ชวนชาวคอนโดลุมพินี ลด ละ เลิก สู่ "Lumpini Zero Waste"
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) บริษัทพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยในเมือง ภายใต้แบรนด์
"ลุมพินี" ได้ร่วมรณรงค์กิจกรรม
"คัดแยกขยะ" มาตั้งแต่ปี 2552 จนมาถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 9 ปี เนื่องจากอาคารชุดพักอาศัยเป็นอีกแหล่งที่สร้างปัญหาขยะให้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มต้นจากพนักงานในองค์กร และขยายผลไปยังผู้พักอาศัยในชุมชนลุมพินี นำร่องที่ชุมชน
ลุมพินี พาร์ค ปิ่นเกล้า เรียกกระแสให้ผู้อยู่อาศัยหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมในการคัดแยกขยะมากขึ้น โดยปูพื้นฐานความรู้ของการคัดแยกขยะ และประเภทขยะ
โดยขอยกตัวอย่างด้วยหนึ่งในกิจกรรม "คัดแยกขยะ" ที่ประสบความสำเร็จในทุกครั้งที่จัดขึ้นมา นั่นคือ "ขอขวด แลก ข.ไข่" คือ การนำขวดที่ไม่ใช้แล้วจนกลายเป็นขยะภายในห้อง แลกเป็นไข่กลับมา โดยภายหลังรายได้จากการนำขวดไปขาย แต่ละชุมชนจะนำมาทำประโยชน์ภายในชุมชนต่อไป แต่นั่นไม่ได้ทำให้การเติบโตของขยะหยุดนิ่ง ซึ่งสวนทางกับความสามารถในการจัดการขยะที่ยังไล่ตามปัญหาไม่ทัน ทำให้การรณรงค์ "คัดแยกขยะ" อาจยังไม่ตอบโจทย์ของการลดปริมาณขยะได้อย่างเพียงพอ
บริษัทจึงได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และในปี 2561 นี้ ก็ยังมีแนวทางเพื่อต่อยอดกิจกรรม ในชื่อ "LUMPINI Zero Waste" โดยวางแผนนำร่องกิจกรรมที่ชุมชนลุมพินี พาร์ค ปิ่นเกล้า เนื่องจากเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก และตั้งเป้าหมายให้ที่นี่เป็นตัวอย่างที่ดี ก่อนนำไปขยายผลยังชุมชนลุมพินีอื่นๆ ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 137 ชุมชน และมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 2 แสนคน ให้มีส่วนร่วมในการ ลด ละ เลิก เพื่อกำจัดขยะให้หมดไป และยุติการก่อขยะพลาสติกเพิ่มโดยไม่จำเป็น ซึ่งแนวทางนั้น LPN จะร่วมกับร้านค้าภายในชุมชน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงาน เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยกันสนับสนุน และหาแนวทางร่วมกันในการรณรงค์ให้ผู้อยู่อาศัยมีความตระหนักรับรู้ถึงความจำเป็น และความสำคัญของการลดการใช้พลาสติกประเภท "ใช้ครั้งเดียวทิ้ง" เช่น ถุงพลาสติก หลอดดูดน้ำ โดยลดแจกถุงพลาสติกในการซื้อของแต่ละครั้ง ซึ่งร้านค้าจะช่วยถามก่อนว่าลูกค้าต้องการถุงพลาสติกมั้ย?
ทางด้าน LPN ก็มีแผนดำเนินงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์ภายในชุมชนเพิ่มเติม ด้วยการให้ผู้อยู่อาศัยหันมาใช้ของทดแทน เช่น การนำถุงผ้ามาใส่ของ แก้วน้ำมาเติมเครื่องดื่ม กล่องข้าวใส่อาหารกลับไป เป็นต้น สำหรับความคืบหน้าของกิจกรรมดังกล่าวมีทิศทางที่ดี เนื่องจากแต่ละร้านมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน ขั้นตอนต่อไปคาดว่าจะให้น้ำหนักที่การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ทั้งในรูปแบบของบอร์ดประชาสัมพันธ์ตามจุดต่างๆ ภายในชุมชน หรือตามร้านค้าที่ร่วมโครงการ รวมไปถึงสื่อโฆษณาบน LED ในลิฟท์ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกิดขึ้นภายในชุมชน