ป่ากลางเมือง พลังรักษ์โลก บนคอนโดระฟ้า "คอนโดต้นแบบที่เมืองไทยน่าจะมี"

ปัจจุบันต้นไม้กลายเป็นสิ่งถวิลหาของคนในป่าคอนกรีต หลายเมืองทั่วโลกพยายามสร้างแหล่งฟอกปอดเล็กๆ เพื่อให้ชาวเมืองพอมีพื้นที่สีเขียวสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่ด้วยพื้นที่อันจำกัด บรรดาตึกสูงในยุคใหม่จึงพยายามสร้างสรรค์การออกแบบ เติมเต็มพื้นที่สีเขียวเข้าไปในโครงสร้าง แม้จะน้อยนิด แต่ก็ตอบสนองความต้องการของสังคมเมืองได้ดีทีเดียว วันนี้ Checkraka.com ขอนำเรื่องราวสถาปัตยกรรม "รักษ์โลก" ที่น่าสนใจจากอิตาลีมาฝากค่ะ อาจเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการในเมืองไทยสร้างคอนโดแนวรักธรรมชาติแบบนี้ในเมืองไทยกันบ้างค่ะ

"Stefano Boeri  (สเตฟาโน โบเอรี)" สถาปนิกชาวอิตาลี ก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่พยายามสรรค์สร้างความแตกต่าง ประยุกต์โลกยุคใหม่ให้กลับสู่โลกของธรรมชาติ จากแนวคิดนี้ทำให้เกิดตึกระฟ้า "Bosco Verticale (บอสโก เวอร์ติคาเล)" อาคารแฝดที่เป็นคอนโดสำหรับพักอาศัย 2 หลัง มี 27 ชั้น และ 18 ชั้น อยู่ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

อาคารแฝด "Bosco Verticale (บอสโก เวอร์ติคาเล)" หากแปลเป็นภาษาอังกฤษคือ "Vertical Forest" (ป่าแนวตั้ง)

ความพิเศษของอาคารนี้คือ แนวคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งระเบียงทุกๆ ห้องจะถูกออกแบบให้มีพื้นที่พิเศษสำหรับวางกระถางต้นไม้ เรียกว่ากลายเป็นการสร้างระบบนิเวศน์ย่อมๆ ในตึกเลยทีเดียว บรรดาต้นไม้หลากหลายพันธุ์ จะถูกคัดสรร และศึกษาธรรมชาติของพืชแต่ละชนิดว่าเหมาะสมที่จะปลูกในสภาวะแบบนี้หรือไม่ ต้องการสภาพอากาศแบบไหน แสงแดดมากน้อยเพียงใด ต้านทานลมแรงในชั้นสูงๆ ของตึกได้หรือไม่ เพราะความแรงของลมจะแตกต่างกันไปตามระดับความสูงของแต่ละชั้น โดยรวมแล้วตึกมีต้นไม้มากถึง 800 ต้น ไม้พุ่ม 5,000 ต้น และพืชคลุมดินอีกกว่า 14,000 ต้น

การใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติของ "Bosco Verticale (บอสโก เวอร์ติคาเล)"

การศึกษาความเหมาะสมของต้นไม้กับระดับชั้นความสูงของอาคาร

ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ที่ผ่านการศึกษาสภาวะความเหมาะสมแล้ว

บรรดาต้นไม้ยึดพื้นที่ริมระเบียง ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มออกซิเจน

ต้นไม้ทั้งหมดในตึกนี้รวมกันแล้วน่าจะมีขนาดเท่ากับป่า 2.5 เอเคอร์ หรือเท่ากับ 10117.1 ตารางเมตร เลยทีเดียว

"Bosco Verticale (บอสโก เวอร์ติคาเล)" นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับมิลานแล้ว อีกหลายสิ่งสำคัญของอาคารที่ใครๆ ก็เรียกว่า "ป่าแนวตั้ง" นี้ คือการช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ เพิ่มออกซิเจน ช่วยปรับอุณหภูมิภายในอาคาร เพื่อประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยัง เป็นเกราะป้องกันมลพิษ ซึ่งต้นไม้นอกอาคารนั้นจะเป็นตัวช่วยกรองอากาศก่อนเข้าสู่ห้องพักได้เป็นอย่างดี

แผนผังแสดงเกราะป้องกันสารพัดประโยชน์ และกระบวนการถ่ายเทอากาศของต้นไม้

ใกล้ชิดธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ง่ายๆ ที่ริมระเบียง

ต้นไม้ใน "Bosco Verticale (บอสโก เวอร์ติคาเล)" อีกหนึ่งตัวช่วยกรองมลพิษในเมืองมิลาน

เนื่องจากทำเลที่ตั้งของ "Bosco Verticale (บอสโก เวอร์ติคาเล)" อยู่ในด้านที่รับแสงอาทิตย์จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ตัวอาคารเองยังมีแนวคิดการใช้ "พลังงานหมุนเวียน" ด้วยการนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยบำบัดน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ อาจเรียกได้ว่าเป็นกระบวนการการคิดที่เปี่ยมไปด้วย "พลังรักษ์โลก" จริงๆ

นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่ผสานความลงตัวระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติไว้อย่างน่าทึ่ง "Bosco Verticale (บอสโก เวอร์ติคาเล)" ได้รับรางวัล International Highrise Award 2014 ว่านี่คือที่สุดของสถาปัตยกรรมแห่งการพัฒนาพื้นที่เพื่อสังคมเมือง สำหรับใครสนใจจะซื้อไว้นั่งเล่นนอนเล่น สัมผัสชีวิตท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าในรูปแบบใหม่ ราคาค่าห้องเริ่มต้นตั้งแต่ 27,000,000 บาท ซึ่งเป็นราคาห้องขนาด 80 ตารางเมตร ไปจนถึง 80,000,000 บาท สำหรับห้องขนาด 200 ตารางเมตร

"Bosco Verticale (บอสโก เวอร์ติคาเล)"  เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการพยายามฟื้นโลกคอนกรีตคืนสู่โลกธรรมชาติที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่า การทำลายนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การสร้างขึ้นมาทดแทนใหม่เป็นเรื่องที่ยากกว่า

ขอบคุณข้อมูล : www.freshome.com, www.flickr.com, www.huffingtonpost.it, www.international-highrise-award.com