ดิ อิสสระ สาทร อัดแคมเปญกระตุ้นยอดกลางปี ส่ง Final Call ห้องหลุดดาวน์ หั่นราคาเริ่มต้น 4.99 ลบ.

นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยีสาระสนเทศ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย หลังจากที่ภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ประกอบด้วย ลดค่าธรรมเนียมการโอน จาก 2% เหลือ 0.01%, ลดค่าจดจำนอง จาก 1% เหลือ 0.01% โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 9 เม.ย.-31 ธ.ค.2567 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ของปีนี้มีความคึกคักมากขึ้น

ล่าสุดโครงการ ดิ อิสสระ สาทร ลักชัวรี่คอนโดมิเนียม เตรียมส่งโปรโมชั่น Final Call ห้องหลุดดาวน์ เพิ่มโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวนความสะดวก ในราคาสุดคุ้มเริ่มต้นเพียง 4.99 ล้านบาท* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม อาทิ ส่วนลด 100,000 บาท Gift Voucher ที่พักโรงแรมบาบาบีช คลับ หัวหิน สำหรับลูกค้าที่จองในวันงาน 29 มิ.ย.นี้

 

"จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน และค่าจดทะเบียนโอน จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีการขยายตัวมากขึ้น เพราะช่วยลดภาระให้กับผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น ขณะที่ในส่วนของโปรโมชั่นที่ออกมานับว่าเป็นสิ่งที่โครงการตั้งใจมอบให้ลูกค้าที่กำลังมองหาโครงการคุณภาพ ในราคาสุดคุ้ม พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวจากโครงการ ดิ อิสสระ สาทร" นายดิฐวัฒน์ กล่าว

 

สำหรับ โครงการ ดิ อิสสระ สาทร เป็นลักชัวรี่คอนโดมิเนียม พัฒนาโดย บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แนวคิด "UNITE ALL SIDES OF YOUR LIFE...ใช้ชีวิตอิสสระ ให้สุดในทุกด้าน" ตั้งอยู่บนทำเล ถนนจันทน์-สาทร สูง 37 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต มาพร้อมกับระบบการจอดรถแบบ Auto Parking สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV) และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ออกแบบโดย บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) สะท้อนไลฟ์สไตล์ การอยู่อาศัย ได้สัมผัสถึงความเป็น Luxury Urbanature ที่เชื่อมต่อความเป็นเมืองและธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน เน้นการออกแบบที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่ส่วนกลาง การออกแบบยูนิตพักอาศัย ระบบรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงระบบการจอดรถ Auto Parking โดยทุกยูนิตจะให้ความสำคัญกับขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้อง มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 32.81 - 188.76 ตร.ม. เริ่มที่ 1 Bed, 1 Bed+, 2 Bed, 2 Bed+, 3Bed และ Penthouse ซึ่งแต่ละรูปแบบได้มีการออกแบบ Layout ของห้องที่เป็น Flexible Area ช่วยให้ปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามความเหมาะสม