ทีมงานมอเตอร์ไบค์กูรู โดยเช็คราคา.คอม ได้รับเชิญร่วมงาน Harley-Davidson® Dirt. Road. Track. Media Xperience ระหว่าง 28-29 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต พัทยา พร้อมสัมผัสมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson® รุ่นปี 2022 ได้แก่
Nightster™,
Low Rider™ ST, Touring ST,
MY22 Pan America™ และ
MY22 Sportster™ S ทั้งยังได้ขับคันจริงหลากหลายรุ่นกับเส้นทาง 3 รูปแบบ แตกต่างตามรุ่ถรถ เพื่อแสดงสมรรถนะของรถแต่ละรุ่นที่ขับขี่
งาน
Dirt Road Track Media Xperience 2022 ครั้งนี้นอกจากมีสื่อมวลชนจากประเทศไทยเข้าร่วมกว่า 10 คน แล้วยังมีสื่อฯ จากต่างประเทศเข้าร่วมมากมาย ไม่ว่า อินเดีย, เวียดนาม, เกาหลี ฯลฯ
โดยแบ่งกลุ่มการทดสอบออกเป็น 3 ชุด สลับเปลี่ยนการขี่ตามประเภท คือ Track กับการขี่รุ่น Sportster™ S ในสนามพีระฯ, Dirt กับการขี่รุ่น Pan America™ ในสนามออฟโร้ดจำลอง และ Road กับการขี่รุ่น Low Rider™ ST และNightster™ ผู้เขียนตัวแทนจากทีมงานมอเตอร์ไบค์กูรู ได้เริ่มกับการขี่รุ่น
Sportster™ S ในแทร็คก่อน โดยทีมงานผู้จัดได้ให้ขี่ตามลีดเดอร์ก่อน 2 รอบ และแยกขี่เดี่ยวแบบจับเวลาอีก 3 รอบ โดยยึดเวลารอบที่ 2 จาก 3 รอบ การขี่รุ่น
Sportster™ S ทั้งแบบตามอินสตรัคเตอร์เพื่อความคุ้นชินกับตัวรถในการขี่แบบแทร็ค และรอบจับเวลาพบว่าตัวรถที่มีน้ำหนักมากยังคงให้การขี่แบบสปอร์ตในแทร็คที่ไม่ใหญ่มากอย่างสนามพีระฯ ได้สนุกพอสมควร ด้วยแรงบิดที่ดีทำให้
การเร่งออกจากโค้งรวดเร็วทันใจ แม้ท่านั่งจะไม่ใช้โพซิชั่นแบบสปอร์ตก็ตาม อย่างน้อยก็สะท้อนให้เห็นว่า Sportster™ S เป็นรถรุ่นใหม่ที่ขี่ง่ายและยืดหยุ่นให้กับผู้ใช้รุ่นใหม่ๆ มากขึ้น การลีนเข้า-ออกโค้งก็ทำได้คล่อง มีแค่ต้องระวังจุดเบรกในช่วงทางลงและเข้าโค้งเท่านั้น
จากนั้นก็ไปต่อที่การขี่สไตล์เอนดูโร่กับ
รุ่น Pan America™ 2022 ที่ผู้เขียนพยายามปรับความรู้สึกจากในแทร็คให้ได้เร็วที่สุด แม้เคยขี่รถรุ่นนี้มาก่อนแล้วในการทดสอบแบบออฟโร้ดสบายๆ แต่ด้วยนำหนัก 258 กก. และความสูงของเบาะ 875-850 มม. แล้วแต่การยุบตัวจากน้ำหนักของผู้ขี่ ค่อนข้างสร้างความลำบากในการเลี้ยวทางแคบสำหรับผู้ขี่ตัวเล็กและไม่ค่อยมีประสบการณ์ขี่เอนดูโร่มากพอ แต่ก็เป็นเอดเวนเจอร์ ทัวร์ริ่งบิ๊กไบค์ที่มีสมรรถนะดีเยี่ยมในการลุยผ่านทุกอุปสรรค สุดท้ายเป็นการขี่บนถนนสาธารณะ จากสนามพีระฯ ออกไปยังทางหลวงหมายเลข 331 เพื่อแวะทานเครื่องดื่มกันที่ 331 Station แล้ววนกลับ โดยขาไปได้ขี่
รุ่น Low Rider™ ST เป็นบิ๊กไบค์ที่ขี่ง่ายเปี่ยมไปด้วยพลังและมีแรงบิดดีมากๆ ตั้งแต่รอบต่ำ-กลาง ขี่สนุกเหมาะกับการขี่ครุยเซอร์ไปตามถนนทางตรงยาวจริงๆ หลังจากพักดื่มด่ำกับจุดพักยอดนิยม coffee war ก็กลับด้วยรุ่น
Nightster™ ที่จัดให้อยู่ในซีรี่ส์สปอร์ตเหมือนกับรุ่น Sportster™ S แต่ย่อมด้วยขนาดเครื่องยนต์ลงมาเป็น
Revolution™ Max 975T ขนาด 975 ซีซี ซุ่มเสียงอาจลดความดุดันลงมา แต่นี่คือรุ่นเริ่มต้นสำหรับใครที่คิดอยากเขามาสัมผัสแบรนด์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย 614,000 บาท ตลอดจนขี่และควบคุมง่าย คุณผู้หญิงก็ขี่ได้สบายๆ ผู้เขียนขี่แล้วรู้สึกเลยว่าเป็นรุ่นที่แทบไม่ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยอะไรเลยก็ขี่ได้สนุกทันที ก็นับเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสครอบครองฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ใครที่สนใจรุ่นไหนของฮาร์ลีย์ เดวิดสัน ไปลองสอบถามและขี่รถเดโม่ได้ที่ตัวแทนใกล้บ้าน