เพราะมื้อเช้าสำคัญที่สุด? มาดูที่มาของ Breakfast in Bed และ Floating Breakfast เทรนด์นี้มากจากไหน?
เคยได้ยินกันมานานว่าห้ามพลาดมื้อเช้า เพราะมื้อเช้านั้นสำคัญที่สุด เป็นมื้ออาหารที่จะช่วย Boost ร่างกายของเราให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็น ให้สดชื่นตื่นตัวพร้อมทำกิจกรรมในวันใหม่ แต่นอกเหนือจากสารอาหารแล้วความสำคัญของมื้อเช้ายังมาในรูปแบบของกิจกรรมที่หลากหลาย เช่นที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้คือ "Breakfast in bed และ Floating Breakfast" ซึ่งจะมีที่มาที่ไปอย่างไร ปัจจุบันที่ไหนมีให้เราได้ไปใช้บริการบ้างติดตามกันเลยค่ะ
ที่มาของ Breakfast in bed และ Floating Breakfast
คุณอาภัสรา หงสกุล ได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาล ปี ค.ศ. 1965
Breakfast in bed
จากการสืบค้นข้อมูลก็พบว่าการทานอาหารเช้าบนเตียงนั้นเริ่มต้นมาจากชนชั้นสูงหรือกษัตริย์ทางฝั่งตะวันตก และตกทอดกันมาเป็นวัฒนธรรมของคนมีฐานะ รวมไปถึงนางงามจักรวาลที่หลังจากเธอได้รับตำแหน่ง ผ่านพ้นไป 1 คืน ต้องมีภาพการรับประทานอาหารเช้าบนเตียงให้ได้เห็นกันอยู่เสมอ เพื่อแสดงถึงความหรูหรา ร่ำรวย ไม่รีบร้อน ซึ่งขัดกับคนชนชั้นสามัญที่จะทานอาหารแบบนี้ไม่ได้เพราะต้องรีบเร่งไปประกอบอาชีพ และยังทำให้เลอะเทอะที่นอนอีกด้วย ปัจจุบันการทานอาหารบนเตียงนี้ก็นิยมกันในหมู่นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชอบถ่ายภาพ เน้น lifestyle ให้ดูหรูหราและพิเศษมากกว่าวันทั่วไป
Floating Breakfast
ส่วนการทานอาหารเช้าลอยน้ำนั้นคาดว่ามาจากการบริการของโรงแรมในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นพูลวิลลา วิวทิวเขาและทะเล การเสิร์ฟ Floating Breakfast แสดงถึงการผักผ่อนแบบตามใจ สามารถนอน ทานอาหาร เล่นน้ำ ชมวิวก็สามารถทำไปพร้อมๆ กันได้ แถมยังได้ภาพสวยๆ กลับมาอีกด้วย การเสิร์ฟแบบนี้จึงเป็นที่นิยมกันมาเรื่อยๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนิยมไปสู่ที่พักทั่วไปไม่มีวิวทิวทัศน์ การเสิร์ฟแบบนี้ก็จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสนใจที่พักมากขึ้นได้
ชุดอาหารเช้าแบบไหนที่นิยมนำมาเสิร์ฟ?
โดยปกติแล้วอาหารเช้าที่โรงแรมในประเทศไทยก็จะมีให้เลือก 2 แบบ (หรือบางที่อาจมากกว่านั้นหรือจำกัดมาให้เลย) คืออาหารไทย อาทิ ข้าวต้ม ข้าวผัด และแบบที่ 2 คือ American Breakfast ที่จะรวมไข่ เบคอน แฮม ขนมปัง เป็นชุดให้ นอกจากนั้นก็จะมีซีเรียล น้ำผลไม้ ผลไม้ น้ำเปล่าบริการอีก แต่เมื่อต้องมากลายเป็น Breakfast in Bed อาหารก็ต้องมีการปรับเพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่ ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นชุด American Breakfast พร้อมด้วยผลไม้ เบเกอรี่ ซีเรียลโบลว์ สลัด เป็นต้น ส่วน Floating Breakfast ก็คล้ายๆ กับ Breakfast in Bed แต่จะเป็นอาหารในรูปแบบ Finger food ที่สามารถใช้มือหยิบทานได้ อาหารที่เป็นคำๆ ง่ายต่อการทานในสระ เป็นต้น โดยทั้ง 2 แบบ ไม่ควรมีอาหารประเภทน้ำ เส้นที่ยากต่อการรับประทาน
Breakfast in bed กลับมาฮิตอีกครั้งเพราะ covid-19
จริงๆ แล้วถ้าไม่ใช่โรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไปหรือโรงแรมไม่ได้มีบริการนี้ก็จะเป็นการยากที่เราจะให้พนักงานเข็นอาคารเช้าทั้งชุดมาเสิร์ฟเราที่ห้องนอน แต่เมื่อได้เกิดโรคระบาดขึ้นหลายโรงแรมก็ได้ปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด การนำเสนอ Breakfast in bed และ Floating Breakfast ก็ช่วยทำให้คนอยากไปพักผ่อนมากขึ้นเพราะนอกจากจะปลอดภัยที่ไม่ต้องรับประทานร่วมกับผู้อื่นแล้ว ยังได้ภาพสวยๆ ที่นานๆ ทีจะได้ทานอาหารแบบจัดเต็มบนเตียงแบบนี้อีกด้วย
เช็คโรงแรม..ที่ไหนมีเสิร์ฟบ้าง?
โรงแรมในกรุงเทพ
1. Waldorf Astoria Bangkok : ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 8,000 บาท/คืน
2. Anantara Siam Bangkok Hotel : ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 3,000 บาท/คืน
3. PULLMAN BANGKOK KING POWER : ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 1,600 บาท/คืน
โรงแรมในต่างจังหวัด
1. W Koh Samui เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี : ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 12,000 บาท/คืน
ขอบคุณภาพจาก
W Koh samui 2. ศรีนาม่าน จังหวัดน่าน : ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 2,900 บาท/คืน
3. Veranda Resort & Villas Hua Hin จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ : ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 3,700 บาท/คืน
4. MYTT Beach Hotel, Pattaya จังหวัดชลบุรี : ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 2,200 บาท/คืน
*บริการจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปในแต่ละโรงแรม กรุณาสอบถามทางโรงแรมโดยตรง
*ราคาต่อคืนขึ้นอยู่กับช่วงวันและเวลาที่ทำการจอง ราคาที่แสดงเป็นเพียงราคา ณ วันที่ 27/5/64 เท่านั้น