Fabio Di Giannantonio ทำได้หลังคว้าชัยชนะครั้งแรกอย่างในรุ่นพรีเมียร์คลาสได้ที่ QatarGP

การแข่งขันในสนามที่ 19 ของ MotoGP 2023 ซึ่งเป็นสนามรองสุดท้ายแล้วของปีนี้ โดยการแข่งขัน QatarGP ในรายการ Qatar Airways Grand Prix of Qatar ที่สนาม Lusail International Circuit โดยชัยชนะตกเป็นของ Fabio Di Giannantonio จาก Gresini Racing MotoGP ซึ่งระหว่างการแข่งขัน Francesco Bagnaia จาก Ducati Lenovo Team ขึ้นนำแต่ก็โดน Di Giannantonio แย่งตำแหน่งผู้ชนะ แต่การได้อันดับ 2 ของ Bagnaia ทำให้คะแนนสะสมยังคงนำอยู่า 21 คะแนน ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของ Luca Marini จาก Mooney VR46 Racing Team นั่นทำให้โพเดียมของ QatarGp เป็นนักบิดอิตาเลียนทั้งหมด

 

 

สนามที่ 19 นี้ เป็นการแย่งชิงคะแนนกันระหว่าง Jorge Martin จาก Prima Pramac Racing กับ Bagnaia เพื่อตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่นพรีเมียร์คลาส การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นด้วย Tissot Sprint Race โดน Martin เป็นนักบิดที่ทำผลงานได้ดีที่สุดโดยการเป็นผู้ชนะ ทำให้แต้มห่างลดลงมาเหลือ 7 แต้ม โดยเอาชนะ Di Giannantonio ได้ในรอบสุดท้าย ส่วน Bagnaia ทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับที่ 5 เท่านั้น ส่วนอันดับที่ 3 ตกเป็นของ Luca Marini ที่คว้าโพล 

 

 

ทันทีที่เริ่มการแข่งขัน เป็นการช่วงชิงโฮลช็อตระหว่าง Marini และ Alex Marquez ที่มาเป็นอันดับสอง แต่ก็มีการปะทะกันระหว่าง Martin และ Bagnaia โดย Martin รั้งอันดับสาม ในรอบต่อมาทั้ง A. Marquez และ Martin ก็ออกห่างกันเล็กน้อย จนเหลืออีกเพียง 7 รอบ A. Marquez ก็พร้อมที่จะสู้อีกครั้ง Marini ยังตอบสนองได้เร็วกว่า นั่นทำให้เจ้าตัวอยู่ห่างออกไปอีกสองสามเมตร และในช่วงชุลมัน Martin ก็อาศัยจังหวะขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ส่วน A. Marquez หล่นลงมาก็พยายามป้องกันตำแหน่งจาก Di Giannantonio และในที่สุด Martin ก็ขึ้นมานำ และสามารถรั้ง Marini เอาไว้ได้ในโค้งที่ 1 ด้าน A. Marquez ก็ถูก Di Giannantonio แซงขึ้นไปได้ หลังจากนั้นเป้าหมายต่อไปคือ Marini แต่จนในทึ่สุด ก็ไม่สามารถแซงได้ ทำให้ Martin คว้าชัยใน Tissot Sprint Race ตามมาด้วย Di Giannantonio และ Marini ทำให้คะแนนสะสมระหว่าง Martin และ Bagnaia ลดลงมาเหลือ 7 คะแนน 

 

 

 

 

 

 

หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงเรซหลักของ Qatar Airways Grand Prix of Qatar ซึ่งเป็นเรซที่ยอดเยี่ยมด้วยชัยชนะของ Di Giannantonio ซึ่งเป็นการขี่ตามหลัง Bagnaia เป็นส่วนใหญ่ และในที่สุดก็สามารถขึ้นมานำ และเป็นผู้ชนะการแข่งขัน ส่วน Martin กลับต้องเผชิญกับการสตาร์ทที่ไม่ดี ทำให้อันดับหล่นลงไปถึงอันดับที่ 10 แต่ Bagnaia ก็ไม่สามารถชนะการแข่งขันได้ ส่งให้ Di Giannantonio ได้ชัยชนะแรกไปครอง ส่วนอันดับ 3 เป็นของ Marini 

 

การแข่งขันเริ่มขึ้นเมื่อไฟดับลง Bagnaia ก็ได้แข่งชิงโฮลช็อตจาก Marini ขณะที่ Martin ออกสตาร์ทได้แย่ และหล่นกลับไปตามหลังเพื่อนร่วมทีมอย่าง Johann Zarco จาก Prima Pramac Racing กลับไปที่ผู้นำอย่าง Bagnaia ก็ยังคงนำอย่างสบาย ๆ ปล่อยให้ Di Giannantonio กับ Marini และ A. Marquez ที่ตามหลังมาไล่แย่งตำแหน่งกันอยู่ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้เพื่อชัยชนะกลับกลายเป็นการดวลกันระหว่าง Bagnaia กับ Di Giannantonio โดยลดช่วงว่างลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ไล่ตามติดจนแซง Bagnaia ได้ด้าน Bagnaia เองก็พยายามทวงตำแหน่งคืนแต่ Di Giannantonio ก็ปิดประตูจนถึงเส้นชัย ทำให้เขาเป็นผู้ชนะรายที่ 8 ของฤดูกาล 2023 และยังคว้าชัยชนะแรกใน MotoGP ส่วน Bagnaia ได้อันดับ 2 และ Marini จบในอันดับที่ 3 ส่วน Martin ผ่านเสันชัยได้ในอันดับที่ 10 

 

 

ทำให้การลุ้นแชมป์ในปีนี้ยังต้องไปชิงดำกันในสนามสุดท้ายในรายการ Gran Premio Motul de la Comunitat Valenciana ที่สนาม Circuit Ricardo Tormo หรือ ValenciaGP ที่จะตัดสินแชมป์ประจำปี 2023 ของ MotoGP 

 

 

 

 

 

 

 

ด้านนักแข่งไทยใน Moto2 อย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ Honda Race To The Dream เจ้าของหมายเลข 35 จาก IDEMITSU Honda Team Asia โดยเจ้าตัวชี้ผิวแทร็กใหม่จะเป็นตัวแปรสำคัญ

 

 

ซึ่ง ก้อง-สมเกียรติ ได้กล่าวว่า "ปีที่แล้วผมไม่ได้ลงแข่งที่นี่ เพราะอาการบาดเจ็บจากรอบ Q2 มันน่าเสียดายเพราะผมอยู่ในฟอร์มที่ดีปีนี้ ผมมาถึงที่นี่ด้วยความลงตัว เหมือนจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับอาชีพนักบิดของผมเลยก็ว่าได้ ผมรู้สึกว่าผมจะแข็งแกร่งที่ กาตาร์ และอยากรู้จริงๆ ว่าผิวแทร็กใหม่จะเป็นอย่างไร และจะส่งผลอย่างไรบ้าง" 

 

 

โดย ก้อง-สมเกียรติ สร้างผลงานยอดเยี่ยมทะยานรั้งอันดับ 4 จากการซ้อมวันแรก ทำให้มีลุ้นโพเดียมเต็มตัว เมื่อผ่านการซ้อม 2 ก้อง-สมเกียรติ ทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะรายละเอียดของสนาม การเซ็ตติ้ง และการเลือกใช้ยาง โดยสามารถทะยานรั้งอันดับ 4 ในการซ้อมครั้งที่ 2 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 58.367 วินาที ตามหลังหัวแถวเพียง 0.308 วินาที สร้างโอกาสลุ้นอันดับในกลุ่มหน้าอย่างมาก

 

 

จนมาถึงรอบแข่งขัน ที่ดวลความเร็วกันทั้งสิ้น 18 รอบสนาม โดย ก้อง-สมเกียรติ ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 13 ซึ่งก็สามารถทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 11 ได้ตั้งแต่รอบแรก และค่อย ๆ ไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนบิดเข้าป้ายในอันดับ 7 ด้วยเวลารวม 35 นาที 38.329 วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 6.212 วินาทีเท่านั้น โดยหลังผ่านสนาม 19 ยังคงรั้งอันดับ 6 บนตารางคะแนนสะสมในรุ่น โมโตทู มีทั้งสิ้น 162.5 คะแนน

ทั้งนี้ การแข่งขัน โมโตทู 2023 สนามสุดท้ายของฤดูกาล จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายนนี้ ที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน ในรายการ บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารพร้อมส่งกำลังใจเชียร์ ก้อง-สมเกียรติ จันทรา และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream