ในยุคปัจจุบันแน่นอนว่าเครื่องอบผ้านั้นอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับครอบครัวยุคใหม่ เพราะพื้นที่ตากผ้าที่ของบางครอบครัวค่อนข้างจำกัด แถมถ้าตากผ้าหน้าฝนด้วยแล้วยิ่งเหนื่อยเลยค่ะ เพราะมีปัญหาผ้าแห้งช้า ผ้ามีกลิ่น บางครั้งถึงกับต้องซักใหม่เลยก็มี แต่ราคาเครื่องอบผ้านั้นก็ไม่ได้ถูกเลยค่ะ แถมต้องติดตั้งจริงจังใครที่อยู่หอพักหรือเช่าที่อยู่อาศัยชั่วคราวอาจจะไม่สะดวก ดังนั้นวันนี้เรามีทริคดีๆ มาแนะนำค่ะ ช่วยให้ผ้านั้นหอมแม้ว่าจะตากในหน้าฝนและไม่มีเครื่องอบผ้า ซึ่งวิธีเหล่านี้ลองตัวเองมาหมดแล้ว มั่นใจได้เลยค่ะว่าได้ผลแน่นอน
1. ใช้ผลิตภัณฑ์สูตรลดกลิ่นอับและเพิ่มเม็ดน้ำหอม
อย่างแรกเลยคือให้ใช้ผงซักฟอก/น้ำยาซักผ้าที่เป็นสูตรลดกลิ่นอับก่อน เพราะสูตรนี้มีส่วนผสมทำให้ผ้าของเราไม่เหม็นแม้ว่าจะไม่ได้ตากแดดค่ะ ขึ้นตอนต่อมาคือใส่ "เม็ดน้ำหอม" (Scent Boosters) เจ้าตัวนี้เป็นที่นิยมมากๆ ในต่างประเทศสามารถใส่ลงไปพร้อมกับผงซักฟอกได้เลย ช่วยให้ผ้าหอมติดทนมากกว่าการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ก็ยังสามารถใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มได้อีกนะคะ
2. ใส่เบกกิ้งโซดา
ผงมหัศจรรย์ "เบกกิ้งโซดา" (Baking Soda) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์คือโซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) มีฤทธิ์เป็นด่าง และมีประโยชน์หลายอย่างมากๆ อาทิ ทำขนม ล้างผักผลไม้ รักษาแผลในช่องปาก ลดกรดในกระเพาะอาหาร ผลัดเซลล์ผิวใหม่ ขัดฟัน และที่สำคัญสามารถกำจัดกลิ่นอับของเสื้อผ้าได้ด้วย วิธีคือเอาเบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับผงซักฟอกก็ช่วยทำให้ผ้าไม่เหม็นอับและขจัดคราบไปในตัวค่ะ
3. ตากผ้าจุดที่อากาศถ่ายเทสะดวก
เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องพื้นฐานอยู่แล้ว แต่อยากแนะนำอีกทีเพราะว่าบางทีเราอาจคิดไม่ถึงเรื่อง "กำแพง" ถ้าเราตากผ้าใกล้กำแพงมากเกินไปความชื้นที่สะสมอยู่ก็จะคายออกมาโดนผ้าเราได้ ทำให้แห้งช้าลง และแนะนำว่าช่วงแรกให้เปิดพัดลมเป่าเสื้อผ้าไล่ความชื้นประมาณ 1 ชั่วโมงค่อยปิดก็ได้ค่ะ วิธีนี้ทำให้ผ้าแห้งเร็ว ลดการเกิดกลิ่นอับที่จะตามมา
4. ตากผ้าให้มีระยะห่าง 5 ซม. ขึ้นไป
จริงๆ ก็ไม่ต้องถึงขนาดเอาไม้บรรทัดมาวัดหรอกนะคะ :) แต่ไม่ควรตากเบียดกันจนเกินไป ถ้าผ้าที่หนามากๆ ก็ควรเอาออกไปตากริมราวตากผ้า เพื่อให้อีกฝั่งไม่โดนตัวอื่นๆ บังลม และถ้าผ้าเราเยอะเกินไปก็ไม่ควรซักทั้งหมดค่ะ ควรคำนวณพื้นที่ตากกับปริมาณผ้าที่จะตากด้วย
5. จัดชายผ้าฝั่งหนึ่งยาวกว่าอีกฝั่งหนึ่ง
การตากผ้าให้แห้งไวมีหลายวิธีและหลายเทคนิคมากๆ เลยค่ะ ที่เราคุ้นเคยกันดีก็จะมีการใช้ไม้แขวนเสื้อ การใช้ที่ห่วงตากผ้ากับผ้าชิ้นเล็กๆ และถ้าใครใช้วิธีพาดไปกับราวตากผ้าเลยก็แนะนำให้จัดชายผ้าฝั่งหนึ่งยาวกว่าอีกฝั่งหนึ่งเพื่อลดการซ้อนของผ้า โดยเฉพาะพวกผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ผ้าชิ้นหนาๆ
6. นำหนังสือพิมพ์มาขยำไว้ใต้ราวตากผ้า
การนำหนังสือพิมพ์มาขยำไว้ใต้ราวตากผ้าวเป็นทริคแม่บ้านญี่ปุ่น ที่ช่วยทำให้ผ้าแห้งไวขึ้น เพราะหนังสือพิมพ์จะดูดความชื้นจากผ้ามาไว้ที่กระดาษนั่นเอง จากภาพข้างบนจะเป็นการทดลองตากเสื้อแบบมีหนังสือพิมพ์และไม่มีหนังสือพิมพ์ ผลปรากฏว่าแบบมีหนังสือพิมพ์มีความชื้นเหลืออยู่น้อยกว่า เมื่อแห้งไวก็ทำให้ผ้าไม่อับ และกลิ่นจากผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็จะชัดขึ้น ทำให้เสื้อหอมติดทนทั้งวันค่ะ ใครจะทำวิธีนี้ต้องให้ผ้าหมาดจนไม่มีน้ำหยดแล้วนะคะ ไม่เช่นนั้นน้ำก็จะไปหยดใส่กองหนังสือพิมพ์ทำให้ประสิทธิภาพการดูดความชื้นทำได้น้อยลง
6 วิธีนี้น่าจะพอทำให้คลายปัญหาการตากผ้าในห้องหรือการตากผ้าหน้าฝนไปได้นะคะ เดี๋ยวนี้หลายๆ คนมักไม่ซื้อน้ำหอมฉีดกันแล้วเพราะอยู่ไม่ติดทนแถมมีกลิ่นฉุน คนนิยมใช้กลิ่นหอมจากการซักเสื้อผ้าแทนน้ำหอมราคาแพงๆ มากขึ้น หน้าฝนก็จะไม่ใช่อุปสรรคของการมีเสื้อผ้าหอมอีกต่อไป ถ้าได้ผลยังไงบอกด้วยนะคะ :)