ในเมืองใหญ่ๆ ในโลกไม่ว่าจะเป็นโตเกียว, ลอนดอน หรือนิวยอร์กซิตี้ เป็นที่ยอมรับกันว่า การเดินทางแบบ Mass Rapid Transit ซึ่งหลักๆ ก็คือ ระบบรถไฟฟ้าที่มีเครือข่ายเป็นใยแมงมุม เป็นระบบการขนส่งในเมืองที่สะดวก ประหยัด และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการขนคนในเมืองเป็นหลักล้านคน ในกรุงเทพฯ เรา หากการพัฒนาระบบไฟฟ้าทำได้จริงตามนโยบายรัฐบาล จะทำให้ Lifestyle ของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน และทำเลที่เป็น Hub เชื่อมต่อการเดินทางได้สะดวกพร้อมกับมีองค์ประกอบในการใช้ชีวิตครบครัน (แบบไม่ต้องเดินทางนาน) ทั้งสถานที่ทำงาน ร้านเดินเล่น แหล่งกินอยู่ หรือพักผ่อนก็จะได้เปรียบโลเกชั่นอื่นๆ พอสมควร
วันนี้ CheckRaka.com แบกเป้สะพายกล้องลงพื้นที่สำรวจสี่แยกแห่งใหม่ ซึ่งเป็นย่านที่หลายๆ คนกล่าวขวัญกันว่า จะเป็น CBD (Central Business District) ในอนาคตอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ คือ บริเวณประมาณ 1 ก.ม. ล้อมรอบ 4 แยกรัชดาฯ - พระราม 9 เราลองมาดูกันครับว่าทำไมหลายคนถึงมองว่าจะเป็น CBD แห่งใหม่
จุดเด่นของย่านนี้คือ แม้อาจจะไม่ใช่ Hub ของรถไฟฟ้าเหมือนพวกสถานีบางซื่อ แต่ก็เป็นจุดศูนย์กลางที่เพียงแค่เดินทาง 1 สถานีก็สามารถต่อรถไฟฟ้าได้ถึง 3 เส้น เริ่มจากหากเราขึ้น MRT สถานีพระราม 9 หนึ่งป้ายขึ้นทิศเหนือจะไปต่อสายสีส้มได้ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งเส้นสีส้มจะเป็นเส้นที่วิ่งพาดจากตะวันออกไปตะวันตกสุดของกรุงเทพ และผ่านย่านสำคัญๆ เช่น รามคำแหง บางกะปิ ดินแดง ประตูน้ำ และสนามหลวงได้ โดยคาดว่าน่าจะเปิดใช้บริการได้ในอีก 6 - 7 ปีข้างหน้า
ทีนี้ถ้าสมมติเรานั่ง MRT ลงสถานีพระราม 9 เราจะเจอสถานีเพชรบุรี ซึ่งตอนนี้ทางเดินเชื่อมกับ Airport Rail Link เพิ่งสร้างเสร็จ เปิดใช้งานต้นเดือนส.ค. 56 นี้เอง เราก็จะขึ้น Airport Rail Link ได้ทั้งเส้น และตรงจุดนี้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยก็วาดแผนไว้แล้วว่าจะทำ Makkasan Complex ดังนั้นที่ดินที่ดูรกร้างปัจจุบันรอบๆ สถานีมักกะสันนี้ก็น่าจะได้รับการพัฒนาให้ดูดีกว่าที่เป็นอยู่ในอนาคต
ทีนีถ้าสมมติเรานั่ง MRT ลงมาอีกป้ายจากสถานีเพชรบุรี เราจะเจอย่าน CBD ปัจจุบันคืออโศก ซึ่งเป็นจุด Interchange เชื่อมต่อกับ BTS ทั้งเส้นอยู่แล้ว ซึ่งเส้น BTS นี้ก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะวิ่งผ่านย่านสำคัญๆ ในกรุงเทพฯ เราเกือบทั้งหมด
ในฐานะที่เป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งใหม่ (CBD) สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคงต้องเป็นอาคารสำนักงาน ซึ่งในอนาคตย่านนี้จะเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงานใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในย่านนี้ เรามาดูรายละเอียดแต่ละอาคารทั้งเก่า และใหม่กันดีกว่าครับ
ภาพจำลองสถานที่ตั้งคร่าวๆของออฟฟิศสำนักงานต่างๆ 1. จีแลนด์ ทาวเวอร์ (G Land Tower) - อาคารสำนักงานที่มีความสูง 26 ชั้น และ 36 ชั้นโดยรูปแบบตัวอาคารจะเป็นรูปตัว G เหมือนชื่ออาคาร มีพื้นที่ทั้งหมด 134,000 ตารางเมตร โดยในอาคารจะประกอบไปด้วยพื้นที่สำนักงานและร้านค้า อาคารนี้เหมาะที่จะเป็นแลนมาร์คของย่านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะจะโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนสี่แยกนี้ โดยคาดว่าตัวอาคารมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณปี 2558
2. ยู เพลส (U Place) - อาคาร ยู เพลส (U Place) เป็นอาคารสูง 12 ชั้นมีพื้นที่ทั้งมหด 46,000 ตารางเมตร โดยอาคารแห่งนี้จะเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทยและภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก อาคารนี้คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณปี 2557
3. เดอะไนน์ ทาวเวอร์ (The Nine Tower) - อาคารสำนักงานจำนวนทั้งหมด 2 อาคาร มีความสูง 34 ชั้น และ 36 ชั้นตั้งอยู่หลังห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 อาคารนี้เป็นการนำตึกเก่ามารีโนเวทใหม่ให้เข้ากับอาคารใหม่ๆ ที่กำลังจะสร้างในย่าน CBD แห่งใหม่นี้ ตอนนี้อาคารนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว มีกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2556 จนถึงประมาณปี 2557
4. เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ (AIA Capital Center) - อาคารสำนักงานแห่งนี้จะตั้งอยู่ติดกับสถานทูตจีนโดยมีความสูง 35 ชั้น โดยจะเป็นอาคารสำนักงานระดับเกรดเอแห่งแรกในย่านรัชดาตอนเหนือ และมีการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและความมีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านการใช้พลังงาน จะมีทั้งส่วนสำนักงานและส่วนร้านค้า ซึ่งมีพื้นที่ร่วมทั้งสิ้นเกือบ 6,000 ตารางเมตร และในอนาคตพื้นที่ข้างๆ ของอาคาร AIA จะเป็นอาคารตลาดหลักทรัพย์ (SET) แห่งใหม่อีกด้วย ตัวอาคารมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณปี 2557
5. ตึกตลาดหลักทรัพย์ (SET) - อาคารสำนักงานใหญ่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่ (ตึกซ้ายในรูป) เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ธุรกิจตลาดทุน ซึ่งจะเป็น Landmark และเป็นจุดศูนย์รวมธุรกรรม และการจัดกิจกรรมด้านต่างๆ ของตลาดทุนไทย สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทย เพื่อการแข่งขันสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน เทียบเท่า International Financial Center ในต่างประเทศและมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณปี 2558
6. อาคาร อาร์ เอส ทาวเวอร์ (RS Tower) - เป็นอาคารสำนักงานปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว ที่ตั้งอยู่ริม ถ.รัชดา อาคารติดกับสถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ โดดเด่นด้วยความสูงถึง 41 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวม 90,000 ตารางเมตร
7. อาคาร ทรู ทาวเวอร์ (True Tower) - อาคารนี้อยู่บนถนนรัชดามาหลายปีแล้ว และเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น อาทิเช่น ทรูมูฟ, ทรูออนไลน์, ทรูไลฟ์ และยังเป็นที่ตั้งของ ทรูอินเทอร์เน็ตดาต้าเซนเตอร์ (True IDC) อีกด้วย
8. ไซเบอร์ เวิลด์ ทาวเวอร์ (Cyber World Tower) - อาคารสำนักงานที่มีความสูงถึง 51 ชั้น และ 46 ชั้น อาคารนี้เพิ่งสร้างเสร็จ และเปิดให้บริการมาไม่นานนัก มีความโดดเด่นในย่านนี้เป็นอย่างมาก อาคารนี้เป็นอาคารที่วางระบบการสื่อสารไว้อย่างดีที่สุดเหมาะสำหรับบริษัทด้าน IT และยังมีส่วนในการรองรับการประชุมและสัมมนาอีกด้วย และในฝั่งตรงข้ามของอาคารนี้อดีตเคยเป็นพื้นที่ของห้างโรบินสัน รัชดา แต่ในปัจจุบันได้ถูกรื้อถอนไปบางส่วนแล้ว คาดว่าจะมีการพัฒนาเป็นห้างสรรพสินค้าและโรงแรมในอนาคต
ตึก Cyber World Tower
บริเวณโรบินสันเก่า คาดว่าจะมีการพัฒนาขึ้นมาเป็นห้างสรรพสินค้าและโรงแรมในอนาคต
9. ซี.พี. ทาวเวอร์ 2 (CP Tower 2) - อาคารสำนักงานให้เช่าสูง 30 ชั้น ตั้งอยู่บนใจกลางถนนรัชดาตัดกับถนนพระราม 9 เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT ลานจอดรถกว้างขวางรองรับได้ถึง 5,000 คันต่อวัน
10. อาคารไทยประกันชีวิต - เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทไทยประกันชีวิต ภายในอาคารจะมีสาขาของธนาคารไทยเครดิต, ไปรษณีย์ไทย, ร้านกาแฟดิโอโร่ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT
3. แหล่งไลฟ์สไตล์ กิน+เที่ยว+ช้อป
ในย่านถนนรัชดานี้ก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ และในส่วนร้านอาหารก็มีมากมายหลายแบบให้เลือกไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น หรืออาหารฝรั่ง และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้ย่านนี้กำลังจะก้าวมาเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร หรือ CBD นั่นเอง เรามาดูแหล่งท่องเที่ยวและร้านอาหารที่น่าสนใจกันดีกว่าครับ
1. แซบ วัน (Zab One) - ต้นตำรับตำซั่วแบบสูตรพิเศษของร้าน ทำให้ร้านนี้มีลูกค้าประจำเป็นจำนวนมาก รสชาติอาหารจัดจ้านแบบไทยแท้ๆ ร้านตั้งอยู่ที่หัวมุมแยกรัชดาฯ ตรงข้ามห้าง Big C Extra เพียงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯออกทางออกที่ 1 เดินย้อนมาทางแยกไฟแดงก็จะเจอร้านแล้วครับ ที่สำคัญอาหารอร่อยราคาไม่แพงด้วยนะครับ
2. โคขุน คุณทอง รัชดา ซอย4 (Ko Khun Ratchada Soi 4) - สำหรับคออาหารอีสานไม่ควรพลาดร้านนี้ โคขุน คุณทอง จากร้านต้นตำรับใน ซอยนวลจันทร์ ตอนนี้ได้ขยายสาขามาให้ชาวรัชดาได้ลองลิ้มชิมรสกันแล้ว เมนูเด็ดๆ คงหนีไม่พ้นอาหารอีสาน เช่น จิ้มจุ่ม ก้อย ลาบ ยำ ตำไทย ตำปู ตำลาว และบรรดาเนื้อๆ ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น เนื้อน่อง เนื้อลาย เนื้อสะโพก เนื้อกระทะร้อน รับประกันคุณภาพและรสชาติว่าถอดแบบความอร่อยมาจากต้นตำรับแน่นอน
3. กวงทะเลเผา รัชดา ซอย 10 (Kuang Seafood) - เป็นร้านอาหารจีนที่เน้นอาหารทะเล สด อร่อย และราคาไม่แพง เมนูเด็ดของร้านก็คงหนีไม่พ้น บรรดา กุ้ง หอย ปู ปลา ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปลากระพงทอดน้ำปลา หมึกผัดไข่เค็ม ออส่วนกระทะร้อน ปูผัดผงกะหรี่ ร้านอาหารตั้งอยู่ใน ซอย 10 บนถนนรัชดา ท่านใดชอบทานอาหารทะเลเชิญไปลิ้มลองกันได้นะครับ
4. ร้าน กิว กิว เต้ (Gyu Gyu Tei) - ตั้งอยู่ใน ซอยรัชดา 18 เนื้อย่างยากินิคุระดับพรีเมียม ที่นี่จะคัดเลือกเนื้อชั้นดี น้ำจิ้มสูตรเด็ดประกอบกับประสบการณ์ฝีมือการปรุงอาหารมายาวนาน พร้อมเสิร์ฟให้ทุกท่านให้สมกับคำว่า "เนื้อแท้ของความอร่อย"
