รีวิว Brother HL-L6400DW และ MFC-L6900DW เครื่องพิมพ์สำนักงานที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพและความคุ้มค่า

มีคนกล่าวไว้ว่า "การบริหารจัดการงานพิมพ์ในสำนักงานนั้น มีความยุ่งยากพอๆ กับการบริการจัดการพนักงานในบริษัทใหญ่ๆ" ซึ่งเราก็คิดว่าตรงกับสถานการณ์ในปัจจุบันเสียจริงๆ และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมีปัญหาการบริหารจัดการงานพิมพ์ในสำนักงานอยู่ เครี่องพิมพ์สำนักงาน Brother HL-L6400DW และ MFC-L6900DW ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบการพิมพ์หลากหลายรูปแบบ หลายขนาด แถมยังพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย ก็อาจเป็นตัวช่วยที่คุณกำลังมองหาก็เป็นไปได้...

เครื่องพิมพ์สำนักงานเลเซอร์ขาวดำของ Brother ทั้งสองรุ่น ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบหรู คำนึงถึงการใช้งานที่สะดวกสบายของผู้ใช้เป็นหลัก โดยรุ่น Brother HL-L6400DW มีขนาดอยู่ที่ 400 x 396 x 288 มม. หนัก 13.4 กก. ส่วนรุ่น MFC-L6900DW นั้นมีขนาดอยู่ที่ 495 x 427 x 518 มม. หนัก 19.1 กก. ซึ่งเมื่อถึงเวลาใช้งานจริง เราได้ใส่ตัว Tower tray TT-400 ที่เป็นอุปกรณ์เสริมเข้าไป เพื่อจัดการกับงานพิมพ์ ก็พบว่าเครื่องทั้งสองจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอยู่พอสมควร แต่โชคดีที่ทางใต้ Tower tray มีล้อให้ เราจึงลากไปใช้งานที่อื่นได้อย่างสะดวก

เมื่อเครื่องพิมพ์สำนักงาน Brother HL-L6400DW และ MFC-L6900DW ใส่อุปกรณ์เสริม Tower tray TT-400 เข้าไปก็จะมีน้ำหนักมากขึ้น แต่ก็เคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวก เพราะมีล้อทางด้านล่าง นอกจากนั้น การที่ต่อ Tower tray TT-400 เข้ากับตัวเครื่อง ยังช่วยในเรื่องของการพิมพ์อย่างมาก  รองรับการใส่กระดาษพิมพ์ได้สูงสุด 2600 แผ่น (520 x 5 ชั้น) อีกทั้งยังกำหนดรูปแบบการพิมพ์ของแต่ละชั้นได้อีกด้วย

อุปกรณ์เสริม Mailbox MX-400 ของ Brother HL-L6400DW
จะช่วยแยกเอกสารที่พิมพ์เสร็จออกเป็นชุดๆ ช่วยให้ง่ายต่อการนำไปใช้งานต่อ ไม่ต้องมาคัดแยกให้เสียเวลา

หน้าจอของเครื่องพิมพ์สำนักงานทั้ง 2 รุ่น จะแตกต่างกันคือ รุ่น HL-L6400DW จะเป็นหน้าจอแบบ TFT LCD ขนาด 1.8 นิ้ว แบบขาวดำ ส่วนรุ่น MFC-L6900DW นั้นเป็นแบบ TFT Color LCD ขนาด 4.85 นิ้ว ซึ่งจะใช้งานได้สะดวก และมองเห็นได้เต็มตากว่าแบบแรก

หน้าจอของเครื่องพิมพ์สำนักงานทั้งสองรุ่นเป็นแบบจอสัมผัส ช่วยให้เราใช้งานได้สะดวก โดยหน้าจอของรุ่น MFC-L6900DW จะมีขนาดใหญ่กว่า เนื่องจากต้องรองรับการใช้งานหลายอย่างในแบบมัลติฟังก์ชั่น 

