รีวิว-เยี่ยมชม "โนเบิล รีดี อารีย์ (Noble RE:D Ari)"
สวัสดีค่ะ วันนี้ Checraka.com จะพาไปเยี่ยมชมโครงการคอนโดมิเนียม โนเบิล รีดี (Noble RE:D) ในย่านอารีย์กันค่ะ อารีย์เป็นย่านที่คึกคัก มีคอมมูนิตี้มอลล์และร้านอาหารชื่อดังมากมาย สำหรับคอนโดโนเบิล รีดี อารีย์นี้ เป็นโครงการ High Rise ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตัวดีไซน์ภายนอกนั้นโดดเด่นด้วยอาคารสีแดงอิฐที่มองเห็นได้แต่ไกล สำหรับภายในนั้นตกแต่งแบบ Fully Furnished แบ่งเป็น 3 สไตล์ด้วยกัน ทุกดีไซน์มีเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เดี๋ยวเราไปชมบรรยากาศจริงของโครงการกันเลยดีกว่าค่ะ
- เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- ที่ตั้งโครงการ : เลขที่ 8 ซอยอารีย์ 1 ถนนพหลโยธิน 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
- อาคารชุดพักอาศัยสูง : 23 ชั้น 1 อาคาร
- ขนาดที่ดินทั้งโครงการ : 1-3-48 ไร่
- ลิฟต์ : ลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 2 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว
- ห้องแต่งครบ 3 สไตล์ (Collective Traveler, Posh Monotone, Neoretro Leisure) 1 ห้องนอน ขนาด 52 ตร.ม.
- ที่จอดรถ : ประมาณ 63% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ราคาเริ่มต้น : 139,000 บาท / ตร.ม. (ข้อมูล ณ 13 ต.ค. 58)
- สถานะโครงการ : โครงการแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่
- วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด 13 ต.ค. 58
เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ
บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งในปี 2534 ด้วยกลุ่มนักธุรกิจไทย ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ธุรกิจของโนเบิล คือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยเน้นที่การพัฒนาที่อยู่อาศัย โครงการทุกโครงการของโนเบิล คือภาพสะท้อนของแนวคิด และปฏิญญาที่บุคลากรของโนเบิลทุกคนยึดถือ ความแปลกใหม่ ที่สามารถตอบสนองความต้องการ และรูปแบบการใช้ชีวิต ของโลกยุคปัจจุบัน คือส่วนหนึ่งของการออกแบบ ที่อยู่อาศัยของโนเบิล ความคิดริเริ่มที่มีเอกลักษณ์ ปรากฏอยู่ในบ้านทุกๆหลัง ความพอใจที่เกินความคาดหมายของลูกค้า
โนเบิล รีดี อารีย์ (Noble RE:D Ari) ตั้งอยู่ในซอยอารีย์ 1 ทำเลในย่านอารีย์ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยของกินของใช้ เริ่มตั้งแต่ร้านหรูๆ ไปจนถึงรถเข็นข้างทาง ระยะห่างของย่านนี้เองก็ไม่ใกล้ไม่ไกลจากใจกลางเมืองเท่าไรนัก อีกทั้งยังติดระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญของคนเมืองหลวงอย่างรถไฟฟ้า โดยโครงการห่างจาก BTS สถานีอารีย์เพียง 80 เมตรเท่านั้น
แผนที่โครงการ "โนเบิล รีดี อารีย์ (Noble RE:D Ari)"
ภาพแผนที่โครงการแจกแจงให้เห็นระยะใกล้-ไกลของโครงการกับสถานที่ หรือ Landmark รอบๆ โครงการที่น่าสนใจ
google map พิกัด :
13.780195,100.543563 "โรงพยาบาลพญาไท 2" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม.
"โครงการสนั่นนภา" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 60 ม.
"ลาวิลล่า อารีย์" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 360 ม.
"โรงพยาบาลประสานมิตร" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 600 ม.
"ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม.
"โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 1.7 กม.
"บิ๊กซี สาขาสะพานควาย" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 1.6 กม.
"ตลาดนัดสวนจตุจักร" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 2.8 กม.
