ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถมอเตอร์ไซค์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

HARLEY-DAVIDSON เปิดตัวขุมพลังใหม่ MILWAUKEE-EIGHT 117 พร้อมเผยโฉมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2025 ครั้งแรกในประเทศไทย

icon 9 มิ.ย. 68 icon 287
HARLEY-DAVIDSON เปิดตัวขุมพลังใหม่ MILWAUKEE-EIGHT 117 พร้อมเผยโฉมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2025 ครั้งแรกในประเทศไทย
Harley-Davidson จัดงานเปิดตัว BEYOND THE ORDINARY POWERED BY 2025 HARLEY-DAVIDSON CRUISER 117 LINEUP อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการเผยโฉมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นปรับโฉมใหม่เหล่านี้ ถือเป็นรุ่นสานต่อตำนานแห่งดีไซน์ สมรรถนะ และนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson พร้อมยกระดับขุมพลังด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ V-Twin ขนาด 117 ที่ติดตั้งมาในทุกรุ่น
งานเปิดตัวสุดพิเศษในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ Factopia Studio โดยมีสื่อมวลชน เหล่าสมาชิก Harley-Davidson Freedom Crew อินฟลูเอนเซอร์ และตัวแทนจำหน่ายจากทั่วประเทศมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งโดยมี มาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย เป็นผู้เปิดตัวไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นปี 2025 อย่างเป็นทางการ ประกอบด้วยรุ่น Low Rider™ S, Low Rider™ ST, Breakout™, Heritage Classic, Fat Boy™ และ Street Bob™ พร้อมกันนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก กาย-รัชชานนท์ สุประกอบ หนึ่งในสมาชิก Freedom Crew มาร่วมดำเนินรายการอย่างเป็นกันเอง 
นอกจากนี้ เหล่าผู้ร่วมงานยังได้ร่วมกันฉลองให้กับรถมอเตอร์ไซค์ระดับไอคอนิกรุ่น Fat Boy ในโอกาสครบรอบ 35 ปี โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ Fat Boy Gray Ghost ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 1,990 คันทั่วโลก โดยคันที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ เป็นรถของลูกค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มีเพียงคันเดียวในประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสสุดพิเศษในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่  การเปิดตัวไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser 117 รุ่นปี 2025 ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Harley-Davidson ที่มีต่อตลาดประเทศไทย พร้อมส่งมอบความตื่นเต้นครั้งใหม่และแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักขับขี่และผู้หลงใหลในแบรนด์ โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser 6 รุ่นใหม่นี้ ล้วนสะท้อนถึงเป้าหมายของแบรนด์ในการผลักดันและสร้างความคึกคักให้กับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียอย่างต่อเนื่อง
รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025