เครื่องพิมพ์สำนักงานทั้งสองรุ่นนี้มีระบบประมลผลที่เหมือนกัน คือซีพียู Cortex-A9 ความเร็ว 800MHz และมี RAM 1GB ซึ่งช่วยให้การพิมพ์เอกสารมีความรวดเร็วมากกว่าเครื่องพิมพ์รุ่นก่อนๆ

ด้วยซีพียู Cortex-A9 ความเร็ว 800MHz และ RAM 1GB เครื่องพิมพ์สำนักงานทั้งสองรุ่นนี้จึงพิมพ์เอกสารทั่วไปได้ที่ความเร็วสูงสุด 50/52 แผ่นต่อนาที ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าใช้เวลาในการสั่งพิมพ์แต่ละแผ่นราวๆ 10 วินาที
ซึ่งเร็วกว่าเครื่องรุ่นก่อนหน้านี้ที่ใช้เวลาถึง 30 วินาที

เครื่องพิมพ์สำนักงาน Brother HL-L6400DW และ MFC-L6900DW มีความสามารถในการพิมพ์ที่หลากลาย เช่น

• พิมพ์เอกสาร 2 หน้าอัตโนมัติ
• รองรับการพิมพ์โปสเตอร์ พิมพ์ลายน้ำ พิมพ์เฮดเดอร์และฟุตเตอร์ รวมถึง Secure Print
• ความเร็วในการพิมพ์สูงสุด (A4/Letter) 50/52 หน้าต่อนาที
• ความละเอียดในการพิมพ์ 1200 x 1200 dpi
• ระยะเวลาในการพิมพ์แผ่นแรก (โหมด Ready) ต่ำกว่า 7.5 วินาที  

ซึ่งจากการทดสอบ ก็พบว่าเครื่องพิมพ์รองรับการใช้งานในสำนักงานได้ดีจริงๆ ถึงแม้จะพิมพ์สีไม่ได้ แต่ก็พิมพ์งานขาวดำต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากจะรองรับการพิมพ์ได้หลากหลายรูปแบบแล้ว ในรุ่น MFC-L6900DW ยังสามารถใช้สแกน ถ่ายเอกสาร แฟกซ์ ได้อีกด้วย นับว่ารองรับการใช้งานต่างๆ ในออฟฟิศได้ดีเลยทีเดียว

ถ้ากล่าวถึงฟังก์ชั่นการใช้งานของ Brother HL-L6400DW และ MFC-L6900DW ก็มีอยู่มากมาย เช่น

Near Field Communication (NFC) Card Reader การ์ด NFC ที่ช่วยระบุสิทธิ์การใช้งานของแต่ละคน ว่าจะสามารถสั่งพิมพ์ หรือสั่งสแกนได้หรือไม่ โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านให้ยุ่งยาก

SSL / TLS Print ระบบรักษาความปลอดภัยที่จะช่วยกันการแฮกข้อมูลการสั่งพิมพ์แบบไร้สาย ทำให้มั่นใจว่าข้อมูลเอกสารของคุณจะไม่รั่วไหลไปถึงผู้ไม่ประสงค์ดี  นอกจากนั้น เครื่องยังมีฟังก์ชั่น Secure Print หรือการสั่งพิมพ์เอกสารไว้ แล้วเครื่องจะยังไม่พิมพ์ทันที จนกว่าเจ้าของเอกสารจะไปยืนยันตัวตนและสั่งพิมพ์เอกสารที่หน้าเครื่องอีกครั้ง เพื่อป้องกันคนเห็นหรือขโมยเอกสารที่เป็นความลับ

Mobile Printing รองรับการสั่งพิมพ์จากโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต โดยผ่านฟังก์ชั่นการทำงานทั้งบนระบบ Android และ iOS ไม่ว่าจะเป็น AirPrint และ Android Print Service Plugin รวมถึงแอปฯ iPrint&Scan ของบราเดอร์เอง

