มาร์เกวซ ซิวแชมป์แรก รอสซี่ จบโพเดียมขึ้นนำคะแนนสะสม

 

มาร์ค มาร์เกวซ โชว์ผลงานสุดเฉียบใน Grand Prix of The Americas โดยขับเคี่ยวกับเพื่อนร่วมทีม ดานี่ เปโดรซ่า สุดมันส์ในช่วงแรกของการแข่ง และสุดท้ายก็ทะยานขึ้นนำแบบม้วนเดียวจบคว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันในการแข่งที่ออสติน รวมถึงเป็นครั้งที่ 11 ติดต่อกันในการแข่งที่สหรัฐอเมริกา นับเป็นสถิติที่เหลือเชื่อ ส่วน วาเลนติโน่ รอสซี่ ทีมมูฟวี่สตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี สามารถพลิกแซงเปโดรซ่าในช่วงท้ายการแข่ง บิดตาม มาร์เกวซ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 แบบสบายๆ มาเวริค ด้าน มาเวริค บีญาเลส พลาดเร็วโดยมาล้มที่โค้ง 18 ของรอบแรก และไม่สามารถแข่งต่อได้ทำให้อันดับคะแนนสะสมลงมาอยู่ที่ 2 ตามหลังเพื่อนร่วมทีม รอสซี่ ผู้นำอยู่ 6 คะแนน

ในช่วงออกตัวรอบแรก เปโดรซ่า ที่สตาร์ทจากแถวสองทะยานขึ้นมานำได้อย่างรวเร็ว ปล่อยให้ มาร์เกวซและ 2 นักบิดทีมยามาฮ่า โมโตจีพี ไล่ตามตั้งแต่พ้นโค้งแรก

ด้าน ฆอร์เก ลอเรนโซ ทีมดูคาติ ก็ทำผลงานช่วงออกตัวได้ดีเช่นกันจากอันดับ 6 สามารถแซงผ่าน บีญาเลส และไล่กันอย่างสนุก โดยมีโยฮันน์ ซาร์โก ขยับมาร่วมวง จากนั้นทั้งคู่ต่างพากันแซงผ่านลอเรนโซไปได้ จนกระทั่ง บีญาเลส มาพลาดล้มเองในโค้ง 18 ชวดเก็บแต้มเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแข่งที่อาร์เจนตินาปีที่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ระหว่าง ซาร์โก กับ รอสซี่ ด้วยเมื่อรถของทั้งคู่เกิดเข้ามาเบียดกันจน เดอะ ด็อกเตอร์ ต้องเสียจังหวะหลุดออกไปนอกด้านรันออฟ แต่กลับเข้ามาบิดนำ ซาร์โก ได้ อย่างไรก็ตาม รอสซี่ โดนปรับโทษเพิ่มเวลา 0.3 วินาที โทษฐานขี่ตัดรันออฟเอาเปรียบ แต่ก็ไม่มีผลต่ออันดับแต่อย่างใด

ผ่านไปเกือบครึ่งทาง มาร์เกวซ ก็เผด็จศึกเพื่อนร่วมทีมได้ด้วยการขึ้นนำตลอด 13 รอบที่เหลือ เข้าสู่ช่วง 3 รอบสุดท้ายเป็นการดวลระหว่างคู่ ครัชท์โลว์ กับ ซาร์โก เพื่อแย่งอันดับ 4 และคู่รอสซี่ กับ เปโดรซ่า เพื่อแย่งอันดับ 2 ซึ่งครัชท์โลว์สามารถไล่กดดันซาร์โกจนแซงผ่านขึ้นอันดับ 4 ได้สำเร็จ ส่วนรอสซี่ได้จังหวะเสียบเข้าไลน์ในโค้งซ้ายแซงผ่านเปโดรซ่าที่มีปัญหากริ๊ปของตัวรถได้เช่นกัน และจบด้วยอันดับ 2 ขึ้นเป็นผู้นำในอันดับคะแนนสะสมคนใหม่

รายการต่อไปที่สนามเฆเรซ ซึ่งปีที่แล้ว วาเลนติโน่ รอสซี่ เอาชนะคู่แข่งได้ถึงถิ่น ปีนี้เดอะ ด็อกเตอร์ จะทำได้อีกครั้งไหม และ บีญาเลส จะกลับมาขึ้นโพเดียมไล่ล่าแชมป์ต่อได้ทันทีเลยหรือเปล่า ต้องมาติดตามลุ้นกันโมโตจีพีสนาม 4 กันต่อในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้

ขอบคุณข้อมูลเรื่องและภาพจาก www.motogp.com และ www.yamahamotogp.com