ช่วงปลายปีแบบนี้ ก็ถึงเวลารวบรวมหาตัวช่วยลดหย่อนภาษีกันแล้วใช่มั้ยคะ
เช็กลิสต์! ลดหย่อนภาษี 2567 รอบนี้มีอะไรบ้าง? สำหรับตัวช่วยลดหย่อนภาษียอดฮิตนอกจากในกลุ่มประกันหรือเงินบริจาคต่างๆ แล้ว ในมุมของคนที่ชอบลงทุนก็จะมีตัวช่วยลดหย่อนภาษีในหมวดนี้ด้วย และในรอบปี 2567 นี้มีเงื่อนไขปรับเปลี่ยนอยู่นะคะ และกองทุนน้องใหม่ที่อาจเคยเห็นผ่านๆ กันมาบ้างอย่าง
ThaiESG ที่เพิ่งจะปรากฎตัวครั้งแรกไปเมื่อช่วงเดือน พ.ย. ปี 2566 และสามารถนำมาลดหน่อยได้ในรอบปีนี้เป็นปีแรก กองทุนนี้น่าสนใจแค่ไหนกันแน่ และจากข่าวเรื่องปรับเงื่อนไขลดหย่อนภาษีแบบใหม่ที่ลดหย่อนได้มากขึ้นจริงหรือ... ไปอัปเดตกันค่ะ
.png.webp)
Thailand ESG Fund หรือ ThaiESG หรือ TESG
หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน นโยบายการลงทุน คือ ลงทุนในหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย ที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืน ตามหลัก ESG ซึ่งประกอบด้วยด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) ซึ่งเป็นกองทุนไทยที่สนับสนุนการออมระยะยาว สามารถใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา การปรับวงเงินลงทุนการลดหย่อนภาษีสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 บาท (จากเดิม 100,000 บาท) และต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และปรับระยะเวลาการถือครองลดลงเหลือเพียง 5 ปี (จากเดิม 8 ปี)
- ใครลงทุนกองทุน Thai ESG ภายในปี 2567 ไม่ว่าจะลงทุนเดือนไหน ระยะเวลาการถือครองคือ 5 ปีนับจากวันที่ลงทุน
- ใครลงทุนกองทุน Thai ESG ภายในปี 2566 ที่ผ่านมา เงินลงทุนก้อนนั้น ยังคงต้องถือครองไม่ต่ำกว่า 8 ปี ตามเกณฑ์เดิม
Super Savings Fund หรือ SSF
หรือ กองทุนรวมเพื่อการออม มีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนหลากหลาย เช่จน พันธบัตร, ตราสารหนี้, หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ ฯลฯ ระยะเวลาถือครองอย่างน้อย 10 ปีนับจากวันที่ลงทุน ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
Retirement Mutual Fund หรือ RMF
หรือ กองทุนรวมเพื่อการเกษียณอายุ มีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนหลากหลายคล้ายกับ SSF และนักลงทุนสามารถสับเปลี่ยนกองทุน RMF จากสินทรัพย์ชนิดหนึ่ง ไปสู่อีกชนิดหนึ่งได้ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท และบังคับให้ต้องลงทุนนานอย่างต่ำ 5 ปี และต้องถือครองจนกระทั่งผู้ลงทุนมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์
เปรียบเทียบ ThaiESG, SSF, RMF เหมือน/ต่างกันแค่ไหน
*กลุ่มเกษียณ ได้แก่ SSF, RMF, กบข., กอช., ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนสังเคราะห์ครูเอกชน รวมกันต้องไม่เกิน 500,000 บาท
มองในมุมของการลงทุนกองทุนต่างๆ เพื่อลดหย่อนภาษีอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะคะ เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ตัวเราเองก่อนตัดสินใจก็ต้องมองถึงความคุ้มค่าและอย่าลืมศึกษาข้อมูลเรื่องสิทธิลดหย่อนภาษี เพราะยังมีตัวช่วยอื่นๆ อีกไม่น้อย รวมไปถึงเงื่อนไขการลดหย่อนต่างๆ ที่มักจะเปลี่ยนแปลงกันทุกปีเลยล่ะค่ะ
เช็กลิสต์! ลดหย่อนภาษี 2567 รอบนี้มีอะไรบ้าง?
ขอบคุณข้อมูล : ttb, finvest