Test on road ฮอนด้า 750 series 2 รุ่นใหม่ Transalp และ Hornet

ไทยฮอนด้า เชิญสื่อสายจักรยานยนต์และทีมงานเพจ Motorbikeguru เว็บไซต์ Checkraka.com ร่วมกิจกรรมทดสอบขี่ Honda Bigbike 750 Series ซึ่งมีรุ่น XL750 Transalp และ CB750 Hornet โดยขี่ไปบนเส้นทาง กรุงเทพฯ-พัทยา  ระหว่างวันที่ 5-6 ตุลาคม 2566

ทีมสื่อมวลชนทดสอบพร้อมกันที่ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพ โดยมีการแบ่งเป็นรอบสลับขี่ตามช่วงเวลาและรุ่นรถ ผู้เขียนได้ไปขี่ในช่วงบ่าย โดยไปรอสลับขี่รุ่น  XL750 Transalp กลับกลุ่มแรกหลังพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านไก่หุบบอน ก็แต่งตัวขี่ไปตามออนโร้ดได้ไม่นานก็ตัดเข้าสู่เส้นทางออฟโร้ดที่ผิวเส้นทางเป็นดินแข็ง ทราย โคลน บางช่วงเป็นซิ้งเกิ้ลแทร็คผ่านป่ารกครึ้ม เส้นทางวิ่งมีออนโร้ดน้อยมา ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างชลบุรี - ระยอง ช่วงท้ายผ่านอ่างเก็บน้ำคลองบางใหญ่ ก่อนไปพักดื่มกาแฟที่ร้าน remind cafe บางละมุง ชลบุรี การขี่ได้ใช้โหมด สแตนดาร์ด สลับกับ Gravel พร้อมปรับแต่งเพิ่มเติมได้เองไม่ว่าการเพิ่มลดระบบแทร็คชัน ปิดเบรกเอบีเอสล้อหลัง การขี่โดยรวมไม่ได้ใช้ความเร็วมาก ทางเนินชันขึ้นลงแทบไม่มี ส่วนใหญ่เป็นทางราบที่พื้นผิวลื่นสลับถนน พอสรุปหลังขี่เบื้องต้นได้ดังนี้ ท่านั่งบน XL750 Transalp บนขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 750 ซีซีนั้น นับว่าสบายควบคุมตัวรถง่าย ความยาวและองศาแฮนด์ลงตัวกับผู้เขียน (172 cm)มาก ไม่รวมรองเท้าบูธ จอเรือนไมล์ TFT ขนาด 5 นิ้วมองได้ชัดเจนทั้งออกแดดและในร่มไม้ การเลือกปรับโหมดด้วยปุ่มควบคุมบนแฮนด์ด้านซ้ายทำได้สะดวก และเข้าใจง่าย การงัดเกียร์ขึ้นลงก็ไม่มีอะไรติดขัดแม้ขณะยืนขี่บนทางลูกรัง เส้นทางการขี่ทดสอบอาจไม่ได้โหดมากเหมือนเอนดูโร่แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับ XL750 Transalp สแตนดาร์ดยางเดิมแสดงให้เห็นว่ารถมีความพร้อมในด้านแอดเวนเจอร์ทั่วไปจริงๆ อัตราสิ้นเปลืองจากตัวเลขบนหน้าจอคิดคำนวนไว้ได้ราว 21 กม./ล. นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจกับเครื่องยนต์คลาสนี้และขี่ในสภาวะแบบนี้ ส่วนที่อยากให้ปรับแต่งเพิ่มเวลาขี่ทางออฟโร้ดก็น่าจะเป็นแผ่นรองเข่าติดถังน้ำมันเพราะเดิมๆ ค่อนข้างลื่น ส่วนตัวเองก็คงปรับเปลี่ยนบังลมหน้าให้สูงกว่านี้ นอกนั้นโดยรวมนับว่าดีและคุ้มค่าตัว 394,000 บาท (สีขาว)

วันที่สองผู้เขียนได้ขี่รุ่น CB750 Hornet เน็กเกตไบค์ที่ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกันขนาด 750 ซีซี 2 สูบเรียง ซึ่งให้อารมณ์สปอร์ตสตรีทที่มากับแรงบิดที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่รอบต่ำ ขี่ง่ายไม่ต่างจาก XL750 Transalp ความแตกต่างที่ชัดเจนนอกจากรูปทรงและประเภทของรถแล้ว โหมดที่ให้มาก็มี Sport, Standard, Rain และ User ซึ่งไม่มี Gravel เท่านั้นเอง ผู้เขียนนั่งรถมารอสลับขี่ในช่วงบ่ายเหมือนวันแรกโดยมารอเปลี่ยนมือที่ Pagoda Hill Cafe’ ชลบุรี แล้วขี่กลับยาวเข้า ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพ การขี่บนถนนในเมืองหรือชานเมือง CB750 Hornet ให้ความสนุกไปพร้อมกับขุมพลังและการแฮนเดิลลิ่งตัวรถ การเข้าโค้งความเร็วทำได้ดี แต่บนพื้นผิวที่มีทรายหรือเศษดินตัวรถก็ออกอาการสลิปที่ล้อหลังให้รู้สึกอยู่ และชัดเจนมากขึ้นในช่วงที่ขี่บนถนนเปียกลื่นหลังมีฝนตกลงมา แม้เป็นการขี่ทางตรงก็มีอาการให้รับรู้เป็นบางจังหวะอาจเป็นเพราะยางที่ให้เป็นแบบสปอร์ตเน้นทางแห้งมากกว่า เอาเป็นว่าใครที่มองหาบิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตสตรีทในราคาไม่เกิน 4 แสนบาท CB750 Hornet ที่เป็นโมเดลใหม่หมด เครื่องยนต์ก็บล็อคใหม่ ก็น่าจะตอบโจทย์ความคุ้มค่าลงตัวระของคนที่อยากได้ความแรงที่มากกว่า 650 ซีรี่ส์อีกหน่อย แต่ราคายังคงจับต้องได้ง่ายเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ XL750 Transalp ถ้าคิดว่า 500X ไม่พอมือ NC750 ก็ยังไม่ใช้ตัวเลือกในการขี่ลุยบ้าง CRF 1100L Africa Twin ก็ราคาแรงเกินงบไปเยอะ Transalp เป็นคำตอบที่ชัดเจนมาก ยิ่งเทียบกับคู่แข่งในคลาสเดียวกันที่ราคาเกือบ 5 แสนบาท ก็นับว่าเด่นในเรื่องความคุ้มค่าจริงๆ