Harley-Davidson จัดงานเปิดตัว
BEYOND THE ORDINARY POWERED BY 2025 HARLEY-DAVIDSON CRUISER 117 LINEUP อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการเผยโฉมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นปรับโฉมใหม่เหล่านี้ ถือเป็นรุ่นสานต่อตำนานแห่งดีไซน์ สมรรถนะ และนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson พร้อมยกระดับขุมพลังด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ V-Twin ขนาด 117 ที่ติดตั้งมาในทุกรุ่น
งานเปิดตัวสุดพิเศษในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ Factopia Studio โดยมีสื่อมวลชน เหล่าสมาชิก Harley-Davidson Freedom Crew อินฟลูเอนเซอร์ และตัวแทนจำหน่ายจากทั่วประเทศมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งโดยมี
มาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย เป็นผู้เปิดตัวไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นปี 2025 อย่างเป็นทางการ ประกอบด้วยรุ่น
Low Rider™ S,
Low Rider™ ST,
Breakout™,
Heritage Classic,
Fat Boy™ และ
Street Bob™ พร้อมกันนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก
กาย-รัชชานนท์ สุประกอบ หนึ่งในสมาชิก Freedom Crew มาร่วมดำเนินรายการอย่างเป็นกันเอง
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
นอกจากนี้ เหล่าผู้ร่วมงานยังได้ร่วมกันฉลองให้กับรถมอเตอร์ไซค์ระดับไอคอนิกรุ่น Fat Boy ในโอกาสครบรอบ 35 ปี โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ
Fat Boy™ Gray Ghost ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 1,990 คันทั่วโลก โดยคันที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ เป็นรถของลูกค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มีเพียงคันเดียวในประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสสุดพิเศษในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่ การเปิดตัวไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser 117 รุ่นปี 2025 ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Harley-Davidson ที่มีต่อตลาดประเทศไทย พร้อมส่งมอบความตื่นเต้นครั้งใหม่และแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักขับขี่และผู้หลงใหลในแบรนด์ โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser 6 รุ่นใหม่นี้ ล้วนสะท้อนถึงเป้าหมายของแบรนด์ในการผลักดันและสร้างความคึกคักให้กับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียอย่างต่อเนื่อง
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025
Harley-Davidson พลิกโฉมรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025 ระดับไอคอนนิกจำนวน 6 รุ่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ผสานกับสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับและดีไซน์อันทันสมัย โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser ทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 พร้อมด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ และโครงสร้าง Harley-Davidson Softail TM ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบโมโนช็อค (Monoshock) โดยไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025 ประกอบด้วยรุ่น Low Rider S, Low Rider ST, Breakout , Heritage Classic, Fat Boy, และ Street Bob ซึ่งรถแต่ละรุ่นล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่ความคลาสสิกย้อนยุคไปจนถึงสมรรถนะที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำ
.jpg.webp)
เปิดตัวขุมพลังใหม่ MILWAUKEE-EIGHT™ 117 สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025
รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระกูล Cruiser รุ่นปี 2025 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 รุ่นใหม่ล่าสุด 3 เวอร์ชั่น โดยได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ฝาสูบ ลิ้นปีกผีเสื้อไปจนถึงท่อร่วมไอดี พร้อมปรับจูนให้เหมาะสมกับเอกลักษณ์ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละรุ่น เพื่อมอบสมรรถนะ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว
ข้อมูลเครื่องยนต์ทั้ง 3 แบบ
- MILWAUKEE-EIGHT™ 117 CLASSIC (สำหรับรุ่น Street Bob™ และ Heritage Classic) เครื่องยนต์นี้ได้รับการปรับจูนให้มีแรงบิดที่เรียบเนียนต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง เน้นความง่ายในการควบคุม เสียงเครื่องยนต์โดดเด่นด้วยปลายท่อเดี่ยว และแอร์คลีนเนอร์ทรงกลมแบบดั้งเดิม ให้ประสบการณ์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson โดยรุ่นนี้ให้แรงบิดสูงสุดที่ 163 นิวตันเมตร (120 ปอนด์-ฟุต) และกำลังสูงสุด 98 แรงม้า (73 กิโลวัตต์) ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 114 รุ่นก่อนถึง 4% และแรงบิดเพิ่มขึ้น 1 ปอนด์-ฟุต (ตามสเปกสหรัฐฯ) พร้อมระบบไอเสียแบบ 2-ออก-1 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายไอเสียจากห้องเผาไหม้ได้ดีขึ้น
- MILWAUKEE-EIGHT™ 117 CUSTOM (สำหรับรุ่น Fat Boy™ และ Breakout™) ได้รับการปรับจูนเพื่อเน้นพลัง และแรงบิดที่เร้าใจ โดยมอบกำลังสูงสุดถึง 104 แรงม้า (78 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 171 นิวตันเมตร (126 ปอนด์-ฟุต) มากกว่าเครื่องยนต์รุ่น Classic ถึง 6% ในด้านพลัง และ 5% ในด้านแรงบิด (ตามสเปกสหรัฐฯ) เมื่อเปรียบเทียบกับ Fat Boy 114 รุ่นปี 2024เครื่องยนต์นี้ให้กำลังเพิ่มขึ้นถึง 11% และแรงบิดเพิ่มขึ้น 6% โดยมาพร้อมระบบไอเสียแบบ 2-ออก-2 แยกท่ออิสระ พร้อมหม้อกรองแยกเฉพาะในแต่ละท่อ ช่องอากาศขนาด 4 ลิตร ใหญ่กว่ารุ่นเดิมถึง 50% ช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ เสียงระบบไอดีลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เสียงท่อไอเสียโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
- MILWAUKEE-EIGHT™ 117 H.O. (HIGH OUTPUT) (สำหรับรุ่น Low Rider™ S และ Low Rider™ ST) ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะในรอบสูง พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่ดุดัน รุ่นนี้ให้กำลังสูงสุดถึง 114 แรงม้า (85 กิโลวัตต์) และแรงบิด 174 นิวตันเมตร (128 ปอนด์-ฟุต) เพิ่มขึ้นถึง 11% จากเครื่องยนต์ 117 รุ่นก่อนหน้า ที่ใช้ใน Low Rider S และ Low Rider ST รุ่นปี 2024
เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 รุ่นใหม่ ยกระดับ Redline เพิ่มจาก 5,600 rpm (ในรุ่น Classic และ Custom) เป็น 5,900 rpm ช่วยเพิ่มช่วงกำลังในจังหวะเร่ง ส่วนระบบไอดี Heavy Breather ที่หันหน้ารับลมตรง ช่วยเพิ่มโฟลว์ของอากาศเข้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมปรับเสียงให้กระหึ่ม เร้าใจขณะเร่งความเร็ว ระบบไอเสียแบบ 2-ออก-1 ยังช่วยปรับจูนเครื่องให้ขับขี่ได้นุ่มนวลในรอบเดินเบา และให้เสียงท่อดุดันเมื่อเร่งเครื่อง เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 ใหม่ทั้ง 3 แบบที่ใช้ในตระกูล Cruiser ยังสามารถยกระดับสมรรถนะเพิ่มเติมได้ด้วยชุด Screamin’ Eagle™ Stage Kits และชุดแต่ระบบไอดีและไอเสีย จาก Screamin’ Eagle ที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มศักยภาพได้มากกว่ารุ่น Milwaukee-Eight 114 และ 117 รุ่นเดิมในปี 2024 อย่างมีนัยสำคัญ

รถมอเตอร์ไซค์ Heritage Classic รุ่นปี 2025: ความโมเดิร์นในแบบคลาสสิก รถรุ่น Heritage Classic ปี 2025 คือ Cruiser อเมริกันในอุดมคติ ที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์สุดวินเทจ ในสไตล์ร็อกแอนด์โรล แม้จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิก แต่ Heritage Classic ปี 2025 ก็พัฒนามาเพื่อผู้ขับขี่ยุคใหม่ โดยรุ่นปรับโฉมนี้ ยังคงดีไซน์เหนือกาลเวลาของ Harley-Davidson ตระกูล Cruiser ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์ยุค 1950s ไว้ได้อย่างครบถ้วน
หัวใจหลักของ Heritage Classic รุ่นปี 2025 คือเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 117 Classic V-Twin รุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการปรับจูนเพิ่มแรงบิดรอบต่ำที่ทรงพลัง และการเร่งที่นุ่มนวลมั่นใจ ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือออกเดินทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์ ระบบไอเสียแบบใหม่ 2-ออก-1 และระบบไอดีรุ่นใหม่ ช่วยเติมเต็มสมดุลระหว่างดีไซน์คลาสสิกตามแบบฉบับดั้งเดิม และสมรรถนะทันสมัยได้อย่างลงตัว
- เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Classic รุ่นใหม่

- ท่อไอเสียเดี่ยวดีไซน์ใหม่ ช่วยให้กระเป๋าข้างดูสมมาตรลงตัว พร้อมความจุที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋าด้านขวา กระเป๋าทั้งสองข้างสามารถปิดสนิทและล็อกได้ ความจุสัมภาระรวมอยู่ที่ 45 ลิตร (1.6 ลูกบาศก์ฟุต)
- ลายเส้น Pinstripe (Paint Trajectory Pinstriping) ดีไซน์ใหม่ มีให้เลือกทุกเฉดสี รวมถึงสีแบบ ทูโทน Whiskey Fire ตัดกับ Vivid Black โดดเด่นด้วยลาย “Scallop” สไตล์ย้อนยุคบริเวณถังน้ำมัน และลายแยกบนบังโคลนหน้า-หลัง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ในยุค 1930s และ 1950s เสริมความคลาสสิกไปอีกระดับด้วยโลโก้ถังน้ำมันโครเมียมทรงเพชร พร้อมพื้นหลังลายรัศมีสีฟ้าแบบอะคริลิก ที่สะท้อนถึงตราสัญลักษณ์สุดคลาสสิกของ Harley-Davidson ในช่วงปลายยุค 1950s
- งานตกแต่งใหม่ผสมผสานโทนดำ และโครเมียม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น Heritage ในอดีต โดยใช้โทนดำในส่วนของท่อไอเสีย คอนโซล ล้อหน้า-หลัง โช้คอัพบน-ล่าง แฮนด์บาร์ และด้านล่างของชิลด์หน้า ส่วนเครื่องยนต์เป็นสีดำพร้อมครีบระบายความร้อนแบบปาดเงา ฝาครอบวาล์วและฝาครอบเครื่องใช้โครเมียม รวมถึงฝาครอบกรองอากาศแบบโครเมียม (ไม่มีตัวเลือกโครเมียมเต็มคันสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2025)

