ดูคาติ เผยกลยุทธ์รุกตลาดปี 2015 เน้นบริการและกิจกรรมเพื่อลูกค้า
ดูคาติไทยแลนด์การันตีความสำเร็จ ด้วยยอดขายสูงสุดในเอเชีย ขึ้นแท่นคว้ารางวัล Best Importer of the Year 2014 ครั้งที่สอง ลุยตลาดเปิดตัวดูคาติรุ่นใหม่ 2 รุ่นในมอเตอร์โชว์ 2015 พร้อมประกาศนโยบายปี 2015 อัดแน่นศักยภาพด้านการให้บริการ และหลักสูตร DRE ไม่จำกัดค่าย
นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ กล่าวถึงการได้รับรางวัลอันทรงเกียรติว่า "ดูคาติไทยแลนด์ได้รับรางวัลแห่งเกียรติยศ Best Importer of the Year 2014 โดย บริษัท ดูคาติ มอเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด มหาชน มอบให้แก่บริษัทผู้นำเข้ารถจักรยานยนต์ดูคาติที่ไม่ใช่บริษัทในเครือ ถือเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศอันสูงสุดที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจในความมุ่งมั่นทุ่มเทของบุคลากรในดูคาติไทยแลนด์ โดยการได้รับรางวัลดังกล่าวถือเป็นการได้รับรางวัลครั้งที่สองของดูคาติไทยแลนด์ จากที่เคยได้รับรางวัลในปี 2012 จึงสามารถการันตีถึงความสำเร็จ และความเป็นมืออาชีพของดูคาติไทยแลนด์"
ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ดูคาติไทยแลนด์ได้มุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาองค์กรอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งด้านการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า การจัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มลูกค้าดูคาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรณรงค์เรื่องของการขับขี่ปลอดภัยผ่านหลักสูตรการอบรมการขี่รถดูคาติอย่างถูกต้องและปลอดภัย Ducati Riding Experience หรือ DRE ภายใต้แนวคิด Be Safe, Be Cool ที่สนับสนุนให้ผู้ขับขี่ดูคาติทุกคนมีทักษะที่ถูกต้อง และสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง โดยเป็นหลักสูตรของประเทศอิตาลีที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศเดียวนอกเหนือจากอิตาลี ที่มีการจัด DRE อย่างครบถ้วนทุกหลักสูตร โดยจะมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมสามารถขับขี่รถดูคาติได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
โดยมีทีมครูฝึกของดูคาติไทยแลนด์ที่ผ่านการอบรมจากอิตาลี มาเป็นผู้แนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมสามารถนำความรู้ทั้งทางทฤษฎี และการปฏิบัติไปใช้ได้จริงในการขี่รถในชีวิตประจำวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้อุบัติเหตุบนท้องถนนลดน้อยลง โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาดูคาติไทยแลนด์ได้จัดการอบรม DRE ไปแล้วจำนวน 18 ครั้งทั่วประเทศ ครอบคลุมจำนวนผู้เข้าฝึกอบรม 474 คน โดยหลักสูตร DRE แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ (1) Basic Course (2) Intermediate Course (3) Racing Course และ (4) Master Racing Course
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า ผู้ขับขี่ดูคาติทุกคนสามารถทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมได้ จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ รวมถึงชมรมผู้ขับขี่ดูคาติในประเทศไทย จัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมตลอดทั้งปี
(1) โครงการ "ซับน้ำตาล้างใจ" เป็นโครงการช่วยเหลือทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (2) โครงการ "Big Bike, Giant Heart" เป็นการอาสาพาเด็กที่มีความพิการทางด้านร่างกายเที่ยวสวนสัตว์เขาดิน (3) โครงการ "น้ำใจให้น้อง" ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือส่งเสริมเด็กที่ยากจนหรือโรงเรียนที่ขาดแคลนในถิ่นทุรกันดาร และ (4) ศูนย์ดูคาติทองหล่อได้นำรายได้ส่วนที่เหลือจากการประมูลรถจักรยานยนต์รุ่นหายาก GT1000 Touring ไปมอบให้แก่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ตามพระดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และล่าสุดได้มีการจัดกิจกรรม Back to Nature เป็นการรวมตัวของกลุ่ม Ducati Hypermotard และ Hyperstrada ออกทริปไปศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรีนำ เพื่อลูกเต่าจากศูนย์อนุบาลเต่าปล่อยลงสู่ท้องทะเลกลับคืนสู่ธรรมชาติ ช่วยอนุรักษ์พันธุ์เต่า