Carbon Copy ฟังก์ชันที่ทำให้เราสั่งพิมพ์ครั้งเดียว แต่ได้สำเนาเอกสารตามจำนวนชุดที่ตั้งไว้ เพื่อทดแทนการใช้งานเครื่อง Dot Matrix ที่มีราคาสูงและเสียงดังรบกวน แถมยังตั้งค่าให้พิมพ์ในกระดาษสีที่ต้องการได้ด้วย

Exclude Tray ฟังก์ชั่นที่ช่วยให้คุณไม่เสียกระดาษไปอย่างสิ้นเปลือง โดยระบบจะจดจำว่าคุณสั่งพิมพ์ใส่กระดาษสีอะไรไว้ ถ้ากระดาษสีนั้นหมด ก็จะแจ้งเตือน ไม่ดึงกระดาษสีอื่นมาพิมพ์เด็ดขาด

Media Match เป็นฟังก์ชั่นที่จะช่วยจำแนกประเภทของกระดาษ ซึ่งถ้าคุณสั่งพิมพ์ในกระดาษ A4 แล้วกระดาษหมด ระบบก็จะไม่ไปดึงกระดาษขนาดอื่นมาพิมพ์ให้เสียไปฟรีๆ

สำหรับเรื่องของการเชื่อมต่อนั้น เครื่องพิมพ์สำนักงานทั้งสองก็รองรับได้หลากหลายเลยทีเดียว เช่น

• USB (เฉพาะรุ่น MFC-L6900DW)
• Wi-Fi 802.11b/g/n
• Wi-Fi Direct
• Gigabit Ethernet
• NFC

ซึ่งนับได้ว่าเครื่องนั้นรองรับการเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลาย ช่วยอำนวยความสะดวกการใช้งานในสำนักงานได้เป็นอย่างดี

ทางด้านหลังของเครื่องจะเป็นพอร์ตเสียบสาย LAN (Gigabit Ethernet) และ USB

ทางด้านหน้าของเครื่องจะที่แตะบัตร NFC เพื่อแสดงตัวตนของผู้ใช้

แม้ว่าการต่ออุปกรณ์เสริม Tower Tray เข้ากับเครื่องพิมพ์สำนักงาน ฺBrother HL-L6400DW และ MFC-L6900DW จะทำให้เครื่องโดยรวมมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมากขึ้น แต่ด้วยการที่ตัวอุปกรณ์เสริมเองนั้นมีล้อเลื่อนมาด้วย ทำให้เราสามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานได้ทุกๆ ที่ในออฟฟิศตามความต้องการ นอกจากนั้น เครื่องทั้งสองยังมีการพิมพ์งานรวดเร็วแค่ราวๆ 10 วินาทีต่อแผ่น อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่คำนึงทั้งสะดวกสบาย และความปลอดภัยอยู่มากมาย 

ทั้งนี้ ถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำที่รองรับการแฟกซ์ ถ่ายเอกสาร สแกน เครื่องรุ่น MFC-L6900DW ก็คงตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณคำนึงถึงงานพิมพ์เอกสารเป็นหลัก เครื่องรุ่น HL-L6400DW ก็อาจเป็นคำตอบของคุณได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณสนใจในตัวเครื่องพิมพ์สำนักงานรุ่น MFC-L6900DW ก็เตรียมพบกับการรีวิวในแง่มุมอื่นๆ ได้ครั้งต่อไป

ขอขอบคุณ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เครื่องพิมพ์สำนักงานทั้งสองรุ่นมาทดสอบ

ติดต่อสอบถามราคา และข้อมูลเพิ่มเติมของเครื่องพิมพ์สำนักงาน Brother HL-L6400DW และ MFC-L6900DW ได้ที่ Brother Contact Center โทร 0-2665-7777 หรือ www.brother.co.th