Line ประกาศการเป็นอันดับ 1 และมุ่งสู่การเป็น Mobile Portal รวมทุกอย่าง! เปลี่ยนชีวิตให้ง่ายขึ้น!
Line ประกาศการเป็นอันดับ 1 และมุ่งสู่การเป็น Mobile Portal รวมทุกอย่างเอาใว้บน Line นำเสนอเซอร์วิส และโซลูชั่นต่างๆช่วยให้ผู้คนไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นมากมายบนสมาร์ทโฟนอีกต่อไป และประกาศความสำเร็จที่ Line เป็นแอปพลิเคชั่นแชทอันดับ 1 ในประเทศไทย มีผู้ใช้มากถึง 94% ของทั้งหมด และเป็นประเทศสำคํญอันดับ 2 ของโลกรองจากญี่ปุ่นเท่านั้น โดยทาง Line ตั้งเป้าความสำเร็จให้เป็นมากกว่าการแชท ต่อยอดธุรกิจสติกเกอร์ที่ประสบความสำเร็จ
- Line TV เติบโตอย่างงดงามด้วยยอดวิวที่เพิ่มขึ้นถึง 136% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมากับซีรี่ส์ที่เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อย่างเช่น I HATE YOU I LOVE YOU, ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ และ O-Negative
- LINE MAN บริการใหม่ซึ่งประกอบไปด้วยแมสเซนเจอร์ สั่งซื้ออาหารและของสะดวกซื้อ ที่เพิ่งเปิดตัวไปในเดือนพฤษภาคม 2559 ด้วยจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 400,000 คน พร้อมจำนวนร้านอาหารมากกว่า 20,000 ร้านตั้งแต่สตรีท ฟู้ด ไปจนถึงภัตตาคาร ทำให้ LINE MAN ขึ้นสู่อันดับ 1 บริการส่งอาหาร ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
- LINE GAME ครองอันดับ 1 ตลาดเกมมือถือในประเทศไทย
- LINE STICKERS ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยจำนวนสติกเกอร์ดาวน์โหลดที่สูงกว่า 500 ล้านเซ็ต แสดงให้เห็นว่า สติกเกอร์ยังคงเป็นเครื่องมือสื่อสารที่คนไทยนิยมใช้ในการแสดงความรู้สึก
นอกจากนี้แล้ว LINE ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน Best Brand ในประเทศไทย และได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่คนอยากทำงานด้วยเป็นอันดับ 1
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา LINE ตระหนักดีว่า ประเทศไทยเป็น "Mobile First Country" ด้วยจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือที่สูงถึง 44 ล้านคน หรือประมาณ 2 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า โทรศัพท์มือถือเป็นศูนย์กลางของโลกดิจิตอล เนื่องจากคนไทยเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตครั้งแรกผ่านทางสมาร์ทโฟนมากกว่าคอมพิวเตอร์ ด้วยเหตุนี้ LINE จึงตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางของสมาร์ทโฟนหรือที่เรียกว่า "Mobile Portal" เพื่อช่วยให้ชีวิตคนไทยง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ของ LINE มาจาก 4 ปัจจัยหลักในการใช้ชีวิตได้แก่ การติดต่อสื่อสาร (Communication), คอนเทนต์ (Content), บริการ (Services) และการขายสินค้าและบริการ (Commerce)
- การติดต่อสื่อสาร (Communication) จากผลสำรวจของ Nielsen พบว่า คนไทยใช้เวลาเฉลี่ยบนสมาร์ทโฟนสูงถึง 234 นาทีต่อวัน โดย 1 ใน 3 ของเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟน หรือประมาณ 70 นาทีต่อวัน ถูกใช้บนแพลตฟอร์ม LINE เราจึงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาบริการเพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ
- คอนเทนต์ (Content) ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ เพลง และสิ่งพิมพ์ ต่างถูกย้ายมาอยู่บนโลกออนไลน์ โดยคนไทยใช้เวลาดูวิดีโอออนไลน์สูงถึง 133 นาทีต่อวัน หรือคิดเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 65 นาทีต่อวัน จากรายงานของสมาคมโฆษณาดิจิทัล ประเทศไทย (DAAT) พบว่า งบโฆษณาบนช่องทางดิจิตอลจะเติบโตขึ้นกว่า 30% ในปีนี้ และเพื่อเป็นการตอบรับกับเทรนด์ดิจิตอลที่เกิดขึ้น LINE TV เตรียมสร้างสีสันด้วยการเปิดตัวคอนเทนต์กลุ่มใหม่ทั้งกีฬา (Sports) และความงาม (Beauty) เพิ่มขึ้นจากละคร (Drama), บันเทิง (Entertainment), เพลง (Music), อนิเมชั่น (Animation) และถ่ายทอดสด (LIVE) พร้อมกันนี้ยังวางแผน ขยายพันธมิตรรายใหญ่ต่างๆ อาทิ ช่อง 8, พีพีทีวี, ไทย ไฟท์ และจีบัน นอกจากนี้ยังมี LINE TODAY ที่เพิ่งเปิดตัวไปภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี ด้วยฟีเจอร์ "News Tab" ที่ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารง่ายขึ้น พร้อมตั้งเป้าขึ้นสู่อันดับ 1 แพลตฟอร์มข้อมูลข่าวสารบนมือถือ โดยจะเริ่มสร้างรายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
- บริการ (Services) ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันจำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.2 - 2.6 ล้าน แอปพลิเคชัน ในขณะที่จำนวนแอปพลิเคชันเฉลี่ยที่คนส่วนใหญ่ดาวน์โหลดมีเพียง 32 แอปพลิเคชันต่อหนึ่งอุปกรณ์เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นมีเพียง 3 - 5 แอปพลิเคชันที่ถูกใช้งานในแต่ละวัน ด้วยเหตุนี้ LINE จึงพัฒนา Chat BOT ขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนแอปพลิเคชันด้วยการเข้าถึงบริการต่างๆ ได้จาก LINE เพียงที่เดียว โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น Chat BOT ของ LINE เอง เช่น LINE FINANCE หรือจากพาร์ทเนอร์ เช่น Uber และ Wongnai รวมถึงแบรนด์ต่างๆ อาทิ Citibank, FWD, Lazada, Krungthai AXA, Maybank, Shell และ Uniliver
- การขายสินค้าและบริการ (Commerce) ปัจจุบันการขายสินค้าออนไลน์หรือ e-commerce ยังคงมีสัดส่วน ที่เล็กมากเพียง 3.8% ของมูลค่าการค้าปลีกทั้งหมด LINE จึงมองเห็นโอกาสในการเชื่อมต่อโลกออฟไลน์ และออนไลน์ หรือที่เรียกว่า บริการในรูปแบบ O2O (Offline to Online) เราจึงมีการเปิดตัว Beacon ซึ่งร้านค้าต่างๆ สามารถติดตั้ง Beacon เพื่อให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และมอบคูปองโปรโมชั่นต่างๆ เมื่อลูกค้า มาใช้บริการที่ร้านค้า นอกจากนี้ยังมี LINE MAN ที่ขยายรูปแบบการให้บริการจากแมสเซนเจอร์ สั่งซื้ออาหาร และของสะดวกซื้อ ไปสู่บริการรับส่งพัสดุ (Postal) โดยการจับมือกับ Alpha เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน
"ในฐานะผู้นำด้านแพลตฟอร์มบนมือถือและเป้าหมายการเป็น "Mobile Portal" LINE ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเซอร์วิส และโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต พร้อมทั้ง สานต่อพันธกิจในการเชื่อมต่อข้อมูล ผู้ใช้ และบริการให้ใกล้กันมากขึ้น ภายใต้แนวคิด "Closing the Distance" และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระบบดิจิตอล อีโคโนมี่ (Digital Economy) ในประเทศไทย”