การแข่งขันในสนามที่ 12 ของ MotoGP 2023 ในรายการ Gran Premio Red Bull di San Marino e della Riviera di Rimini ที่สนาม Misano World Circuit Marco Simoncelli หรือ #SanMarinoGP โดยชัยชนะตกเป็นของ Jorge Martin ที่คว้าชัยให้ Prima Pramac Racing ได้ทั้ง 2 รอบการแข่งขัน ส่วน Marco Bezzecchi จาก Mooney VR46 Racing Team ก็สามารถจบด้วยอันดับที่ 2 ด้าน Francesco Bagnaia จาก Ducati Lenovo Team ที่พลาดล้มแล้วโดนรถทับขาในสนามที่แล้วก็ฝืนอาการบาดเจ็บลงทำการแข่งขันจนได้อันดับที่ 3 มาครอง
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นด้วยรอบ Tissot Sprint Race ใน Gran Premio Red Bull di San Marino e della Riviera di Rimini ทันทีที่ไฟดับลงก็เป็นก็เป็น Martin ซึ่งเป็นเจ้าของโพลที่ออกตัวได้ดีสามารถคว้าโฮลช็อตได้ในโค้ง 1 ขณะที่ Bagnaia และ Bezzecchi ก็ต่อสู้กันเพื่อแย่งตำแหน่งที่ 2 ในช่วงต้นเกม ด้าน Dani Pedrosa ซึ่งเป็นเทสไรเดอร์จาก Red Bull KTM Factory Racing ที่ลงทำการแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวล์การ์ดก็ออกได้ดีสามารถแซงผ่าน Maverick Viñales จาก Aprilia Racing ขึ้นมาอยู่ที่ 4 ถัดมาในรอบที่ 2 Martin ก็นำ Bagnaia อยู่เกือบ 1 วินาที แต่ไม่นานจากความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของ Bagnaia ก็ส่งผลดีต่อ Bezzecchi ทำให้สามารถแซงผ่านขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ได้สำเร็จ
ในคู่ผู้นำก็กลายเป็นการต่อสู้กันของ Martin กับ Bezzecchi โดยมีระยะห่างกันอยู่ครึ่งวินาที และทิ้งห่าง Bagnaia ออกไปเรื่อยๆ จากนั้นไม่นาน Martin ก็ทำระยะห่างออกไป 0.8 วินาที ด้าน Bagnaia ก็เริ่มถูก Pedrosa ไล่ตามอยู่เพียง 0.4 วินาที จนเหลืออีกเพียง 2 รอบใน Tissot Sprint Race ก็ดูว่า Martin นะเป็นผู้ชนะแบบใสๆ อยู่แล้วโดยมี Bezzecchi ตามมาเป็นอันดับ 2 แน่ๆ แล้ว เลยทำให้ไฮไลท์ตกไปอยู่กับคู่ของ Bagnaia กับ Pedrosa โดย Bagnaia นั้นต้องการเก็บแต้มเพื่อทำคะแนนสะสมให้ห่างเข้าไว้ จนในที่สุด Bagnaia ก็รักษาอันดับที่ 3 เอาไว้ได้ แต่ถึงแม้ Pedrosa จะพลาดอันดับแต่ก็เป็นนักแข่งไวล์การ์ดที่ทำผลงานได้ดีมากๆ ด้าน Brad Binder ซึ่งเป็นนักแข่งหลักของ Red Bull KTM Factory ก็ยังผ่านเข้าเส้นชัยมาในอันดับ 5 ตามหลัง Pedrosa หรือฉายา Little Samurai
ผลการแข่งขัน Sprint Race
ผลการแข่งขัน Sprint Race ในกลุ่มทีมอิสระ
ถัดมาในช่วงเรซการแข่งขันหลักของ #SanMarinoGP ก็ยังเป็น Martin ที่ออกตัวได้ดีและยังคงคว้าโฮลช็อตได้อีกครั้ง ปล่อยให้ Bezzecchi, Bagnaia และ Pedrosa ตามมาเหมือนเคย จากนั้น Bagnaia ที่ต่อสู้กับอาการบาดเจ็บก็แซงผ่าน Bezzecchi เพื่อเริ่มไลล่าอันดับ 1 จาก Martin ส่วน 2 นักแข่งจาก Red Bull KTM Factory อย่าง Binder และ Jack Miller ก็ดูจะไม่สามารถทำได้ดีเท่า Pedrosa ได้ในสนามนี้ โดยเฉพาะ Miller ที่พลาดล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไปจากเหตุการณ์กับปะทะกับ Michele Pirro จาก Ducati Lenovo Team ที่มาขี่แทน Enea Bastianini
จากนั้น Pedrosa ก็ทำความเร็วได้ดีโดยทำเวลาห่างจาก Bezzecchi เพียง 0.6 วินาที ถัดจากนั้นก็ค่อยๆ ดรอปลง แต่ยังคงระยะห่างไว้ที่ไม่เกิน 1 วินาที และเมื่อเหลืออีก 10 รอบ การขึ้นนำของ Martin ก็ทิ้งห่างมากกว่า 1 วินาทีเป็นครั้งแรก เนื่องจาก Bagnaia เริ่มแสดงอาการบาดเจ็บ ในขณะที่ Bezzecchi ก็ไม่พลาดโอกาสแซงผ่านขึ้นไปเพื่อไล่ชิงอันดับจาก Martin แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเร็วของ Martin นั้นดีไปหรือเปล่าจนทำให้ทิ่งห่างออกไป 2.2 วินาที
แล้ว Bagnaia ก็ต้องสู้กับอาการบาดเจ็บ กับ Predosa ที่ไล่ตามมาในระยะห่าง 0.7 วินาที และเมื่อผ่านไปอีก 4 รอบระยะห่างก็ค่อยๆ ลดลง ด้าน Bezzecchi ก็อยู่ห่างจาก Martin ไม่ถึง 2 วินาที แต่ก็สายเกินไปเมื่อ Martin ยังคงควบคุมความได้เปรียบได้เป็นอย่างดีจนถึงเส้นชัยในที่สุด โดย Bezzecchi จบเป็นอันดับที่ 2 แม้จะได้รับบาดเจ็บที่มือ ส่วนที่ 3 จบลงโดยการที่ Bagnaia ยังคงรักษาอันดับเอาไว้ได้ แม้ในช่วงหลังการแข่งขันเจ้าตัวแทบจะยืนไม่ไหวก็ตาม
ส่วนสนามถัดไปจะเป็นรายการการแข่งขันสนามที่ 13 ในรายการ Grand Prix of India ที่สนาม Buddh International Circuit โดยอินเดียจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันเป็นครั้งแรก ด้านคะแนนสะสมชิงแชมป์โลกในปีนี้ Bagnaia นั้นมีคะแนนนำ Martin อยู่ที่ 36 แต้ม
ผลการแข่งขัน
ผลงานนักแข่งไทยที่ลงทำการแข่งขันใน Moto2
ด้านนักแข่งไทยใน Moto2 อย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ Honda Race To The Dream เจ้าของหมายเลข 35 จาก IDEMITSU Honda Team Asia ในสนามนี้สามารถรั้งท็อปเท็นจากการซ้อมวันแรก โดยเจ้าตัวหวังเซ็ตติ้งรถแข่งลงตัว เพื่อเดินหน้าล่าคะแนนสะสมให้มากที่สุด โดยผลการซ้อมรวมในวันแรกปรากฏว่ารั้งอันดับ 10 หลังผ่านการซ้อม 2 ครั้งแรกด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.903 วินาที โดยถือเป็นงานหนักสำหรับนักบิดไทยหลังพลาดล้มถึง 2 ครั้งในช่วงบ่าย จากการพยายามหาเซ็ตติ้งที่ลงตัวที่สุดสำหรับรถแข่ง
สมเกียรติ กล่าวว่า "นี่คือหนึ่งในการซ้อมที่ยากมากในปีนี้ ซ้อมครั้งแรกเราพยายามหาเซ็ตอัพรถแข่ง และตัวเลือกยางสำหรับการแข่งขัน ส่วนซ้อมครั้งที่ 2 เราลงซ้อมด้วยยางใช้แล้ว เพื่อยืนยันความทนทานของมัน ทีมช่างของเราซ่อมรถแข่งออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ จนผมกลับมาขี่ได้อีกครั้งในช่วง 15 นาทีที่เหลือของ P2 พร้อมกับตรวจสอบว่ารถแข่งไม่มีอะไรผิดปกติ "
จากผลควอลิฟายปรากฏว่า ก้อง-สมเกียรติ คว้ากริดที่ 11 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.649 วินาที โดยนักบิดไทยเจ้าของหมายเลข 35 จะได้เริ่มเกมในแถวที่ 4 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมในการไล่ล่าอันดับในกลุ่มหน้า
ในรอบการแข่งขัน ก้อง-สมเกียรติ ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 11 โดยเกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 22 รอบสนาม ซึ่งเจ้สตัวก็ออกตัวอย่างยอดเยี่ยมเกาะอยู่ในกลุ่มกลางอย่างต่อเนื่อง และขี่ได้ตามแผนในการบริหารยาง ก่อนจะมาเปิดเกมบุกไล่แซงคู่แข่งอย่างดุเดือดหลังผ่านครึ่งทางการแข่งขัน และบิดคว้าอันดับ 6 มาครองได้อย่างสุดมันส์
ผ่านการแข่งขันสนาม 12 ก้อง-สมเกียรติ เก็บเพิ่ม 10 คะแนน จาก มิซาโน ขยับอันดับโลกขึ้นมารั้งอันดับ 8 ของ โมโตทู 2023 มีทั้งสิ้น 89 คะแนน นับเป็นการขยับเข้าใกล้เป้าหมายท็อปไฟว์ได้อย่างยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ ศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กันยายนนี้ โดยจะโยกมาดวลความเร็วในทวีปเอเชียเป็นเรซแรกของปี ที่ บุดด์ห อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินเดีย ในรายการ อินเดียน กรังด์ปรีซ์ แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารพร้อมส่งกำลังใจเชียร์ ก้อง-สมเกียรติ จันทรา และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม :
https://www.facebook.com/HondaRacingTeamTH และ แฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม :
Race to The Dream