ขอบคุณภาพ :
travel.edtguide.com การเดินทางเข้า-ออกโครงการ
1. การเดินทางด้วยรถยนต์ เนื่องจากในโซนอารีย์นี้ มีตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่สามารถใช้เป็นเส้นทางในการลัดเลาะเลี่ยงรถติดแต่สำหรับเส้นทางหลัก มีดังนี้ค่ะ
- ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 1 (อนุสาวรีย์ชัยฯ-อารีย์)
มาดูภาพประกอบการเดินทางกันค่ะ โดยเราจะเริ่มจากบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฝั่งเกาะพหลโยธินค่ะ
ถึงแล้ว "โนเบิล รีดี อารีย์ (Noble RE:D Ari)" จุดสังเกตเด่นๆ ก็คือตัวอาคารสีแดงอิฐเท่ๆ แบบนี้ล่ะค่ะ
- ขาเข้าโครงการเส้นทางที่ 2 (ห้าแยกลาดพร้าว-อารีย์)
- ขาออกโครงการเส้นทางที่ 1 (อารีย์-อนุสาวรีย์ชัยฯ)
- ขาออกโครงการเส้นทางที่ 2 (อารีย์-ห้าแยกลาดพร้าว)
2. การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ได้โดยใช้ สถานี "อารีย์" ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 80 เมตรค่ะ
ใช้ทางออกที่ 3 ค่ะ
บริเวณทางลงมีป้ายโฆษณาของโครงการ "โนเบิล รีดี อารีย์" ด้วยค่ะ
ลงจาก BTS แล้วเลี้ยวขวา จุดสังเกตจะมีแผงลอยขายอาหารเยอะแยะเลย
แผนที่รถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ แผนที่แสดงสภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆ โครงการ
พื้นที่ส่วนใหญ่ใกล้เคียงโครงการ เป็นแหล่ง Hang Out ที่คึกคักอยู่มากเลยล่ะค่ะ มีคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้าริมทางมากมาย เรื่องอาหารการกินนั้นอุดมสมบูรณ์อย่างมาก สำหรับพื้นที่ที่อยู่อาศัยในโซนนี้ บรรดาตึกสูงต่างๆ ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดกับโครงการค่ะ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้น เดี๋ยวเราจะไปดูบริเวณรอบๆ โครงการที่อยู่ในวงกลมสีแดงของแผนที่กันนะคะ
เดินเข้าซอยอารีย์ 1 เข้ามา จะเจอวินมอเตอร์ไซค์ วินใหญ่ทีเดียวค่ะ
บรรยากาศสองข้างทางในซอยอารีย์ 1 ก็ยังเต็มไปด้วยร้ายขายของค่ะ
ทั้งร้านค้าในตัวตึกและแผงลอยริมทาง มี 7-Eleven ด้วย
"โนเบิล รีฟอร์ม" หนึ่งในโครงการของโนเบิล อยู่ตรงข้ามซอยอารีย์ 1 พอดีค่ะ
ใต้อาคารมีร้านอาหารหลายร้าน ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 50 ม.
ร้านอาหารน่านั่งบริเวณใต้ตึกโนเบิล รีฟอร์ม
"โนเบิล รีเฟล็กซ์" หนึ่งในโครงการของโนเบิลอีกเช่นกัน ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 100 ม.
"โครงการสนั่นนภา" เป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ ภายในมีร้านอาหารเยอะเลย ช่วงกลางวันและเย็นๆ คึกคักมากทีเดียวค่ะ
ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 60 ม.
บรรยากาศสองข้างทางระหว่างทางเดินไป BTS อารีย์ เต็มไปด้วยร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายยา และแผงลอยขายของ อาหารการกินรวมถึงข้าวของเครื่องใช้อุดมสมบูรณ์มากค่ะ "ลาวิลล่า อารีย์" คอมมูนิตี้มอลล์อีกแห่งหนึ่งในย่านนี้ มีร้านอาหารและซูเปอร์มาเก็ตให้เลือกจับจ่ายอย่างสะดวก
ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 360 ม.
รูปแบบตึก และตัวโครงการโดยรวม
ตัวอาคารเป็นสีแดงอิฐโดดเด่นมาแต่ไกล รูปทรงตัว L จำนวน 1 อาคาร ความสูง 23 ชั้น จำนวนห้องพัก 272 ยูนิต หน้าตึกหันไปทางทิศตะวันออก โดยบริเวณชั้น G-4 เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 5 เป็นต้นไปค่ะ บรรยากาศโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นร้านค้า และบ้านพักอาศัยที่เตี้ยๆ จึงไม่มีตึกสูงมาบังวิว สามารถมองวิวได้แบบ 360 องศา
เดี๋ยวมาดูในส่วนของ Floor Plan ของโครงการกันค่ะ ว่าแต่ละชั้นมีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง
ชั้น G : จะมี Lobby, พื้นที่นั่งเล่น, ตู้จดหมาย
และพื้นที่จอดรถบริเวณรอบอาคาร มีลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 2 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนการใช้ลิฟต์อยู่ที่ 136 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินมาตรฐานไปนิดหน่อย
ส่วนชั้น 2 - 4 : จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ชั้น 5 : จะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ ของโครงการอย่างสระว่ายน้ำระบบเกลือ, พื้นที่นั่งเล่น, ห้องฟิตเนส
และห้องสตีม นอกจากนี้ชั้นนี้ยังมีห้องพักอาศัยอยู่อีก 12 ยูนิต ชั้น 6-12 : จะคล้ายๆ กัน คือเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด พื้นที่รูปตัว L มีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 17 ยูนิต/ชั้น
ชั้น 14-20 : จะคล้ายกันคือเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด แต่จะเริ่มมีห้องแบบ 2 ห้องนอนเพิ่มขึ้นมา
และจำนวนห้องพักอาศัยจะลดลงมาอยู่ที่ 13 ยูนิต/ชั้น ชั้น 21-23 : จะคล้ายกันคือเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด และมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมากกว่าชั้นอื่นๆ
เนื่องจากมีจำนวนยูนิตพักอาศัยเพียง 11 ยูนิต/ชั้น เท่านั้นเอง
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกทางโครงการจัดมาให้ลูกบ้านพอประมาณ โดยสิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ ของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 5 หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งจะรับลมได้ดี และไม่โดนแดดในช่วงบ่าย ส่วนลานจอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น G - ชั้น 4 โดยจะแบ่งเป็นชั้น 2, 2A, 3, 3A, 4 และ 4A ซึ่งถ้านับจริงๆ แล้วก็ประมาณ 6 ชั้น ที่จอดรถโดยรวมประมาณ 63% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่จัดมาให้อีก อาทิ
- โถงต้อนรับ
- สวนส่วนกลางบริเวณชั้น G, ชั้น 5 และชั้นดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำ
- ห้องออกกำลังกาย
- ห้องสตีมแยกชายหญิง
- ลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 2 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว
- ห้องซักผ้าอบผ้าส่วนกลาง
- ที่จอดรถประมาณ 63% (แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน)
- ระบบรักษาความปลอดภัย รปภ. 24 ชม.
- ระบบ Access control
- กล้อง CCTV
- ระบบป้องกันอัคคีภัย
- ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน บริเวณโถงทางเดิน
มีพี่ รปภ. คอยดูแลอยู่บริเวณประตูทางเข้าออกด้านหน้าโครงการ
เข้าประตูมาจะเป็นทางบังคับให้เลี้ยวซ้าย เพื่อไปขึ้นลานจอดรถ มีพื้นที่สีเขียวพร้อมม้านั่ง
สำหรับให้ Visitor มานั่งเล่น หรือนั่งรอบริเวณนี้ได้ด้วยค่ะ
พื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor จะอยู่ที่ชั้น G โดยทางโครงการ
จัดพื้นที่จอดรถไว้ให้ทั้งด้านหน้าที่เห็นในภาพ และด้านหลังของอาคารค่ะ
ทางขึ้นลานจอดรถสำหรับลูกบ้าน จุดนี้ต้องสแกนบัตรก่อนขึ้นจอด พร้อมทั้งมีกล้อง CCTV และ พี่ รปภ. คอยดูแลความปลอดภัยให้ด้วยค่ะ ส่วนห้องกระจกที่เห็นทางซ้ายมือเป็นสำนักงานขายค่ะ
จากสำนักงานขายขับเลี้ยวมาทางด้านหลังอาคาร ก็มีที่จอดรถสำหรับ Visitor อีกพอสมควร
ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ก็อยู่ด้านหลังนี้เช่นกันกัน ส่วนถ้าจะออกไปหน้าโครงการก็วนขวาตามลูกศรไปเลยค่ะ
จากไม้กระดกเข้ามาจะเป็นทางบังคับให้เลี้ยวขวาเพื่อวนขึ้นลานจอดรถค่ะ
ขึ้นมาชั้นบนที่จอดรถขนาดมาตรฐาน แต่อาจจะไม่เหมาะกับการจอดซ้อนคันค่ะ
บนลานจอดรถติดตั้งไฟมากให้เยอะพอสมควรเลยค่ะ รับรองว่าตอนกลางคืนไม่มืดแน่นอน
ประตูจากลานจอดรถที่จะเข้าสู่ด้านในตัวอาคาร ก็ต้องใช้สแกนบัตรเช่นกันนะคะ โดยลิฟต์จากลานจอดรถเป็นลิฟต์
ตัวเดียวกันกับที่จะขึ้นห้องพักอาศัย สะดวกไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนลิฟต์
บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ มีชุดโต๊ะเก้าอี้ สำหรับรับแขกจัดไว้ให้ 2 ชุด
ประตูด้านข้างเปิดออกไปยังส่วนพื้นที่นั่งเล่นได้ด้วย
พื้นที่นั่งเล่นสำหรับลูกบ้าน ตรงจุดนี้ลมดีมากเลยค่ะ
ห้องซักผ้าของโครงการมีตู้ Washbox มาให้ 1 ตู้ และเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญมาให้ 2 เครื่อง
ประตู Lobby เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด ส่วนด้านหน้า Lobby เป็นพื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Reception ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง Mailbox ที่อยู่ทางขวา และ Lobby ที่อยู่ทางซ้าย
ห้อง Mailbox ของโครงการหน้าตา สีสันประมาณนี้ค่ะ
Lobby ออกแบบมาในสไตล์ชิคๆ ตกแต่งด้วยโคมโฟทรงกลมดีไซน์เก๋
กับชุดโซฟาตัวยาวสีขาวสะอาดตา
พร้อมโต๊ะรับแขกแบบ 4 ที่นั่งอีก 1 ชุด
ประตูที่จะเข้าไปยังลิฟต์ สำหรับขึ้นไปที่ห้องพักค่ะ เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ดเช่นกัน
บริเวณโถงลิฟท์ ตกแต่งด้วยกระจกทรงกลมพร้อมซ่อนไฟไว้ที่ผนังด้วยเก๋ดีทีเดียว
ลิฟต์ 2 ตัวแบบล็อคชั้น เข้าออกได้เฉพาะชั้นลานจอดรถ ชั้นห้องพักอาศัย และชั้น 5 ที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก ที่นี่ชั้น G ก็ล็อคด้วยนะคะ ไม่มีการ์ดลงมาชั้น G ไม่ได้นะคะ เป็นอีกหนึ่งระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการนี้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 5 ซึ่งทางขวามือจะเป็นประตูเข้าไปในส่วนห้องพักอาศัย ซึ่งส่วนนี้จะเข้าออกต้องใช้คีย์การ์ดค่ะ
เพราะฉะนั้นลูกบ้านที่มาจากชั้นอื่นจะไม่สามารถเข้าได้
ห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ที่ให้มาค่อนข้างเยอะ มองออกไปด้านนอกจะเป็นวิวสระว่ายน้ำค่ะ
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 6x20 เมตร ลึก 1.4 เมตร มีเตียงสำหรับนั่งเล่นริมสระ หรือนอนอาบแดดกลางแจ้งมาให้ 4 ตัว
ส่วนในร่มมีชุดโต๊ะ เก้าอี้มาให้ 2 ชุด เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งเล่นทำงาน
โดยชั้น 5 นี้จะเน้นเป็นพื้นที่สีเขียว มีต้นไม้มาลงเพื่อช่วยบังแดด และช่วยเพิ่มความร่มรื่น
สระว่ายน้ำสำหรับเด็กจะแยกเป็นสัดส่วนอยู่ภายในร่มค่ะ
มีฝักบัวแบบ Outdoor สำหรับอาบน้ำก่อนลงสระมาให้ด้วย
ห้องสตีมที่อยู่ภายในห้องน้ำชาย มีฝักบัวอาบน้ำให้
และห้องสตีมภายในห้องน้ำหญิง
โถงหน้าลิฟต์ของชั้นคู่ กับชั้นคี่จะไม่เหมือนกันนะคะ โดยชั้นคี่จะเป็นสีทองแบบนี้ค่ะ ส่วนชั้นคู่จะเป็นสีเทา
ตึกนี้มีทางหนีไฟอยู่ด้วยกัน 2 จุดนะคะ
ติดตั้งไฟฉุกเฉินมาให้บริเวณโถงทางเดินหน้าลิฟต์ด้วยค่ะ
โถงทางเดินหน้าห้องพักกว้างประมาณ 1.10 เมตร
บนชั้นดาดฟ้าทางโครงการจัดเป็นสวนสีเขียว และพื้นที่นั่งเล่นมาให้แบบนี้ค่ะ แต่ตอนกลางวันอาจจะร้อนหน่อยค่ะ
ภาพห้องตัวอย่างและ Lay out
ก่อนหน้านี้ขายแบบ Fully Fitted มีแค่ชุดครัว Built-in, ตู้เสื้อผ้า Built-in และตู้เย็นให้ แต่ปัจจุบันขายแบบ Fully Furnished คือให้ทุกอย่างที่เห็นในห้องเลย ทั้งชุดเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงของตกแต่งทุกอย่างที่เห็นให้หมด ไม่ว่าจะเป็นจานชาม ช้อน ส้อม ผ้าม่าน วอลล์เปเปอร์ แอร์ เรียกว่าสามารถหิ้วกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลยจริงๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อของเพิ่ม โดยช่วง Promotion นี้จะมีการตกแต่งให้ลูกบ้านได้เลือกด้วยกัน 3 แบบ คือ Collective Traveller เน้นเป็นโทนสีน้ำตาล, Posh Monotone ตกแต่งในโทนสีเทา เรียบหรู และ Neoretro Leisure เน้นสีสันโทนขาว เหลือง
- ห้องแบบ Studio
- ห้องแบบ 1 ห้องนอน
- ห้องแบบ 2 ห้องนอน
ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน การตกแต่งสไตล์ Collective Traveller
Lay Out ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 52.64 ตร.ม.
ประตูห้องติดแผ่นไม้ด้านบนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นประตู Over Size
มือจับประตูแบบก้านโยก
ตัวจบประตูสูงกว่าพื้นทางเดินไม่มาก
เปิดประตูเข้ามา ด้านหลังประจะมีเบรกเกอร์อยู่ มีช่องเหลือไว้สำหรับติดตั้งไฟฟ้าเพิ่มเติมภายในห้อง
ที่พื้นติดตัวกันประตูกระแทกมาให้
ส่วนพื้นห้องเป็นพื้นไม้วีเนียร์ ความหนา 3 มม. คือเป็นพื้นไม้หน้าจริง ได้อารมณ์ ผิวสัมผัสเป็นไม้จริงๆ
ติดกับประตูจะเป็นส่วนของห้องครัวแบบเปิด ลักษณะรูปทรงตัว L ความสูงของฝ้าอยู่ที่ 2.45 เมตร
ได้แอร์แบบฝังใต้ฝ้าเพื่อความสวยงาม
หน้า Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินแท้ หน้าบานของตู้เคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนต บานพับแบบ Soft Close
เปิดออกมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ มีถังใส่ขยะมาให้ด้วยแบบนี้
อ่างล้างจานหลุมเดียวแบบฝังของ smeg
ได้เตาไฟฟ้าของ smeg แบบ 2 หัว
ส่วนที่ผนังติดลามิเนตสี silver สำหรับกันเปื้อนมาให้ ง่ายต่อการดูแลและทำความสะอาด
เครื่องดูดควันของ smeg เช่นกัน
ระบบต่อท่อออกด้านนอกอาคารนะคะ ไม่ใช่ระบบหมุนเวียน ได้โต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้เก๋ๆ สีน้ำตาล 4 ตัว และของตกแต่งทุกชิ้นบนโต๊ะแบบนี้ค่ะ
ถัดไปจะเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ โดยเพดานห้องนั่งเล่นสูง 2.7 เมตร จะมีความโปร่งสบายมากกว่าที่อื่น
เพราะมีความสูงของฝ้าเป็นพิเศษ ไฟติดเพดานเป็นดาวน์ไลท์สีส้ม ได้อารมณ์โรแมนติกนิดๆ
โซฟา 2 ที่นั่ง ขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถทิ้งตัวลงนอนได้สบาย
ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี พร้อมทีวี LED 40 นิ้ว ระยะดูทีวีกว้างมากค่ะ
ผนังห้องเป็นแบบก่ออิฐมอญแดง ข้อดีคือจะมีความแข็งแรง สามารถต่อเติม ทุบผนัง หรือเจาะผนังได้
ประตูระเบียงแบบบานเลื่อนขนาดใหญ่ กรอบอลูมิเนียมสีดำ
ที่ประตูระเบียงทำเป็นฝ้าหลุม สำหรับซ่อนรางผ้าม่านบังสายตาเพื่อความสวยงาม
ระเบียงห้องนั่งเล่นเปิดออกมา ด้านขวามือจะเป็นตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์แอร์ ด้านล่างทำเป็นที่วางเครื่องซักผ้า ซึ่งต่อท่อน้ำดีและน้ำทิ้งไว้ให้เรียบร้อย ส่วนราวระเบียงสูงประมาณ 1.4 เมตร ค่อนข้างสูง ความกว้างประมาณ 60 ซม.
