แสนสิริ กวาดยอดขายตลาดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ปิดการขาย 98 Wireless และ บ้านแสนสิริ พัฒนาการ
อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า "แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย แสนสิริ สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งแก่ตลาดอสังหาฯไทย ปิดการขาย 2 โครงการแฟล็กชิพระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่พร้อมกัน คือ
ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส (98 Wireless) และ
บ้านแสนสิริ พัฒนาการ (Baan Sansiri Pattanakarn) รวมมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท สะท้อนความสำเร็จจาก 4 ปัจจัย ซึ่งแตกต่างจากการพัฒนาโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ทั่วไป ได้แก่ ความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ ของเรียลดีมานด์กลุ่ม High Net Worth Individuals (HNWI) ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญกว่า 36 ปี ที่พัฒนาโครงการในทุกระดับเซ็กเมนท์ วิสัยทัศน์ภายใต้การพัฒนาโครงการอย่างเข้าใจและลงลึกทุกรายละเอียด (Attention to details) ความประณีตพิถีพิถันในการพัฒนาโครงการที่ดีที่สุด คัดสรรวัสดุคุณภาพทั้งภายในและภายนอกที่ตอบโจทย์รสนิยมการอยู่อาศัยลูกค้าระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ ผ่านดีไซน์เวิลด์คลาสที่คลาสสิกเหนือกาลเวลาไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นไป (timeless) และบริการเอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับ
กลยุทธ์การรวมพอร์ตฟอลิโอ Sansiri Luxury Collection คอลเล็กชั่นมาสเตอร์พีซที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่และแฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่หายากแก่การครอบครองและสร้างมูลค่าเหนือกาลเวลา รวมมูลค่าโครงการกว่า 22,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับสู่การเป็นแบรนด์อสังหาฯ ลักซ์ชัวรี่ชั้นนำในตลาดต่างประเทศ (Global Luxury Brand) และตอกย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯในไทยที่คุณภาพแบรนด์ทัดเทียมมหานครชั้นนำทั่วโลกในทุกด้าน กับแนวคิดพัฒนาโครงการผ่าน 3 ปรัชญา Refined Taste ดีไซน์ชั้นเยี่ยมที่เปี่ยมด้วยรสนิยม, Uncompromising Quality ความพิถีพิถันในการคัดสรรวัสดุคุณภาพ เฟอร์นิเจอร์ ของประดับตกแต่ง และงานศิลปะจากทั่วมุมโลก และ Curated Service มอบบริการผ่านประสบการณ์ที่ยิ่งกว่าความเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งล้วนเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่ทำให้แสนสิริ ได้รับการยอมรับและความเชื่อมั่นจากลูกค้าในทุกระดับเซ็กเมนท์ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทยอยปิดการขายโครงการอย่างต่อเนื่องทั้งแนวราบและแนวสูง ด้วยยอดขายสูงสุดครึ่งปีแรกที่ 22,000 ล้านบาท หรือ 63% จากเป้าหมายยอดขายล่าสุด 35,000 ล้านบาท
ผลสำรวจจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ภาพรวมตลาดอสังหาฯซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่และลักซ์ชัวรี่ในกรุงเทพฯ ช่วงครึ่งหลังปี 2562 พบว่า กลุ่มคอนโดมิเนียม มีอัตราผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย (ROI) สูงถึง 7-10% โดยเฉพาะโซน CBD ย่านศูนย์รวมธุรกิจอย่างถนนวิทยุ และมีอัตราการดูดซับ (Absorption Rate) เฉลี่ย 0.4 ? 6.0 ยูนิตต่อโครงการต่อเดือน (ปี 2560-2562) โดยการดูดซับที่สูงดังกล่าวในปี 2560 เกิดจากการเปิดตัวของโครงการ 98 Wireless ในขณะเดียวกัน ตลาดบ้านเดี่ยวระดับบนมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ กลุ่มบ้านเดี่ยว มีอัตราดูดซับเฉลี่ย (Absorption Rate) 0.14 - 1.08 ยูนิตต่อโครงการต่อเดือน (ปี 2559 -2562) โดยอัตราดูดซับเฉลี่ยที่สูงถึง 1.08 ยูนิตต่อโครงการต่อเดือนนั้น เป็นผลจากการเปิดตัวโครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ ในช่วงครึ่งแรกปี 2561 ในขณะที่ปี 2562 มีซัพพลายจากการพัฒนาโครงการในกลุ่มลักซ์ชัวรี่นี้ เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 43% จากปีก่อนหน้า รวมทั้งมีดีมานด์ให้การตอบรับสูงถึง 58% ในปี 2562