นอกจากนี้ ดูคาติไทยแลนด์ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพด้านการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย โดยมีการอบรมพัฒนาบุคลากรทุกส่วน รวมถึงหลักสูตรอบรมช่างดูคาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบการบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้บริโภค สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับมาตรฐานความมีประสิทธิภาพให้เป็นต้นแบบระดับอาเซียน จนทำให้แบรนด์ดูคาติในประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นและการยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ดูคาติไทยแลนด์ในช่วงปี 2012 - 2014 มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มรถบิ๊กไบค์ระดับพรีเมียมของประเทศไทย (Premium Motorcycle) โดยคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 45 มียอดจำหน่ายสะสมมากกว่า 7,500 คันทั่วประเทศ โดยในปี 2014 ที่ผ่านมา ดูคาติไทยแลนด์มียอดขายทั่วประเทศ จำนวน 3,057 คัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 22 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงเวลาดังกล่าว
ดูคาติภายใต้การบริหารแนวคิดใหม่ มุ่งส่งเสริมให้พนักงานบริษัทฯ ในทุกระดับรวมกิจกรรมทุกวันพุธช่วงเย็น เช่น เล่นฟุตบอล, ปั่นจักรยาน, โยคะ เป็นต้น เพื่อสร้างสุภาพร่ายการที่แข็งแรงแจ่มใส และส่งผลต่อสุขภาพจิตใจที่สดชื่น พร้อมบริการลูกค้าด้วยความยิ้มแย้ม ซึ่งนับเป็นหนึ่งในหัวใจของงานบริการที่ดูคาติไทยแลนด์เน้นย้ำเสมอมา
ปัจจุบันดูคาติไทยแลนด์มีการขยายศูนย์ดูคาติ 14 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองสำคัญทุกภูมิภาคของไทยทั้งหมด 14 แห่ง ได้แก่ ดูคาติทองหล่อ, ดูคาติพระราม 3, ดูคาติสยามพารากอน, ดูคาติราชพฤกษ์, ดูคาติวิภาวดี, ดูคาติภูเก็ต, ดูคาติอุดรธานี, ดูคาติพัทยา, ดูคาติเชียงใหม่, ดูคาตินครราชสีมา, ดูคาติหาดใหญ่, ดูคาติหัวหิน, ดูคาติขอนแก่น และดูคาติบุรีรัมย์ โดยศูนย์ดูคาติวิภาวดีเป็นศูนย์ดูคาติในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีความทันสมัย มีการบริการที่ครบวงจร และเป็นศูนย์ดูคาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก
ในปี 2015 ดูคาติไทยแลนด์ตั้งเป้าหมายเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องการบริการหลังการขาย โดยจัดโปรแกรมบำรุงรักษารถโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือที่เรียกว่า Ducati Worry Free Program ซึ่งจะทำให้ลูกค้าดูคาติสามารถใช้รถได้อย่างสบายใจไร้กังวล โดยจะเริ่มต้นที่รถ Ducati Scrambler ซึ่งรถทุกคันจะมาพร้อมกับ Ducati Worry Free Program เป็นระยะเวลา 4 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการดูแลรักษาตามระยะที่กำหนด ซึ่งรวมถึงค่าแรงช่างผู้ชำนาญจากดูคาติ และค่าอะไหล่แท้ของดูคาติ (ยกเว้น ยางและแบตเตอรี่) ตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2558 รวมถึงการมอบแคมเปญพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่จอง Ducati Scrambler ไว้ก่อนหน้านี้อีกด้วย พร้อมส่งมอบได้ในปลายเดือนมีนาคม 58 นี้
นอกจากนี้ ในปี 2015 ดูคาติไทยแลนด์จะขยายการอบรมหลักสูตร DRE ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยการร่วมทุนสร้างสนามทดสอบในกรุงเทพฯ บนพื้นที่ย่านมีนบุรีกว่า 9 ไร่ หรือประมาณ 14,000 ตารางเมตร เพื่อเป็นสถานที่ฝึกสอน DRE หลักสูตร Basic Course และ Intermediate Course ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรณรงค์เรื่องการขับขี่ปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่บิ๊กไบค์และผู้ที่ใช้รถใช้ถนนทั่วไป กิจกรรมดังกล่าวจึงไม่ได้จำกัดเฉพาะลูกค้าดูคาติเท่านั้น แต่สนับสนุนให้บุคคลทั่วไปสมัครเข้าร่วมได้ โดยจะมีรถดูคาติไว้ให้บริการแก่ผู้ที่เข้ารับการอบรมทุกคน
สำหรับงานมอเตอร์โชว์ 2015 ที่กำลังจะมาถึง ดูคาติไทยแลนด์จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่จำนวน 2 รุ่น ได้แก่
(1) Ducati 1299 Panigale รถที่ถือเป็นที่สุดของเทคโนโลยี Superbike ในขณะนี้ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อันชาญฉลาด ทั้งระบบเบรกสำหรับการเข้าโค้ง, ระบบ Ducati Quick Shift Up/Down ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ทั้งขึ้นและลงโดยไม่ต้องใช้คลัตช์, ระบบกระจายแรงเบรก, ระบบช่วยทรงตัว, ระบบช่วยกันการลอยตัวของล้อหน้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทรงพลังที่ปฏิวัติวงการยนตรกรรมด้วยขนาดลูกสูบที่ใหญ่ถึง 116 มิลลิเมตร ให้กำลัง 205 แรงม้า ราคารุ่นเริ่มต้นที่ 1,398,000 บาท
(2) Ducati Multistrada โฉมใหม่ล่าสุดปี 2015 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด ด้วยระบบ DVT (Desmodromic Variable Timing) ที่มีระบบวาล์วแปรผันให้สมรรถนะที่ดีที่สุดในทุกรอบเครื่องยนต์ รวมถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ล้ำสมัย อย่างเช่น ระบบ Ducati Skyhook EVO หรือระบบช่วงล่างหน้า-หลังอัจฉริยะที่ปรับสภาพอัตโนมัติตามสภาพถนน, ระบบไฟหน้าแบบ Cornering Light ที่ทำงานอัตโนมัติเมื่อรถกำลังเข้าโค้ง, ระบบ Cruise Control และระบบ Bluetooth for Smart Phone ที่เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับแผงหน้าปัด ด้วยราคารุ่นเริ่มต้นที่ 1,490,000 บาท
สนใจดูคาติ สามารถชม และทดลองขับได้ที่โชว์รูม 14 แห่งทั่วประเทศ