Bezzecchi พลิกกลับมาคว้าชัยได้สำเร็จใน French GP ซึ่งเป็นเรซที่มีครบทุกรส สมกับเป็นการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งที่ 1,000

การแข่งขัน SHARK Grand Prix de France ที่สนาม Le Mans โดย Marco Bezzecchi จาก Mooney VR46 Racing Team กลับเป็นผู้ที่คว้าชัยชนะในประวัติศาสตร์การแข่งขัน FIM Grand Prix ครั้งที่ 1,000 ด้าน Jorge Martin และ Johann Zarco คู่ทีมเมทจาก Prima Pramac Racing ก็จบการแข่งขันด้วยตำแหน่งที่ 2 และ 3  ส่วน Marc Marquez จาก Repsol Honda Team ก็ถือว่าเป็นการกลับมาลงสนสามได้อย่างน่าสนใจเมื่อสามารถสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งที่ 2 ได้อย่างดุเดือดถึงแม้ท้ายที่สุดจะพลาดล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไปก็ตาม แต่ที่น่าเสียดายที่สุด คงจะเป็น Francesco Bagnaia จาก Ducati Lenovo Team ที่ประทะกันกับ Maverick Viñales จาก Aprilia Racing จนต้องออกจากการแข่งขันไปทั้งคู่ 

เริ่มต้นการแข่งขันในวันเสาร์ด้วยรอบ Tissot Sprint Race โดยทันทีที่ไฟสตาร์ทดับลง เป็น Bagnaia ที่ออกตัวได้ดีกว่าขณะที่ Jack Miller จาก Red Bull KTM Factory Racing ก็ตามมาเป็นที่ 2 โดยมี Martin ตามมาไล่แย่งตำแหน่งที่ 2 และทำได้ในที่สุด จากนั้นเป็น Luca Marini จาก Mooney VR46 Racing Team และ Marc Marquez แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน Red Bull KTM Factory Racing ก็ต้องผิดหวังเมื่อ Miller เกิดล้มที่โค้ง Musuem นั่นทำให้อันดับล่าสุดเป็น Bagnaia นำ Martin, Marc Marquez และ Binder ตามลำดับ โดยมี Marini อยู่ในอันดับที่ 5 

Marc Marquez และ Binder พยายามอย่างยิ่งเพื่อไล่แย่งอันดับจาก Bagnaia จนเมื่อมาถึง Dunlop chicane ทำให้ Binder ได้เปรียบและสามารถขยับมาอยู่ตำแหน่งที่ 2 ส่วน Bagnaia หล่นไปอยู่ที่ 3 โดยมี Marc Marquez ตามมาเป็นที่ 4 ปล่อยให้ Martin ขึ้นไปเป็นผู้นำ จากนั้น Marc Marquez ก็ขยับแซงได้ที่ Dunlop chicane ส่ง Bagnaia ลงไปอีก 1 อันดับ ส่งผลให้ Martin นำห่างออกไปถึง 1.7 วินาทีเหนือ Binder โดยมี Marquez, Bagnaia และ Marini ตามหลัง

ไฮไลท์ของการแข่งขัน Tissot Sprint Race ดูจะเปลี่ยนมาอยู่ที่การต่อสู้เพื่อชิงอันดับที่ 3 ที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างแชมป์โลกทั้งสอง จากนั้น Bagnaia ก็สามารถแซงขึ้นไปได้ ไม่เพียงแต่มีการต่อสู้อันเหลือเชื่อระหว่างแชมเปี้ยนสองคนเท่านั้น จากนั้น Martin ก็ผ่านเส้นชัยใน Tissot Sprint Race ครั้งแรกรวมถึงคะแนน Grand Prix ครั้งแรกของเขาที่ Le Mans โดยมี  Binder และ Bagnaia ตามมาบนโพเดี้ยม

และเป็นเรซที่น่าผิดหวังสำหรับแฟนเจ้าถิ่นเมื่อ Fabio Quartararo จาก Monster Energy Yamaha MotoGP พลาดล้มและออกจากกการแข่งขันใน Tissot Sprint Race ไปอย่างน่าเสียดาย

 

 

พอถึงช่วงเรซการแข่งขันหลัก ทันทีที่ไฟสตาร์ทกับลงการแข่งขันครั้งที่ 1,000 ก็เริ่มต้นขึ้น โดยเป็น Marc Marquez ที่สามารถขึ้นนำในขณะที่ Bagnaia นั้นร่วงลงไปอยู่ที่ 5 ส่วน Miller ก็พยายามหาช่องขึ้นมาเป็นที่ 2 ด้าน Bezzecchi ตามมาเป็นที่ 3  หลังจากผ่านช่วงชุลมุนไปอันดับก็เป็น Marc Marquez, Miller, Marini, Bagnaia และ Martin หลังจากครบ 1 รอบการแข่งขัน จากนั้น Miller กับ Marc Marquez ก็พยายามสู้แย่งชิงอันดับกันสุดๆ 