วิวจากระเบียงห้องนั่งเล่นเป็นวิวเปิดโล่งแบบ 360 องศา จากมุมนี้สามารถมองเห็นวิวสะพานพระราม 8 ด้วยค่ะ
ย้ายเข้าไปดูห้องนอนกันบ้างค่ะ ที่ประตูของห้องนอนได้มือจับแบบลูกบิดธรรมดา
เพดานห้องนอนสูง 2.7 เมตร สามารถวางเตียงแบบ 6 ฟุตได้สบาย
ด้านข้างวางโต๊ะหัวเตียงได้แบบเหลือๆ พื้นที่ข้างเตียงยังเหลืออีกเยอะเลยค่ะ
ปลายเตียงได้ชั้นวาง พร้อมทีวี LED อีก 1 เครื่อง
ระเบียงของห้องนอนอาจจะดูเล็กไปหน่อย แต่โครงการตั้งใจออกแบบมาเพื่อให้ลูกบ้านใช้งานภายในห้องอย่างแท้จริง เพราะในชีวิตจริงแล้วเราคงจะใช้เวลาอยู่ที่ระเบียงไม่นานนัก แต่น่าจะใช้งานอยู่ภายในห้องพักอาศัยมากกว่า
City View แบบเปิดโล่งมุมมองจากห้องนอนค่ะ
ข้างเตียงได้โต๊ะทำงานสีดำ พร้อมเก้าอี้เก๋ๆ แบบนี้ค่ะ
ตู้เสื้อผ้า Built-in ความสูงจรดฝ้า 2.45 เมตร หน้าบานเป็นลามิเนต
เดี๋ยวเข้าไปสำรวจห้องน้ำกันบ้างค่ะ ในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ของ Kohler
ได้ตัวกันประตูกระแทกมาให้ด้วย
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นของ Mogen ลิ้นชักใต้อ่างล้างมือ สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน ซึ่งลูกค้าต้องซื้อมาติดตั้งเอง ภาพห้องตัวกับการตกแต่งในสไตล์ Neoretro Leisure
การตกแต่งในสไตล์ Neoretro Leisure คือจะเน้นสีสัน โทนสีขาว เหลือง ที่มาผสมกันได้อย่างลงตัว ดูสดใส และโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย เหมาะสำหรับวัยรุ่น
ภาพห้องตัวกับการตกแต่งในสไตล์ Posh Monotone
การตกแต่งในสไตล์ Posh Monotone จะแต่งในโทนสีเทา เรียบหรู เน้นไปในแนวหินอ่อน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทานข้าวหินอ่อน โต๊ะทำงานหินอ่อน น่าจะเหมาะสำหรับวัยทำงาน
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (13 ต.ค. 58)
ราคาเริ่มต้น 139,000 บาท/ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished
ค่าส่วนกลาง : 50 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
เงินกองทุนแรกเข้า : 600 บาท/ตร.ม. (เก็บครั้งเดียว) ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ : ผู้ซื้อและผู้ขายแบ่งชำระค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง
ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า : ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
ค่าเงินประกันมิเตอร์น้ำ : ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
- การเดินทางเข้า-ออกโครงการ - เส้นทางเข้าออกที่สะดวกที่สุดของโครงการจะใช้ "ถนนพหลโยธิน" ค่ะ แต่พื้นที่ในย่านอารีย์นั้นจะมีตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่สามารถลัดไปออกถนนพระรามที่ 6 และเลี่ยงรถติดถนนพหลโยธินได้ แต่สำหรับการเดินทางที่สะดวกที่สุดคงต้องยกให้รถไฟฟ้า BTS ค่ะ สำหรับใครที่ทำงานในเมือง ก็สามารถเดินเท้าชิลล์ๆ มาสถานีรถไฟฟ้าเพียงแค่ 80 เมตรเท่านั้น ใต้ BTS สถานีอารีย์ก็ยังเป็นที่ตั้งของป้ายรถเมล์ ที่มีผู้คนยืนรอรถเมล์อย่างคึกคัก และในซอยอารีย์ 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการก็มี "วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง" พร้อมให้ซิ่งในเวลาเร่งด่วน
