10 จุดเด่น Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม
Samsung Galaxy S9 และ
Samsung Galaxy S9+ เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นล่าสุดของ
ซัมซุง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมาตรฐานอีกระดับ มาพร้อมสโลแกน The Phone Reimagined และ The Camera Reimagined แถมยังวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นกลุ่มประเทศแรกของโลกอีกด้วย สำหรับการกลับมาครั้งนี้ ซัมซุง ได้ชูจุดขายในเรื่องกล้องมากที่สุด รวมทั้งในเรื่องของลูกเล่น AR Emoji ซึ่งจะช่วยให้เพื่อนๆ ได้สนุกกันมากยิ่งขึ้น หลายคนอาจสงสัยกันว่า การกลับมาครั้งนี้มันแตกต่างจากรุ่นที่แล้วอย่าง Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ อย่างไรบ้าง? เพราะในเรื่องของดีไซน์ต้องบอกว่าดูคล้ายกันมากทีเดียว จะคุ้มกับการที่จะต้องเปลี่ยนเครื่องหรือเปล่า? วันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกันครับ
1. ดีไซน์ที่ลงตัวมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าการกลับมาครั้งนี้ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะมีดีไซน์และวัสดุที่แทบจะไม่แตกต่างจากเดิม แต่ก็ต้องบอกว่ามันยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่สวยงามมากๆ โดยมีการปรับปรุงให้ลงตัวมากกว่าเดิม ในส่วนของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ถูกวางตำแหน่งได้อย่างเหมาะสม ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ในส่วนหน้าจอยังคงเป็นหน้าจอที่สวยงามระดับแถวหน้า ด้วยหน้าจอโค้ง Infinity Display ชนิด Super AMOLED อัตราส่วน 18.5:9 ความละเอียด 1440 x 2960 pixels (QHD+), กระจกหน้าจอ และกระจกฝาหลัง Corning Gorilla Glass 5 และยังคงมาพร้อม Fast battery charging และ Qi wireless Fast charging
2. สเปคที่สูงขึ้น จัดเต็มด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Exynos 9810
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ แม้ว่าเครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะไม่ใช่ Snapdragon 845 แต่สเปคก็จัดเต็มมากครับด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Exynos 9810, CPU Octa-core (4x2.9 GHz & 4x1.9 GHz Cortex-A55), GPU Mali-G72 MP18 รองรับ 4G LTE-A (6CA) Cat18 1200/200 Mbps และมี RAM, ROM หลากหลายความจุให้เลือกซื้อมากกว่าเดิม พร้อมราคาที่น่าสนใจเพราะด้วยความจุเดิม มีราคาเท่ากับ Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ ตอนเปิดตัวปีที่แล้วเลยครับ
3. มาพร้อมสีสันใหม่ โดดเด่นสะดุดตา
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ (Midnight Black), สีน้ำเงิน (Coral Blue), สีเทา (Titanium Gray) และ สีม่วง (Lilac Violet) จะเห็นว่าปีนี้ตัดสีทอง (Maple Gold) ออกไปนะครับ ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะที่ผ่านมาเป็นสีที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุด โดยในปีนี้มีสีใหม่นั่นก็คือสีเทา และสีม่วง (สำหรับสีเทาไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย)
ที่โดดเด่นมากๆ คือ สีม่วง (Lilac Violet) ครับเพราะแตกต่างจากสีม่วง (Orchid Grey) ของรุ่นที่แล้วอย่างสิ้นเชิง จะเป็นสีม่วงสดใส ดูหวานมากๆ เหมาะกับสาวๆ และกลุ่มเป้าหมายจริงๆ และผมเชื่อว่าหนุ่มๆ บางคนก็ชอบสีนี้ เป็นผมเองก็จะเลือกสีนี้นะเพราะดูแตกต่าง และสวยมากๆ
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ ที่ปรับจูนเสียงโดย AKG รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลง โดยทางซัมซุมเครมว่าคุณภาพเสียงดีกว่าเดิมเป็นอย่างมากเลยครับ และแน่นอนว่าในกล่องยังคงมาพร้อมหูฟังของ AKG
5. รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ และฝุ่น IP68 โดยสามารถอยู่ในน้ำความลึก 1.5 เมตร ได้นาน 30 นาที และป้องกันฝุ่นละอองได้ แต่ขอเตือนนะครับถ้าเกิดน้ำเข้าขึ้นมาประกันสิ้นสุดทันที (เป็นทุกแบรนด์เลยครับ) ผมว่ามีไว้เผื่อเจออุบัติเหตุก็พอนะครับ ไม่ควรใช้งานใต้น้ำอย่างจริงจัง เพราะประกันไม่ครอบคลุม
6. ระบบรักษาความปลอดภัยแบบไบโอเมตริกซ์ (Biometric) สมบูรณ์แบบกว่าใครในตลาด
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ยังคงมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบไบโอเมตริกซ์ (Biometric) ที่สมบูรณ์แบบ มีทั้งระบบจดจำใบหน้า Face recognition, ระบบสแกนม่านตา Iris scanning, ระบบสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint Scanner รวมทั้งระบบพื้นฐานอย่าง Pattern และ Password เรื่องความแม่นยำหายห่วงครับ ทำได้ดีมาตั้งแต่รุ่นที่แล้ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสูง Samsung Knox 3.1
7. กล้องคู่ที่ถูกยกให้เป็น กล้องบนสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก
Samsung Galaxy S9 ยังคงมีกล้องตัวเดียวครับความละเอียด 12MP F1.5, F2.4 เลนส์มุมกว้าง 26 มม. รองรับเทคโนโลยี Super Speed Dual Pixel, PDAF, ระบบกันสั่น OIS
แต่ว่า Samsung Galaxy S9+ เป็นสมาร์ทโฟน Galaxy S Series รุ่นแรกที่มาพร้อมกล้องคู่ ในส่วนสเปคกล้องมาพร้อมกล้องคู่คุณภาพสูง ความละเอียด 12MP F1.5, F2.4 26 มม. + 12MP F2.4 52 มม. สามารถปรับรูรับแสงได้อัตโนมัติ F1.5, F2.4, Dual Aperture lens ช่วยในการเพิ่มความสว่าง ถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีกว่าเดิม, รองรับเทคโนโลยี Super Speed Dual Pixel, PDAF, ระบบกันสั่น Dual OIS
แถมยังสามารถถ่ายวีดีโอแบบสโลวโมชั่น 960FPS (Super Slow-mo) บนความละเอียด HD 720P (รุ่นนี้ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30FPS ครับ) และสามารถใส่เพลงประกอบไฟล์ที่เราถ่ายทำ รวมทั้งสามารถบันทึกเป็นไฟล์ GIF เพื่อนำมาใช้งานหรือแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อีกด้วย และสามารถนำมาใช้เป็นหน้าจอ Lock Screen ได้เช่นกัน
ที่สำคัญกล้องของ Samsung Galaxy S9+ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกล้องบนสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลกจาก DxOMark ด้วยนะครับ จากผลคะแนนที่ให้คะแนนอยู่ที่ 99% เลยทีเดียว ชนะคู่แข่งทั้ง Google Pixel 2 XL และ iPhone X
8. AR Emoji ความสนุกที่จะได้สัมผัสเป็นครั้งแรกบน Samsung Galaxy
AR Emoji เป็นฟีเจอร์ที่เชื่อว่าน่าจะได้เห็นกันบนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของ Samsung Galaxy เป็นฟีเจอร์ที่สามารถสร้างภาพอีโมจิคอนของผู้ใช้งาน โดยใช้อัลกอริธึมในการเรียนรู้มากกว่า 100 ลักษณะในการสร้างขึ้นมาให้เป็นโมเดล 3 มิติ สามารถแสดงอารมณ์อย่างเช่นกระพริบตา และพยักหน้าเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นตัวเราได้มากที่สุด โดยสามารตกแต่งตัวละครของเราได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว และไม่เพียงเฉพาะวีดีโอ แต่สามารถบันทึกเป็นไฟล์ AGIF เพื่อนำไปใช้กับแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ได้อีกด้วย
9. Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น
Bixby ระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่ทางซัมซุงพัฒนาขึ้นมาเอง โดยใช้ทีม Viv Labs ซึ่งเป็นบริษัทที่มีส่วนร่วมในการพัฒนา Siri ของ Apple เข้ามาพัฒนาระบบ AI ตัวนี้ สามารถสั่งงานด้วยเสียง ข้อความ หรือสัมผัส สามารถค้นหาผ่านกล้องได้ด้วย ระบบจะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นต่างๆ โดยในปีนี้ทางซัมซุงได้พัฒนายกระดับขีดความสามารถให้ฉลาดยิ่งขึ้น โดยผสานความสามารถของผู้ช่วยอัจฉริยะกับการทำงานของกล้อง สามารถจดจำและตรวจสอบวัตถุ พร้อมแสดงข้อมูลได้อย่างทันที (AR Readiness) รวมทั้งสามารถแปลภาษา (Bixby Live Translation) และแปลงสกุลเงินต่างๆ ได้ ต่อไปนี้การไปต่างประเทศจะกลายเป็นเรื่องง่าย เพราะไม่มีกำแพงทางด้านภาษาอีกต่อไป
10. Samsung DEX (2018) อุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มาพร้อมอุปกรณ์มากมายจากซัมซุง มีเคสรูปแบบใหม่ๆ ให้เลือกมากมาย และที่น่าสนใจที่สุดคือ Samsung DEX (2018) (การเชื่อมต่อขึ้นหน้าจอใหญ่ ใช้งานในรูปแบบ Android desktop Version) รูปแบบใหม่เป็นแนวนอน ช่วยให้เราสามารถใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถใช้หน้าจอสมาร์ทโฟนเป็น Touchpad รวมทั้งใช้งานเป็นคีบอร์ด น่าสนใจจนต้องบอกว่าถ้าซื้อเครื่องแล้ว ต้องซื้อ Samsung DEX (2018) มาใช้คู่กันเลยครับ
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ (Midnight Black), สีฟ้า (Coral Blue) และเฉดสีใหม่ล่าสุด สีม่วง (Lilac Purple) จะมีรายละเอียดราคาดังนี้ครับ
- Samsung Galaxy S9 ราคา 27,900 บาท
- Samsung Galaxy S9+ 64GB ราคา 31,900 บาท
- Samsung Galaxy S9+ 128GB ราคา 33,900 บาท
- Samsung Galaxy S9+ 256GB ราคา 37,900 บาท (เฉพาะช่องทางของพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการเครือข่าย)
ใครที่สนใจแล้วพลาดไม่ได้สั่งจอง ก็รอซื้อกันได้เลยครับ น่าจะได้เครื่องในช่วงเวลาพอๆ กับคนที่สั่งจองครับ ส่วนโปรโมชั่นกับเครือข่ายน่าสนใจมากครับ ลดสูงสุดถึง 10,000 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจและจ่ายค่าบริการล่วงหน้าตามที่กำหนด รวมทั้งมีโปรโมชั่นผ่านกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 0% นาน 10 เดือน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ซัมซุง แบรนด์ ช้อป ทั่วประเทศ, ร้านค้าออนไลน์ของซัมซุงที่ S-estore รวมถึงสาขาที่ร่วมรายการของพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการเครือข่าย ทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรู หรือผ่าน Lazada