Harley-Davidson พลิกโฉมรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025 ระดับไอคอนนิกจำนวน 6 รุ่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ผสานกับสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับและดีไซน์อันทันสมัย โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser ทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 พร้อมด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ และโครงสร้าง Harley-Davidson Softail TM ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบโมโนช็อค (Monoshock) โดยไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025 ประกอบด้วยรุ่น Low Rider S, Low Rider  ST, Breakout , Heritage Classic, Fat Boy, และ Street Bob ซึ่งรถแต่ละรุ่นล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่ความคลาสสิกย้อนยุคไปจนถึงสมรรถนะที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำ
เปิดตัวขุมพลังใหม่ MILWAUKEE-EIGHT™ 117 สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025
รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระกูล Cruiser รุ่นปี 2025 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 รุ่นใหม่ล่าสุด 3 เวอร์ชั่น โดยได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ฝาสูบ ลิ้นปีกผีเสื้อไปจนถึงท่อร่วมไอดี พร้อมปรับจูนให้เหมาะสมกับเอกลักษณ์ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละรุ่น เพื่อมอบสมรรถนะ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว
ข้อมูลเครื่องยนต์ทั้ง 3 แบบ
  • MILWAUKEE-EIGHT™ 117 CLASSIC (สำหรับรุ่น Street Bob™ และ Heritage Classic) เครื่องยนต์นี้ได้รับการปรับจูนให้มีแรงบิดที่เรียบเนียนต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง เน้นความง่ายในการควบคุม เสียงเครื่องยนต์โดดเด่นด้วยปลายท่อเดี่ยว และแอร์คลีนเนอร์ทรงกลมแบบดั้งเดิม ให้ประสบการณ์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson โดยรุ่นนี้ให้แรงบิดสูงสุดที่ 163 นิวตันเมตร (120 ปอนด์-ฟุต) และกำลังสูงสุด 98 แรงม้า (73 กิโลวัตต์) ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 114 รุ่นก่อนถึง 4% และแรงบิดเพิ่มขึ้น 1 ปอนด์-ฟุต (ตามสเปกสหรัฐฯ) พร้อมระบบไอเสียแบบ 2-ออก-1 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายไอเสียจากห้องเผาไหม้ได้ดีขึ้น
  • MILWAUKEE-EIGHT™ 117 CUSTOM (สำหรับรุ่น Fat Boy™ และ Breakout™) ได้รับการปรับจูนเพื่อเน้นพลัง และแรงบิดที่เร้าใจ โดยมอบกำลังสูงสุดถึง 104 แรงม้า (78 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 171 นิวตันเมตร (126 ปอนด์-ฟุต) มากกว่าเครื่องยนต์รุ่น Classic ถึง 6% ในด้านพลัง และ 5% ในด้านแรงบิด (ตามสเปกสหรัฐฯ) เมื่อเปรียบเทียบกับ Fat Boy 114 รุ่นปี 2024เครื่องยนต์นี้ให้กำลังเพิ่มขึ้นถึง 11% และแรงบิดเพิ่มขึ้น 6% โดยมาพร้อมระบบไอเสียแบบ 2-ออก-2 แยกท่ออิสระ พร้อมหม้อกรองแยกเฉพาะในแต่ละท่อ ช่องอากาศขนาด 4 ลิตร ใหญ่กว่ารุ่นเดิมถึง 50% ช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ เสียงระบบไอดีลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เสียงท่อไอเสียโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
  • MILWAUKEE-EIGHT™ 117 H.O. (HIGH OUTPUT) (สำหรับรุ่น Low Rider™ S และ Low Rider™ ST) ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะในรอบสูง พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่ดุดัน รุ่นนี้ให้กำลังสูงสุดถึง 114 แรงม้า (85 กิโลวัตต์) และแรงบิด 174 นิวตันเมตร (128 ปอนด์-ฟุต) เพิ่มขึ้นถึง 11% จากเครื่องยนต์ 117 รุ่นก่อนหน้า ที่ใช้ใน Low Rider S และ Low Rider ST รุ่นปี 2024
เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 รุ่นใหม่ ยกระดับ Redline เพิ่มจาก 5,600 rpm (ในรุ่น Classic และ Custom) เป็น 5,900 rpm ช่วยเพิ่มช่วงกำลังในจังหวะเร่ง ส่วนระบบไอดี Heavy Breather ที่หันหน้ารับลมตรง ช่วยเพิ่มโฟลว์ของอากาศเข้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมปรับเสียงให้กระหึ่ม เร้าใจขณะเร่งความเร็ว ระบบไอเสียแบบ 2-ออก-1 ยังช่วยปรับจูนเครื่องให้ขับขี่ได้นุ่มนวลในรอบเดินเบา และให้เสียงท่อดุดันเมื่อเร่งเครื่อง เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 ใหม่ทั้ง 3 แบบที่ใช้ในตระกูล Cruiser ยังสามารถยกระดับสมรรถนะเพิ่มเติมได้ด้วยชุด Screamin’ Eagle™ Stage Kits และชุดแต่ระบบไอดีและไอเสีย จาก Screamin’ Eagle ที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มศักยภาพได้มากกว่ารุ่น Milwaukee-Eight 114 และ 117 รุ่นเดิมในปี 2024 อย่างมีนัยสำคัญ
รถมอเตอร์ไซค์ Heritage Classic รุ่นปี 2025: ความโมเดิร์นในแบบคลาสสิก 
รถรุ่น Heritage Classic ปี 2025 คือ Cruiser อเมริกันในอุดมคติ ที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์สุดวินเทจ ในสไตล์ร็อกแอนด์โรล แม้จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิก แต่ Heritage Classic ปี 2025 ก็พัฒนามาเพื่อผู้ขับขี่ยุคใหม่ โดยรุ่นปรับโฉมนี้ ยังคงดีไซน์เหนือกาลเวลาของ Harley-Davidson ตระกูล Cruiser ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์ยุค 1950s ไว้ได้อย่างครบถ้วน
หัวใจหลักของ Heritage Classic รุ่นปี 2025 คือเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 117 Classic V-Twin รุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการปรับจูนเพิ่มแรงบิดรอบต่ำที่ทรงพลัง และการเร่งที่นุ่มนวลมั่นใจ ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือออกเดินทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์ ระบบไอเสียแบบใหม่ 2-ออก-1 และระบบไอดีรุ่นใหม่ ช่วยเติมเต็มสมดุลระหว่างดีไซน์คลาสสิกตามแบบฉบับดั้งเดิม และสมรรถนะทันสมัยได้อย่างลงตัว
  • เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Classic รุ่นใหม่
  • ท่อไอเสียเดี่ยวดีไซน์ใหม่ ช่วยให้กระเป๋าข้างดูสมมาตรลงตัว พร้อมความจุที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋าด้านขวา กระเป๋าทั้งสองข้างสามารถปิดสนิทและล็อกได้ ความจุสัมภาระรวมอยู่ที่ 45 ลิตร (1.6 ลูกบาศก์ฟุต)
  • ลายเส้น Pinstripe (Paint Trajectory Pinstriping) ดีไซน์ใหม่ มีให้เลือกทุกเฉดสี รวมถึงสีแบบ ทูโทน Whiskey Fire ตัดกับ Vivid Black โดดเด่นด้วยลาย “Scallop” สไตล์ย้อนยุคบริเวณถังน้ำมัน และลายแยกบนบังโคลนหน้า-หลัง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ในยุค 1930s และ 1950s เสริมความคลาสสิกไปอีกระดับด้วยโลโก้ถังน้ำมันโครเมียมทรงเพชร พร้อมพื้นหลังลายรัศมีสีฟ้าแบบอะคริลิก ที่สะท้อนถึงตราสัญลักษณ์สุดคลาสสิกของ Harley-Davidson ในช่วงปลายยุค 1950s
  • งานตกแต่งใหม่ผสมผสานโทนดำ และโครเมียม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น Heritage ในอดีต โดยใช้โทนดำในส่วนของท่อไอเสีย คอนโซล ล้อหน้า-หลัง โช้คอัพบน-ล่าง แฮนด์บาร์ และด้านล่างของชิลด์หน้า ส่วนเครื่องยนต์เป็นสีดำพร้อมครีบระบายความร้อนแบบปาดเงา ฝาครอบวาล์วและฝาครอบเครื่องใช้โครเมียม รวมถึงฝาครอบกรองอากาศแบบโครเมียม (ไม่มีตัวเลือกโครเมียมเต็มคันสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2025)
  • ล้อแม็กหล่อ 9 ก้านสีดำดีไซน์ใหม่ ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น 