- ทำเลรอบโครงการ - ย่านอารีย์ที่ทุกคนคุ้นเคย เป็นย่านที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยร้านอาหารมากมาย มีคอมมูนิตี้มอลล์ ใกล้โรงพยาบาล, สถานที่ราชการ และสำนักงานออฟฟิศ เรียกว่าเป็นย่านคึกคักอย่างมากค่ะ แต่ถ้ามองเข้าไปในซอยอารีย์ 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครการแล้ว ก็จัดว่าคึกคักนะคะแต่ไม่พลุกพล่าน ร้านรวง Hang Out ต่างๆ ส่วนใหญ่มักจะเปิดบริการในช่วงตอนเย็นๆ ช่วงกลางวันจะเป็นร้านแผงลอยเสียส่วนใหญ่ เรื่องอาหารการกินที่นี่ไม่อดตายแน่นอนค่ะ พื้นที่ส่วนใหญ่ในซอยเป็นบ้านพักอาศัยรั้วรอบขอบชิด มีความสูงไม่เกิน 3 ชั้น ตึกสูงในระยะประชิดยังไม่ค่อยมีให้เห็น หมดกังวลเรื่องวิว ได้ชมกันอย่างเต็มตาแน่นอนค่ะ
- อาคารและตัวโครงการโดยรวม - เป็นคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ตัวอาคารสีแดงอิฐโดดเด่น ยูนิตต่อชั้นน้อย อยู่ที่ 11-17 ยูนิตเท่านั้น ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง บรรยากาศโดยรวมภายในโครงการเงียบสงบ Facility ที่ได้ดูจะน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับคอนโดระดับราคานี้ โดยที่ให้มาจะมี สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องสตีม, สวนบนชั้นดาดฟ้า และ Lobby ปริมาณที่จอดรถอยู่ที่ 63% ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดี มีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนการใช้ลิฟต์อยู่ที่ 136 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าพอใช้ได้
- รูปแบบห้องและวัสดุ - พื้นที่ห้องแต่ละ Type มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เหลือพื้นที่ให้ตกแต่งได้อีกเยอะ ได้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ซึ่งครบจริงๆ ให้ทุกอย่างตามห้องตัวอย่าง โดยมีการตกแต่งให้เลือกถึง 3 สไตล์ ตามความต้องการ ส่วนวัสดุที่ได้บางอย่างถือว่าดี เช่น พื้นไม้วีเนียร์, หน้า Top เคาน์เตอร์ครัวหินแท้, แอร์แบบฝังฝ้า, หน้าต่างบานใหญ่, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Kohler หรือ ทีวีแบบ LED ติดตรงที่ระเบียงเล็กไปนิด และลูกบิดประตูห้องนอนที่ดูธรรมดาไปหน่อย
- ราคา - สำหรับห้องที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นที่ 139,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งราคาอาจจะสูงสักหน่อย แต่ก็แลกมาซึ่งทำเลกลางเมืองที่อุดมสมบูรณ์ และใกล้ BTS ในระยะที่เดินได้จริง บวกกับพื้นที่รอบๆ โครงการที่กว้าง มีความเป็นส่วนตัวสูง พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ได้แบบ Fully Furnished จริงๆ โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งลูกค้าที่จะซื้อโครงการระดับราคานี้ได้ก็คงต้องเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างดี และมีรายได้สูงพอสมควร
สถานะปัจจุบันของโครงการ (13 ต.ค. 58)
ปัจจุบันโครงการ โนเบิล รีดี สร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2556 มียอดขายไปแล้วกว่า 90% แล้ว ซึ่งห้องที่ยังมีเปิดขายอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน โดยเริ่มต้นอยู่ที่ชั้น 6 ขึ้นไป โดยห้องทั้งหมดสามารถมองเห็น City view ได้แบบ 360 องศา
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดพิเศษได้ที่ลิงก์ด้านล่างค่ะ