รีวิว Vivo V15 สมาร์ทโฟนหน้าจอไร้ขอบ พร้อมกล้องหน้าป๊อปอัพ 32MP ในราคาเพียง 10,999 บาท

Vivo V15 Series สมาร์ทโฟนซีรีส์ V รุ่นใหม่ล่าสุดจาก วีโว่ ประเทศไทย ที่มาพร้อมสโลแกน "กล้องหน้าป๊อปอัพ 32 ล้านพิกเซล เพอร์เฟกต์ช็อต" เปิดตัวด้วยจุดเด่นกล้องหน้า Pop-Up ความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล รุ่นแรกในเมืองไทย ซึ่งมีทั้งหมด 2 รุ่น คือ Vivo V15 Pro รุ่นพี่ดีไซน์สวย สเปกดี และรุ่นน้อง Vivo V15 ที่มากับดีไซน์และสเปกต่างๆ ดูดีไม่แพ้รุ่นพี่ กับราคาค่าตัวเพียง 10,999 บาทเท่านั้น

สำหรับ Vivo V15 เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในช่วงราคานี้มากๆ แม้จะมีคู่แข่งสายตรงที่เปิดตัวมาทั้งราคาและสเปคในช่วงเวลาใกล้เคียงกันก็ตาม แต่สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะได้เปรียบอย่างมากในเรื่อง ROM ที่ให้ความจุมาสูงกว่า 128GB สูงกว่าคู่แข่ง

ส่วน Vivo V15 Pro จะเป็นรุ่นจัดเต็มของ วีโว่ จริงๆ แทบจะยกให้เป็นน้องๆ Vivo X Series ได้เลย เพราะสเปคสูงกว่าในหลายๆ จุดเลย มาพร้อม Snapdragon 675 กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48MP + 8MP + 5MP (ส่วนกล้องหน้า Elevating Front Camera ความละเอียด 32MP เท่ากับ Vivo V15) มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ In-Display Fingerprint Scanning ที่รวดเร็ว และแม่นยำมากๆ และปลดล็อกด้วยใบหน้า AI Face Access รวมทั้งหน้าจอรองรับฟีเจอร์ Always-On Display อีกด้วย และมาพร้อมการถ่ายภาพกลางคืน Super Night Mode คุณภาพดี จะเห็นว่าถ้าขยับไป 14,999 บาท ไหวก็เชียร์เลยนะ ถูกใจเป็นการส่วนตัวจริงๆ

• ตัวเครื่อง Vivo V15 (สี Topaz Blue)
• หัวชาร์จแบตเตอรี่
• สาย USB
• หูฟังแบบ Earbuds
• เข็มจิ้มซิม
• เคสโทรศัพท์แบบใส
• ฟิล์มกันรอย (ติดมาให้เรียบร้อยแล้ว)
• คู่มือการใช้งาน

• หน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1,080 x 2,340 พิกเซล) สัดส่วนหน้าจอ 90.95%
• หน่วยประมวลผล CPU MTK Helio P70
• หน่วยประมวลผล GPU Mali-G72 MP3
• ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9 (บนพื้นฐาน Android 9.0)
• รองรับ 2 ซิมการ์ด
• หน่วยความจำ RAM 6GB
• หน่วยความจำ ROM 128GB
• รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB
• กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 12MP - 24 Million Photosensitive Units (F/1.78) + 8MP (F/2.2) + 5MP (F/2.4)
• กล้องหน้า Pop-up ความละเอียด 32MP (F/2.0)
• ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• พอร์ต Micro USB 2.0
• รองรับสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
• แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh
• รองรับชาร์จไว Dual-Engine Fast Charging

Vivo V15 มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์ทันสมัย หน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว Ultra FullView Display ไร้ขอบสมบูรณ์แบบ ความละเอียด FHD+ (1,080 x 2,340 พิกเซล) มีสัดส่วนพื้นที่การใช้งานหน้าจอสูงถึง 90.95% ขนาดตัวเครื่อง 161.97 x 75.93 x 8.54 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเครื่องโดยรวม 189.5 กรัม ด้านหน้าเป็นกระจก 2.5D Corning Gorilla Glass 5 และมีลำโพงสนทนาอยู่บริเวณขอบจอด้านบน

ออกแบบตัวเครื่องแบบ 3D ให้การจับถือที่รับกับรูปของฝ่ามือ พร้อมฝาหลังสีสันสวยงาม โดยใช้การออกแบบที่เรียกว่า Spectrum Ripple Design ให้ตัวเครื่องแสดงสีสันและลวดลายดูมีมิติตามการหักเหของของแสง โดยเครื่องที่ได้รับมานั้น คือ สีน้ำเงิน Topaz Blue วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติกคุณภาพสูง

ด้านหลังของตัวเครื่อง ตำแหน่งด้านบนซ้าย วาง AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (24 Million Photosensitve Units) + 8 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ขยับต่ำลงมาเล็กน้อย บริเวณกลางตัวเครื่อง มีเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือ และมีโลโก้ Vivo อยู่ตรงส่วนล่าง

ด้านบนของตัวเครื่อง มีไมค์ตัดเสียงรบกวน และกล้องหน้าเลื่อนอัตโนมัติ Elevating Front Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

ด้านล่างของตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB 2.0 และลำโพงเสียง 

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slots โดยมีช่องสำหรับใส่ซิม 2 ช่อง + ช่องสำหรับใส่ MicroSD อีก 1 ช่อง และมีปุ่มพิเศษ Smart Button โดยกด 1 ครั้ง สำหรับการเรียกใช้งาน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะ และกด 2 ครั้ง สำหรับ Jovi Image Recognizer เพื่อตรวจหาสินค้า ราคา และข้อมูลที่น่าสนใจ

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม-ลด ระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง

Vivo V15 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS เวอร์ชั่น 9 ที่หน้าตาของอินเตอร์เฟสสวยงาม และการวางตำแหน่งไอค่อนต่างๆ สามารถเรียกใช้งานได้ง่าย ดูสบายตา

สำหรับหน้าจอล็อกสกรีนของ Funtouch OS 9 ใช้วิธีการปัดหน้าจอขึ้นด้านบน เพื่อป้อนรหัสผ่านสำหรับปลดล็อกหน้าจอ หรือใช้ลายนิ้วมือสแกนบริเวณด้านหลังตัวเครื่องเพื่อเข้าสู่หน้าจอการใช้งานได้เลย ซึ่งในหน้าล็อกสกรีนนั้น จะมีเมนูลัดที่สามารถใช้งานได้ 2 เมนู คือ เมนูการโทรฉุกเฉินและกล้องถ่ายรูป

     

     

     

ในหน้า Home เมื่อปัดไปทางด้านซ้ายก็จะเจอกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Jovi ที่รวมเมนูทางลัดสำหรับการใช้งานแบบเร่งด่วน, รายงานสถานการณ์อัจฉริยะของ Jovi, สภาพอากาศ และสิ่งที่ต้องทำเร็วๆ นี้ โดยสามารถเลือกปิดส่วนที่ไม่ต้องการใช้งานได้ และจากหน้า Home เมื่อปัดหน้าจอลง (จากขอบจอด้านบน) ก็จะพบกับการแจ้งเตือนต่างๆ ส่วนการปัดหน้าจอขึ้น (จากขอบจอด้านล่าง) ก็จะเป็นเมนูทางลัดที่รวมไว้ครบทุกอย่าง ซึ่งสามารถกดใช้งานหรือปิดได้ตรงนี้เลย สะดวกมากๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

Vivo V15 ใช้ชิปประมวลผลซีพียู MediaTek Helio P70, Octa-core ความเร็ว 2.1 GHz และชิปประมวลผลกราฟิก Mali-G72 ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM 6GB และหน่วยความจำภายในที่ 128GB ตอบสนองการใช้งานได้อย่างลื่นไหล สามารถใช้งานทั่วไป เช่น เล่น Facebook, ดู Youtube, ฟังเพลงผ่าน Streaming, เช็คอีเมล, แชทไลน์ ฯลฯ เป็นไปได้อย่างสบายๆ

     

     

     

• ทดสอบด้วยแอปฯ AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 141,059 คะแนน
• ทดสอบด้วยแอปฯ GeekBench 4 ได้คะแนน Single Core 1,545 คะแนน และ Multi Core 5,294 คะแนน 
• ทดสอบด้วยแอปฯ MultiTouch Tester รองรับการสัมผัสสูงสุด 10 จุด 
• การจับสัญญาณทดสอบด้วย GPS Tester จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็ว

Vivo V15 มาพร้อมกับหน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ ไม่มีติ่งบดบังสายตา ซึ่งช่วยให้การเสพสื่อบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูคลิปวิดีโอ, ดู Youtube, เล่น Social Media ต่างๆ เป็นไปได้อย่างเต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของการเล่นเกมนั้น เรียกได้ว่าตอบรับความต้องการได้เป็นอย่างดี เพราะ Vivo V15 มาพร้อมกับ Game Mode 5.0 ที่มีโหมดการใช้งานสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้เกิดการรบกวนในขณะที่กำลังเล่นเกม เช่น การเลือกรับสายระหว่างเล่นเกมหรือตัดสายทิ้งอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบ Dual-turbo ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี และจากการทดลองเล่นเกมออนไลน์บนมือถืออย่าง RoV ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรทไม่ตก โดยภาพรวมถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมดีมาก

Vivo V15 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ถึง 4,000 mAh สามารถอยู่ได้นานเกือบตลอดทั้งวันสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้เล่นเกมอย่างหนักหรือดูวิดีโอยาวแบบ Non-stop ก็เรียกว่าไม่ติดขัด หรือถ้าเป็นสายบันเทิง เน้นเสพสื่อต่าง ๆ ที่อาจจะต้องมีการใช้งานตลอดเวลา ก็ไม่ต้องกังวล เพราะ Vivo V15 มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-engine Fast Charging เช่นเดียวกับในรุ่นพี่อย่าง Vivo V15 Pro ด้วยเหมือนกัน

กล้องหลัง

Vivo V15 มาพร้อมด้วยกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (24 Million Photosensitive Units) รูรับแสง F/1.78 มีเทคโนโลยี Dual Pixel Focusing ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บแสงและจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว + กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล AI Super Wide-Angle รูรับแสง F/2.2 ให้มุมมองการถ่ายภาพที่กว้างขึ้นถึง 120 องศา + กล้อง Depth Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4 ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพให้คมชัดมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของ AI Super Wide-Angle Camera ที่ให้มุมมองของการถ่ายภาพกว้างถึง 120 องศา โดยส่วนตัวแล้วเป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างประทับใจมากเป็นพิเศษ ด้วยความชื่นชอบในการถ่ายภาพทิวทัศน์หรือถ่ายภาพแบบองค์รวม มากกว่าการถ่ายแบบเจาะในระยะประชิด หลังจากได้ทดลองใช้งานการถ่ายภาพในโหมดนี้ ซึ่งช่วยให้สามารถเก็บภาพที่ต้องการได้แบบเหนือความคาดหมาย เพราะให้มุมมองที่กว้างเต็มตาจริงๆ เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพ Landscape และภาพบุคคลแบบกลุ่มใหญ่ๆ

Vivo V15 ยังมาพร้อมด้วยโหมดพิเศษสำหรับการปรับแต่งรูปร่าง AI Body Shaping ที่สามารถเลือกการปรับแต่งเป็นแบบโดยรวมทั้งตัว หรือจะเลือกปรับเฉพาะส่วน เช่น ศีรษะ ไหล่ เอว ความสูง ช่วงขา สะโพก ก็ได้ ซึ่งระบบก็จะมีจุดที่แนะนำรูปแบบของการปรับแต่งที่เหมาะสมไว้ให้สำหรับคนที่ใช้งานแล้วเกรงว่าจะดูผิดสัดส่วนจนเกินไป

โหมดปกติ | AI Body Shaping ทั้งตัว (แบบเลือกตามจุดแนะนำ) | AI Body Shaping ทั้งตัว (แบบระดับปรับสุด)

โหมดปกติ | AI Body Shaping ปรับแต่งเฉพาะส่วน (สูงขึ้น)

รายละเอียดโหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง : Take Photo, HDR, Professional, Face Beauty, Slow, Time Lapse, Panorama, PDAF, Live Photos, Filters, Palm Capture, Voice Control, Bokeh, AI Body Shaping, Wide-Angle Photo, 60FPS, AI Super Wide-angle Camera, Rear Portrait Lighting Effects, Auto Scene, Time Watermark, Model Watermark, AR Stickers, Face Beauty for Video Recording, AI Face Beauty, AI Selfie Lighting, AI Filters, AI Scene Recognition, Face Shaping, AI Portrait Framing, Gender Detection, PPT

กล้องหน้า

มิติใหม่ของการออกแบบ กับกล้องหน้าเลื่อนได้แบบอัตโนมัติ Elevating Front Camera ความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.0 ถ่ายเซลฟี่ได้สวยจับใจมากๆ ซึ่งในเรื่องของกล้องเลื่อนหลายคนอาจกังวลว่าจะใช้งานได้ทนทานหรือเปล่า? ตรงนี้ตัวกล้องได้ผ่านการทดสอบการเลื่อนกล้องขึ้นลงแบบต่อเนื่องมาแล้วมากกว่า 300,000 ครั้ง การันตีการใช้งาน 100 ครั้งต่อวัน ซึ่งถ้าลองคำนวณดูแล้วจะสามารถใช้งานได้นาน 5 - 6 ปี นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบการตกอีกกว่า 10,000 ครั้งอีกด้วย

รายละเอียดโหมดถ่ายภาพของกล้องหน้า : Take Photo, HDR, Face Beauty, Panorama, Live Photo, Filters, Palm Capture, Voice Control, Portrait Bokeh, Bokeh Mode

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Vivo V15

โหมดปกติ

 
โหมดแสงรุ้ง

 

 

 
โหมด AR Stickers

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Vivo V15

โหมดปกติ

โหมด Portrait

โหมดปกติ

โหมด Portrait

โหมดปกติ

โหมด Super Wide-Angle

โหมดปกติ

โหมด Super Wide-Angle

โหมดปกติ

โหมด Super Wide-Angle

โหมดปกติ

โหมด Super Wide-Angle

สำหรับ Vivo V15 ถึงแม้ว่าจะไม่มีโหมดสำหรับการถ่ายภาพกลางคืนมาให้ แต่ยังคงมี AI ที่ช่วยประมวลผลและปรับแต่งสี-แสงของภาพถ่ายให้อัตโนมัติ ภาพที่ออกมาจึงมีความคมชัดและสวยงามเช่นเดียวกับการถ่ายในตอนกลางวัน

 

Vivo V15 เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่จัดว่าคุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งที่ควรค่ากับการเป็นเจ้าของ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว 10,999 บาทแล้ว ถามว่าเราจะได้รับอะไรไปบ้าง? อย่างแรก คือดีไซน์ตัวเครื่องที่มากับความพรีเมียมแบบขั้นสุด เริ่มตั้งแต่เรื่องของรูปทรงและสีสันที่ดูหรูหราทันสมัย ถือไว้ไม่น้อยหน้าใคร ตามมาด้วยเรื่องของหน้าจอไร้ขอบแบบ Ultra FullView Display ที่เป็นความไร้ขอบที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ข้อที่สอง คือประสบการณ์การใช้งานกล้องหน้าแบบใหม่ Pop-up แถมยังให้ความละเอียดมาแบบเต็มแม็ก สูงถึง 32 ล้านพิกเซล และข้อที่สาม คือ กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera มาพร้อมลูกเล่นหลากหลาย ทั้ง AI Body Shaping ปรับแต่งรูปร่างได้โดยไม่ต้องไปโหลดแอปฯ เพิ่ม นอกจากนี้ยังมี Super Wide-Angle สำหรับการถ่ายภาพมุมกว้างอีกด้วย

จะเห็นว่า Vivo V15 เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากๆ ในช่วงราคานี้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงสเปคเท่านั้น แต่ด้วยดีไซน์ คุณภาพงานประกอบ หน้าจอที่สวยงาม และนวัตกรรมที่เร้าใจทำให้เป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดจริงๆ กับราคาชวนสัมผัส 10,999 บาทเท่านั้น

จุดเด่นของ Vivo V15

• ดีไซน์ตัวเครื่องทันสมัย สีสันสวยงาม
• หน้าจอไร้ขอบ Ultra FullView Display ขนาด 6.53 นิ้ว ไม่มีติ่งมาบดบังหน้าจอ ทำให้สามารถแสดงผลได้กว้างเต็มตา
• กล้องหน้าแบบเลื่อนแบบเลื่อนอัตโนมัติ (Elevating Front Camera) ความละเอียดสูงถึง 32MP สามารถเลื่อนขึ้นลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ติดขัด
• AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 12MP (24 Million Photosensitive Units) + 8MP + 5MP
• มาพร้อม AI Super Wide-Angle Camera โหมดการถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ 120 องศา
• โหมดพิเศษ AI Body Shaping ที่สามารถปรับแต่งรูปร่างได้ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
• รองรับการสแกนด้วยลายนิ้วมือ บริเวณด้านหลังตัวเครื่อง
• ถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และสามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256GB
• มีระบบ Smart Button สำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant และ Jovi Image Recognizer
• แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh พร้อมรองรับชาร์จไว Dual-Engine Fast Charging

จุดสังเกตของ Vivo V15

• พอร์ตเชื่อมต่อยังคงเป็น Micro USB
• ไม่รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า
• ไม่มีโหมดสำหรับถ่ายภาพกลางคืน
• ไม่รองรับชิปเสียง Hi-Fi

Vivo V15 มีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงิน Topaz Blue และสีแดง Glamour Red ความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานที่มีมาให้แบบครบๆ กับราคาค่าตัวสุดคุ้ม เพียง 10,999 บาทเท่านั้น เปิดให้ Pre-order ตั้งแต่วันที่ 16 - 27 มีนาคม 2562 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับของแถมไปเลยแบบเต็มพิกัด : Vivo VIP Card เพิ่มการรับประกันตัวเครื่องเป็น 24 เดือน พร้อมประกันจอแตก เปลี่ยนหน้าจอแบบไม่จำกัดจำนวนเป็นเวลา 1 ปี, Vivo V15 Series Executive Gift Set มูลค่า 1,099 บาท และ Songkran Gift Set มูลค่า 1,199 บาท

สามารถดูรายละเอียดเงื่อนไขการสั่งจองเพิ่มเติมได้ที่ วีโว่ เปิดจองสมาร์ทโฟน Vivo V15 เพียง 500 บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย ตั้งแต่ 16 - 27 มี.ค. 2562

---

สำหรับใครที่สนใจอ่านบทความรีวิวแบบเจาะลึกของสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ Vivo V15 Pro ก็สามารถเข้าไปอ่านกันได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลย