อนันดาฯ โชว์เทคโนโลยี IoT รายแรกของอสังหาฯ นำร่องคอนโดคุณภาพโครงการ คิว เทอร์ตี้ วัน (Q31)
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โชว์ความเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและผู้นำเทรนด์ด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกาศความร่วมมือกับบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดตัว "Samsung Smart Home" เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นำนวัตกรรมเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนเมือง นำร่องโครงการ คิว เทอร์ตี้ วัน (Q31) เป็นโครงการแรกที่จะตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้น สะดวกสบาย ปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมให้ลูกค้าใช้งานได้จริง
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกาศความร่วมมือกับซัมซุง และได้เป็นผู้บุกเบิกการนำ Smart Home ของซัมซุงมายังประเทศไทย เพื่อประยุกต์ใช้ในโครงการที่อยู่อาศัยของ อนันดาฯ ซึ่งเชื่อว่าเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Smart Home เป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างแท้จริง โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะมาเปลี่ยนนิยามของอสังหาริมทรัพย์ที่มีการพัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และที่สำคัญคือจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ให้มีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้พร้อมให้ลูกค้าใช้ได้จริงแล้วโดยประเดิมที่โครงการ คิว เทอร์ตี้ วัน (Q 31) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้อย่างลงตัวที่สุด
"การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องได้ทำให้อนันดาฯ ก้าวกระโดดจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก กลายเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมที่มียอดขายมากที่สุดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Smart Home เป็นนวัตกรรมที่นำมาใช้ครั้งแรกในการเปลี่ยนพื้นฐานที่สำคัญซึ่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์นำมาเป็นต้นแบบ และสร้างสรรค์การพัฒนาที่อยู่อาศัย ไม่เพียงเป็นที่อยู่อาศัยภายในห้องสี่เหลี่ยมธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นการรวมของเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิต และการใช้งานของคนเมืองให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการพัฒนาบนรูปแบบสำหรับที่อยู่อาศัยของเรา ซึ่งขณะนี้ยังเป็นเรื่องที่คนทั่วไปจินตนาการได้ยาก แต่ในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้านี้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะเป็นสิ่งที่สังคมปฏิเสธได้ยาก"
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือกับซัมซุงครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสองบริษัทได้มีการศึกษาวิจัยร่วมกัน พร้อมร่วมแบ่งปันมุมมองเพื่อนำมาพัฒนานวัตกรรมดังกล่าวโดยยึดมั่นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งอนันดาฯ ได้มีการทำงานร่วมกับซัมซุงเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่สามารถใช้ในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนเมืองในทุกประเภทที่แตกต่างกันของลูกค้า จากนี้เป็นต้นไป ลูกค้าจะมีทางเลือกในการซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้นโดยลูกค้าสามารถซื้อ Smart Home ที่ช่วยดูแลสมาชิกในครอบครัวซึ่งสามารถสั่งการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ ช่วยดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัยภายในบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสามารถช่วยดูแลเด็กเล็ก ทั้งช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยประหยัดเวลาสำหรับผู้ที่มีภาระหน้าที่ต้องจัดการจำนวนมาก รวมทั้งดูแลความปลอดภัยของสตรีที่อยู่อาศัยคนเดียว โดยการทำงานของเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถนำมาเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของเครื่องใช้ภายในบ้านเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยดียิ่งขึ้น
