2.4) กล้องหน้าความละเอียด 16MP (f/2.0) หน้าจอแสดงผล 6.3 นิ้ว ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า realme 5 เล็กน้อย ในส่วนของชิปเซ็ตประมวลผลใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 712 AIE พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 616 และแบตเตอรี่ควาจุ 4,035 mAh พร้อมรองรับชาร์จไว VOOC 3.0 โดย realme 5 Pro จะมีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น RAM 4GB + ROM 128GB ราคา 7,999 บาท และรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 8,999 บาท
สำหรับใครที่มีงบมากหน่อย อาจจะขยับมาที่ตัวพี่ realme 5 Pro ได้เลย แต่สำหรับคนที่งบยังไม่พร้อม ขอยกให้ realme 5 เป็นตัวเลือกติดอันดับ 1 ใน 3 สมาร์ทโฟนสเปกดี ที่ไม่ควรมองข้าม! เพราะนอกจากจะมากับแบตเตอรี่อึดๆ ถึง 5,000 mAh ที่หาได้ยากในย่านราคานี้ ยังได้กล้องหลัง 4 ตัว ที่มีให้ครบทุกระยะ ถ่ายได้ทั้ง Wide, Portrait, Macro แถมมี Night Mode ให้ด้วย
ส่วนใครที่สนใจสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ที่มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว และสเปกสุดเร้าใจ อย่าง realme 5 Pro ก็สามารถตามเข้าไปอ่านบทความรีวิวฉบับเต็มแบบเจาะลึกทุกรายละเอียดกันได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
อ่านบทความรีวิว realme 5 Pro เพิ่มเติมได้ที่นี่
realme 5 มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีน้ำเงิน Crystal Blue และสีม่วง Crystal Purple แบ่งเป็น 2 รุ่นควาจุ คือ รุ่น RAM 3GB + ROM 64GB ราคา 4,599 บาท และรุ่น RAM 4GB + ROM 128GB ราคา 5,999 บาท โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2562 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่น Flash Sale สำหรับ realme 5 รุ่นความจุ 3GB + 64GB วางจำหน่ายในราคาสุดพิเศษเพียง 4,299 บาท (จากราคาปกติ 4,599 บาท) เฉพาะวันที่ 19 กันยายน 2562 ที่ Lazada วันเดียวเท่านั้น!