มีเรื่องให้ชวนปวดหัวกันอีกแล้ว สำหรับใครที่กำลังตั้งโจทย์จะซื้อ "iPad" เครื่องใหม่ไปใช้งาน หลักจากที่เมื่อช่วงต้นปีต้องมาปวดหัวกับการเลือกระหว่าง iPad Air 5 กับ iPad Pro ไป ล่าสุดคุณพรี่ Apple ก็กลัวแฟนคลับจะเหงา เลยเปิดตัว
iPad Gen10th รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการซะเลย
โดยการมาครั้งนี้ของ iPad Generation Series รุ่นใหม่จะมีความแปลกใหม่ไปสักหน่อย เพราะทาง Apple ไม่ได้เปิดตัวเพื่อมาทดแทนรุ่นเดิมในตลาดเหมือนอย่างที่ทำตามปกติ แต่กลับเป็นเปิดตัวเพื่อมาเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับลูกค้าซะอย่างนั้น! เพราะยังขายรุ่นเดิมอยู่ เพิ่มเติมคือรุ่นใหม่!!
และเมื่อ Apple วางโจทย์มาแบบนี้ ลูกค้าแบบเราที่จำเป็นต้องใช้ iPad ก็ต้องเล่นเกมตานี้กันล่ะครับ จึงเป็นที่มาของบทความนี้ ที่จะพาทุกคนไปวิเคราะห์ผ่านข้อมูลของ iPad Gen 9th และ iPad Gen 10th ทั้งสองรุ่นกันว่า ท้ายที่สุดแล้วเราควรเลือกซื้อรุ่นไหนดี? เพื่อให้ตอบโจทย์และโดนใจเรามากที่สุด ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันครับ!
1 | Design ที่แตกต่าง Classic VS Modern
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดสุดของคู่ iPad Gen 9th และ iPad Gen 10th ก็คือ "Design" หรืองานออกแบบตัวเครื่อง ซึ่ง iPad Gen 10th จะมาพร้อมดีไซน์แบบเดียวกับ iPad Air 5 กับแนวทางการออกแบบใหม่ของ Apple ที่ตั้งใจออกแบบให้ด้านหน้าเป็นหน้าจอแสดงผลแบบเต็ม ทำให้ปุ่มโฮมแบบดั่งเดิมหายไป
โดยในดีไซน์ใหม่จะย้ายปุ่ม Touch ID ไปไว้ที่ด้านบนตัวเครื่องแทน พร้อมกับย้ายตำแหน่งของกล้องหน้ามาไว้ที่ด้านขวาของหน้าจอ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในรูปแบบแนวนอน ส่วนดีไซน์แบบเก่า Apple จะใช้โครงออกแบบของ iPhone มาเป็นแกนไอเดียหลัก ดังนั้นจะยังมีปุ่มโฮมตรงกลางหน้าจอ และวางกล้องหน้าสำหรับใช้งานในแนวตั้ง
สำหรับความชอบในด้านงานออก คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลแล้วล่ะครับว่า ชอบแบบไหนระหว่าง ความ Classic ที่มีมายาวนานของ Apple กับดีไซน์ใหม่ที่ดูเรียบง่าย ลดความวุ่นวายของปุ่มต่าง ๆ ลง
2 | รายละเอียดสเปก กับจุดเล็ก ๆ ที่ต้องเลือก
เรื่องของสเปกตัวเครื่อง เป็นไฮไลต์อีกจุดที่ทั้งสองรุ่นถ้ามองในภาพรวมอาจบอกได้ว่า มีความละหม้ายคล้ายคลึงกันอยู่ประมาณ 80% แต่ทางด้าน iPad Gen 10th จะมีความสดมากกว่า เพราะพึ่งเปิดตัว ในขณะที่ iPad Gen 9th จะเสียเปรียบในเรื่องของความสดใหม่ด้านฮาร์ดแวร์ เนื่องจากอยู่ในตลาดมา 2 ปีกว่าแล้วนั่นเอง
ดังนั้นในจุดของสเปกนี้จะเป็นคะแนนหลักในการเลือกซื้อ iPad ทั้งสองรุ่นในครั้งนี้เลยทีเดียวครับ ซึ่งถ้าผมแนะนำอยากให้เลือกจากไลฟ์สไตล์การใช้งานของเราเป็นหลัก ถ้าเน้นใช้งานด้านออนไลน์ เช่น เรียน, ขายของ หรือรับชมความบันเทิง iPad Gen 9th ก็เอาอยู่ แต่ถ้ามีความต้องที่จะใช้กล้องของ iPad ถ่ายวีดีโอด้วย รวมถึงความต้องการใช้งานเครือข่าย 5G ตัวของ iPad Gen 10th ก็จะเหมาะสมมากกว่า
รายละเอียดสเปก iPad Gen 9th VS iPad Gen 10th
SPEC | iPad Gen 9th | iPad Gen 10th |
Dimension | 250.6 x 174.1 x 7.5 มม. น้ำหนักรวม 487 กรัม (WiFi) | 498 กรัม (Cellular) | 248.6 x 179.5 x 7 มม. น้ำหนักรวม 477 กรัม (WiFi) | 481 กรัม (Cellular) |
Display | Retina Display ขนาด 10.2 นิ้ว ความละเอียด 2160x1620 พิกเซล (264ppi) ความสว่าง 500 nits เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ ขอบเขตสี sRGB แสดงผลแบบ TrueTone | Retina Display ขนาด 10.9 นิ้ว ความละเอียด 2360x1640 พิกเซล (264ppi) ความสว่าง 500 nits เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ ขอบเขตสี sRGB แสดงผลแบบ TrueTone |
CPU | APPLE A13 Bionic | GPU 4 Core | Neural Engine 8 Core | APPLE A14 Bionic | GPU 4 Core | Neural Engine 16 Core |
OS | iPadOS 15 (Up to iPadOS 16.1) | iPadOS 16.1 |
Camera | Single Camera : 8MP (Wide, F2.4) VDO Record : 1080@30fps | Single Camera : 12MP (Wide, F1.8) VDO Record : 4K@60fps ช่วงไดนามิกกว้างขึ้นสำหรับวีดีโอที่มี fps 30 |
Front Camera | กล้องหน้า ความละเอียด 12MP (Wide, F2.4) Smart HDR Center stage | กล้องหน้า ความละเอียด 12MP (Wide, F2.4) รองรับมุมกล้อง Wide ในแนวนอน Smart HDR 3 Center stage |
Apple Pencil | Apple Pencil Gen 1th only (ชาร์จผ่าน Lightning Port) | Apple Pencil Gen 1th only (ชาร์จผ่าน Adaptor USB-C to Lightning Port) |
Touch ID | Home Buttom | Top Buttom |
WiFi + Cellular | WiFi : (802.11a/b/g/n/ac), 2.4GHz และ 5GHz, ความเร็วสูงสุด 866 Mbps Carrier : 4G LTE UMTS/HSPA/HSPA+/DC‑HSDPA | WiFi : 6 (802.11ax), 2.4GHz และ 5GHz, ความเร็วสูงสุด 1.2 Gbps Carrier : 5G (sub-6 GHz) 4G LTE UMTS/HSPA/HSPA+/DC‑HSDPA |
Battery | 10 hr. on WiFi connect 9 hr. on Cellular connect | 10 hr. on WiFi connect 9 hr. on Cellular connect |
Connect | Lightning Bluetooth 4.2 | USB-C Bluetooth 5.2 |
Color | เทาสเปซเกรย์, เงิน | เงิน, ชมพู, ฟ้า และเหลือง |
Price | รุ่น WiFi 64GB | ฿12,900 256GB | ฿18,900 รุ่น WiFi + Cellular 64GB | ฿18,400 256GB | ฿24,400 | รุ่น WiFi 64GB | ฿17,900 256GB | ฿23,900 รุ่น WiFi + Cellular 64GB | ฿23,900 256GB | ฿29,900 |
3 | สไตล์การใช้ Apple Pencil ที่เปลี่ยนไปจนดราม่า
เป็นประเด็นร้อนแรงหลังงานเปิดตัวก็ว่าได้ กับการที่ Apple ตัดสินใจเปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อของ iPad Gen 10th มาใช้ USB-C แต่กลับยังบังคับให้ใช้งานร่วมกับ Apple Pencill Gen 1st เท่านั้น ปัญหาจึงเกิดขึ้น!! เพราะพอร์ตชาร์จของ Apple Pencil Gen 1st เป็นพอร์ต Ligthning
ดังนั้นถ้าจะชาร์จร่วมกับ iPad Gen 10th ที่ใช้พอร์ต USB-C จึงจำเป็นต้องชาร์จผ่าน Adaptor ที่ทาง Apple แถมมาให้ตอนซื้อเท่านั้น! ทำให้เวลาเราชาร์จก็จะเป็นแบบภาพที่เห็นด้านล่างนี้แหละครับ มันช่างดูไม่สะดวกเอาซะเลยจริงไหม! และถ้าหากคุณทำตัว Adaptor หาย ทาง Apple ก็พร้อมขายในราคา 390 บาทครับ
เป็น Pain Point ที่ต้องลองพิจารณาดี ๆ เลยนะ ส่วน iPad Gen 9th ก็เสียบเข้าที่ด้านล่างตัวเครื่องได้เลย เพราะยังใช้พอร์ต Ligthning อยู่
4 | เรื่องวุ่น ๆ ของกล้องถ่ายรูป
เรื่องของกล้องถ่ายรูปถึงแม้จะไม่ใช่ปัจจัยหลักของผู้ใช้งานแท็บเล็ตหรือ iPad เพราะน้อยมากที่เราจะหยิบ iPad หรือแท็บเล็ตขึ้นมาถ่ายภาพหรือถ่ายวีดีโอจริงจัง แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีบางช่วงเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยอีกจุดที่ผมหยิบมาให้พิจารณากัน เพราะกล้องของ iPad Gen 9th และ iPad Gen 10th มีความต่างกันอยู่นิดหน่อย
โดยนอกจากตำแหน่งการวางกล้องหน้าแล้ว ยังมีเรื่องของความละเอียดของกล้องหลัง ค่ารูรับแสง รวมไปถึงการรองรับการบันทึกภาพวีดีโอ ที่ iPad Gen 10th จะรองรับได้ถึงความละเอียด 4K ในขณะที่ iPad Gen 9th จะรองรับได้สูงสุด FHD เท่านั้น ทางด้านกล้องหน้าถึงแม้ความละเอียดจะเท่ากัน แต่คุณสมบัติการใช้งานมีจุดแตกต่างกันเล็กน้อยเช่นกัน โดย iPad Gen 10th จะรองรับการแสดงผลมุมกว้างในแนวนอนด้วย ในขณะที่ iPad Gen 9th จะไม่รองรับนะ
5 | ราคาที่ไม่นักศึกษาอีกต่อไป!
ปิดท้ายด้วยเรื่องราวของราคาจำหน่าย ที่ครั้งนี้ Apple ไม่ได้ทำราคามาให้เหมาะกับน้อง ๆ แล้ว เพราะราคาจำหน่ายของ iPad Gen 10th ขยับขึ้นมาเริ่มต้นที่ประมาณ 17,900 บาท แตกต่างจาก iPad Gen 9th ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 12,900 บาท ซึ่งคิดว่าน่าจะมาจากการวางไลน์อัปของสินค้าในกลุ่ม iPad ใหม่
โดยทาง Apple น่าจะตั้งใจทำราคาให้เชื่อมต่อกันในทุก ๆ โปรดักส์ของ iPad ดังนั้นเราจึงยังเห็น iPad Gen 9th วางขายคู่กับ iPad Gen 10th อยู่ เพราะปกติ Apple จะยกเลิกการจำหน่ายสินค้ารุ่นก่อนหน้า เพียงแต่ราคาจำหน่ายมันดันขยับไปเหมาะกับกลุ่มคนวัยเริ่มต้นทำงานมากกว่าน้อง ๆ นักศึกษาซะแล้ว เพราะฉะนั้นใครที่กำลังจะซื้อ iPad หนึ่งในสองรุ่นนี้อยู่ ก็แนะนำให้ลองพิจารณาจาก 4 ข้อด้านบนดูนะครับ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยให้ได้คำตอบในการเลือกซื้ออย่างแน่นอน