โดยความร่วมมือจากการวิจัยครั้งนี้ อนันดาฯ และซัมซุงจะนำข้อมูลจากการศึกษาลูกค้าที่ได้มาใช้ร่วมกันด้วยความเชี่ยวชาญในการทำความเข้าใจและการออกแบบเฉพาะสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชี่ยวชาญของซัมซุงในการออกแบบเทคโนโลยีสำหรับลูกค้าเพื่อพัฒนา Smart Home ช่วยในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของลูกค้า อนันดาฯ ซึ่งมาจากความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อให้เราสามารถที่จะกำหนดค่าที่เหมาะสมของเซ็นเซอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าและกำหนดโปรแกรมเพื่อให้มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในเมือง พร้อมตอบสนองความเป็นส่วนตัว และความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าของเราอีกด้วย ความร่วมมือจากการวิจัยครั้งนี้ ผมเชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถก้าวสู่แถวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Smart Home ในระดับโลกได้ในไม่ช้า" นายชานนท์กล่าว
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ รองประธาน ธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า "ซัมซุง สมาร์ท โฮม จะยกระดับการใช้ชีวิตในบ้านให้เป็นมากกว่าแค่ที่พักอาศัย แต่เป็นบ้านที่จะดูแลทุกคนในครอบครัวทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และสุขภาพ ตามแนวคิด "Home that cares for you" โดยใช้หลักการทำงานบน Internet of Things - IoT หรือแพลตฟอร์มการทำงานเชื่อมต่อกันระหว่างดีไวซ์ต่างๆ แบบไร้สายผ่านอินเทอร์เน็ต มีการสื่อสารระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ชนิดต่างๆ เพื่อทำงานตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ซึ่งแตกต่างจาก โฮม ออโตเมชั่น ที่การทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ นั้น มนุษย์จะต้องเป็นผู้สั่ง แต่ซัมซุงสมาร์ท โฮม คือการพัฒนาไปอีกขั้นด้วยความสามารถในการออกแบบฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยรายบุคคลเพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ หลายบ้านต้องให้ผู้สูงอายุและเด็กอยู่กันลำพัง ระบบสมาร์ท โฮมนี้ จะช่วยเป็นหูเป็นตา และคอยระแวดระวังภัยให้ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการส่งสัญญาณแจ้งเตือน เมื่อผู้สูงอายุหกล้มและหมดสติ ระบบความปลอดภัยและการเตือนสำหรับการเปิด-ปิดประตูแม้แต่หน้าต่าง หรือการคอนโทรลระบบไฟฟ้าต่างๆ ในห้องนอนเด็ก โดยซัมซุงเป็นแบรนด์เดียวที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบทุกหมวด ซึ่งนับได้ว่าจะเป็นการปฏิวัติไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยไปอย่างสิ้นเชิง"
"ซัมซุง สมาร์ท โฮม" บ้านที่เชื่อมต่อ เพื่อตอบสนองผู้ใช้งาน
ที่มา - ซัมซุงในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลกมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีขึ้นในทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้ง จึงเป็นที่มาของ ซัมซุง สมาร์ท โฮม (Samsung Smart Home) บ้านที่มีการสื่อสารระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ชนิดต่างๆ เพื่อทำงานตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยรายบุคคล ซึ่งซัมซุง สมาร์ท โฮม สามารถตั้งค่าตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของคนในบ้าน โดยใช้หลักการทำงานบน Internet of Things - IoT หรือแพลตฟอร์มการทำงานเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ แบบไร้สายผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลสุขภาพและเพิ่มความปลอดภัย สามารถควบคุมอย่างง่ายดายทั้งภายในบ้านและนอกบ้านผ่านคลาวด์ (Cloud) ซึ่งแตกต่างจากระบบโฮม ออโตเมชั่น (Home Automation) หรือบ้านที่มีระบบควบคุมอัตโนมัติ ซึ่งเป็นระบบที่อุปกรณ์ภายในบ้านทำงานตามคำสั่งของมนุษย์ โดยซัมซุง สมาร์ท โฮมนี้ มีจุดเด่น คือ สามารถเชื่อมต่อได้สะดวกผ่านซัมซุง สมาร์ท ฮับ (Samsung Smart Hub) ติดตั้งได้สะดวกง่ายดาย และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินสาย
Internet of Things (IoT) คืออะไร
Internet of Things (IoT) คือ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โทรทัศน์ ฯลฯ โดยผู้ใช้งานสามารถป้อนคำสั่งผ่านทางดีไวซ์ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตได้ทุกที่ทุกเวลา
การทำงานของซัมซุง สมาร์ท โฮมผ่าน IoT
อุปกรณ์ต่างๆ จะถูกเชื่อมต่อผ่านซัมซุง สมาร์ท ฮับ (Samsung Smart Hub) ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการป้อนและรับส่งคำสั่งต่างๆ ไปสู่เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มสมาร์ทของซัมซุง เช่น สมาร์ท ทีวี (Smart TV) ฯลฯ เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและดีไวซ์ต่างๆ ที่สามารถแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อนำไปประมวลผล และสามารถทำงานได้เองอัตโนมัติ เรียกได้ว่าเป็นความก้าวหน้าไปอีกขั้นจากระบบโฮม ออโตเมชั่น ซัมซุง สมาร์ท โฮมสามารถติดตั้งได้ง่ายและไม่ต้องเดินสายไฟ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งคำสั่งต่างๆ จะถูกส่งผ่านจากสมาร์ท แอปพลิเคชั่น (Smart Application) ในสมาร์ทดีไวซ์ตรงไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีตัวเชื่อมสัญญาณ (Communication Portal) นอกจากนี้ยังมีสมาร์ท ปลั๊ก (Smart Plug) ที่นำมาติดตั้งเพิ่มกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เพื่อเพิ่มความสามารถให้อุปกรณ์เครื่องนั้นๆ สามารถนำมาใช้งานร่วมกับระบบได้อีกด้วย
กรณีที่อินเทอร์เน็ตไม่สามารถใช้งานได้ ซัมซุง สมาร์ท โฮมจะเป็นอย่างไร
หากระบบอินเทอร์เน็ตล่ม เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ จะยังคงทำงานตามคำสั่งที่เราป้อนหรือตั้งค่าไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีไฟฟ้าดับ หลังจากที่ไฟกลับมาแล้ว ซัมซุง สมาร์ท โฮมก็สามารถทำงานต่อเนื่องได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใหม่อีกครั้ง
ซัมซุง สมาร์ท โฮมดีอย่างไร
- ด้านความสะดวกสบาย ซัมซุง สมาร์ท โฮมช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านสะดวกสบายและประหยัดเวลา อาทิ ช่วยประหยัดพลังงาน ปิดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อออกจากบ้าน หรือตั้งค่าให้ทำงานระหว่างที่ไม่อยู่บ้าน เช่น เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะทำงานตามเวลาและจะกลับไปที่ฐานก่อนเวลากลับบ้าน เครื่องซักผ้าทำงานใกล้เวลากลับบ้านพร้อมให้นำขึ้นตากทันทีเมื่อถึงบ้าน หรือสามารถตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับความชอบรายบุคคล และที่ล้ำหน้าไปกว่านั้น ซัมซุง สมาร์ท โฮม ยังสามารถเพิ่มความสะดวกให้กับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยยุคใหม่ เช่น เมื่อตื่นนอน ไฟจะค่อยๆ เปิดขึ้น ม่านจะค่อยๆ เปิดอัตโนมัติ เครื่องชงกาแฟเปิดและอุ่นพร้อมสำหรับการดื่มกาแฟ
- ด้านความปลอดภัย ซัมซุง สมาร์ท โฮมสามารถตั้งค่าการปิดเปิดประตูชั้นต่างๆ ของบ้านได้ หรือสั่งปิดเปิดประตูจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ระบบความปลอดภัยที่ช่วยตรวจตราจากการเคลื่อนไหว หากพบความผิดปกติจะส่งภาพมายังสมาร์ท ทีวีทันที หรือการตั้งเตือนต่างๆ อาทิ ลืมปิดหน้าต่าง ลืมปิดตู้เย็น ตั้งเตือนเมื่อมีการเปิดเตาแก๊สหุงต้ม การเตือนระบบน้ำรั่วซึม เป็นต้น
- ด้านสุขภาพ ซัมซุง สมาร์ท โฮมยังช่วยดูแลด้านสุขภาพของคนในบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุด้วยระบบเออร์ลี่ เซนส์(Early Sense) ที่สามารถวัดจัดหวะการเต้นของหัวใจ ความสม่ำเสมอในการหายใจและการเคลื่อนไหวระหว่างนอนหลับ ระบบตรวจจับการล้มของผู้สูงอายุที่จะส่งสัญญาณไปขอความช่วยเหลืออัตโนมัติถ้าผู้สูงอายุไม่ตอบสนองภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือแม้แต่ไฟทางเดินที่จะเปิดอัตโนมัติเมื่อผู้สูงอายุลุกออกจากเตียง
ภาพบรรยากาศภายในงาน ANANDA URBAN PULSE
"ANANDA URBAN PULSE" งานใหญ่แห่งปีที่รวบรวมคอนโดมิเนียมคุณภาพเยี่ยมบนทำเลศักยภาพสูงถึง 12 โครงการ พร้อมเปิดตัวคอนโดมิเนียม 4 โครงการใหม่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า โดยงานจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12 - 16 ส.ค. 58
แน่นอนว่างานดีๆ แบบนี้ทางทีมงาน Checkraka.com ก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศภายในงานมาให้ชมกันอย่างเช่นเคย ซึ่งแต่ละโครงการจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นตามไปชมกันค่ะ
บรรยากาศโดยรวมภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมชมงานอย่างต่อเนื่อง
ภายในงานมีกิจกรรมให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก ไม่ว่าจะเป็นเกม บริการป๊อบคอร์นฟรี และยังมีศิลปินมาคอยให้ความบันเทิงบนเวที
เหล่าพริตตี้ สาวงาม และนายแบบหล่อๆ ภายในงาน
ช่วงบ่ายของวันที่ 13 ที่ผ่านมามีกูรูด้านอสังหาฯ มาร่วมเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนอีกด้วย
สำหรับผู้ที่จองคอนโดในงานนี้ และผู้ที่ลงทะเบียนภายในงาน มีแจก Samsung Galaxy S6 Edge 32 GB ด้วยนะคะ
โฉมหน้าหนึ่งในผู้โชคดีที่ลงทะเบียนภายในงาน และได้รับ Samsung Galaxy S6 Edge ไปแบบฟรีๆ
บรรยากาศของบูธโครงการ ไอดีโอ โอทู คอนโดใกล้ BTS บางนา และ Bangkok Mall ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
บรรยากาศภายในบูธโครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท 115 คอนโดติด Big C และติด BTS สถานีปู่เจ้าฯ ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท
บรรยากาศของบูธโครงการ คิว ชิดลม-เพชรบุรี ใกล้ BTS ชิดลม กับราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท
ส่วนโครงการ คิว เทอร์ตี้ วัน (Q 31) มาพร้อมกับเทคโนโลยี Internet of Things (IoT)
และ Smart Home สุดล้ำสมัยซึ่งจะเริ่มเปิดให้จองประมาณปลายปี 2558 นี้
โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่
ต้องบอกว่าใครที่จองโครงการพร้อมอยู่ภายในงานนี้ มีแถมฟรี Samsung Galaxy S6 Edge 32 GB ด้วยนะคะ
บรรยากาศในบูธโครงการ ไอดีโอ วุฒากาศ ห่างจาก BTS วุฒากาศเพียง 110 เมตร กับราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท
ส่วนโครงการ ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ ใกล้ BTS โพธิ์นิมิตร 320 เมตร มาพร้อมราคาเริ่มต้น 2.49 ล้าน
กับโปรโมชั่นแต่งครบพร้อมอยู่ ฟรีทุกค่าใช้จ่าย
โครงการ เอลลิโอ สุขุมวิท64 และเอลลิโอ เดล เรย์ ก็มาร่วมงานนี้เช่นกัน กับราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านนิดๆ
บูธของโครงการ ไอดีโอ โมบิ จรัญ-อินเตอร์เชนจ์ โครงการที่ใกล้กับรถไฟฟ้า 3 สาย กับราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
โครงการคุณภาพใกล้รถไฟฟ้าอื่นๆ ภายในงาน
บรรยากาศภายในบูธ ยูนิโอ จรัญฯ 3 ใกล้ MRT สถานีท่าพระ มาพร้อมราคาเริ่มต้นไม่ถึงล้าน
บรรยากาศภายในบูธโครงการ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์เกต ห่างจาก BTS บางนาเพียง 150 เมตร
ที่มาพร้อมโปรโมชั่นส่วนลดกว่า 200,000 บาท
และสุดท้ายคือโครงการ ไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี คอนโดทำเลใจกลางเมืองแบบสุดๆ
ห่างจาก BTS ราชเทวีประมาณ 390 เมตร กับราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท
สำหรับใครที่สนใจเข้าร่วมชมงานยังพอมีเวลานะคะ เพราะงานนี้จะจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 16 ส.ค. นี้ สามารถสอบถามรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-316-2222 หรือ
www.ananda.co.th