เรียนรู้การขี่ออฟโร้ดระดับ 2 กับ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

กลับมาอีกครั้งกับโปรแกรมสำหรับไบค์เกอร์ที่มีพาหนะบิ๊กไบค์คู่ใจ การเทรนนิ่งขี่บิ๊กไบค์ทั้งทางเรียบและทางออฟโร้ดกับ BMW Motorrad Experience Program กิจกรรมเทรนนิ่งขี่มอเตอร์ไซค์หลากหลายประเภท เช่น Rider Training โดยผู้ฝึกสอนที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน BMW Motorrad International Instructor Academy (IIA) มุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ตั้งแต่ทักษะพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง มีทั้ง On-Road Training มี Basic Course และ Advanced Course & Big Bike License Test ด้าน Off-Road Training มี Level 1 Course, Level 2 Course และ Level 3 Course (คอร์ส 2 วัน) ล่าสุดทีมงานมอเตอร์ไบค์กูรูได้รับเชิญจากทางบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด ให้เข้าร่วมการเทรนนิ่ง ออฟโร้ด ระดับ 2 หลังจากเคยเทรนนิ่งระดับแรกมาแล้ว 

ก่อนกล่าวถึงขั้นตอน รายละเอียดการเทรน ต้องบอกก่อนว่า การเทรนนิ่งเปิดกว้างสำหรับไบค์เกอร์ทุกคนที่อยากเพิ่มทักษะการขี่ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะที่ขี่มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูอยู่แล้ว เพราะทางบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งทั้งค่ากิจกรรมและค่าเช่ารถให้กับเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งออนโร้ดและออฟโร้ด ทุกระดับ 

สำหรับผู้เขียนตัวแทนจากทางเพจ มอเตอร์ไบค์กูรู เว็บไซต์เช็คราคา.คอม ได้ร่วมโปรแกรม Off-Road Training : Level 2 Course เพื่อเรียนรู้ทักษะที่เพิ่มเติมจากคอร์ส Off-Road Training: Level 1 โดยการอบรมได้เพิ่มสถานีจำลองอุปสรรค (ภายใน Enduro Park Thailand) เน้นให้ผู้ขี่ต้องใช้ร่างกายและทักษะในการควบคุมรถที่ละเอียดมากขึ้น หลักสูตรคอร์สระดับ 2 จะทำให้ผู้ขี่มีความคุ้นเคยกับการขี่บนทางออฟโรดมากที่สุด ก่อนออกไปลุยสู่เส้นทางจริงด้านนอก และในตอนท้ายผู้เข้าร่วมจะต้องผ่านการทดสอบ Riding Skill Test ถึงได้ใบรับรองการผ่าน Off-Road Training: Level 2 จาก BMW Motorrad

