คอนโด New Normal กับ 8 เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย ป้องกันโควิด 19!!
ในยุคที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 การใช้ชีวิตให้ปลอดภัยจากเชื่อโรคต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ จะเห็นว่ารูปแบบพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมกันของคนในสังคมหลายๆ อย่างมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือที่เรียกว่าการใช้ชีวิตแบบ "New Normal" ซึ่งปัจจุบันนี้แทบจะกลายเป็นเรื่องปกติและเป็นความเคยชินไปแล้ว ทุกอย่างต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ว่าจะอยู่นอกบ้าน หรืออยู่ภายในบ้านก็ตาม
ในด้านของที่อยู่อาศัยจึงยิ่งต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะคนส่วนใหญ่ล้วนใช้เวลาอยู่ที่บ้านไม่น้อยกว่า 10 ชั่วโมง ไม่ว่าจะพักผ่อน ยิ่งต้องทำงาน Work from Home ด้วยแล้ว เวลาเกือบทั้งหมดคงหมดไปกับที่บ้าน ทำให้หลายดีเวลลอปเปอร์มีการยกระดับความเข้มข้นด้านความสะอาดปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อเป็นการลดจุดเสี่ยงในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของคนจำนวนมากภายในโครงการ ไปดูกันว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุค New Normal ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัยของชาวคอนโด
เริ่มจากประตูทางเข้าหลักของโครงการกันเลย ที่แต่ละวันมีคนเดินผ่านเข้าออกเป็นจำนวนมาก จากเดิมอาจจะเป็นแบบบานสวิงต้องใช้มือผลัก ก็เปลี่ยนมาเป็นแบบอัตโนมัติ ที่ทำงานโดยตรวจจับความเคลื่อนไหวและเปิด-ปิดเวลาที่มีคนเดินผ่านเข้าออกด้วยระบบเซนเซอร์ ช่วยลดการสัมผัส (Touchless Journey) กับตัวประตูโดยตรง ซึ่งจะเป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่เชื้อของโรคได้มากที่สุด และนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในแง่ของการเดินเข้าออกได้อีกด้วย เพราะประตูอัตโนมัติมักจะมีขนาดใหญ่ และสามารถเปิดได้กว้างมากกว่าประตูแบบเดิมๆ
มีการจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด อาทิ เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องพ่นแอลกอฮอล์ระบบอัตโนมัติ กระจายอยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น ทางเข้าโครงการ บริเวณล็อบบี้ หน้าลิฟต์ สำหรับฆ่าเชื่อโรคที่อาจจะติดอยู่ที่มือกรณีที่ไปหยิบจับหรือสัมผัสจุดที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื่อโรค เพื่อป้องกันการกระจายเชื่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ภายในโครงการ นอกจากนี้ยังจัดให้มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณพื้นที่ส่วนกลางอย่างสม่ำเสมอ
Access Control เครื่องสแกนใบหน้าด้วยระบบ AI นอกจากจะเป็นระบบการรักษาความปลอดภัยแล้วยังมีฟังก์ชั่นตรวจวัดอุณหภูมิสำหรับคัดกรองผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ ซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสียงที่จะติดเชื่อโควิด 19 ได้อีกด้วย
การจัดการพัสดุก็ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะในยุคนี้หลายคนต่างก็ช้อปปิ้งผ่านทางระบบออนไลน์ ทำให้แต่ละวันมีการจัดส่งพัสดุมาที่คอนโดเป็นจำนวนมาก บางโครงการจึงจัดให้มีตู้อบพัสดุ หรือตู้ Mail box ที่ติดตั้งระบบฆ่าเชื้อด้วยเทคโนโลยี UV ก่อนส่งมอบพัสดุหรือจดหมายให้กับลูกบ้าน ให้แน่ใจว่าพัสดุชิ้นนี้จะไม่มีการปนเปื้อนเชื่อโรคจากผู้จัดส่ง
จุดสำหรับรับ-ส่ง อาหาร Delivery เป็นอีกหนึ่งจุดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารในยุค New Normal บางโครงการจัดอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งแบบที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และบางโครงการจัดห้องเป็นสัดส่วน เว้นระยะห่างระหว่างผู้ส่งอาหารและผู้พักอาศัย หลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวกันโดยตรง และยังมีช่องส่งอาหารที่มีระบบฆ่าเชื้อโรคด้วย UV ก่อนที่ลูกบ้านจะรับอาหารจากพนักงานส่งอาหาร
ออกแบบพี้นที่ส่วนกลางให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นคำนึงถึง Social Distancing ด้วยการจัดแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนถึงแม้ว่าจะมีลูกบ้านลงมาใช้งานพร้อมๆ กัน นอกจากนี้บางโครงการยังยกระดับความปลอดภัยเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยการเปิดให้มีการจองสิทธิ์ในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางผ่านมือถือ อยากใช้วันไหน เวลาอะไร ก็จองไว้ก่อนล่วงหน้าได้เลย เช่น ห้องประชุม หรือห้อง Co-working Space ฯลฯ จะได้ใช้ด้วยความสบายใจและเป็นส่วนตัวเฉพาะกรุ๊ปเราเท่านั้น เรียกได้ว่าได้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยขึ้นสูงสุด
พื้นที่ส่วนกลางเป็นอีกหนึ่งจุดที่มักมีลูกบ้านภายในโครงการมาใช้งานร่วมกัน จากเดิมสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางมักจะถูกจัดวางรวมกันไว้ที่ชั้นใดชั้นหนึ่ง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย บางโครงการจึงปรับเปลี่ยนและออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และกระจายอยู่ในหลายชั้น รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกบ้านที่แตกต่างกัน ตอบโจทย์ Social Distancing และลดความแออัดในการใช้งานของลูกบ้าน
มีการนำเทคโนโลยีอย่าง Internet-of-Things หรือ IoT เข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะสะดวก รวดเร็ว แล้วยังได้ความปลอดภัย สั่งงานก็ง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ อาทิ ระบบ Smart Locker หรือ Smart Mail Box แจ้งเตือนการรับจดหมาย หรือพัสดุมาส่ง โดยการปลดล็อคตู้จดหมายผ่านการใช้ QR Code แทนการใช้กุญแจ
การมีเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามารองรับในการใช้ชีวิตประจำวันถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ช่วยป้องกันไม่ได้ 100% เพราะฉนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลตัวเอง หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือล้างด้วยน้ำสบู่บ่อยๆ รักษาระยะห่าง 1-2 เมตร สวมหน้ากากอนามัย และไม่พาตัวเองไปในจุดที่มีความเสี่ยง เพียงเท่านี้ก็ลดโอกาสเสียงที่จะติดเชื้อไปได้เยอะแล้ว ขอให้ชาวมนุษย์คอนโดทุกคนปลอดภัย!!