ทัพนักบิดไทยผลงานกระหึ่มเอเชีย! "สุหทัย" พลิกคว้าชัยโฮมเรซ "รัฐพงษ์-กฤชพร-ปิยวัฒน์" ฉลองโพเดียมในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง นัดปิดฤดูกาล 2022 ที่ บุรีรัมย์

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2022 สนามสุดท้าย เข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการก่อนจะดวล 2 เรซสำคัญ เพื่อตัดสินแชมป์ประจำฤดูกาล โดย ทัพนักบิดไทย ประเดิมสนาม เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ด้วยฟอร์มสุดร้อนแรง สร้างโอกาสลุ้นชัยชนะโฮมเรซส่งท้ายฤดูกาลอย่างเต็มตัว โดย ตี-อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ทะยานรั้งจ่าฝูงรุ่นใหญ่อย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ ขณะ โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ควง ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ครองท็อปทรีในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ด้าน ฟิล์ม-ปิยะวัฒน์ ประทุมยศ ดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งหัวแถว เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี เช่นเดียวกับ เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล ครองจ่าฝูง ทีวีเอส เอเชีย วันเมคเรซ ก่อนลุ้นชิงบัลลังก์ เจ้าแห่งสองล้อเอเชีย ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

โดยในรุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี หลังผ่านการซ้อม 3 ครั้ง ปรากฏว่า ตี-อนุภาพ ซึ่งมีลุ้นแชมป์ในรุ่นนี้อย่างเต็มตัว ทะยานรั้งจ่าฝูงในวันแรกด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.434 วินาที เฉือนคู่แข่งคนสำคัญอย่าง โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ ในอันดับ 2 เพียง 0.186 วินาที ส่วน แชมป์-ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ นักบิดไทยจาก แอสเตโม เอสไอ เรซซิ่ง ทีม วิท ไทย ฮอนด้า ขยับผลงานขึ้นอย่างต่อเนื่อง รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 0.24 วินาทีเท่านั้น

ขณะที่ แสตมป์-อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 4 เพียง 0.308 วินาที ตามด้วย 2 นักบิดไวลด์การ์ดชาวไทยอย่าง ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี รองแชมป์ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ คนล่าสุดจาก ยามาฮ่า แอนเดรียนี เน็กซ์เตอร์ อนุชา เรซซิ่ง ทีม และ บอล-สุหทัย แช่มทรัพย์ จอมเก๋าจาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ในอันดับ 10-11 ตามหลังคนละ 1.654 วินาที และ 1.780 วินาที ตามลำดับ

ผลซ้อมวันแรกรวม 3 ครั้งของรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ปรากฏว่า แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ อดีตนักบิดโมโตทรี ชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.504 วินาที จากการซ้อมครั้งสุดท้าย เฉือนนักบิดชาวไทยอย่าง โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ อดีตแชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.025 วินาที

ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีชาวไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ซึ่งมีลุ้นในรุ่นนี้อยู่ ตามหลังจ่าฝูง 0.266 วินาที ด้าน ต๋ง-พีรพงศ์ บุญเลิศ อดีตแชมป์เอเชียชาวไทยซึ่งลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดจาก ทีเอ็นพี มอเตอร์สปอร์ต ทีม จบวันแรกในอันดับ 5 ตามหลัง 0.454 วินาที ตามด้วย นิว-กฤชพร แก้วสนธิ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในอันดับ 6 ตามจ่าฝูง 0.609 วินาที ส่วน ฟอง-คณาทัต ใจมั่น นักบิดไทยอีกคนที่ลงแข่งด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด รั้งอันดับ 12 ตามหลัง 1.160 วินาที ตามด้วย ไอเดีย-กฤตภัทร เขื่อนคำ ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ไฮสปีด ทีม ในอันดับ 14 ตามหลัง 1.192 วินาที

สำหรับผลซ้อมในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง ฟิล์ม-ปิยวัฒน์ ประทุมยศ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 53.051 วินาที เหนือคู่แข่งชาวอินโดนีเซีย 2 คน จาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม อย่าง เฮอร์จุน แอทนา เฟอร์ดาอุส และ มูฮัมหมัด อะเดนันตา ปูตร้า ในอันดับ 2-3 ตามหลังคนละ 0.233 วินาที และ 0.415 วินาที ด้านนักบิดดาวรุ่งชาวไทยที่ได้รับไวลด์การ์ดในรุ่นนี้อย่าง ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พฤฒิสาร จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จบวันแรกในอันดับ 9 ตามหลังรุ่นพี่ 1.380 วินาที

