“กวาร์ตาราโร-รินส์” กับสัญญาณบวกจากเครื่องใหม่ Yamaha กับสุดสัปดาห์โกลาหลใน “โมโตจีพี เลอมองส์”

มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เตรียมส่งเครื่องยนต์ใหม่ของรถแข่ง M1 ลงแข่งขันในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 6 รายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ ที่ เลอ มองส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส หลังผ่านการทดสอบล่าสุดที่ เฮเรซ โดยจะยังคงเป็นเครื่อง สูบเรียง ซึ่งนักบิดทั้ง 2 คนอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี ชี้ให้ท็อปสปีดที่สูงขึ้น หวังได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อเนื่องโดยยามาฮ่า เดินหน้าพัฒนาเครื่องยนต์ V4 อย่างเปิดเผย ทว่าเครื่องยนต์ดังกล่าวยังไม่ได้ถูกส่งลงเทสต์ครั้งล่าสุดที่ เฮเรซ แต่พวกเขาเลือกที่จะอัปเกรดเครื่องยนต์สูบเรียงให้กับ กวาร์ตาราโร และ รินส์ ในการเทสต์หลังจบการแข่งขัน สแปนิช กรังด์ปรีซ์

กวาร์ตาราโร สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับ โมโตจีพี ด้วยการคว้าโพลกับ ยามาฮ่า M1 เหนือรถแข่งจาก ดูคาติ พร้อมกับทุบสถิติของ เฮเรซ ลงอย่างราบคาบ ซึ่งแม้จะพลาดล้มในรอบที่ 2 ของ สปรินต์เรซ แต่ดาวบิดเฟรนช์ก็โชว์ฟอร์มอย่างแข็งแกร่งใน เมนเรซ ด้วยการบิดคว้าอันดับ 2 มาครอง

กวาร์ตาราโร กล่าวถึงการทดสอบที่ เฮเรซ ว่า “เป็นวันที่มีทิศทางเป็นบวก แต่ว่าตลอดทั้งวันโดยเฉพาะช่วงบ่ายที่มีลมแรงสุดๆ นั้นทำให้ยากที่จะขี่ให้ดี และนั่นทำให้ ดาต้า ที่ได้นั้นไม่นิ่ง แต่ผมก็แฮปปี้นะ เราเทสต์เครื่องยนต์ใหม่ ดูเหมือนว่ามันจะดีขึ้น ซึ่งเราน่าจะได้ใช้มันที่ เลอมองส์ ความรู้สึกต่างๆ ถือว่าดี แต่เราก็ยังต้องการเวลาเพื่อทำความเข้าใจ และสิ่งที่จะได้จากเครื่องยนต์ใหม่ ยากนะแต่ถือว่ามีทิศทางที่ดี ซึ่งผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมเลยละ และตอนนี้ผมพร้อมสำหรับ เลอมองส์ แล้ว”

ด้านทีมเมทอย่าง รินส์ กล่าวว่า “เราได้เทสต์เครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งดีเลยละ มันมีพละกำลังมากกว่าเดิม เราทำงานกับท็อปสปีด เพราะนั่นคือสิ่งที่เราขาดไป และเราก็เพิ่มความเร็วทางตรงได้ 2 กม./ชม. นี่คือผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม และเราจะใช้เครื่องยนต์ใหม่นี้ที่ เลอมองส์ ซึ่งเป็นสนามที่มีบรรยากาศสุดยอดมาก มันช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้นักบิดทุกคน”

ทั้งนี้ ศึก เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ เข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการโดย กวาร์ตาราโร เดินหน้าสร้างผลงานร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ผลการซ้อมรอบตัดตัว (PR) ปรากฏว่าสร้างความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม รั้งอันดับ 2 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 30.032 วินาที ทะยานเข้าสู่ Q2 ได้แบบอัตโนมัติ โดยตามหลังจ่าฝูงเพียง 0.177 วินาทีเท่านั้น ส่วนทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ รั้งอันดับ 17 ตามหลัง 1.399 วินาที

ขณะที่ แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนจาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี เปิดตัวซ้อมได้ดี รั้งอันดับ 6 ตามหลังจ่าฝูง 0.422 วินาที ผ่านเข้าสู่ Q2 ได้เช่นกัน ด้าน มิเกล โอลิเวียร่า นักบิดโปรตุกีสที่คัมแบ็กในรอบ 4 สนาม จบวันแรกด้วยอันดับ 21 ตามหลัง 2.470 วินาที ทั้งนี้ ศึก เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ จะควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ต และดวลความเร็ว สปรินต์เรซ และแข่งขัน เมนเรซ 

ซึ่งผลควอลิฟายปรากฏว่า กวาร์ตาราโร รีดความเร็วในรอบสุดท้าย ทะยานคว้าโพลที่ 2 ติดต่อกันได้สำเร็จ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.324 วินาที ทุบสถิติเวลาต่อรอบตลอดกาลของสนาม เลอมองส์ ลงอย่างราบคาบ ขณะที่ แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสซี่ ได้เริ่มเกมในกริดที่ 8 ตามหลัง 0.867 วินาที ด้าน อเล็กซ์ รินส์ นักบิดสแปนิช คว้ากริดที่ 4 ตามด้วย มิเกล โอลิเวียร่า นักบิดโปรตุกีส ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 20 ในสนามแรกที่คัมแบ็กจากอาการบาดเจ็บ

มาถึงรอบ สปินต์เรซ ที่ชิงชัยทั้งสิ้น 13 รอบสนาม กวาร์ตาราโร เริ่มเกมได้ดุดันและไล่บดในกลุ่มนำอย่างสุดมัน แสดงให้เห็นศักยภาพที่ยอดเยี่ยมของรถแข่ง M1 เพื่อเก็บข้อมูลสำหรับเมนเรซโดยไม่เสี่ยงมากเกินไป ก่อนจะบิดเข้าป้ายในอันดับ 4 ด้วยเวลารวม 19 นาที 51.862 วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 2.84 วินาทีเท่านั้น

ส่วนทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ เริ่มเกมจากกริดที่ 14  ไล่แซงอย่างดุเดือดบิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 8 ตามหลัง 8.930 วินาที โดยนับเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่นักบิดจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เก็บแต้มจากสปรินต์เรซมาได้ทั้งคู่ ด้าน แจ็ค มิลเลอร์ เริ่มเกมจากกริดที่ 8 แต่ออกตัวไม่ดีนัก ก่อนจะรูดลงไปจบเรซในอันดับ 11 ตามหลังผู้ชนะ 12.238 วินาที ส่วน มิเกล โอลิเวียร่า ทีมเมทชาวโปรตุกีสจบการแข่งขันในอันดับ 20 ตามหลัง 44.807 วินาที

ส่วนเกมในรอบ เมนเรซ ต้องดวลกันท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวน จากฝนที่ปรอยลงมาสลับหยุดตลอดทั้งเรซ จนทำให้การแข่งขันต้องเริ่มต้นล่าช้า และลดจำนวนรอบลงเหลือ 26 รอบสนาม โดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกโมโตจีพีปี 2021 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เริ่มเกมจากตำแหน่งโพลด้วยยางสลิค แต่ต้องมีโทษ ดับเบิล ลองแล็ป เพนัลตี้ ติดตัวจากการเปลี่ยนรถก่อน วอร์มอัป แล็ป เช่นเดียวกับนักบิดกว่า 14 คน

อย่างไรก็ดี ดาวบิดเฟรนช์ออกสตาร์ตอย่างดุดันขึ้นนำตั้งแต่ต้นเรซ และเข้า ลองแล็ป ครั้งแรกก่อนจะทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 2 แต่น่าเสียดายต้องมาพลาดล้มในรอบที่ 5 หลังจากที่ฝนเริ่มตกลงมาอีกครั้ง ทำให้พลาดการลุ้นชัยชนะในโฮมเรซอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ค้นพบความเร็วที่ดีทั้งในการแข่งขันและรอบควอลิฟายเพื่อเดินหน้ายกระดับในสนามต่อไป

ส่วนทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ สตาร์ตกริด 14 เอาตัวรอดจากเรซสุดดราม่า บิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 12 ตามหลังผู้ชนะ 95.357 วินาที ขณะที่ แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนจาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี และ มิเกล โอลิเวียร่า ทีมเมทชาวโปรตุกีส สร้างโอกาสลุ้นในกลุ่มหน้าอย่างเต็มตัวด้วยตัวเลือกยางที่ถูกต้อง ก่อนพลาดล้มอย่างน่าเสียดาย

 

ผ่านการแข่งขัน 6 สนามแรก สถานการณ์ลุ้นแชมป์ยังคงพลิกไปมา โดย กวาร์ตาราโร รั้งอันดับ 7 มี 56 คะแนน ตามด้วย รินส์ ในอันดับ 16 มี 23 คะแนน และ มิลเลอร์ ในอันดับ 17 มี 19 คะแนน ส่วน โอลิเวียร่า รั้งอันดับ 22 มี 2 คะแนน

ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคมนี้ ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร ในรายการ บริติช กรังด์ปรีซ์