นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “
We Build Happiness” เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 1/2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,270 ล้านบาท ลดลง 18% QoQ และเพิ่มขึ้น 2% YoY โดยโครงการที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์หลักๆ ได้แก่ โครงการ
แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา สุทธิสาร (Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan) มูลค่าโครงการ 570 ล้านบาท ,โครงการแนวราบ
บ้านภูริปุรี ลาดพร้าว 41 (Baan Puripuri Ladprao 41) มูลค่าโครงการ 90 ล้านบาท ,โครงการ
เคฟทาวน์ ชิฟท์ (Kave Town Shift) มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท และโครงการ
โมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท ซึ่งรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% QoQ และลดลง 29% YoY ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราการทำกำไรขั้นต้น (GP) ได้ในระดับ 36% และอัตรากำไรสุทธิ (NP) ที่ 18% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงหากเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 คาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยจะมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นจากปัจจัยบวกลูกค้าเริ่มคลายความกังวลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 หลังภาครัฐยกเลิกมาตรการ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา รับนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ส่งผลให้กลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2 บริษัทเดินหน้าตอกย้ำผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัย โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,980 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ,โครงการ เอสต้า รังสิต-คลอง 2 มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท, โครงการ แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท และโครงการ เคฟ โคโลนี มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการในทุกด้าน และพร้อมเดินหน้าทำการการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจับมือกับพันธมิตรสร้างมิติใหม่ให้กับผู้อยู่อาศัยโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ มั่นใจว่าด้วยการกลยุทธที่บริษัทวางไว้ จะช่วยผลักดันยอดขายทั้งปีตามที่ตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เติบโต 13% และมีรายได้รวมในปีนี้ที่ 6,000 ล้านบาท เติบโต 19% ตามเป้าหมาย