เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำอุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทย ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING' กับการส่งมอบชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย พร้อมจุดพลุสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโครงการคอนโดมิเนียมแมสเซกเมนต์ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดยังคงวนเวียนอยู่ แต่ในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเริ่มมีสัญญาณที่ดีในกลุ่มสินค้าคอนโดทยอยปรับตัวฟื้น ดีมานด์ลูกค้าเริ่มเป็นบวก
พร้อมประเดิมครึ่งปีแรกเปิดตัวคอนโดแบรนด์ ASPIRE โฉมใหม่ เจาะกลุ่มคนเมือง Young Gen ผ่านจุดยืน ‘LIVE AS YOU ASPIRE อิสระในทุกมิติของชีวิต’ ที่เอพีท้าทายทุกข้อจำกัดในการพัฒนา ตั้งเป้า ASPIRE - คอนโดแมสเซกเมนต์ที่ดีที่สุดแห่งปี ชู 3 จุดขายใหม่ ครั้งแรกกับการดีไซน์ผังยูนิตรูปแบบใหม่ตอบพื้นที่ชีวิตที่ดีที่สุด จัดเต็มส่วนกลางปลดปล่อยอิสระที่ลงตัวที่สุด และข้อเสนอสุดท้ายที่คุ้มค่าที่สุด เริ่ม 1.99 ล้านบาท ประเดิมปักธง 3 สุดยอดซิตี้โซนคุณภาพ ปิ่นเกล้า - อรุณอมรินทร์ รัชโยธิน และสุขุมวิท - พระราม 4 ครบทั้งการเดินทาง แหล่งทำงานและไลฟ์สไตล์ โดยเตรียมเปิดจองรอบพิเศษโครงการแรกที่ ASPIRE ปิ่นเกล้า - อรุณอมรินทร์ ในวันที่ 19 - 20 มีนาคม 2565 นี้ ลงทะเบียนนัดหมายเข้าชมโครงการที่
www.apthai.com นางสาวกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า “บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในปีนี้ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เป็นการเปิดตัวในครึ่งปีแรกจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 6,800 ล้านบาท โดยเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของแบรนด์ ASPIRE โฉมใหม่ โปรดักต์ไฮไลต์ของปี ที่เอพีเซ็ตมาตรฐานกระบวนการพัฒนาใหม่ทั้งหมด จากการศึกษาและถอดรหัสอินไซต์การใช้ชีวิตของกลุ่ม Young Generation ลูกค้าเป้าหมาย ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หลังพบเซนติเมนท์ลูกค้าคอนโดที่เริ่มปรับตัวฟื้นกลับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าเรียลดีมานด์ในประเทศที่ซื้อเพื่ออยู่จริงยังคงมีอยู่ สะท้อนการตอบรับที่ดีจากยอดขายสินค้าคอนโดเอพีล่าสุดกว่า1,080 ล้านบาท (15 ก.พ. 65) แม้ยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ หรือโตกว่า 250% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแผนเดินหน้าเปิดตัว ASPIRE โฉมใหม่ในครั้งนี้ จะเป็นโครงการที่สร้างความแตกต่าง และเป็นตัวเลือกอันดับแรกของลูกค้ารุ่นใหม่ที่มองหาคอนโดใหม่บนทำเลซิตี้โซนในราคาที่คุ้มค่าจับต้องได้ เริ่มที่ 1.99 ล้านบาท”
“บริษัทฯ วางแบรนด์โพสิชันนิ่ง ASPIRE ใหม่ ภายใต้จุดยืน ‘LIVE AS YOU ASPIRE อิสระในทุกมิติของชีวิต’ โดยตั้งเป้าการพัฒนาให้ ASPIRE คือคอนโดในกลุ่มแมสเซกเมนต์ที่ดีที่สุด ผ่านกระบวนคิดเชิงออกแบบและพัฒนาโครงการ ที่จะปรับรูปแบบสู่การดีไซน์สเปซฟังก์ชั่นให้สามารถปลดล็อกทุกข้อจำกัดของการใช้ชีวิตยุคใหม่ในคอนโด ที่จะไม่เป็นเพียงที่อยู่อาศัย แต่ทุกสเปซฟังก์ชั่นและประสบการณ์ในแอสปายคอนโดโครงการใหม่ต่อจากนี้ จะสามารถเติมเต็มพลังและต่อยอดความสุข ทั้งมิติการพักผ่อน การใช้ชีวิตส่วนตัว และมิติการทำงานที่แตกต่างกันของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละทำเลได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการผสาน 3 จุดขายใหม่ ได้แก่
1. Modular Layout พื้นที่ชีวิตที่ดีที่สุด ครั้งแรกกับการนำเสนอผังยูนิตดีไซน์ใหม่ทั้งหมดกว่า 40 รูปแบบ เน้นความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้พื้นที่ที่เป็นสัดส่วน และรู้สึกคล่องตัวมากขึ้น ตอบอินไซต์การใช้ชีวิตแบบไฮบริดของลูกค้า
2. The Best of ‘ME’ Space ส่วนกลางที่ปลดปล่อยอิสระทื่ลงตัวที่สุด ฟังก์ชั่นตอบอินไซต์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้งานของดีมานด์จริงในแต่ละแปลงที่ดิน เพื่อส่งมอบการพักผ่อนแบบแอคทีฟพร้อมบาลานซ์ความเป็นส่วนตัวไปด้วยกัน และ