- ล้อแม็กหล่อ 9 ก้านสีดำดีไซน์ใหม่ ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น
- ล้อซี่ลวดแบบไม่ใช้ยางใน ดีไซน์แบบวินเทจที่มาพร้อมความสะดวกแบบใหม่ รองรับระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) และช่วยลดน้ำหนักจากการไม่ต้องใช้ยางในแบบล้อซี่ลวดดั้งเดิม
- ชิลด์หน้าขนาดเต็มแบบถอดได้ พร้อมดีไซน์ช่วงล่างสีเข้ม เสริมความคลาสสิกและปกป้องลมขณะขับขี่
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Heritage Classic รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,136,000 บาท
Street Bob รุ่นปี 2025: เกิดมาเพื่อเป็นคุณ รถมอเตอร์ไซค์ Street Bob มีน้ำหนักเบาและปราดเปรียว เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยพลังจากเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Classic รุ่นใหม่ รถมอเตอร์ไซค์ Cruiser ทรงเพรียวคันนี้ช่วยให้ควบคุมรถได้คล่องตัว พร้อมมอบพลังขับเคลื่อนที่เกินขีดจำกัดและดีไซน์อันดุดัน ตั้งแต่แฮนด์บาร์ทรง mini apes จนถึงบังโคลนหลังแบบตัด รถมอเตอร์ไซค์ Street Bob เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่รวมไว้ทั้งสไตล์ สมรรถนะ และความขับขี่ที่ลงตัวในคันเดียว
- เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Classic รุ่นใหม่
- มาพร้อมโลโก้ถังน้ำมันแบบ “Stretched Diamond” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานต้นฉบับของ Willie G. ในปี 1966 แทนที่กราฟิกแบบ wet-slide เดิม เสริมความโดดเด่นด้วยงานตกแต่งโครเมียมเงาบนท่อไอเสีย, ฝาครอบกรองอากาศ, ฝาวาล์ว และฝาครอบเครื่องยนต์ ผสมผสานกับชิ้นส่วนโทนดำด้านอย่างโครงยึดบังโคลนหลัง, ขอบล้อ, แฮนด์บาร์ และโคมไฟหน้า เพื่อให้ได้ลุคที่ทั้งคลาสสิก และร่วมสมัย
- ล้อซี่ลวดแบบไม่ใช้ยางใน ดีไซน์แบบวินเทจที่มาพร้อมความสะดวกแบบใหม่ รองรับระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) และช่วยลดน้ำหนักจากการไม่ต้องใช้ยางในแบบล้อซี่ลวดดั้งเดิม
- ล้อมาตรฐานแบบ Annihilator ล้อหล่ออะลูมิเนียมเคลือบสีดำ
- ถังน้ำมันเพรียวบางขนาด 3.5 แกลลอน
- บังโคลนหลังดีไซน์สั้นสไตล์ Chopped
- เบาะนั่งเดี่ยว พร้อมเบาะเสริมสำหรับผู้ซ้อน
- แฮนด์บาร์ทรง Mini-ape ยกสูง พร้อมปะทะลมขณะขับขี่
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Bob รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 889,000 บาท
Fat Boy รุ่นปี 2025: หมัดน็อคเอาท์จากรุ่นเฮวี่เวต นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปี 1990 Harley-Davidson Fat Boy ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณอันทรงพลังของรถสองล้อ และในปี 2568 อันเป็นวาระครบรอบปีที่ 35 ของรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานรุ่นนี้ Harley-Davidson ได้อัปเกรดดีไซน์ และสมรรถนะ โดยยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณดั้งเดิมของแบรนด์ และภาพลักษณ์ในวัฒนธรรมป๊อป รวมถึงความเป็นไอคอนสายคัสตอมสุดโดดเด่น ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดัน ล้อ Lakester™ และโครงไฟหน้าแบบเฉพาะตัว ทำให้ Fat Boy ยังคงเป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์สุดทรงพลังและโดดเด่นที่สุดในไลน์อัพของ Harley-Davidson
