รวมมอเตอร์ไซค์ประหยัดน้ำมันมากที่สุด ประจำเดือน สิงหาคม 2567

 

 

Honda LEAD 125 รถออโตเมติกรุ่นใหม่ล่าสุด สร้างเทรนด์ใหม่สำหรับการใช้ชีวิตของคนเมืองที่เน้นความเรียบหรู ในสไตล์มินิมอล แต่เปี่ยมไปด้วยความล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ และฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ อย่างลงตัว มีให้เลือก 4 เฉดสี ได้แก่ สีดำ, สีขาว, สีแดง และสีน้ำเงิน มาพร้อมเครื่องยนต์ eSP+ 125 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ 
 
ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Lead 125 ได้แก่ ไฟหน้า Modern Ring LED, U-Box ขนาดใหญ่ 37 ลิตร, Honda SMART KEY, USB Socket & Console Box, หน้าปัดเรือนไมล์ Multi-Function Meter

 

 

 

 

Yamaha Fazzio Hybrid มาพร้อมเครื่องยนต์บลูคอร์ 125 ซีซี ผสานระบบส่งกำลังแบบไฮบริด ให้อัตราเร่งดีเยี่ยม ช่วยลดมลภาวะ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยส่งกำลังขณะออกตัวและให้ความมั่นใจด้วยระบบเบรก UBS กระจายแรงเบรกอัตโนมัติ ช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลง ให้ความปลอดภัยยิ่งขึ้น 
 
Fazzio Hybrid มาพร้อมการดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ ทันสมัย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วย DESIGN NEW STYLE ไฟหน้า-ไฟท้าย ดีไซน์แคปซูล รูปทรงเก๋ ทันสมัย สว่างชัดเจน ทุกมุมมอง ที่สอดรับกับ LCD DIGITAL METER มิเตอร์แบบดิจิทัล ดีไซน์แคปซูล บอกครบทุกฟังก์ชัน ความเร็ว / นาฬิกา / อัตราการประหยัดน้ำมัน  ในรุ่นที่สูงกว่าจะประกอบด้วยออพชั่นที่น่าสนใจอย่างรุ่น Smart Key 
 
บทความที่เกี่ยวข้อง Yamaha Fazzio Hybrid

 

อัตราสิ้นเปลือง 66.7 กม./ลิตร (ภายใต้มาตรฐานไอเสียระดับ 7 โดยสถาบันยานยนต์)

 

 

Suzuki Smash 115 Fi มาพร้อมกับเครื่องยนต์สุดประหยัดตัวจริง ขนาด 113 ซีซี ทำงานร่วมกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ หัวฉีด Fi อัจฉริยะ พร้อม LEaP Technology ผสานกับระบบเกียร์โรตารี่ 4 ระดับ ให้แรงบิดที่ดีในรอบต่ำและกลางเป็นเยี่ยม แต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ขับขี่ง่าย ให้ความคล่องตัว เพิ่มความเท่ด้วยลายกราฟฟิกใหม่โดนใจ มีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน รูปโฉมโฉบเฉี่ยว เพรียวบาง จนใคร ๆ ต้องเหลียวมอง ในรุ่นที่สูงกว่าจะให้ออพชั่นเพิ่มขึ้น ได้แก่ สตาร์ทมือ ดิสก์เบรค ล้อแม็ค ระบบกุญแจนิรภัย
 

อัตราสิ้นเปลือง 76.9 กม./ลิตร (ภายใต้มาตรฐานไอเสียระดับ 7 โดยสถาบันยานยนต์)

 

 

Honda Wave 110i มาพร้อมความประหยัด แรง ทนทาน กับขุมพลัง Honda Smart Engine ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 110 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI พร้อมระบบสตาร์ทเท้า จับคู่กับเกียร์วน 4 ระดับ ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 76.9 กม./ลิตร วิ่งได้ไกลอย่างต่อเนื่องด้วย Fuel Tank ความจุ 5 ลิตร ทั้งยังใช้งานสะดวกด้วยหน้าปัดเรือนไมล์แบบ Digital และกล่อง U-box ขนาดใหญ่ 10 ลิตรเก็บของได้อย่างจุใจ
 
สำหรับ Wave 110i มีรุ่นย่อยหลายรุ่น เริ่มตั้งแต่รุ่นล้อซี่ลวด ดรัมเบรค สตาร์ทเท้า หากเป็นรุ่นที่สูงขึ้นจะมีออพชันอย่าง ดิสก์เบรคหน้า ล้อแม็ก ระบบสตาร์ทมือ โดยรุ่นท็อปอย่าง Honda Wave 110i รุ่นล้อแม็ก สตาร์ตมือ ดิสก์เบรก จะมีราคาที่ 46,400 บาท นอกจากนี้ยังมีรุ่น Wave 125i ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า ออพชันที่เหนือกว่า รวมถึงราคาที่แพงกว่า โดยมีราคาอยู่ระหว่าง 55,200 - 57,400 บาท 
 
บทความที่เกี่ยวข้อง Honda Wave

 

 

Yamaha Finn มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 115 ซีซี ลูกสูบเดี่ยว SOHC จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอัจฉริยะ ควบคุมด้วยสมองกล ECU สั่งจ่ายน้ำมันได้อย่างประหยัด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับการใช้น้ำมัน E20 คุ้มค่าด้วยการรับประกันมากถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
 
หากเพิ่มเงินไปยังรุ่นที่สูงกว่า จะมีออพชั่นที่เพิ่มขึ้นมาอย่าง ดิสก์เบรคหน้า ล้อแม็ก และถ้าข้ามมายังรุ่นท็อปอย่าง Yamaha FINN UBS Version จะมีระบบกระจายแรงเบรค UBS มาให้ ในราคาค่าตัว 48,700 บาท เท่านั้น

 

 

---

• ราคาที่ระบุข้างต้นเป็นการค้นหาข้อมูลมาจากเว็บไซต์ของมอเตอร์ไซค์แต่ละแบรนด์ ณ วันที่ทำบทความ ดังนั้นราคาดังกล่าวจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และโปรดสอบถาม หรือตรวจสอบราคาล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับรุ่นนั้น ๆ อีกครั้ง
• ข้อมูลสินค้าที่จัดอันดับข้างต้นนี้เป็นข้อมูลสินค้า ณ เดือนสิงหาคม 2567 และเมื่อเวลาผ่านไปลำดับเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับข้อมูลสินค้าที่เปลี่ยนไป
• บทความนี้เป็นเพียงการแนะนำรุ่นรถที่น่าสนใจบนดุลยพินิจของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ใช่การจัดลำดับ หรือสามารถนำไปใช้ในการอ้างอิงใด ๆ ได้