ก้อง-สมเกียรติ จันทรา นักกีฬาโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ เดินหน้าสร้างเกียรติประวัติอย่างต่อเนื่องใน วันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2567 คว้ารางวัล นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น ถ้วยพระราชทาน ทำสถิติเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ทำได้ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (นับตั้งแต่ปี 2565, 2566 และ 2567) พิสูจน์ ความมุ่งมั่น-ความสามารถ นักกีฬาอาชีพในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ปลุกกระแสวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
งานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2567 มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานฯ พร้อมด้วย นายจักรพรรดิ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), และบุคลากรทางการกีฬา ร่วมงาน
ก้อง-สมเกียรติ ได้รับเกียรติรับรางวัล นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น ครั้งแรกในปี 2565 หลังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์ชาวไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทู และเป็น นักกีฬาจากเซาท์อิสต์เอเชีย คนแรกที่ทำได้ เพลงชาติไทยดังกระหึ่มสนาม เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย บ่งบอกว่า นักกีฬาชาวไทย มีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก ภายใต้โครงการ ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม ที่มีเป้าหมายพาเด็กไทยไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของโลกอย่าง โมโตจีพี ภายในปี 2025 รวมถึงโพเดียมอีก 3 ครั้ง ที่ อาร์เจนติน่า, ฝรั่งเศส และ ออสเตรีย ในปีดังกล่าว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระแสวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด
จากนั้น ได้รับเกียรติรับรางวัล นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น ครั้งที่ 2 ติดต่อกันในปี 2566 จากการยกระดับมาตรฐานในระดับโลกได้อย่างชัดเจน ด้วยฟอร์มที่สม่ำเสมอ คว้าชัยชนะครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ ญี่ปุ่น พร้อมกับบันทึกสถิติมากมายในสนามนั้น และกลายเป็นนักบิดไทยคนแรกที่ขึ้นโพเดียมในโฮมเรซได้สำเร็จ กับการแข่งขันในประเทศไทยในปีเดียวกัน โดยในปีนั้นขยับอันดับโลกสูงสุดขึ้นถึงท็อป 6 เมื่อจบฤดูกาล ซึ่งไม่เคยมีนักแข่งรถคนไทยทำได้มาก่อน
ในปี 2567 ก้อง-สมเกียรติ แสดงถึงพัฒนาการที่เติบโตขึ้นจนได้รับการเซ็นสัญญา 2 ปี ขยับขึ้นไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของโลกอย่าง โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2568-2569 ร่วมกับทีมชั้นนำอย่าง อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ได้ตามเป้าหมาย
สำหรับ ก้อง-สมเกียรติ ในวัย 26 ปี สร้างประวัติศาสตร์มากมายในเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่น ไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรค และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวเปิดใจว่า “ผมภูมิใจมากครับที่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลทรงเกียรตินี้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ในฐานะนักกีฬาไทย ผมจะมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่มอบรางวัลนี้ให้ และ ไทยฮอนด้า ที่สนับสนุนผลักดันผมอย่างเต็มที่ ขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนๆ ชาวไทย ครอบครัว และผู้สนับสนุนต่างๆ ที่อยู่เคียงข้างเสมอมา ปีหน้าจะแข่งใน โมโตจีพี ซึ่งเป็นงานที่ยากและท้าทายมาก ผมจะสู้และทำอย่างเต็มที่”
ทั้งนี้ ก้อง-สมเกียรติ อยู่ระหว่างพักฤดูกาลแข่งขัน และเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การแข่งขัน โมโตจีพี ในฤดูกาลหน้า โดยมีคิวทดสอบครั้งต่อไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ก่อนจะเปิดฉากดวลความเร็วสนามแรกในรายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2568
แฟนความเร็วชาวไทยติดตามข่าวสาร พร้อมส่งกำลังใจเชียร์
ก้อง-สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม :
Race to The Dream