ผู้เขียนเดินทางมาถึงเอนดูโร่ ปาร์ค บางพระ ศรีราชา จังหวัดชลบุรีตามกำหนดการที่เริ่มในเวลา 9.00 น. โดยเซสชั่นแรกเป็นการฟังบรรยายทำความเข้าใจตัวรถ เทคโนโลยีต่างๆ รวมไปถึงการทำงานของโหมดต่างๆ ซึ่งในเลเวลทูต้องใช้โหมดเอนดูโร่ โปรเท่านั้น ซึ่งเป็นการคัสตอมที่ปรับตั้งโดยผู้ฝึกสอน ตลอดการเทรนนิ่งห้ามปรับเปลี่ยนเอง พร้อมกับบอกเนื้อหาโดยรวมที่ต้องฝึกในเลเวล ทบทวนท่าทางการขี่เอนดูโร่ที่ถูกต้อง ฟังดูแล้วก็ไม่ธรรมดาและไม่มั่นใจว่าจะรอด ไม่รู้ว่าจะล้มกี่ครั้ง อย่างไรก็ตามด้วยการทำความเข้าใจร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายในด้านความปลอดภัย การเตรียมความพร้อมของชุด อุปกรณ์ นับเป็นก้าวแรกของการเริ่มฝึกที่ถูกต้อง ช่วงเช้าเป็นการขี่ความเร็วต่ำเกียร์ 1 วนตามกรวยที่วางเป็นสี่เหลี่ยมวงใหญ่ เสมือนการวอร์มอัพ โดยผู้ฝึกสอนได้แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย 4-5 คนต่อกลุ่ม เพื่อการดูแลและสลับสถานีอย่างทั่วถึง ช่วงแรกได้อยู่กับครูไก๋ เริ่มจากพาขี่วนรอบเส้นทางกรวย โดยให้สลับท่าทางการขี่คล้ายกับที่เคยทำในเลเวล 1 แต่มีมากรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น เช่น คุกเข่าทั้งสองข้างบนเบาะแล้วขี่ ยืนบนที่พักเท้าข้างซ้ายหรือขวาด้านเดียวแล้วขี่ ตลอดจนย่อหย่อนเท้าลงแตะพื้นเป็นระยะ จากนั้นก็จะขี่ตามผู้ฝึกไปตามจุดต่างๆ ที่เป็นหญ้าผสมดินโคลนที่อุ้มน้ำฝนมาหลายวันมีระดับพื้นผิวลาดเอียงหน้าหลัง ซ้ายขวาที่แตกต่างกัน และคาดเดายากว่าบางจุดเป็นหลุมที่มีหญ้าปกคลุม หรือการชะลอยื่นขาแตะอุปสรรคทรงตัวแล้วไปต่อ ส่วนใหญ่ต้องอาศัยการควบคุมที่ดี ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะได้ทบทวนเรื่องท่าทางและเทคนิคการบังคับก่อนลงขี่ก็คงลำบากและล้มได้ง่ายแน่นอน ช่วงครึ่งวันแรกกลุ่มของผู้เขียนหมดไปกับการฝึกหลายเนื้อหาสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการเบรกบนพื้นผิวต่างๆ การทำฟูลล็อคแล้วเลี้ยว การเข็นรถเดินเบา การขึ้นรถด้านข้าง ช่วงพักเที่ยงทางเอนดูโร่ปาร์คมีอาหารกล่องอย่างดีเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ เราพักกันไม่นานก็ต่อเนื้อหากันในภาคบ่ายสลับไปอยู่กับครูเอก ก็จะเน้นไปที่การขี่ความเร็วต่ำมากๆ แบบต้องใช้เบรกหน้าหน่วงเบาๆ การเลี้ยววงแคบที่ความเร็วต่ำ การขี่ลงทางลาดชันแบบใช้เบรกล็อคแล้วเลี้ยวแคบ และช่วงสุดท้ายที่ท้าทายคือ การขี่แบบซิงเกิ้ลแทร็คบนทางแคบแทบพอดีความกว้างของแฮนด์บาร์ขนาบข้างด้วยต้นสนซ้าย-ขวา ไต่ไปบนพื้นลาดเอียงไม่เท่ากัน เสมือนการนำเอาทักษะการควบคุมต่างๆที่ได้เทรนตลอดวันมาใช้ ทำให้เข้าใจถึงแต่ละเนื้อหาที่เทรน ซึ่งทั้งหมดก็เสมือนการจำลองมาจากการขี่เอนดูโร่จริงๆ ที่ต้องใช้ทักษะเหล่านี้เพื่อเอาควบคุมรถให้ผ่านไปได้อย่าวปลอดภัยนั่นเอง หลังจากเทรนนิ่งในเอนดูโร่ปาร์คจนครบหมด ก็ได้เวลาออกไปขี่ด้านนอกลงพื้นที่จริง ระยะทางไป-กลับประมาณ 86 กม. เส้นทางส่วนใหญ่เป็นถนนชนบทและเส้นทางธรรมชาติรอบแปลงไร่มัน ฯลฯ เสมือนเป็นการขี่แบบฟรีสไตล์เชิงผ่อนคลายโดยเกาะกลุ่มกันเป็นขบวน จนกลับมาถึงเอนดูโร่ ปาร์ค รับใบประกาศรับรองการเทรนนิ่งเลเวล 2 กันอย่างภาคภูมิใจ โดยเฉพาะผู้เขียนที่พาตัวเองรอดจากการเทรนนิ่งโดยไม่ล้มเลย จากนี้ก็รอเวลาขยับไปสู่การเทรนนิ่งเลเวล 3 ที่เข้มข้นมากขึ้นไปอีกและต้องใช้เวลาถึง 2 วัน สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณทางบีเอ็มดับเบิลยูที่ได้เชิญเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญแบบนี้ ซึ่งนับเป็นกิจกรรมที่จำเป็นกับผู้ที่ชื่นชอบการขี่แนวแอดเวนเจอร์และเอนดูโร่จริงๆ ใครที่อยากมากสัมผัสเพื่อเพิ่มทักษะการขี่คนของตนเองก็สามารถติดต่อเลือกช่วงเวลาเข้าเทรนนิ่งได้เลย

ระยะเวลาเรียน 1 วัน (9.00 น. - 16.30 น.)

ราคา 3,750 บาท สำหรับเจ้าของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู, 7,500 บาท สำหรับบุคคลทั่วไป
*ผู้เข้าร่วมที่นำรถมาเองต้องเป็นรถในตระกูล GS เท่านั้น หรือถ้าเลือกใช้บริการเช่ารถ GS ก็สามารถติดต่อก่อนได้ ถ้าเป็นเจ้าขอมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูอยู่แล้ว ไม่สะดวกใช้รถส่วนตัว ก็สามารถเช่าได้ในราคาครึ่งเดียว

*อัตราค่าบริการนี้รวมผู้ฝึกสอนที่ผ่านมาตรฐานระดับสากล BMW Motorrad International Instructor Academy (IIA) ในอัตราส่วนผู้ฝึกสอนหนึ่งคนต่อผู้เรียนไม่เกิน 7 คน  
แผนการเรียนขับขี่รถจักรยานยนต์ระดับ 2 ในมาตรฐานของ BMW Motorrad
สามารถยืมอุปกรณ์ป้องกัน การ์ดศอก การ์ดเข่า ได้ฟรี (ยกเว้นรองเท้าสำหรับขับขี่ Off-road สามารถเช่าในราคา 500 บาท)
อาหารกลางวันพร้อมเครื่องดื่มตลอดการเรียนการสอน
ภาพถ่ายส่วนบุคคลของท่านในระหว่างการเรียน (ส่งให้ภายหลังจบการเรียน)
ประกาศนียบัตรแสดงการผ่านกิจกรรมอย่างเป็นทางการของ BMW Motorrad
หมายเหตุ: มีค่าบริการเพิ่มเติมกรณีเช่ารถของสนาม โดยท่านไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายใดๆ บนตัวรถหากเกิดความเสียหายระหว่างการเรียน ทั้งนี้ ผู้เช่ารถต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของครูฝึกและกฎความปลอดภัยของ Enduro Park Thailand อย่างเคร่งครัด

เงื่อนไขการเข้าร่วมกิจกรรม

หมายเหตุ: กิจกรรมนี้มีการดำเนินการและจัดกิจกรรมโดย Enduro Park Thailand