ส่วนผลการซ้อมในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมคเรซ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งซ้อม 2 ครั้ง ปรากฏว่ายอดนักบิดจอมเก๋าชาวไทยอย่าง เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล รั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 52.463 วินาที เหนือ กีย์ อาห์เหม็ด นักบิดชาวอินเดีย อันดับ 2 เพียง 0.583 วินาที ตามด้วยดาวรุ่งชาวไทยอีกคนอย่าง กาฟิว-วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน ในอันดับ 3 ตามหลัง 1.077 วินาที

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันในรุ่น อันเดอร์โบน 150 ซีซี ซึ่ง เติ้ล-พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง นักบิดไทยจาก ทีม วัน ฟอร์ ออลล์ รั้งอันดับ 4 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 1.669 วินาที ตามหลังจ่าฝูงอย่าง อาห์หมัด ฟัซลี ชาม นักบิดมาเลเซียจาก วันซ็อกซ์ ทีเคเคอาร์ เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.747 วินาที โดยในรุ่นนี้มีนักบิดดาวรุ่งชาวไทย 2 คนลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด ซึ่ง ธุรกิจ บัวผา จาก คาร์ดินาลส์ เรซซิ่ง ทีม มาเลเซีย รั้งอันดับ 14 ตามหลัง 2.407 วินาที ตามด้วย ภาสกร แสนหลวง จาก ทีม วัน ฟอร์ ออลล์ ในอันดับ 16 ตามหลัง 2.675 วินาที

เข้าสู่ช่วงการแข่งขันทัพนักบิดไทยบิดระห่ำ พาเหรดคว้าโพเดียมโดยในเกมรุ่นใหญ่อย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ทัพนักบิดไทยสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดย คาสม่า แดเนียล คาสมายูดิน นักบิดมาเลเซียจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง ทีม เอเชียน ได้ออกสตาร์ตจากโพล ขนาบข้างด้วย โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ เพื่อนร่วมชาติจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ และ อิคุฮิโระ อิโนคิโดะ นักบิดญี่ปุ่นจาก เอสดีจี มอเตอร์สปอร์ต ฮาร์ค-โปร ในกริดที่ 2-3

การขับเคี่ยวในเรซนี้เข้มข้นอย่างมาก นักบิดไทยสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ตี-อนุภาพ ที่เริ่มเกมจากกริดที่ 4 ทะยานขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จในช่วงครึ่งทางการแข่งขัน ทว่ากลับมาโดนคู่แข่งอย่าง คาสมายูดิน ขยับแซงได้ในช่วง 4 รอบสุดท้าย ขณะที่ แสตมป์-อภิวัฒน์ และ แชมป์-ภาสวิชญ์ ก็ขยับขึ้นมามีลุ้นโพเดียมเช่นกันในช่วงท้ายเรซ จบการแข่งขัน 13 รอบสนาม นักบิดไทยอย่าง ตี-อนุภาพ คว้าโพเดียมมาครองได้สำเร็จหลังบิดเข้าป้ายในอันดับ 2 ตามหลังผู้ชนะอย่าง คาสมายูดิน เพียง 0.611 วินาทีเท่านั้น โดยมี แสตมป์-อภิวัฒน์ นักบิดไทยอีกคนยืนบนโพเดียมอันดับ 3 ตามหลัง 2.274 วินาที ขณะที่ แชมป์-ภาสวิชญ์ ขยับแซงคู่แข่งจากกริดที่ 8 คว้าอันดับ 4 ตามหลังผู้ชนะเพียง 2.393 วินาทีเท่านั้น

ส่วนเกมในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เป็นอีกรุ่นที่ต้องตัดสินผู้ชนะถึงโค้งสุดท้าย โดยนักบิดไทยอย่าง ชิพ-นครินทร์ ที่พลาดในจังหวะออกตัวร่วงลงไปถึงอันดับ 6 ไล่ขึ้นมาเป็นผู้นำ ก่อนจะบิดคว้าโพเดียมในอันดับ 2 ไปครองด้วยเวลา 20 นาที 5.249 วินาที ตามหลังผู้ชนะอย่าง แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ เพียง 1.050 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ อัซรอย ฮาคีม อานัวร์ ดาวรุ่งชาวมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 1.204 วินาที

