โลกของสายทัวร์ริ่งที่ใจยังรักการขี่สไตล์เรซซิ่งจัดๆ เปลี่ยนไปเมื่อ ยามาฮ่า เปิดตัวบิ๊กไบค์ตระกูล TRACER นับเป็นการผสมผสานกันระหว่างสมรรถนะแรงบิดสูงกับความสบายในการขี่ทางไกลได้อย่างลงตัว ทำให้กลุ่มไบค์เกอร์ที่ชอบขี่ทัวร์ริ่งท่องเที่ยว แต่อยากได้บิ๊กไบค์ที่ยังตอบโจทย์ด้านพลังความเร้าใจเหมือนขี่ตัวแรงในสนามแข่ง ชื่นชอบในรถรุ่นนี้จนทำยอดจำหน่ายขายดีในคลาสมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด
ยามาฮ่า TRACER 9 GT ใหม่เปิดตัวในเมืองไทยที่ ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เรียบร้อยด้วย
ราคา 569,000 บาท พร้อมให้ไบค์เกอร์ที่ชอบบิ๊กไบค์สปอร์ตทัวร์เรอร์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ครบครันเป็นเจ้าของ ความน่าสนใจในรถรุ่นนี้ เริ่มจาก
เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 890 ซีซี แบบ CP3 ให้กำลังสูงสุด 119 แรงม้า ที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที ระบบช่วงกันสะเทือนแบบไฟฟ้าจากคายาบ้า ให้การขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นคงไม่ว่าจะโหลดของมากแค่ไหน ทำความเร็วระดับใดก็ตาม นอกจากนี้ที่ช่วยให้ขี่สบายในช่วงแสงน้อยหรือยามค่ำก็คือ
ระบบส่องสว่าง cornering lights ที่สาดไปด้านข้างตามองศาการลีนเพื่อให้ความชัดเจนในโค้งล่วงหน้า ฮีทกริ๊ปที่ปรับปรุงให้ละเอียดขึ้น 10 ระดับ มีแรคข้างไว้ติดตั้งเคสหรือกล่องที่สามารถใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้ ส่วนขาซิ่งสะใจมากขึ้นกับระบบเกียร์ควิกชิฟต์ทั้งขึ้นและลง พร้อมโหมดการขี่ให้เลือก ทั้งยังปรับระดับแทร็คชันคอนโทรล การสไลด์ได้ด้วย
ความโดดเด่นของ
ยามาฮ่า TRACER 9 GT ใหม่ ที่พร้อมเป็นบิ๊กไบค์คู่ใจให้กับไบค์เกอร์สายทัวร์ริ่งซิ่งสุดๆ ใช้จริงจะเป็นอย่างไรทีมงาน MotorbikeGURU กับ เช็คราคา.คอม ได้โอกาสไปขี่ทดสอบกับทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จัดโดยทาง
บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ ผ่านทางทีมพีอาร์ฯผสานกับ ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ (YRC) เชิญสื่อมวลชนชั้นนำร่วมขี่ทริปทดสอบเส้นทางยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เกษตร-นวมินทร์ ไปกลับเขาใหญ่ รวมระยะทางทั้งสิ้น 356 กม. ในส่วนของผู้เขียนได้ขี่คันสีขาว (Pure White) 1 ใน 2 สีที่มีให้เลือกกับสีดำ (Midnight Black) ก่อนออกเดินทางในทริปนี้ ช่วงเช้าทาง YRC ได้บรรยายเกี่ยวกับไฮไลท์ตัวรถและเส้นทาง ก่อนเคลื่อนขบวนก็ได้มีเวลาทำความคุ้นเคยกับระบบต่างๆ ของตัวรถ พร้อมปรับแต่งให้พร้อมใช้เดินทาง
ขบวนฯ ยามาฮ่า TRACER 9 GT ใหม่ ทยอยออกตัวจาก YRC ใช้เส้นทางรังสิต-นครนายก ช่วงแรกขี่กันแบบถนนหลัก - เส้นรองชานเมือง - ถนนหลวงหมายเลข 3077 ไปพักที่จุดแรก สยามดาษดา เขาใหญ่ เพื่อพักทานเครื่องดื่มเย็นๆ ระยะทางขี่มากว่า 130 กม. เป็นช่วงที่ให้อารมณ์การขับขี่เหมือนซูเปอร์สปอร์ตบิ๊กไบค์มากกว่า เพราะส่วนใหญ่เป็นถนนไฮเวย์กว้าง ทำความเร็วได้ดีและต่อเนื่อง การเร่งแซงทำได้อย่างง่ายดายด้วยแรงบิดมหาศาลของขุมพลัง 890 ซีซี นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ลองทำความเร็วสูงบนทางตรงยาวของนครนายก ซึ่งให้ความปประทับใจมากเพราะการตอบสนองทำได้อย่างฉับไว การทะยานแหวกความเร็วดันไปได้อย่างต่อเนื่องด้วยแรงบิดที่ยอดเยี่ยมและกว้าง ไม่กี่อึดใจที่ตัวเลขความเร็วบอกเหมือนขี่อยู่ในสนามแข่งก็ยกและลองเบาเบรกให้ได้มากที่สุด พบว่าการตอบสนองของระบบเบรกด้านหน้าที่เป็นดิสก์คู่ขนาด 298 มม. และหลังใบเดียวขนาด 245 มม. สามารถชะลอเบาและหน่วงลงได้อย่างรวดเร็ว นุ่นนวล ทรงพลัง ทำให้มั่นใจกับระบบเบรกที่ออกแบบมารองรับสมรรถนะของตัวรถได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามในช่วงขี่ขึ้นคอสะพานที่ชันด้วยความเร็วมีเสียงยางกระทบกับซุ้มทางด้านหลังให้ได้ยินบ้าง อาจต้องขี่ไปเซ็ตไปถ้ามีโอกาสและเวลามากกว่านี้่ หลังจากเบรกพักก็เข้าสู่เซสชั่นถนนขึ้นลงเขา โดยขบวนฯ ไปเขาใหญ่ผ่านทางด่านปราจีนบุรี สนุกไปกับเส้นทางพร้อมกับเก็บรายละเอียดการตอบสนองของตัวรถบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยโค้งสลับซ้ายขวา และหลอกตา ก่อนไปจอดพักกันอีกครั้งตรงอ่างเก็บน้ำสายศร
สำหรับการขี่ในเซสชั่นที่ 2 ซึ่งเน้นโค้งและทางขึ้นลงเขาก็พอสรุปได้ว่าตัวรถตอบสนองการควบคุมได้ดี พละกำลัง เกียร์ และเบรกทำงานประสานกันลงตัว การเพิ่มลดเกียร์เปิดยกคันเร่งและเบรกเป็นไปอย่างสมูธทำให้การคุมรถไม่เครียด และยังสนุกไปกับการลีนเข้าโค้งอย่างมั่นใจ โดยยางเป็นบริดจสโตน Battlax Sport Touring T32 ที่ติดตัวรถมาจากญี่ปุ่น หลังจากพักเก็บภาพบรรยากาศกันสักพักใหญ่ก็เดินทางกันต่อเพื่อมุ่งหน้าไปพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านแดรี่โฮมก่อนกลับเข้าสู่ถนนมิตรภาพขี่ยาวกลับเข้ากรุงเทพฯ โดยไปท้าทายการขับขี่ในช่วงสุดท้ายกับสภาพการจราจรติดขัดบนถนนประเสริฐมนูกิจ บิ๊กไบค์อย่างยามาฮ่า TRACER 9 GT ใหม่ ยังเด่นในด้านความคล่องแคล่วอย่างไม่น่าเชื่อผู้เขียนสามารถเลาะเลี้ยวสอดแทรกช่องว่าง เปิดยกคันเร่ง ชะลอหยุดไปต่อได้อย่างไม่เหนื่อย ตัวรถให้สมดุลที่น่าประทับใจคุมง่ายในช่วงความเร็วต่ำ พร้อมจบทริปโดยสวัสดิภาพกันทุกคน สรุปหลังจบกับระยะทางกว่า 356 กม. อัตราสิ้นเปลืองที่ขี่กันแบบไม่มียั้งได้ราว 10 กม./ล. ชอบสมรรถนะ ขี่ง่าย ทันสมัย แต่ท่านังที่สปอร์ตกว่าบิ๊กไบค์ทัวร์ริ่งทั่วไป พักเท้าเยื้องมาทางด้านหลังมากหน่อยทำให้ขี่นานๆ แล้วมีอาการเมื่อยหัวเข่าอยู่บ้าง ซึ่งก็แล้วแต่คนและการขี่ต่อเนื่องมากน้อย โดยรวมเป็นบิ๊กไบค์สปอร์ตทัวร์ริ่งที่เน้นอารมณ์สปอร์ต สมรรถนะโดดเด่น ใช้เป็นรถคู่ใจแบบคันเดียวจบก็ได้ ถ้าตั้งงบไว้ระดับ 6 แสนบาท นี่คือ บิ๊กไบค์ตัวตึงของสายทัวร์ริ่งที่ไม่ต้องมองรุ่นอื่นให้เสียเวลา