  • ล้อซี่ลวดแบบไม่ใช้ยางใน ดีไซน์แบบวินเทจที่มาพร้อมความสะดวกแบบใหม่ รองรับระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) และช่วยลดน้ำหนักจากการไม่ต้องใช้ยางในแบบล้อซี่ลวดดั้งเดิม
  • ชิลด์หน้าขนาดเต็มแบบถอดได้ พร้อมดีไซน์ช่วงล่างสีเข้ม เสริมความคลาสสิกและปกป้องลมขณะขับขี่
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Heritage Classic รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,136,000 บาท
Street Bob รุ่นปี 2025: เกิดมาเพื่อเป็นคุณ
รถมอเตอร์ไซค์ Street Bob มีน้ำหนักเบาและปราดเปรียว เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยพลังจากเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Classic รุ่นใหม่ รถมอเตอร์ไซค์ Cruiser ทรงเพรียวคันนี้ช่วยให้ควบคุมรถได้คล่องตัว พร้อมมอบพลังขับเคลื่อนที่เกินขีดจำกัดและดีไซน์อันดุดัน ตั้งแต่แฮนด์บาร์ทรง mini apes จนถึงบังโคลนหลังแบบตัด รถมอเตอร์ไซค์ Street Bob เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่รวมไว้ทั้งสไตล์ สมรรถนะ และความขับขี่ที่ลงตัวในคันเดียว
  • เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Classic รุ่นใหม่  
  • มาพร้อมโลโก้ถังน้ำมันแบบ “Stretched Diamond” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานต้นฉบับของ Willie G. ในปี 1966 แทนที่กราฟิกแบบ wet-slide เดิม เสริมความโดดเด่นด้วยงานตกแต่งโครเมียมเงาบนท่อไอเสีย, ฝาครอบกรองอากาศ, ฝาวาล์ว และฝาครอบเครื่องยนต์ ผสมผสานกับชิ้นส่วนโทนดำด้านอย่างโครงยึดบังโคลนหลัง, ขอบล้อ, แฮนด์บาร์ และโคมไฟหน้า เพื่อให้ได้ลุคที่ทั้งคลาสสิก และร่วมสมัย
  • ล้อซี่ลวดแบบไม่ใช้ยางใน ดีไซน์แบบวินเทจที่มาพร้อมความสะดวกแบบใหม่ รองรับระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) และช่วยลดน้ำหนักจากการไม่ต้องใช้ยางในแบบล้อซี่ลวดดั้งเดิม
  • ล้อมาตรฐานแบบ Annihilator ล้อหล่ออะลูมิเนียมเคลือบสีดำ
  • ถังน้ำมันเพรียวบางขนาด 3.5 แกลลอน
  • บังโคลนหลังดีไซน์สั้นสไตล์ Chopped
  • เบาะนั่งเดี่ยว พร้อมเบาะเสริมสำหรับผู้ซ้อน
  • แฮนด์บาร์ทรง Mini-ape ยกสูง พร้อมปะทะลมขณะขับขี่
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Bob รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 889,000 บาท
Fat Boy รุ่นปี 2025: หมัดน็อคเอาท์จากรุ่นเฮวี่เวต
นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปี 1990 Harley-Davidson Fat Boy ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณอันทรงพลังของรถสองล้อ และในปี 2568 อันเป็นวาระครบรอบปีที่ 35 ของรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานรุ่นนี้ Harley-Davidson ได้อัปเกรดดีไซน์ และสมรรถนะ โดยยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณดั้งเดิมของแบรนด์ และภาพลักษณ์ในวัฒนธรรมป๊อป รวมถึงความเป็นไอคอนสายคัสตอมสุดโดดเด่น ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดัน ล้อ Lakester™ และโครงไฟหน้าแบบเฉพาะตัว ทำให้ Fat Boy ยังคงเป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์สุดทรงพลังและโดดเด่นที่สุดในไลน์อัพของ Harley-Davidson
  • เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Custom รุ่นใหม่ 
  • มาพร้อมกับเฉดสี และกราฟิกใหม่ โดดเด่นด้วยตราสัญลักษณ์โครเมียมบนถังน้ำมัน ดีไซน์ดาวตรงกลางและปีกพาดท้าย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Fat Boy โดยเฉพาะ พร้อมเพิ่มลายเส้นและเฉดสีแบบทูโทนใหม่ล่าสุด และสร้างความสะดุดตาด้วยคู่สีตัดกันระหว่าง Vivid Black และ Whiskey Fireนอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมโครเมียมเงางามในหลายจุด เช่น ท่อไอเสีย โครงบังโคลนหลัง ฝาครอบเครื่องยนต์และ Rocker Box คอนโซลถังน้ำมัน ฝาครอบกรองอากาศ 
  • ยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม (หน้า 160/60R18, หลัง 240/40R18) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และการควบคุมรถ
  • ล้อหล่ออะลูมิเนียมดีไซน์พิเศษแบบ Lakester ตอกย้ำความแข็งแกร่ง และพลังของตัวรถ
  • บังโคลนหน้าหลังแบบตัดสั้น ช่วยให้ขนาดยางดูโดดเด่น สร้างภาพลักษณ์ที่หนักแน่น และสะดุดตายิ่งขึ้น
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Fat Boy รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,272,000 บาท
Breakout รุ่นปี 2025: ความโดดเด่นที่สะกดทุกสายตา
ด้วยสไตล์ชอปเปอร์ทรงยาว และเพรียวบาง Breakout คือรถมอเตอร์ไซค์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังกว่าใครบนท้องถนน ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 แบบ Custom อัดแน่นด้วยแรงบิด ส่งพลังตรงสู่ยางหลังขนาดใหญ่ 240 มม. ซึ่งอวดโฉมผ่านบังโคลนท้ายทรง bobtail ไม่ว่าโลดแล่นไปที่ไหน Breakout ก็จะสะกดทุกสายตา และฝากความประทับใจไว้ไม่รู้ลืม
  • เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Custom รุ่นใหม่  
  • ไฟหน้าใหม่แบบทรงกลมขนาด 5.75 นิ้ว มาแทนไฟหน้าทรงรีแบบเดิม เพิ่มลุคที่เฉียบคม และคลาสสิกยิ่งขึ้น
  • สี และกราฟิกใหม่ มาพร้อมลวดลายโลโก้ Bar and Shield แบบโมโนโครมลายจางบนถังน้ำมัน เสริมความเรียบหรูและเท่ในสไตล์ Ghosted & Faded โดยชิ้นส่วนที่ตกแต่งด้วยโครเมียมประกอบด้วย ท่อไอเสีย ฝาครอบด้านข้าง คอนโซลถังน้ำมัน โครงบังโคลนหลัง ฝาครอบกรองอากาศ กระจกมองข้าง ตัวโคมไฟหน้า
  • ยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม (หน้า 130/60B21, หลัง 240/40R18) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่ และการควบคุมรถ
  • ล้อหล่ออะลูมิเนียมแบบ 26 ซี่ เคลือบสีดำเงา Gloss Black กลึงหน้าเคลือบสีเงินโลหะเสริมความโดดเด่น
  • แฮนด์บาร์สแตนเลสทรง Drag พร้อมตัวยกแบบ Pull-back ยกระดับทั้งสไตล์และการควบคุม ให้ท่าทางการขับขี่ที่พอดีกับผู้ขับ
  • บังโคลนหลังแบบตัดสั้น (Bobbed) โชว์ยางหลังให้ดูดุดันและเต็มตายิ่งขึ้น
  • มุมองศาโช้คหน้า 36 องศา เติมเต็มสไตล์ชอปเปอร์แบบ Raked-out ให้กับรถมอเตอร์ไซค์  
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,262,000 บาท
Low Rider S  รุ่นปี 2025: ความห้าวหาญที่ส่งตรงจากโรงงาน 
Low Rider S คือ รถมอเตอร์ไซค์สุดยอดสมรรถนะ ออกแบบมาเพื่อนักขับขี่ที่มองหารถมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับขุมพลังเหนือขีดจำกัด ดีไซน์โดดเด่นถ่ายทอดไลฟ์สไตล์แบบ West Coast มาเต็มพิกัด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 H.O. ที่ให้สมรรถนะดุดันเหนือขีดจำกัด
  • เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 H.O. รุ่นใหม่  
  • ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมลวดลาย LED ที่ให้ความสว่างเพิ่มขึ้น
  • ตกแต่งภายนอกแบบปรับโฉมใหม่ พร้อมดีเทลสีแดง Performance Red บนฝาครอบกรองอากาศ, ฝาไทม์เมอร์, คลัตช์, derby cover และโลโก้ Bar & Shield บนกระเป๋าข้าง ล้อหล่ออะลูมิเนียม Radiate สีดำมาแทนล้อสีบรอนซ์แบบเดิม
  • โช้คหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มม. ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับส่วนหน้าของตัวรถ ทำให้การตอบสนองต่อการควบคุมพวงมาลัยดียิ่งขึ้น ระบบโช้กเดี่ยวด้านหลังที่ยกสูง ช่วยเพิ่มองศาการเอียงขณะเข้าโค้ง และยกระดับสมรรถนะในการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างมั่นใจ
  • ดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 300 มม. มอบพลังเบรกที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์ผู้ขับขี่สายดุดันโดยเฉพาะ
  • ยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม (ล้อหน้า 110/90B19, ล้อหลัง 180/70B16) เพิ่มทั้งความมั่นใจในการขับขี่ และการควบคุมรถที่เฉียบคมยิ่งขึ้น
  • แฟริ่งหน้าขนาดเล็กแบบเข้าชุดสีตัวรถ กรอบล้อมรอบไฟหน้า ช่วยลดแรงลมเมื่อขับด้วยความเร็วบนทางหลวง
  • เบาะนั่งเดี่ยวทรงลึก ช่วยยึดผู้ขับให้อยู่กับที่ในช่วงเร่งเครื่องหรือเข้าโค้งอย่างมั่นใจ
  • แฮนด์มอเตอร์ไซค์ขนาด 1 นิ้ว ติดตั้งบนตัวยกแบบ Pull-back สูง 4 นิ้ว สไตล์ Club Bike ที่ช่วยให้ท่าทางการขับขี่ดูดุดันหนักแน่นยิ่งขึ้น
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider S รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,171,000 บาท
Low Rider ST รุ่นปี 2025: ทุกองค์ประกอบสะท้อนตัวตน
รถมอเตอร์ไซค์สายสปอร์ตทัวร์ริ่งที่มาพร้อมกับสไตล์ Harley-Davidson อย่างแท้จริง โดยรถรุ่น Low Rider ST  เหมาะกับการขับขี่ท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V-Twin สไตล์อเมริกัน สำหรับนักขับขี่ที่หลงใหลสไตล์ West Coast แบบเรียบง่ายเฉียบคม ทรงพลังและพร้อมจะออกเดินทางไปในทุกที่
  • เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 H.O. รุ่นใหม่  
  • ท่อไอเสียเดี่ยวดีไซน์ใหม่ ช่วยให้กระเป๋าข้างดูสมมาตรลงตัว พร้อมความจุที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋าด้านขวา มาพร้อมกับทรงสวยแบบเปลือกหอย Clam-shell  สามารถล็อกได้ถอดและติดตั้งได้ง่าย ติดตั้งไว้บนตำแหน่งสูงเหนือท่อไอเสียเพื่อเสริมลุคสุดยอดสมรรถนะของรุ่น Low Rider ST โดยมีความจุสัมภาระรวมทั้งสองข้าง: 56.6 ลิตร (2.0 ลูกบาศก์ฟุต)
  • ตกแต่งภายนอกแบบปรับโฉมใหม่ พร้อมดีเทลสีแดง Performance Red บนฝาครอบกรองอากาศ, ฝาไทม์เมอร์, คลัตช์, derby cover และโลโก้ Bar & Shield บนกระเป๋าข้าง ล้อหล่ออะลูมิเนียม Radiate สีดำมาแทนล้อสีบรอนซ์แบบเดิม
  • Chrome Trim Option เพิ่มทางเลือกตกแต่งด้วยโครเมียมเงางามบนล้อ Radiate, ท่อไอเสีย, ฝาครอบกรองอากาศ, ฝา Rocker, ฝาไทม์เมอร์, คลัตช์ และ derby cover, โลโก้กระเป๋าข้าง, แฮนด์, ตัวยกแฮนด์, คอนโซล และกระจกมองข้าง ชุดแต่งโครเมียมยังมาพร้อมกราฟิก "ปีก" บนถังน้ำมันแบบ wet-slide ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น Tour Glide™ ปี 1981
  • ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมลวดลาย LED ที่ให้ความสว่างเพิ่มขึ้น
  • โช้คหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มม. ช่วยเพิ่มความแข็งแรงด้านหน้าของรถ และตอบสนองการควบคุมได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ระบบโช้กเดี่ยวด้านหลังที่ยกสูง ช่วยเพิ่มองศาการเอียงขณะเข้าโค้ง และยกระดับสมรรถนะในการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างมั่นใจ
  • ดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 300 มม. มอบพลังเบรกที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์ผู้ขับขี่สายดุดันโดยเฉพาะ
  • ยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม (หน้า 110/90B19, หลัง 180/70B16) เพิ่มทั้งความมั่นใจในการขับขี่และการควบคุมรถที่เฉียบคมยิ่งขึ้น
  • แฟริ่งติดเฟรม ได้แรงบันดาลใจจากแฟริ่งรุ่นคลาสสิก FXRT Sport Glide™ ซึ่งได้รับความนิยมจากสายคัสตอมฝั่ง West Coast ช่องลมแบบช่องเดี่ยวและช่องแยกแบบ Softail Cruiser ช่วยลดแรงปะทะของลมที่หมวกกันน็อกขณะขับขี่ด้วยความเร็วบนทางด่วน
  • เบาะนั่งเดี่ยวทรงลึก ช่วยยึดผู้ขับให้อยู่กับที่ในช่วงเร่งเครื่องหรือเข้าโค้งอย่างมั่นใจ
  • แฮนด์มอเตอร์ไซค์ขนาด 1 นิ้ว ติดตั้งบนตัวยกแบบ Pull-back สูง 4 นิ้ว สไตล์ Club Bike ที่ช่วยให้ท่าทางการขี่ดูดุดันและแน่นหนามากยิ่งขึ้น
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider ST รุ่นปี 2025 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท
 
ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson Cruiser 117 รุ่นปี 2025 จะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ ที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson ทั่วประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson เพื่อทดลองขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงบริการให้คำแนะนำสำหรับการคัสตอม และข้อมูลอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่ทั้งหมด และยังมีไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2025 และพร้อมจำหน่ายในประเทศไทย มีดังนี้ 
  • Street Glide Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 1,715,000 บาท
  • CVO Street Glide ราคาเริ่มต้นที่ 3,191,000 บาท
  • CVO Road Glide ราคาเริ่มต้นที่ 3,246,000 บาท
  • CVO Road Glide ST ราคาเริ่มต้นที่ 3,439,000 บาท
  • Street Bob ราคาเริ่มต้นที่ 889,000 บาท
  • Heritage Classic ราคาเริ่มต้นที่ 1,136,000 บาท
  • Fat Boy ราคาเริ่มต้นที่ 1,272,000 บาท
  • Breakout ราคาเริ่มต้นที่ 1,262,000 บาท
  • Low Rider S ราคาเริ่มต้นที่ 1,171,000 บาท
  • Low Rider ST ราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท
  • Sportster S ราคาเริ่มต้นที่ 638,000 บาท
  • Nightster (สี Snake Venom) ราคาเริ่มต้นที่ 527,000 บาท
 
ติดตามข่าวสารอัพเดทของ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ได้ที่    
www.harley-davidson.com   

FB: @HarleyDavidsonAsia   
IG: @HarleyDavidson_Asia   
YT: Harley-Davidson Asia    
TikTok: @HarleyDavidson_Asia  
LINE Official: @HarleyDavidsonTH  
แท็กที่เกี่ยวข้อง MILWAUKEE-EIGHT 117 harley-davidson HarleyDavidsonAsia UnitedWeRide HDCruisers HDCruisers117 35YearsOfFatBoy
Motorbike Guru
เขียนโดย วโรดม อิ้วลันตา Motorbike Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่

แนะนำ Big bike ล่าสุด

ดูทั้งหมด
Suzuki | Burgman
ซูซูกิ Suzuki Burgman 400 ABS ปี 2024
Honda | Forza
ฮอนด้า Honda Forza 350 Special Edition H2C by Honda ปี 2025
Kawasaki | Ninja
คาวาซากิ Kawasaki Ninja ZX-6R ปี 2025
Yamaha | XMAX
ยามาฮ่า Yamaha XMAX Connected ปี 2025
Triumph | Tiger
ไทรอัมพ์ Triumph Tiger Sport 660 ปี 2025
Harley-Davidson | Pan America 1250
ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน Harley-Davidson Pan America 1250 ST ปี 2025
Ducati | Panigale
ดูคาติ Ducati Panigale V2 ปี 2025
Honda | ADV
ฮอนด้า Honda ADV 350 (Standard) ปี 2025



เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)