5. นิฮอน ซูชิ (Nihon Sushi) - เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นของเชฟคำมูลที่เคยเป็นเชฟผู้ท้าชิงในรายการเชฟกระทะเหล็ก ซึ่งเคยเป็นเชฟใหญ่ในร้านอาหารญี่ปุ่นแถวทองหล่อ แต่ปัจจุบันมาเปิดร้านเป็นของตัวเองแล้วโดยจะอยู่บนถนนประชาอุทิศ (เหม่งจ๋าย) อยากชิมฝีมือระดับเชฟผู้ท้าชิงในรายการเชฟกระทะเหล็ก ห้ามพลาดร้านนี้นะครับ
6. พร้อมรัชดาไนท์พลาซ่า - เป็นตลาดนัดหน้าห้างจัสโก้รัชดา ซึ่งตอนนี้ห้างนี้ได้ถูกทุบทิ้งไปแล้วจึงเกิดเป็นพื้นที่ว่างให้พ่อค้าแม่ค้ามาเปิดเป็นตลาดนัดขนาดย่อมๆ มีเสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋า รองเท้า ให้สาวๆ ได้แวะช้อปหลังเลิกงาน ด้านหลังของตลาดสามารถเดินทางออกไปตรงตลาดห้วยขวางได้อีกด้วย
7. เซ็นทรัล พลาซา แกรนด์ พระราม 9 (Central Plaza Grand Rama 9) - บนเนื้อที่กว่า 214,000 ตารางเมตร ให้คุณได้ประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่กับร้านค้าชั้นดังมากมาย อิ่มอร่อยกับอาหารนานาชาติ และเพลิดเพลินกับความบันเทิงครบวงจร อีกทั้งยังมีห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (Robinson) สาขาใหม่ล่าสุดในรูปแบบการตกแต่งในสไตล์ "Modern Loft" เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนเมือง
8. เอสพลานาด รัชดาภิเษก (Esplanade Ratchadapisek) - เป็นสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานแนวคิดความทันสมัยผนวกกับความเป็นศิลปะเข้าด้วยกัน มีการตกแต่งภายใต้ศิลปะ 7 แขนงประกอบด้วยด้านดนตรี, ประติมากรรม, ภาพวาด, วรรณกรรม, โรงละครเพลง, สถาปัตยกรรม และภาพยนตร์ ภายในยังมีพื้นที่การจัดแสดงงานศิลป์และศูนย์วัฒนธรรม อีกทั้งยังมีร้านค้ามากกว่า 120 ร้าน พร้อมโรงภาพยนตร์ และโรงละครอีกด้วย
9. ฟอร์จูนทาวน์ (Fortune Town) - เป็นศูนย์การค้าที่อยู่คู่กับชาวรัชดามากว่า 20 ปี โดยในฟอร์จูนทาวน์นั้นจะประกอบด้วย 4 ส่วนหลักๆ คือ
- IT Mall ศูนย์รวมร้านค้าไอที ครบวงจรและทันสมัยครบทุกการเชื่อมต่อ
- Food Mall ศูนย์รวมอาหารและเครื่องดื่มรสเลิศหลากสไตล์ พร้อมบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์
- Lifestyle Mall ศูนย์รวมร้านค้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ อาทิ แฟชั่น สุขภาพ ความงาม สถาบันการศึกษา ความบันเทิง
- โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน (Grand Mercure Fortune)
โดยในปลายปีที่ผ่านมา ฟอร์จูนทาวน์ ได้มีการปรับปรุงตัวอาคารให้ดูทันสมัยมากขึ้น เพื่อตอบรับการจะเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
ระหว่างรถไฟฟ้า MRT ห้วยขวาง - พระราม 9 เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว หลากหลายรูปแบบ ในด้านการจราจรปริมาณรถก็หนาแน่นไม่แพ้ใจกลางเมืองกรุงเทพในโซนอื่นๆ อย่างเช่น สาทร หรือ อโศก แต่ท่านใดมีรถก็นำไปจอดที่จุดจอดรถของ MRT ได้ ก็สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก และด้วยความหลากหลายของสถานที่ต่างๆ การจราจรที่หนาแน่น ก็ถือได้ว่าย่านนี้พร้อมจะเป็นย่านใจกลางเมืองกรุงเทพแห่งใหม่ก็ว่าได้
นอกจากการเป็นศูนย์กลางธุรกิจ การคมนาคม และแหล่ง Lifestyle Shopping ต่างๆ แล้ว แยกรัชดา-พระราม 9 ยังใกล้กับแหล่งวัฒนธรรมต่างๆ ดังนี้
1. เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ - ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4-6 ศูนย์การค้าเอสพลานาด (อยู่ฝั่งตรงข้าม MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ) เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์เป็นโรงละครแบบโพรซีเนียม ความจุ 1,455 ที่นั่ง รองรับการเปลี่ยนฉากได้ 48 ระดับชั้น ภายในโรงละครมีการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย มีละครเวทีมาแสดงที่นี่มากมาย เช่น บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล, หงส์เหนือมังกร เดอะมิวสิคัล และเดอะแฟนธ่อมออฟดิโอเปร่า
ละครเวทีระดับโลก เช่น เดอะแฟนธ่อมออฟดิโอเปร่า ก็เคยมาจัด แสดง ณ รัชดาลัย เธียเตอร์ แล้ว
2. ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีบทบาทหน้าที่อันสำคัญในการเป็นแหล่งศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมด้านต่างๆ อีกทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับให้เช่าหรือบริการเพื่อการแสดงออกซึ่งกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมที่เยาวชน และประชาชนสร้างสรรค์ขึ้น รวมถึงการจัดประชุมสัมมนาระดับชาติ และนานาชาติด้วย
ศูนย์วัฒนธรรมฯ เป็นที่จัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมด้านต่างๆ รวมถึงการประชุมสัมมนาระดับชาติ และนานาชาติด้วย
3. สยามนิรมิต - โรงละครที่มีการจัดแสดงโชว์ระดับ World Class ที่ได้รับรางวัลรับรองคุณภาพมากมาย สรรค์สร้างการแสดงที่ยิ่งใหญ่ ที่สื่อถึงมรดกทางวัฒนธรรม พิธีกรรม ความเชื่อการละเล่นพื้นบ้านของคนไทย ประกอบกับความอลังการของเวทีขนาดใหญ่ ที่มีเทคโนโลยีด้านฉากแสง สี เสียง ภาพ ที่สมบูรณ์ และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
สยามนิรมิตเป็นที่จัดแสดงโชว์ด้านวัฒนธรรมที่มีความอลังการของเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
4. พระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง-รัชดา - ศาลพระพิฆเนศปางประธานพรตั้งอยู่บริเวณสี่แยกห้วยขวาง-รัชดา เป็นจุดหนึ่งที่มีคนไทยและคนต่างชาติมากราบไหว้มากมาย เพราะเชื่อกันว่าขออะไรก็ได้อย่างใจหวัง จนถึงขั้นขนานนามสี่แยกรัชดานี้ว่า "สี่แยกเงินตรา" เลยทีเดียว
พระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง-รัชดา เป็นจุดหนึ่งที่มีคนไทยและคนต่างชาติมากราบไหว้มากมาย ด้วยความที่ล้อมรอบไปด้วยศูนย์วัฒนธรรม และโรงละครต่างๆ ทำให้สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และย่านรัชดา-พระราม9 เป็นศูนย์รวมสถานที่จัดงานทางด้านวัฒนธรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สามารถเดินทางมาชมละครเวที หรืองานต่างๆได้อย่างสะดวกผ่านทางรถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคต
พอจะเห็นภาพกันแล้วนะครับว่าย่านนี้ในอนาคตจะหน้าตาเป็นยังไง มีอะไรน่าสนใจบ้าง ก่อนนี้เราก็เห็นกันมาแล้วครับว่าสี่แยกสำคัญๆ หลายจุดมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะแค่ไหนเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 ปีหลังจากมีรถไฟฟ้าตัดผ่าน ไม่ว่าจะเป็นสี่แยกสาทรตัดนราธิวาสราชนครินทร์ หรือสี่แยกอโศก นับจากนี้ ถ้าใครไปเมืองนอก หรือย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ลองดูนะครับเมื่อกลับมาแล้วภายใน 1-2 ปีข้างหน้านี้ ย่านรัชดาฯ นี้จะพัฒนาขึ้นผิดหูผิดตาขนาดไหน . . . จับตาดูกันนะครับ