Royal Enfield Hunter 350 รถจักรยานยนต์คลาสสิกหรือจะเรียกว่า
"เรโทร" ก็ย่อมได้ มาพร้อมรูปทรงแบบย้อนยุค แต่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสมราคาที่
129,9000 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น และ
132,900 บาท ในรุ่นสีถังน้ำมันแบบทุโทนและเพิ่มระบบนำทาง Tripper สามารถเลือกได้ตามความต้องการ โดยรวมแล้วน่าขี่และดูน่าสะสมไม่น้อยเลย
สำหรับได้การทดสอบขับขี่ครั้งนี้ทางผู้จัดเลือกหลังจากจัดงานเปิดตัวระดับโลกที่ประเทศไทย โดยมีสื่อและผู้เกี่ยวข้องชาวต่างชาติมาร่วมงานอย่างคับคั่ง นับเป็นครั้งแรกในโลกทั้งเปิดตัวและการทดสอบระดับโลกที่มีสื่อต่างประเทศมาร่วมแจมในการขับขี่เจ้า Hunter 350 ในประเทศไทยนี้ด้วย ยิ่งใหญ่อลังการมาก ๆ และแน่นอนว่าขี่กลางวันมันธรรมดาโลกไม่จำ ต้องมาในรูปแบบของ "Night Ride" ผ่านแลนด์มาร์กกรุงเทพฯ ในหลายจุดเหมือนพาท่องเที่ยวและทดสอบสมรรถนะไปด้วยในตัว แต่ที่หนักกว่านั้นคือ กรุ๊ปที่ทีมงานเช็คราคาได้ทดสอบนั้นเจอฝนกระหน่ำตลอดทริป ชุ่มฉ่ำกันตลอดทางครับ
ขี่ 100 โล ผ่านแลนด์มาร์คเด่นในกรุงเทพฯ
สำหรับเส้นทางที่ขับขี่จะเน้นการพาสื่อต่างประเทศที่มาร่วมกิจกรรมเที่ยวชมเมืองกรุงเทพฯ ยามราตรี ออกสตาร์ทจากโรงแรมดับเบิ้ลยู สาทร โดยผ่านจุดสำคัญ หลายแห่ง ได้แก่ หัวลำโพง เยาวราช เสาชิงช้า อนุเสาวรีประชาธิปไตย ช่างชุ่ย และเดินทางต่อไปยังสนาม Impact Speed Park เมืองทองธานี เพื่อขับขี่ในรูปแบบสนามปิด และเดินทางกลับโรงแรม ระยะทางรวมกว่า 100 กม. พร้อมรถนำและปิดท้ายขบวน ท่ามกลางฝนกระหน่ำ!
ไม่คุ้นรถก็ขี่ได้สบาย
เมื่อเริ่มการทดสอบมีการแบ่ง 7 เป็น เว้นระยะห่างการขับขี่ออกไปกลุ่มละ 10 นาที หลังจากงานเปิดตัวก็ไม่ได้จับหรือลองขี่ใด ๆ แต่เมื่อเริ่มขับขี่จริงกลับใช้เวลาในการทำความคุ้มเคยไม่นานนัก เพราะท่านั่งคร่อมที่สบาย เบาะนุ่มไม่สุงมาก ตัวรถแคบไม่ได้ใหญ่จนเกะกะ และยังมีน้ำหนักที่เบาไม่ถึง 200 กก.อีกด้วย ทำให้ขี่ง่ายมากครับ
ระดับแฮนด์อยู่ในตำแหน่งพอดีกับส่วนสุงผู้ขี่ (176 ซม. ) สัมผัสของคันเร่ง ก้านคลัตช์และคันเกียร์ก็นุ่ม ใช้งานง่าย แต่ที่ขาเกียร์มีบางจังหวะที่ยังไม่แม่นยำโดยเฉพาะในเวลาเข้าเกียร์ว่างบางครั้งจะต้องเคลื่อนรถหรือปล่อยคลัตช์เล็กน้อยในฟันเฟืองขยับตัวเพื่อเข้าเกียร์ว่างได้ นอกนั้นก็ใช้งานได้ปกติครับ
สำหรับเครื่องยนต์ 1 สูบ ช่วงชักยาวขนาด 350 ซีซี เกียร์ 5 สปีด นิ่ม เดินเรียบ ไม่มีอาการสั่น กำลังตอบสนองดีในรอบต่ำ และกลาง ส่วนรอบสูง ๆ นั้นจะเริ่มมีอาการหนืดหมดแรง เพราะเป็นเครื่องเน้นแรงบิดรอบต่ำ จึงลากรอบได้ไม่สูงนัก เน้นการเปลี่ยนเกียร์เรีวขึ้นมากกว่า แต่เสียงท่อที่ดังเป็นเอกลักษณ์มาก โดยความเร็วสูงสุดอยู่ราว ๆ 120+ กม./ชม. ก็นับว่าเกินพอต่อการใช้งานแบบสายคลาสสิกแล้วครับ
ช่วงล่างเน้นนุ่มนวลไม่กระเด้งหรือกระด่างจนเกินไป แต่ก้พอมีความหนึบ ๆ อยู่บ้าง โดยมีระยะยุบและยืดตัวในระดับพอดี จึงเพียงพอต่อการขับขี่ทั้งในและนอกเมือง ระบบเบรกยอมรับว่า ในวันทดสอบนั้น ฝนตกเบาสลับหนักตลอดทาง แต่กลับหยุดหรือชะลอรถได้อย่างมั่นใจ และยางที่ติดรถมาถือว่าเกาะถนนที่เปียกลื่นได้ดี ทำให้ตลอดทริปเป็นไปอย่างปลอดภัย
คล่องตัวในสนาม
หลังจากขับขี่บนถนนทั่วไปก็มาถึง Impact Speed Park เมืองทองธานี ซึ่งต้องบอกว่าฝนยังตกอยู่ จึงไม่กล้าใช้ความเร็วสูงมากนัก แต่เมื่อลองขับจริงกลับให้ความมั่นใจทั้งการเข้าโค้งแคบหรือกว้าง โค้งตัวเอสที่ต้องเปลี่ยนมุมเอนไปมา Hunter 350 ถือว่าทำได้ดี เบา เข้าโค้งง่าย เบรกและยางเกาะหนึบมั่นใจ ทำให้ขับในสนามได้อย่างปลอดภัยครับ
สรุปความประทับใจใน New Royal Enfield Hunter 350
New Royal Enfield Hunter 350 ทำออกมาได้ดีทั้งด้านสมรรถนะตอบสนองการใช้งานในเมือง คล่องตัว เบาควบคุมง่าย ประหยัดน้ำมันอีกด้วย ราคาไม่สูงเกินไปก็ได้รถขนาด 350 ซีซี ที่ลงตัวขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันและออกทริปยาว ๆ สบาย ใครหารถมอเตอร์ไซค์ทรงคลาสสิกใช้งานทุกวัน ขับแบบชิว ๆ หรือจะออกทริปวันหยุดค่าตัวเบา ๆ นับว่าคุ้มค่า
ข้อแนะนำ ในส่วนของระบบเกียร์ว่างในบางครั้งจะเข้ายากต้องหาจังหวะ ๆ ดี ปุ่มและสวิตช์ต่าง ๆ บนแฮนด์ดูยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับเปลาะบางนัก เครื่องลากรอบสูงมาก ๆ จะเริ่มมีอาการสั่นนิด ๆ แต่ทั้งหมดนี้เมื่อเทียบกับสมรถนะโดยรวมก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ครับ