3. Entry - Level Price บริหารแพ็คเกจราคาให้เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด ซึ่งมั่นใจว่าคอนโด ASPIRE โฉมใหม่จะสามารถปลดล็อกทุกอิสระความต้องการในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลาของลูกค้า เพื่อที่จะ EMPOWER ให้ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ากลุ่มแมสคอนโดในทุกทำเลที่เอพีเตรียมเปิดขาย” นางสาวกมลทิพย์ กล่าวเสริม
“สำหรับ 3 สุดยอดทำเลคุณภาพที่บริษัทฯ เตรียมเปิดขาย ASPIRE โครงการใหม่ เป็นทำเลที่มีโอกาสอัดแน่นด้วยลูกค้าเรียลดีมานด์อยู่มาก ตอบโจทย์ทั้งมิติการอยู่อาศัยและการปล่อยเช่า ครบครันทั้งการเดินทางแหล่งทำงาน และไลฟ์สไตล์เมือง โดยจากการสำรวจภาพรวมตลาดคอนโดที่เปิดตัวย้อนหลัง 5 ปี (2560 - 2564) พบว่า
(1) ตลาดคอนโดโซนอรุณอมรินทร์ ทำเลคุณภาพศูนย์กลาง Medical & Education Hub แถวหน้าของประเทศ หนึ่งใน rare location สุดยอดทำเลหายาก เนื่องจากที่ดินติดถนนอรุณอมรินทร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับการพัฒนาคอนโดมีจำกัด จึงทำให้ ASPIRE ปิ่นเกล้า - อรุณอมรินทร์ จะเป็นโครงการใหม่เพียงโครงการเดียวบนช่วงถนนเส้นดังกล่าว สวนทางกับดีมานด์ที่พบความต้องการสะท้อนจากยอดขายรวมที่ต่อเนื่องสูงถึง 75% จากทั้งหมด 11 โครงการที่เปิดขายในแนวโครงข่าย MRT สถานีบางยี่ขัน - บางขุนนนท์ - แยกไฟฉาย และยังเป็นโอกาสของตลาดปล่อยเช่าในลูกค้ากลุ่มนักศึกษา-บุคคลากรทางการแพทย์ที่น่าจับตามอง โดยอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดที่ 8,000 - 15,000 บาทต่อเดือน ด้วยผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) ถึง 4.5 – 5%
(2) ตลาดคอนโดรัศมี 1.5 กิโลเมตรจาก BTS รัชโยธิน หนึ่งในทำเลระดับท็อปของเรียลดีมานด์ที่รองรับนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ จากปัจจัยรายล้อมด้วยสถานที่ทำงานขนาดใหญ่และมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยเฉพาะโครงข่ายรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสาย สีเขียว (หมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต) เปิดทำการ ตอบการเดินทางเข้า - ออกใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งทวีความคึกคักให้กับตลาดแมสคอนโดโครงการใหม่ในย่านนี้ ทำให้ย่านรัชโยธินเป็นทำเลศักยภาพในการลงทุนทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและการปล่อยเช่าในอนาคต ซึ่งจากการสำรวจซัพพลายพบ 15 โครงการ จำนวน 9,024 ยูนิต มียอดขายแล้วกว่า 87% ในขณะที่ 3 ปีที่ผ่านมาพบการเปิดโครงการใหม่ลดลงต่อเนื่อง และสินค้าคงเหลือขายปัจจุบัน พบราคาขายเฉลี่ย 125,000 - 150,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งไม่สอดรับกับสิ่งที่ตลาดมองหา โดยอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) ในย่านนี้ที่มีอัตราที่ดีเช่นกันที่ประมาณ 5% และพบภาพรวมอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดที่ 9,000 - 20,000 บาทต่อเดือน และ
(3) ตลาดคอนโดโซนพระราม 4 - สุขุมวิท ในรัศมี 1.5 กิโลเมตรจาก BTS พระโขนง ทำเลใจกลางย่านสุขุมวิทศูนย์รวมย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ พบยอดขายรวมที่เกิดขึ้น 76% จากทั้งสิ้น 21 โครงการ และหากพิจารณาประกอบกับภาพรวมอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดที่ 9,500 - 20,000 บาทต่อเดือน ด้วยผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) ถึง 5% ทำให้ภาพรวมตลาดของคอนโดในทำเลนี้ เป็นที่สนใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” นางสาวกมลทิพย์ กล่าวเพิ่มเติม