ด้าน นิว-กฤชพร เจ้าของโพล ขึ้นนำได้ช่วง 4 รอบแรกก่อนรูดลงมาจบการแข่งขันในอันดับ 4 ตามหลังผู้ชนะ 1.589 วินาที ส่วน โฟลท-รัฐพงษ์ พลาดในโค้งสุดท้ายบิดเข้าป้ายอันดับ 5 ตามหลัง 1.601 วินาที 

ขณะที่ผลการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ชัยชนะตกเป็นของ เฮอร์จุน แอทนา เฟอร์ดาอุส  ที่บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกหลังครบ 10 รอบสนามด้วยเวลา 19 นาที 6.534 วินาที เฉือนทีมเมทอย่าง มูฮัมหมัด อเดนันตา พูตร้า และ เรซ่า ดานิก้า อาห์เรนส์ เพียง 0.162 วินาที และ 0.229 วินาทีเท่านั้น ด้าน ฟิล์ม-ปิยวัฒน์ ขึ้นนำได้จนกระทั่งมาพลาดเสียจังหวะโค้งสุดท้าย คว้าอันดับ 4 มาครอง ตามหลังผู้ชนะเพียง 0.668 วินาทีเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมค ซึ่งนักบิดจอมเก๋าชาวไทยอย่าง เอ้-วรพงศ์ ออกนำม้วนเดียวจบคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 15 นาที 0.076 วินาที พร้อมกับคว้าแชมป์เอเชียในฤดูกาลนี้ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีนักบิดรุ่นน้องชาวไทยอย่าง การ์ฟิว-วัชรินทร์ ตามขึ้นโพเดียมอันดับ 2 ตามหลัง 5.700 วินาที และ ฟูโกะ ทานากะ นักบิดญี่ปุ่นในอันดับ 3 ตามหลัง 8.336 วินาที

สำหรับผลการแข่งขันในรุ่น อันเดอร์โบน 150 ซีซี ชัยชนะตกเป็นของ เอพริล คิง มาสคาร์โด นักบิดฟิลิปปินส์จาก ยูม่า เรซซิ่ง เอ็มเอ็มอาร์ ยามาฮ่า ฟิลิปปินส์ ด้วยเวลา 16 นาที 26.574 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง มูฮัมหมัด อิซซาต ไซดี้ นักบิดมาเลเซียจาก พิตส์ไบค์ เจอาร์ที วันเวย์ เพียง 0.181 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของนักบิดมาเลเซียอีกคนอย่าง โมฮัมหมัด ซยาฟิค รอสลี จาก ยูม่า เรซซิ่ง เอ็มเอ็มอาร์ ยามาฮ่า ฟิลิปปินส์ ตามหลัง 0.213 วินาที

การแข่งขันเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง 2022 ในเรซที่ 2เกมหลายรุ่นต้องเจอสภาพแทร็กเปียก หลังมีฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ซึ่งเกมในรุ่นใหญ่อย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ที่ต้องแข่งขันในสภาพแทร็กกึ่งแห้งกึ่งเปียก ก็สร้างความลำบากอย่างมากให้กับนักแข่งทุกคน

โดยผลปรากฏว่า บอล-สุหทัย ดาวบิดจอมเก๋าชาวไทยที่ลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด พลิกขึ้นมาคว้าชัยชนะด้วยเวลา 23 นาที 1.544 วินาที ได้ฉลองแชมป์โฮมเรซต่อหน้าแฟนชาวไทย ตามด้วย อิคูฮิโร่  เอโนคิโดะ นักบิดญี่ปุ่นจาก เอสดีจี มอเตอร์สปอร์ต ฮาร์ค-โปร ในอันดับ 2 ตามหลัง 4.803 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อาซลัน ชาห์ นักบิดมากประสบการณ์ชาวมาเลเซียจาก วันซ็อกซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ทีเคเคอาร์ ทีม ตามหลัง 5.830 วินาที