รอบการแข่งขันดำเนินไป จน Viñales พยายามไล่ชิงอันดับจาก Bagnaia แต่แล้วก็เกิดเหตุประทะจนทำให้ทั้งคู่ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นอีกเพียงครึ่งรอบต่อมา

ก็มีเหตุการณ์ระหว่าง Marini และ Alex Marquez จาก Gresini Racing MotoGP เมื่อ Marini ที่กำลังจะพลาดล้มเกิดเกี่ยวกันกับ Alex Marquez ทำให้ทั้งคู่ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย โดยอันดับล่าสุดเป็น Miller, Marc Marquez, Bezzecchi และ Martin ก่อนที่ Bezzecchi จะแซง Marc Marquez ขึ้นไปชิงอันดับ 1 

จากนั้น Martin ก็เริ่มประทะกับ Marc Marquez โดยทั้งคู่ต่างไม่ยอมกัน ในที่สุด Martin แซงผ่านไปได้ แล้วก็กลายเป็น Marc Marquez ที่หลุดออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ต้องถือว่าเป็นการกลับมาลงสนามในแบบที่มีลุ้นมากกว่าที่ผ่านๆ มา 

การแข่งขันดำเนินต่อไปเรื่ยๆ จนจบการแข่งขันด้วยการคว้าชัยของ Bezzecchi โดยมี Martin และ Zarco ตามมา การขึ้นโพเดี้ยมของ Zarco ก็ถือเป็นนักแข่งเจ้าบ้านที่ประสบความสำเร็จท่ามกลางแฟนๆ เจ้าถิ่นที่เดินทางมาเชียร์ในสนาม ส่วนที่ 4 แม้จะพลาดโพเดี้ยวไปอย่างน่าเสียดายแต่ตำแหน่งนี้ก็เป็นอันดับที่ดีที่สุดที่ Augusto Fernandez จาก GASGAS Factory Racing Tech3 ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ

สำหรับการแข่งขันในสนามต่อไปจะไปกันที่ อิตาลี ที่สนาม Autodromo Internazionale del Mugello ในรายการ Gran Premio d’Italia Oakley ในวันที่ 9 ถึง 11 มิถุนายน นี้

 

 

 

ด้านนักแข่งไทยใน Moto2 อย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ Honda Race To The Dream เจ้าของหมายเลข 35 จาก IDEMITSU Honda Team Asia ในสนามนี้

ที่คว้าโพเดียมอันดับ 3 ในเกมการแข่งขันเมื่อปีที่ผ่านมาเปิดเผยว่า “ผมมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมกับ เลอ มองส์ นี่คือสนามที่ผมชื่นชอบและคุ้นเคยในการแข่งขันเป็นอย่างดี ปีที่ผ่านมาผมมีผลงานที่แข็งแกร่งด้วยการคว้าอันดับ 3 จากการเริ่มเกมในกริดที่ 10 ปีนี้ผมมีความคงที่อย่างมากในทุกๆ เรซ ผมคิดว่ามันสำคัญมากที่ต้องเก็บคะแนนสะสมให้ได้ในทุกๆ สุดสัปดาห์ นั่นคือเป้าหมายแรกของผมใน เลอ มองส์ และหากเป็นไปได้ ก็พร้อมจะล่าโพเดียมให้ได้เหมือนปีที่ผ่านมา" 

พอรอบซ้อม ก้อง-สมเกียรติ ขยับความเร็วทะยานขึ้นรั้งท็อป 8 ตารางเวลารวมวันแรก จากการซ้อม 2 ครั้ง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.650 วินาที จนช่วงท้ายของซ้อมครั้งที่ 3 ก็สามารถทะยานขึ้นเป็นจ่าฝูง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.171 วินาที เร็วกว่าอันดับ 2 ถึง 0.584 วินาที 

จากการทำผลงานยอดเยี่ยมในการซ้อมทั้ง 3 ช่วง ทำให้ ก้อง-สมเกียรติ ผ่านเข้าสู่ควอลิฟายรอบ Q2 แบบอัตโนมัติ โดยผลควอลิฟาย ก็ปรากฏว่าคว้ากริดอันดับ 7 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.180 วินาที โดยนักบิดชาวไทยจะได้ออกตัวจากแถวที่ 3 

จนเข้าสู่ช่วงการแข่งขัน แม้จะมีธงแดงแต่ ก้อง-สมเกียรติ ก็สามารถเค้นฟอร์มหรู คว้าท็อป 6 ในศึก Moto2 สนาม 5 เดินหน้าเก็บแต้มแบบร้อยเปอร์เซ็นต์จาก 5 สนามแรก รั้งอันดับ 8 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ หลังผ่านการแข่งขันสุดมันส์

 

ทั้งนี้ ก้อง-สมเกียรติ มีคิวแข่งขันสนามถัดไประหว่างวันที่ 9-11 มิถุนายนนี้ ร่วมลุ้นและให้กำลังใจ ก้อง-สมเกียรติ และทัพนักบิดฮอนด้า พร้อมติดตามข่าวสารได้ที่