“ทั้งนี้ เอพีเชื่อมั่นว่าโครงการ ASPIRE โฉมโหม่ จะเป็นคอนโดมิเนียมแมสเซกเมนต์ที่ดีที่สุด ที่เข้ามาสร้างความแตกต่างและเป็นมาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัยในคอนโด ที่สะท้อนถึงความเป็นที่สุด ตอบอิสระการใช้ชีวิตได้อย่างครบถ้วนในทุกมิติที่ลูกค้ามองหา ทั้งการนำเสนอโปรดักต์ที่แตกต่าง การดีไซน์ผังห้องชุดและพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบทุกอิสระของการใช้ชีวิตในคอนโดยุคใหม่ ควบคู่กับปัจจัยราคาขายที่คุ้มค่าจับต้องได้จริง จะทำให้สามารถเจาะเข้าไปครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในตลาดคอนโดแมสเซกเมนต์ที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้แผนการเปิดขาย ASPIRE โครงการใหม่ที่จะทยอยเปิดพรีเซลตั้งแต่ครึ่งปีแรกนี้เป็นต้นไป จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในทุกโลเคชั่นอย่างแน่นอน โดยสำหรับโครงการแรก ASPIRE ปิ่นเกล้า - อรุณอมรินทร์ สุดยอดที่ดินหายาก ใกล้รพ. ศิริราช รถไฟฟ้า MRT บางขุนนนท์ และท่าเรือ พร้อมบริการพิเศษรถรับ - ส่งโครงการ ราคา 1 ห้องนอนใหญ่ เริ่ม 2.89 ล้านบาท พร้อมเปิดจองรอบพิเศษในวันที่ 19 - 20 มีนาคม 2565 นี้” นางสาวกมลทิพย์ กล่าวเสริม
สำหรับในปีนี้กลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียมเอพี มีแผนเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 65% ตั้งเป้ายอดขายคอนโดทั้งปีที่ 12,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้กลุ่มสินค้าคอนโดรวม (100% JV) ที่ 12,300 ล้านบาท และในครึ่งปีแรกบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวคอนโดใหม่ทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่ารวม 6,800 ล้านบาท ซึ่ง ณ วันที่ 15 ก.พ. 65 บริษัทฯ มีสินค้าคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างการขายจำนวน 15 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 27,530 ล้านบาท และมีสินค้าคอนโดรอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุน (Backlog) มูลค่ามากถึง 18,300 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดเอพี มูลค่า 1,500 ล้านบาท และเป็นโครงการร่วมทุน มูลค่า 16,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายในปีนี้ มูลค่า 9,790 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2567 พร้อมเตรียมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 3 คอนโดใหม่ ASPIRE เอราวัณ ไพร์ม, LIFE สาทร เซียร์รา, และ RHYTHM เอกมัย เอสเตท มูลค่ารวม 12,800 ล้านบาท
ทั้งนี้สำหรับความสำเร็จในปีที่ผ่านมา (2564) เอพี ไทยแลนด์ ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก ขึ้นแท่นผู้นำอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม โดยมี EMPOWER LIVING เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญขององค์กร ด้วยผลงานสถิติการเติบโตทางด้านรายได้ครั้งใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโดฯ (100% JV) มากถึง 40,015 ล้านบาท และด้านกำไรสุทธิปี 64 (Net Profit) สูงถึง 4,543 ล้านบาท โตกว่า 7.5% นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งภายในองค์กรกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็ว และสะท้อนได้ถึงความมั่นใจของผู้บริโภค ตลอดจนกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่
“และสำหรับความท้าทายของตลาดคอนโดในปีนี้ ทิศทางของตลาดยังคงปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เอพีจับสัญญาณตลาดเรียลดีมานด์ในลูกค้าเซกเมนต์กลางถึงกลางล่าง ที่มองหาคอนโดใหม่ในทำเลซิตี้โซนได้ทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และหลายดีเวลลอปเปอร์ต่างกระโดดลงมาแข่งขันในตลาดดังกล่าว ดังนั้น ผู้ประกอบการที่สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ เลือกแปลงที่ดินที่ใช่ พัฒนาโครงการได้ตอบโจทย์สอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ในแพ็คเกจราคาที่ลูกค้ามองหา จะสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าสินค้าทั่วไปในตลาด และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างแน่นอน” นางสาวกมลทิพย์ กล่าวสรุป