ขณะที่นักบิดไทยคนอื่นๆ ต้องเจอสภาพแทร็กเล่นงาน โดย ตี-อนุภาพ จบเรซในอันดับ 6 ตามหลัง 6.739 วินาที ตามด้วย ซุป-อนุชา ในอันดับ 8 ตามหลัง11.258 วินาที ส่วน แชมป์-ภาสวิชญ์ คว้าอันดับ 10 ตามหลัง 15.330 วินาที ด้าน แสตมป์-อภิวัฒน์ ขยับขึ้นมารั้งหัวแถวช่วงกลางเรซก่อนพลาดล้มอย่างน่าเสียดาย

โดยแชมป์เอเชียในรุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ตกเป็นของ ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ 

ส่วนผลการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งต้องดวลกันท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย ปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ ด้วยเวลา 21 นาที 49.924 วินาที เฉือน โฟลท-รัฐพงษ์ ในอันดับ 2 เพียง 0.550 วินาที ตามด้วยสองนักบิดไทยอย่าง นิว-กฤชพร และ ชิพ-นครินทร์ ในอันดับ 3 และ 4 ตามหลังคนละ 7.806 วินาที และ 8.081 วินาที ด้าน ต๋ง-พีรพงศ์ จบในอันดับ 6 ตามหลัง 22.886 วินาที ตามด้วย ไอเดีย-กฤตภัทร จบในอันดับ 7 ตามหลัง 24.216 วินาที ขณะที่ ฟอง-คณาทัต จบเรซอันดับ 12 ตามหลัง 35.477 วินาที

ด้านแชมป์ประจำปีในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เป็นของ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ นักบิดอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม

เกมในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี เป็นอีกหนึ่งเรซที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยให้ความสนใจอย่างมาก โดยผลปรากฏว่า เรซ่า ดานิก้า อาห์เรนส์ นักบิดอินโดนีเซียคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 20 นาที 36.566 วินาที ขณะที่นักบิดไทยอย่าง ฟิล์ม-ปิยวัฒน์ ได้ฉลองโพเดียมเรซสุดท้ายในอันดับ 2 ตามหลังผู้ชนะ 16.196 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ไอกิ อิโยชิ นักบิดญี่ปุ่นจาก โมตุล สไนเปอร์ แมนวล เทค เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 24.539 วินาที ส่วนดาวรุ่งชาวไทยอย่าง ข้าวกล้อง-จักรีภัทร คว้าอันดับ 6 ตามหลัง 26.186 วินาที

ด้านแชมป์ประจำปีในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ตกเป็นของ แอนดี้ มูฮัมหมัด ฟัดลี นักบิดอินโดนีเซียจาก โมตุล สไนเปอร์ แมนวล เทค เรซซิ่ง ทีม

สำหรับผลในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมค ชัยชนะเรซสุดท้ายเป็นของ เอ้-วรพงศ์ นักบิดไทยผงาดคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 15 นาที 12.815 วินาที ฉลองแชมป์เอเชียอย่างยิ่งใหญ่ เฉือน ฟูโกะ ทานากะ นักบิดญี่ปุ่นอันดับ 2 เพียง 1.235 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของดาวรุ่งชาวไทย การ์ฟิว-วัชรินทร์ ตามหลัง 1.712 วินาที

นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันในรุ่น อันเดอร์โบน 150 ซีซี ซึ่งชัยชนะตกเป็นของ อาหมัด ฟาซลี ชาม นักบิดมาเลเซียจาก วันซ็อกซ์ ทีเคเคอาร์ เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลา 17 นาที 40.433 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง โมฮัมหมัด ซยาฟิค รอสลี นักบิดมาเลเซียเพียง 0.336 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของนักบิดมาเลเซียอีกคนอย่าง ฮาฟิซา โรฟา จาก วันซ็อกซ์ ทีเคเคอาร์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 2.246 วินาที ด้าน เติ้ล-พีระพงษ์ นักบิดไทยจบเรซในอันดับ 9 ตามหลัง 5.013 วินาที ส่วน ภาสกร แสนหลวง คว้าอันดับ 11 ตามหลัง 21.272 วินาที ซึ่งแชมป์ประจำปีเป็นของ วาห์ยู อาจี นักบิดอินโดนีเซียจาก วันซ็อกซ์ ทีเคเคอาร์ เรซซิ่ง ทีม

 

ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2022 ปิดฉากลงอย่างสุดมันส์ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นสนามตัดสินแชมป์ประจำปีอย่างเป็นทางการ