.jpg.webp)
- เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Custom รุ่นใหม่
- มาพร้อมกับเฉดสี และกราฟิกใหม่ โดดเด่นด้วยตราสัญลักษณ์โครเมียมบนถังน้ำมัน ดีไซน์ดาวตรงกลางและปีกพาดท้าย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Fat Boy โดยเฉพาะ พร้อมเพิ่มลายเส้นและเฉดสีแบบทูโทนใหม่ล่าสุด และสร้างความสะดุดตาด้วยคู่สีตัดกันระหว่าง Vivid Black และ Whiskey Fireนอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมโครเมียมเงางามในหลายจุด เช่น ท่อไอเสีย โครงบังโคลนหลัง ฝาครอบเครื่องยนต์และ Rocker Box คอนโซลถังน้ำมัน ฝาครอบกรองอากาศ
- ยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม (หน้า 160/60R18, หลัง 240/40R18) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และการควบคุมรถ
- ล้อหล่ออะลูมิเนียมดีไซน์พิเศษแบบ Lakester ตอกย้ำความแข็งแกร่ง และพลังของตัวรถ
- บังโคลนหน้าหลังแบบตัดสั้น ช่วยให้ขนาดยางดูโดดเด่น สร้างภาพลักษณ์ที่หนักแน่น และสะดุดตายิ่งขึ้น
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Fat Boy รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,272,000 บาท
Breakout รุ่นปี 2025: ความโดดเด่นที่สะกดทุกสายตา ด้วยสไตล์ชอปเปอร์ทรงยาว และเพรียวบาง Breakout คือรถมอเตอร์ไซค์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังกว่าใครบนท้องถนน ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 แบบ Custom อัดแน่นด้วยแรงบิด ส่งพลังตรงสู่ยางหลังขนาดใหญ่ 240 มม. ซึ่งอวดโฉมผ่านบังโคลนท้ายทรง bobtail ไม่ว่าโลดแล่นไปที่ไหน Breakout ก็จะสะกดทุกสายตา และฝากความประทับใจไว้ไม่รู้ลืม
- เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 Custom รุ่นใหม่
- ไฟหน้าใหม่แบบทรงกลมขนาด 5.75 นิ้ว มาแทนไฟหน้าทรงรีแบบเดิม เพิ่มลุคที่เฉียบคม และคลาสสิกยิ่งขึ้น
- สี และกราฟิกใหม่ มาพร้อมลวดลายโลโก้ Bar and Shield แบบโมโนโครมลายจางบนถังน้ำมัน เสริมความเรียบหรูและเท่ในสไตล์ Ghosted & Faded โดยชิ้นส่วนที่ตกแต่งด้วยโครเมียมประกอบด้วย ท่อไอเสีย ฝาครอบด้านข้าง คอนโซลถังน้ำมัน โครงบังโคลนหลัง ฝาครอบกรองอากาศ กระจกมองข้าง ตัวโคมไฟหน้า
- ยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม (หน้า 130/60B21, หลัง 240/40R18) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่ และการควบคุมรถ
- ล้อหล่ออะลูมิเนียมแบบ 26 ซี่ เคลือบสีดำเงา Gloss Black กลึงหน้าเคลือบสีเงินโลหะเสริมความโดดเด่น
- แฮนด์บาร์สแตนเลสทรง Drag พร้อมตัวยกแบบ Pull-back ยกระดับทั้งสไตล์และการควบคุม ให้ท่าทางการขับขี่ที่พอดีกับผู้ขับ
- บังโคลนหลังแบบตัดสั้น (Bobbed) โชว์ยางหลังให้ดูดุดันและเต็มตายิ่งขึ้น
- มุมองศาโช้คหน้า 36 องศา เติมเต็มสไตล์ชอปเปอร์แบบ Raked-out ให้กับรถมอเตอร์ไซค์
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,262,000 บาท
Low Rider S รุ่นปี 2025: ความห้าวหาญที่ส่งตรงจากโรงงาน Low Rider S คือ รถมอเตอร์ไซค์สุดยอดสมรรถนะ ออกแบบมาเพื่อนักขับขี่ที่มองหารถมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับขุมพลังเหนือขีดจำกัด ดีไซน์โดดเด่นถ่ายทอดไลฟ์สไตล์แบบ West Coast มาเต็มพิกัด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 H.O. ที่ให้สมรรถนะดุดันเหนือขีดจำกัด
- เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 H.O. รุ่นใหม่
- ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมลวดลาย LED ที่ให้ความสว่างเพิ่มขึ้น
- ตกแต่งภายนอกแบบปรับโฉมใหม่ พร้อมดีเทลสีแดง Performance Red บนฝาครอบกรองอากาศ, ฝาไทม์เมอร์, คลัตช์, derby cover และโลโก้ Bar & Shield บนกระเป๋าข้าง ล้อหล่ออะลูมิเนียม Radiate สีดำมาแทนล้อสีบรอนซ์แบบเดิม
- โช้คหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มม. ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับส่วนหน้าของตัวรถ ทำให้การตอบสนองต่อการควบคุมพวงมาลัยดียิ่งขึ้น ระบบโช้กเดี่ยวด้านหลังที่ยกสูง ช่วยเพิ่มองศาการเอียงขณะเข้าโค้ง และยกระดับสมรรถนะในการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างมั่นใจ
- ดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 300 มม. มอบพลังเบรกที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์ผู้ขับขี่สายดุดันโดยเฉพาะ
- ยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม (ล้อหน้า 110/90B19, ล้อหลัง 180/70B16) เพิ่มทั้งความมั่นใจในการขับขี่ และการควบคุมรถที่เฉียบคมยิ่งขึ้น
- แฟริ่งหน้าขนาดเล็กแบบเข้าชุดสีตัวรถ กรอบล้อมรอบไฟหน้า ช่วยลดแรงลมเมื่อขับด้วยความเร็วบนทางหลวง
- เบาะนั่งเดี่ยวทรงลึก ช่วยยึดผู้ขับให้อยู่กับที่ในช่วงเร่งเครื่องหรือเข้าโค้งอย่างมั่นใจ
- แฮนด์มอเตอร์ไซค์ขนาด 1 นิ้ว ติดตั้งบนตัวยกแบบ Pull-back สูง 4 นิ้ว สไตล์ Club Bike ที่ช่วยให้ท่าทางการขับขี่ดูดุดันหนักแน่นยิ่งขึ้น
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider S รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,171,000 บาท
Low Rider ST รุ่นปี 2025: ทุกองค์ประกอบสะท้อนตัวตน รถมอเตอร์ไซค์สายสปอร์ตทัวร์ริ่งที่มาพร้อมกับสไตล์ Harley-Davidson อย่างแท้จริง โดยรถรุ่น Low Rider ST เหมาะกับการขับขี่ท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V-Twin สไตล์อเมริกัน สำหรับนักขับขี่ที่หลงใหลสไตล์ West Coast แบบเรียบง่ายเฉียบคม ทรงพลังและพร้อมจะออกเดินทางไปในทุกที่
- เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 H.O. รุ่นใหม่
- ท่อไอเสียเดี่ยวดีไซน์ใหม่ ช่วยให้กระเป๋าข้างดูสมมาตรลงตัว พร้อมความจุที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋าด้านขวา มาพร้อมกับทรงสวยแบบเปลือกหอย Clam-shell สามารถล็อกได้ถอดและติดตั้งได้ง่าย ติดตั้งไว้บนตำแหน่งสูงเหนือท่อไอเสียเพื่อเสริมลุคสุดยอดสมรรถนะของรุ่น Low Rider ST โดยมีความจุสัมภาระรวมทั้งสองข้าง: 56.6 ลิตร (2.0 ลูกบาศก์ฟุต)
- ตกแต่งภายนอกแบบปรับโฉมใหม่ พร้อมดีเทลสีแดง Performance Red บนฝาครอบกรองอากาศ, ฝาไทม์เมอร์, คลัตช์, derby cover และโลโก้ Bar & Shield บนกระเป๋าข้าง ล้อหล่ออะลูมิเนียม Radiate สีดำมาแทนล้อสีบรอนซ์แบบเดิม
.jpg.webp)
- Chrome Trim Option เพิ่มทางเลือกตกแต่งด้วยโครเมียมเงางามบนล้อ Radiate, ท่อไอเสีย, ฝาครอบกรองอากาศ, ฝา Rocker, ฝาไทม์เมอร์, คลัตช์ และ derby cover, โลโก้กระเป๋าข้าง, แฮนด์, ตัวยกแฮนด์, คอนโซล และกระจกมองข้าง ชุดแต่งโครเมียมยังมาพร้อมกราฟิก "ปีก" บนถังน้ำมันแบบ wet-slide ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น Tour Glide™ ปี 1981
- ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมลวดลาย LED ที่ให้ความสว่างเพิ่มขึ้น
- โช้คหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มม. ช่วยเพิ่มความแข็งแรงด้านหน้าของรถ และตอบสนองการควบคุมได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ระบบโช้กเดี่ยวด้านหลังที่ยกสูง ช่วยเพิ่มองศาการเอียงขณะเข้าโค้ง และยกระดับสมรรถนะในการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างมั่นใจ
- ดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 300 มม. มอบพลังเบรกที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์ผู้ขับขี่สายดุดันโดยเฉพาะ
- ยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม (หน้า 110/90B19, หลัง 180/70B16) เพิ่มทั้งความมั่นใจในการขับขี่และการควบคุมรถที่เฉียบคมยิ่งขึ้น
- แฟริ่งติดเฟรม ได้แรงบันดาลใจจากแฟริ่งรุ่นคลาสสิก FXRT Sport Glide™ ซึ่งได้รับความนิยมจากสายคัสตอมฝั่ง West Coast ช่องลมแบบช่องเดี่ยวและช่องแยกแบบ Softail Cruiser ช่วยลดแรงปะทะของลมที่หมวกกันน็อกขณะขับขี่ด้วยความเร็วบนทางด่วน
- เบาะนั่งเดี่ยวทรงลึก ช่วยยึดผู้ขับให้อยู่กับที่ในช่วงเร่งเครื่องหรือเข้าโค้งอย่างมั่นใจ
- แฮนด์มอเตอร์ไซค์ขนาด 1 นิ้ว ติดตั้งบนตัวยกแบบ Pull-back สูง 4 นิ้ว สไตล์ Club Bike ที่ช่วยให้ท่าทางการขี่ดูดุดันและแน่นหนามากยิ่งขึ้น
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider ST รุ่นปี 2025 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท
ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson Cruiser 117 รุ่นปี 2025 จะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ ที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson ทั่วประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson เพื่อทดลองขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงบริการให้คำแนะนำสำหรับการคัสตอม และข้อมูลอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่ทั้งหมด และยังมีไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2025 และพร้อมจำหน่ายในประเทศไทย มีดังนี้
- Street Glide Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 1,715,000 บาท
- CVO Street Glide ราคาเริ่มต้นที่ 3,191,000 บาท
- CVO Road Glide ราคาเริ่มต้นที่ 3,246,000 บาท
- CVO Road Glide ST ราคาเริ่มต้นที่ 3,439,000 บาท
- Street Bob ราคาเริ่มต้นที่ 889,000 บาท
- Heritage Classic ราคาเริ่มต้นที่ 1,136,000 บาท
- Fat Boy ราคาเริ่มต้นที่ 1,272,000 บาท
- Breakout ราคาเริ่มต้นที่ 1,262,000 บาท
- Low Rider S ราคาเริ่มต้นที่ 1,171,000 บาท
- Low Rider ST ราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท
- Sportster S ราคาเริ่มต้นที่ 638,000 บาท
- Nightster (สี Snake Venom) ราคาเริ่มต้นที่ 527,000 บาท
ติดตามข่าวสารอัพเดทของ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ได้ที่
www.harley-davidson.com FB: @HarleyDavidsonAsia
IG: @HarleyDavidson_Asia
YT: Harley-Davidson Asia
TikTok: @HarleyDavidson_Asia
LINE Official: @HarleyDavidsonTH