"การพัฒนาโครงการระดับแฟล็กชิพให้ประสบความสำเร็จนั้นเป็นความท้าทาย ทุกความงดงามและความปราณีตบรรจงที่ได้สัมผัส มาจากกระบวนการคิดอันแยบยล ทั้งเรื่องทำเล ความเอ็กซ์คลูซีฟ ความหายากการดีไซน์ รวมทั้งสังคมแวดล้อมในโครงการและบริเวณโดยรอบ สร้างความภาคภูมิใจแก่ผู้ครอบครอง ตลอดจนมูลค่าที่เพิ่มขึ้นส่งต่อให้ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่น แน่นอนว่าเรา ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของการอยู่อาศัยซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่อีกครั้ง แก่ประเทศไทยกับการพัฒนาโครงการต่อไปที่ถนนสารสิน สุดยอดทำเลใจกลางกรุงเทพฯ"
%20copy.jpg)
%20copy.jpg)
โครงการ ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส (98 Wireless) แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ลำดับที่ 3 ของแสนสิริ มูลค่าโครงการ 8,700 ล้านบาท เพียงแค่ 77 เจ้าของที่ได้ครองกรรมสิทธิ์บนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนสุดท้ายของถนนวิทยุ ใช้เวลาในการพัฒนากว่า 7 ปี ภายใต้ปรัชญา
The Best Comes as Standard ผสมผสานผลงานอันงดงามของงานดีไซน์ชั้นเลิศและงานคราฟท์ฝีมืออันประณีตระดับโลก ตั้งแต่เอกลักษณ์ความคลาสสิกในศิลปะโบซาร์ (Beaux-arts) การร่วมมือกับ Anne Carson Interiors อินทีเรียดีไซเนอร์ชื่อดังจากนิวยอร์ก ตกแต่งให้กับส่วนกลางทั้งหมดของโครงการในสไตล์คลาสสิกร่วมสมัย ตลอดจนบริการที่ตอบโจทย์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไลฟ์สไตล์อย่างสมบูรณ์แบบ อาทิ Quintessentially ผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก รถลิมูซีนประจำโครงการโดยเฉพาะอย่าง "เบนท์ลี่ย์" นวัตกรรมยานยนต์สั่งผลิตพิเศษ ปัจจุบัน 98 Wireless เป็นที่ Talk of Town อย่างมากจากหลากหลายสื่อชั้นนำในประเทศไทยและระดับโลก ให้เป็นคอนโดฯ ที่มีราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. ทั้งโครงการสูงสุดในประเทศไทยถึง 600,000 บาท และมีราคาขายสูงสุดเกือบ 900,000 บาทต่อตร.ม. ราคาขายต่อ capital gain สูงสุดถึง 40% จากราคาเริ่มต้น ตลอดจนเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความเป็นเลิศด้านงานดีไซน์เวิลด์คลาส สถาปัตยกรรมที่คลาสสิก การคัดสรรวัสดุและการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอาคารที่ดีที่สุดและพิถีพิถันที่สุดจากทั่วโลก ตลอดจนบริการเอ็กซ์คลูซีฟในหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในแบบซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่อย่างแท้จริง
อีกหนึ่งความสำเร็จของตลาดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่บ้านเดี่ยวที่ปิดการขายล่าสุด
บ้านแสนสิริ พัฒนาการ (Baan Sansiri Pattanakarn) โครงการ แฟล็กชิพบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ของไทย ลำดับที่ 4 ของแสนสิริ หนึ่งเดียวบนที่ดินผืนงามย่านพัฒนาการ มูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท เอ็กซ์คลูซีฟเพียง 36 หลัง โดดเด่นด้วยแรงบันดาลใจการออกแบบสไตล์ "Regency" ในทุกบริบทอันทรงคุณค่าในแบบฉบับอังกฤษ คัดสรรวัสดุคุณภาพจากแบรนด์ระดับโลกที่สะท้อนรสนิยมการใช้ชีวิตจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความเหนือระดับ ผสานกับการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านอย่างชาญฉลาดทำให้เกิดฟังก์ชันพิเศษมากมายที่ยากจะพบในบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ การคัดสรรวัสดุคุณภาพระดับโลก พร้อมบริการจาก Quintessentially และ Plus Concierge สะท้อนรสนิยมในทุกมิติของความสง่างามร่วมสมัย มอบประสบการณ์แห่งการพักอาศัยที่สมบูรณ์แบบในทุกเจเนอเรชั่นของครอบครัว ตลอดจนความร่วมมือกับดีไซเนอร์ระดับโลกชาวอังกฤษ
แมรี่ ฟ็อกซ์ ลินตัน (Mary Fox Linton) ที่ฝากผลงานสร้างชื่อและคร่ำหวอดในวงการออกแบบตกแต่งภายในในฐานะดีไซน์เนอร์ผู้มีวิสัยทัศน์มานานกว่า 60 ปี ยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยโครงการบ้านเดี่ยว โดยตกแต่งยูนิตพิเศษหลังสุดท้ายก่อนปิดการขายโครงการอย่างเป็นทางการ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจในแบบฉบับความเป็นบริติชเลกาซี่ (British legacy)
"แสนสิริ มุ่งมั่นสานต่อความเป็นผู้นำที่ครองใจลูกค้าในทุกระดับเซ็กเมนท์อย่างไม่หยุดยั้ง โดยจะยึดมั่นในปรัชญาแนวคิด ความใส่ใจในทุกรายละเอียด (Attention to details) เพื่อพัฒนาต่อไปในทุกระดับโครงการ และทุกเซ็กเมนท์ด้วยการส่งมอบที่อยู่อาศัยดีที่สุดสำหรับลูกค้าได้อย่างตอบโจทย์และเข้าถึง พร้อมเดินหน้าสู่ยอดโอนตามเป้าหมายที่วางไว้ 39,000 ล้านบาท" อภิชาติ กล่าวสรุป